• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N0511369 เป นภรรยาหร อคนใช นแน part 2

admin79 by admin79
November 4, 2025
in Uncategorized
0
N0511369 เป นภรรยาหร อคนใช นแน part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

อนาคตมาถึงแล้ว: สุดยอดรถยนต์รุ่นใหม่ประจำปี 2025 และปีต่อๆ ไป ที่ผู้เชี่ยวชาญไม่ควรพลาด

ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลายครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนที่จะน่าตื่นเต้นและก้าวหน้าเท่าช่วงเวลาปัจจุบันและอนาคตอันใกล้ที่เรากำลังก้าวเข้าไป ในปี 2025 และปีต่อๆ ไป เรากำลังจะได้เห็นคลื่นลูกใหม่ของรถยนต์ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่พาหนะ แต่เป็นสัญลักษณ์ของนวัตกรรม ความยั่งยืน และประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ ตลาดรถยนต์ทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังเปิดรับ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และ รถยนต์ไฮบริด (Hybrid Car) อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ควบคู่ไปกับความต้องการ รถยนต์ SUV รุ่นใหม่ (New SUV Models) และ รถยนต์พรีเมียม (Premium Car) ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย

ผู้ผลิตรถยนต์ทุกค่ายต่างเร่งพัฒนากลยุทธ์เพื่อตอบสนองต่อเทรนด์เหล่านี้ ทั้งการลงทุนใน เทคโนโลยีรถยนต์ 2025 (Car Technology 2025) การออกแบบที่แปลกใหม่ และสมรรถนะที่น่าประทับใจ บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกถึง รถยนต์ใหม่ 2025 (New Cars 2025) และรุ่นต่างๆ ที่กำลังจะเปิดตัวในอนาคตอันใกล้ ซึ่งถูกคัดสรรมาอย่างพิถีพิถันจากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญที่ติดตาม แนวโน้มตลาดยานยนต์ (Automotive Market Trends) มาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คุณไม่พลาดทุกการเคลื่อนไหวสำคัญในโลกของยนตรกรรม

เตรียมตัวให้พร้อม เพราะนี่คือลิสต์สุดยอดรถยนต์ที่จะนิยามอนาคตการขับขี่ของเรา เรียงตามลำดับตัวอักษรของแบรนด์ เพื่อให้คุณได้สำรวจนวัตกรรมและโอกาสใหม่ๆ ในตลาด รถยนต์เปิดตัว 2025 (Car Launches 2025) ที่กำลังจะเกิดขึ้น

Alfa Romeo (อัลฟา โรเมโอ)
แบรนด์อิตาเลียนที่มีมนต์ขลังอย่าง Alfa Romeo กำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ด้วยการนำเสนอ รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง (High-performance electric cars) ที่ยังคงรักษาจิตวิญญาณแห่งการขับขี่แบบสปอร์ตไว้ได้อย่างครบถ้วน

Alfa Romeo Giulia (อัลฟา โรเมโอ จูเลีย): ทายาทของ Giulia โฉมปัจจุบันที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในคอมแพคต์เอ็กเซกคิวทีฟที่น่าปรารถนาที่สุด เตรียมเปิดตัวในปี 2026 ด้วยตัวเลือกเครื่องยนต์ไฮบริดและระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบ โดยใช้แพลตฟอร์ม STLA Large ที่รองรับระบบไฟฟ้า 800V สำหรับการชาร์จที่รวดเร็วเป็นพิเศษ และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ให้ระยะทางขับขี่มากกว่า 640 กิโลเมตร สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือการกลับมาของรุ่น Quadrofoglio ที่ยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน V6 อันเลื่องชื่อ ซึ่งจะมอบ อัตราเร่งรถยนต์ (Car Acceleration) และประสบการณ์ที่เร้าใจอย่างแท้จริง
Alfa Romeo Stelvio (อัลฟา โรเมโอ สเตลวิโอ): ก่อนที่ Giulia จะมาถึง Stelvio SUV เจเนอเรชันถัดไปมีกำหนดเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยจะใช้สถาปัตยกรรม STLA Large เช่นกัน พร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์เบนซินและระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า รุ่น Quadrofoglio ของ Stelvio ใหม่จะมาพร้อม “เสียงคำราม” อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งยืนยันว่าเครื่องยนต์เบนซินยังคงเป็นหัวใจหลักของรุ่นสมรรถนะสูง

Alpine (อัลไพน์)
แบรนด์สปอร์ตจากฝรั่งเศส Alpine กำลังต่อยอดความสำเร็จของ A110 ด้วยรถยนต์ไฟฟ้าที่เน้นสมรรถนะ

Alpine A290 (อัลไพน์ A290): สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถแฮทช์แบ็กฝรั่งเศสที่เร็วแรง A290 คือรุ่นสมรรถนะสูงที่พัฒนาจาก Renault 5 E-Tech EV โดย Alpine ได้ปรับปรุงระบบช่วงล่างอย่างครอบคลุม เพิ่มระยะฐานล้อ ล้อขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง Michelin โดยเฉพาะ และการออกแบบที่สปอร์ตยิ่งขึ้น แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ รถ EV (EV Car) ในตลาด Hot Hatch
Alpine A390 (อัลไพน์ A390): Alpine กำลังขยายขอบเขตด้วยรถยนต์คูเป้-เอสยูวีไฟฟ้า A390 หรือ “Sport Fastback” ตามที่แบรนด์ต้องการเรียก โดยมีรูปลักษณ์คล้าย “รถแข่งในชุดสูท” มีเส้นสายที่แข็งแกร่งคล้าย Porsche Macan Electric แม้จะใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ Renault Scenic แต่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน Tri-motor ที่ให้กำลัง 464 แรงม้า พร้อมระบบ Torque Vectoring เพื่อการควบคุมที่ว่องไว อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 3.9 วินาที

Aston Martin (แอสตัน มาร์ติน)
แบรนด์หรูจากอังกฤษยังคงสร้างสรรค์ไฮเปอร์คาร์ที่ผสมผสานความหรูหราเข้ากับประสิทธิภาพสูงสุด

Aston Martin Valhalla (แอสตัน มาร์ติน วัลฮัลลา): รถยนต์ Mid-engine รุ่นแรกที่ผลิตจำนวนมากในประวัติศาสตร์ 111 ปีของแบรนด์อังกฤษ จะผลิตเพียง 999 คัน ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ผสมผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว ให้กำลังรวม 1,069 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.5 วินาที พร้อมระบบแอโรไดนามิกส์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่ง F1

Audi (เอาดี้)
Audi ยังคงเป็นผู้นำในกลุ่ม รถยนต์พรีเมียม (Premium Cars) ด้วยการเปิดตัวรุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งรถยนต์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์สันดาปภายใน

ในปี 2025 Audi ยังคงเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง หลังจากเปิดตัวรุ่นต่างๆ ในปี 2024 เช่น A3 facelift, e-tron GT, Q6 e-tron SUV และ A6 e-tron saloon ที่พัฒนาร่วมกับ Porsche นอกจากนี้ ยังมี A5 ใหม่ (มาแทน A4 saloon และ Avant) และ Q5 ล่าสุด Audi ยังคงมีแผนสำหรับ Q3 Premium Compact SUV และ A6 Executive Saloon เจเนอเรชันถัดไป ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์การนำเสนอ รถยนต์ไฮบริดน่าสนใจ (Interesting Hybrid Cars) และ รถยนต์ไฟฟ้าเปิดตัวใหม่ (New EV Launches) ที่หลากหลาย

BMW (บีเอ็มดับเบิลยู)
BMW กำลังพลิกโฉมกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้วยแพลตฟอร์ม “Neue Klasse” ใหม่ที่เน้นรถยนต์ไฟฟ้าเป็นหลัก ควบคู่ไปกับการรักษาเอกลักษณ์ของ M Division

BMW iX3 (บีเอ็มดับเบิลยู iX3): ได้รับการเปิดเผยแล้วและเป็นรุ่นแรกภายใต้แนวคิด Neue Klasse ของ BMW ซึ่งเป็นชุดรถยนต์ที่มีรูปลักษณ์และโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้ร่วมกัน เพื่อให้แบรนด์ก้าวทันเทคโนโลยีล่าสุด รวมถึงเทคโนโลยีในรถยนต์และวิศวกรรม iX3 มาพร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์ iDrive ล่าสุด เทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่ช่วยให้มี ระยะทางวิ่งรถ EV (EV Range) สูงสุดถึง 800 กิโลเมตรในรุ่น Mid-range และรุ่นที่มีระยะทางยาวนานขึ้นก็กำลังจะตามมา ด้วยสถาปัตยกรรมไฟฟ้า 800 โวลต์ ทำให้สามารถชาร์จเร็วได้ประมาณ 400 กิโลเมตรในเวลาเพียง 10 นาที
BMW M3 (บีเอ็มดับเบิลยู M3): M3 เจเนอเรชันถัดไปมีกำหนดเปิดตัวในปี 2027 และจะเป็นรุ่นแรกที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ แม้บางคนอาจมองว่าเป็นเรื่อง “นอกรีต” สำหรับแฟนๆ รถซาลูนสปอร์ตในตำนานนี้ แต่ระบบขับเคลื่อน Quad-motor สามารถให้กำลังสูงสุดถึง 1,341 แรงม้า (ในทางทฤษฎี) และระบบ Torque Vectoring เพื่อความว่องไวที่น่าทึ่ง อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ยังไม่มั่นใจ M3 จะยังคงมีตัวเลือกเครื่องยนต์เบนซิน Twin-turbo Straight-six เช่นเดียวกับรุ่นปัจจุบัน
BMW M5 Touring (บีเอ็มดับเบิลยู M5 Touring): เป็นครั้งที่สามในประวัติศาสตร์ของ BMW M5 ที่มีรุ่น Estate car โดย M5 Touring ใหม่มีระบบขับเคลื่อน Plug-in Hybrid ที่รวมเครื่องยนต์ V8 Twin-turbo 4.4 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้าหนึ่งตัว ให้กำลังรวม 717 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.6 วินาที พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระ 500 ลิตร

BYD (บีวายดี)
BYD ยักษ์ใหญ่จากจีนยังคงรุกตลาด รถยนต์ EV (EV Car) อย่างต่อเนื่องด้วยโมเดลที่เน้นเทคโนโลยีและความคุ้มค่า

BYD Atto 2 (บีวายดี อัตโต้ 2): คือผู้ท้าชิงของ BYD ในตลาด SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีการแข่งขันสูง ด้วยเทคโนโลยีที่อัดแน่นเป็นมาตรฐาน เช่น หน้าจอสัมผัสแบบหมุนได้ขนาด 12.8 นิ้ว, Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย, กล้อง 360 องศา, เบาะนั่งและพวงมาลัยอุ่น และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่กว่าสิบระบบ รุ่นเริ่มต้น ‘Boost’ มี ระยะทางวิ่งรถ EV (EV Range) 338 กิโลเมตร และรุ่นแบตเตอรี่ใหญ่กว่าก็กำลังจะตามมา ทำให้ ราคา รถยนต์ EV (EV Car Prices) ของ BYD เป็นที่น่าจับตามอง

Cadillac (คาดิลแลค)
หลังจากห่างหายไปเกือบสิบปี Cadillac กำลังกลับมาพร้อมกับ SUV ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ หวังจะช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดจากแบรนด์พรีเมียมยุโรป

Cadillac Lyriq (คาดิลแลค ไลริค): นำทัพการกลับมาของแบรนด์อเมริกัน Lyriq คือ SUV ขนาดใหญ่ที่ดูโฉบเฉี่ยวและซับซ้อน ตั้งเป้าชนคู่แข่งอย่าง BMW iX มาพร้อมมอเตอร์คู่ที่ให้กำลัง 520 แรงม้า และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 102kWh ให้ ระยะทางวิ่งรถ EV (EV Range) 530 กิโลเมตร การออกแบบภายในโดดเด่นด้วยจอแสดงผล OLED กว้าง 33 นิ้วพาดผ่านคอนโซล

Citroen (ซีตรอง)
Citroen มุ่งเน้นไปที่รถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าถึงง่ายและ SUV ที่ให้ความสบายและความหลากหลาย

Citroen e-C3 (ซีตรอง e-C3): ได้รับการวางตำแหน่งให้เป็น Electric Supermini สำหรับคนหมู่มาก ด้วยราคาเริ่มต้นที่น่าดึงดูด แบตเตอรี่ LFP 44kWh ให้ ระยะทางวิ่งรถ EV (EV Range) ที่ 320 กิโลเมตร และจะมีตัวเลือกแบตเตอรี่ที่ราคาถูกลงซึ่งให้ระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร e-C3 มีรูปลักษณ์ที่คล้ายครอสโอเวอร์มากกว่ารุ่น Supermini ที่มาแทนที่ และยังคงรักษาเอกลักษณ์ของ Citroen ด้านความนุ่มนวลในการขับขี่
Citroen C3 Aircross (ซีตรอง C3 แอร์ครอส): คู่แข่งของ Dacia Duster ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง มาพร้อมตัวเลือก 5 หรือ 7 ที่นั่ง แม้จะมีขนาดกะทัดรัดเพียง 4.39 เมตร ผู้ซื้อสามารถเลือกได้ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน ไฮบริด และไฟฟ้าเต็มรูปแบบ โดย e-C3 Aircross EV ให้ ระยะทางวิ่งรถ EV (EV Range) ระหว่าง 300 ถึง 400 กิโลเมตร
Citroen C5 Aircross (ซีตรอง C5 แอร์ครอส): การปรับปรุงกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Citroen ครั้งสุดท้ายคือ C5 Aircross เจเนอเรชันถัดไปที่เน้นความสบายเป็นหลัก พร้อมพื้นที่เบาะหลังและพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวาง 651 ลิตร ห้องโดยสารออกแบบให้รู้สึกเหมือนห้องนั่งเล่น ภายใต้ตัวถังที่โดดเด่นคือแพลตฟอร์ม STLA Medium เช่นเดียวกับ Peugeot 3008 และ Vauxhall Grandland ล่าสุด มีระบบขับเคลื่อน Mild-hybrid, Plug-in Hybrid และ Electric เต็มรูปแบบ โดยรุ่น EV ให้ ระยะทางวิ่งรถ EV (EV Range) สูงสุด 680 กิโลเมตร

Cupra (คูปร้า)
แบรนด์สปอร์ตจากสเปน Cupra กำลังนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่เน้นความเร้าใจในเมือง

Cupra Raval (คูปร้า ราวาล): คู่แข่งสปอร์ตสำหรับ Volkswagen ID.Polo ที่กำลังจะมาถึง Raval มีความยาวเพียงกว่า 4 เมตรเล็กน้อย เหมาะสำหรับถนนในเมือง แต่มีห้าประตูเพื่อความอเนกประสงค์ยิ่งขึ้น จะเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหน้าที่มีกำลังมากกว่า 200 แรงม้า และมี ระยะทางวิ่งรถ EV (EV Range) สูงสุด 430 กิโลเมตร

Dacia (ดาเซีย)
Dacia ยังคงเดินหน้าขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เน้นความคุ้มค่าและเข้าถึงง่าย

Dacia Bigster (ดาเซีย บิ๊กสเตอร์): ข่าวดีสำหรับทุกคน Dacia กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ด้วยแผนสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ในปีนี้มีการมาถึงของ Dacia Duster Mk3 ใหม่ และ Dacia Spring EV รวมถึง Bigster ที่เปิดตัวและหวังว่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงในกลุ่ม SUV ขนาดกลาง Bigster เป็นหนึ่งในสามรุ่นใหม่ที่ Dacia กำลังจะเปิดตัวในกลุ่ม C-segment ที่สำคัญของตลาดรถยนต์

DS (ดีเอส)
แบรนด์พรีเมียมจากปารีส DS ยังคงมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับคู่แข่งอย่าง BMW, Audi และ Mercedes ด้วย รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Cars) ที่เน้นความหรูหรา

DS No8 (ดีเอส No8): DS No8 เป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่สำหรับแบรนด์พรีเมียม DS โดยเน้นความหรูหรา ความสบาย และคุณภาพที่แบรนด์เรียกว่า ‘สงบ’ มาพร้อม ระยะทางวิ่งรถ EV (EV Range) ที่น่าทึ่งถึง 750 กิโลเมตร ด้วยราคาที่น่าสนใจ ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Polestar 4 และ Audi Q6 e-tron

Ferrari (เฟอร์รารี)
แม้แต่ Ferrari ก็ยังต้องปรับตัวเข้าสู่ยุคของ รถ EV (EV Car) แต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของไฮเปอร์คาร์เบนซินไว้

Ferrari F80 (เฟอร์รารี F80): F80 เป็นทายาทของ F40, F50, Enzo และ LaFerrari ด้วยการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่ง 499P ที่ชนะเลอม็อง ระบบขับเคลื่อนประกอบด้วยเครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร 9,200 รอบต่อนาที พร้อมเทอร์โบคู่และมอเตอร์ไฟฟ้าห้าตัว ให้กำลังรวม 1,183 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.15 วินาที
Ferrari Elettrica (เฟอร์รารี เอเลททริก้า): ใช่แล้ว แม้แต่ Ferrari ก็กำลังจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งอาจใช้ชื่อว่า ‘Ferrari Elettrica’ จากภาพสปายช็อตของรถทดสอบ EV คันแรกจากมาราเนลโลนี้จะเป็นรถยนต์สี่ประตู คาดว่าจะเป็นรถยนต์สปอร์ตสี่ที่นั่งสี่ประตูในแนวทางเดียวกับ Ferrari Purosangue

Fiat (เฟียต)
Fiat กำลังนำเสนอ Panda โฉมใหม่ที่ผสมผสานความคลาสสิกเข้ากับความทันสมัยและระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า

Fiat Grande Panda (เฟียต แกรนด์ แพนด้า): หลังจากห่างหายไปนาน Fiat Grande Panda ก็มาถึงแล้ว นี่คือรถยนต์ดีไซน์กล่องที่ทันสมัย เป็นรุ่นพี่น้องกับ Citroen e-C3 และเป็นรุ่นแรกในตระกูล Panda ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นดั้งเดิมจากยุคแปดสิบ รวมถึง Panda 4×4 ที่แข็งแกร่ง ภายในมีองค์ประกอบรูปทรงสี่เหลี่ยม การผสมสีที่สดใส และวัสดุที่น่าสนใจ เช่น ใยไม้ไผ่บนแผงหน้าปัด พร้อมช่องเก็บของมากมาย รุ่นไฮบริดก็มีให้เลือก โดยมีราคาเริ่มต้นที่น่าสนใจ

Ford (ฟอร์ด)
Ford กำลังมุ่งเน้นไปที่การใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ แต่ยังคงรักษารถยนต์สมรรถนะสูงที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาปไว้

Ford กำลังดำเนินการอย่างจริงจังกับ รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Cars) โดยได้เปิดตัว Explorer SUV ใหม่ และ Puma Small Crossover เวอร์ชัน EV ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม Mustang ยังคงยึดมั่นในเครื่องยนต์ V8 และยังมี Mustang GTD เวอร์ชัน Supercharged ที่เน้นสนามแข่ง ด้วยกำลังกว่า 800 แรงม้า และเทคโนโลยีที่ถูกแบนจากการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต สำหรับ รถยนต์ใหม่ 2025 (New Cars 2025) ที่น่าสนใจคือการฟื้นคืนชีพของชื่อ Ford Capri สำหรับ SUV ไฟฟ้า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของแบรนด์

Genesis (เจเนซิส)
Genesis กำลังก้าวเข้าสู่ตลาดรถยนต์สมรรถนะสูงด้วยซีรีส์ Magma ที่เน้นประสิทธิภาพของ รถยนต์ EV (EV Car)

Genesis GV60 Magma (เจเนซิส GV60 Magma): Genesis มีแผนที่จะเปิดตัวรุ่น Magma สมรรถนะสูงในกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยเริ่มต้นด้วย GV60 Magma ที่คาดว่าจะมาถึงช่วงปลายปี และคาดว่าจะมีกำลังมากกว่า Hyundai Ioniq 5 N และ Kia EV6 GT ที่มีกำลัง 641 แรงม้า ซึ่งใช้แพลตฟอร์มเดียวกัน GV60 Magma จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยฐานล้อที่กว้างขึ้น ช่วงล่างที่ต่ำลง รูปลักษณ์ที่ดุดัน และการตกแต่งภายในที่สปอร์ตยิ่งขึ้น พร้อมเบาะแบบ Bucket Seat

Honda (ฮอนด้า)
Honda กำลังเร่งเครื่องในตลาด รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Cars) ด้วยซีรีส์ ‘0 Series’ ใหม่ และนำชื่อรุ่นคลาสสิกกลับมา

Honda 0 Series (ฮอนด้า 0 ซีรีส์): Honda ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะเปิดตัว EV ล้ำสมัยเจ็ดรุ่นภายในปี 2030 ภายใต้แบรนด์ย่อย ‘0 Series’ ทั่วโลก โดยรุ่นแรกที่จะมาถึงในปี 2026 คือ SUV ขนาดกลางที่โฉบเฉี่ยว ตามมาด้วย Saloon เรือธงที่อิงจากแนวคิด Honda Saloon ที่ล้ำสมัย
Honda Prelude (ฮอนด้า พรีลูด): หลังจากหายไปกว่าสองทศวรรษ Honda Prelude จะกลับมาอีกครั้งในช่วงครึ่งแรกของปี 2026 ในฐานะคูเป้สองประตูที่โฉบเฉี่ยวพร้อมระบบขับเคลื่อนไฮบริด และเทคโนโลยีเกียร์เสมือนจริงที่ Honda เรียกว่า ‘S Shift’ ซึ่งจำลอง “เสียงและความรู้สึกของการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติที่รวดเร็ว”

Hyundai (ฮุนได)
Hyundai กำลังขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ Ioniq EV อย่างกว้างขวาง ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่

Hyundai Inster (ฮุนได อินสเตอร์): การเข้ามาใหม่ของ Hyundai ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กราคาจับต้องได้ Inster มีขนาดเล็กกว่า Supermini แต่ใช้พื้นที่ภายในได้อย่างเต็มที่ และมีเบาะหลังแบบเลื่อนได้ที่ทำให้รถคันเล็กคันนี้มีความหลากหลายอย่างน่าประหลาดใจ Inster ยังมี ระยะทางวิ่งรถ EV (EV Range) สูงสุด 368 กิโลเมตร
Hyundai Ioniq 9 (ฮุนได ไอออนิก 9): นอกจากรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่สุดแล้ว Hyundai ยังนำเสนอ EV ที่ใหญ่ที่สุด: Ioniq 9 เจ็ดที่นั่ง ยักษ์ใหญ่ยาวห้าเมตรคันนี้เป็นทางเลือกที่ล้ำสมัย ปราศจากการปล่อยมลพิษ แทนที่ Hyundai Santa Fe และเป็นรถพี่น้องกับ Kia EV9 ที่ได้รับรางวัล Ioniq 9 ใช้แพลตฟอร์ม E-GMP เดียวกัน แต่มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่า 110.3kWh ซึ่งรวมกับการออกแบบที่ลื่นไหลอย่างน่าประหลาดใจ ให้ ระยะทางวิ่งรถ EV (EV Range) สูงสุด 620 กิโลเมตร ภายในที่หรูหราพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย รวมถึงจอแสดงผลคู่ 12.3 นิ้ว ระบบตัดเสียงรบกวนถนน และ AI Assistant จะพร้อมให้เลือกทั้งแบบ 7 และ 6 ที่นั่ง
Hyundai Ioniq 3 (ฮุนได ไอออนิก 3): กลุ่มผลิตภัณฑ์ Ioniq จะขยายตัวต่อไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าด้วยการแนะนำรุ่น Ioniq 3 ที่เล็กกว่า ซึ่งได้มีการแสดงตัวอย่างในงาน Munich Motor Show 2025 โดย Hyundai Concept Three Hatchback ไฟฟ้าใหม่นี้จะเป็นคู่แข่งของ Volkswagen ID.3 และคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026

IM Motors (ไอเอ็ม มอเตอร์ส)
IM Motors แบรนด์พี่น้องระดับพรีเมียมของ MG กำลังจะเข้าสู่ตลาด รถยนต์ EV (EV Car) ด้วยรถยนต์ที่ตั้งเป้าแข่งขันกับ Tesla

IM Motors L6 (ไอเอ็ม L6): IM L6 เป็นรถ Saloon ไฟฟ้าพรีเมียมที่บริษัทคาดว่าจะแข่งขันกับ Tesla Model 3 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก L6 สามารถเร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาไม่ถึงสามวินาที และชาร์จได้ที่ความเร็วสูงกว่า 300kW ซึ่งไม่เพียงแต่เหนือกว่า Tesla แต่ยังมีสถิติที่คล้ายกับ Porsche Taycan

Jaguar (จากัวร์)
Jaguar กำลังปฏิวัติแบรนด์ด้วยการเปลี่ยนไปใช้ รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Cars) ทั้งหมด และก้าวขึ้นสู่ตลาด Ultra-Luxury

Jaguar Four-door GT (จากัวร์ โฟร์-ดอร์ จีที): การฟื้นฟูแบรนด์ Jaguar จากบนลงล่างเป็นประเด็นร้อนแรงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากหนึ่งในแบรนด์รถยนต์หลักของอังกฤษกำลังจะเปลี่ยนเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดและก้าวขึ้นสู่ตลาดระดับสูงอย่างจริงจัง ด้วยโมเดลปัจจุบันทั้งหมดที่หยุดการผลิตไปแล้ว Jaguar กำลังเตรียมที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าใหม่สามรุ่น โดยเริ่มต้นด้วย Four-door GT ที่มีราคาประมาณ 130,000 ปอนด์ โมเดลแนวคิดที่ใกล้เคียงการผลิตจะเปิดเผยก่อนสิ้นปีนี้ และรถยนต์จริงจะมาถึงในปี 2026 GT ที่ยังไม่มีชื่อจะอยู่บนแพลตฟอร์ม EV เฉพาะที่เรียกว่า Jaguar Electrified Architecture และใช้เทคโนโลยี “เปลี่ยนเกม” ตามที่ผู้บริหารกล่าวไว้ คาดว่าจะมี ระยะทางวิ่งรถ EV (EV Range) ที่น่าทึ่งถึง 770 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และสำหรับการเดินทางข้ามทวีป ผู้ขับขี่จะสามารถเพิ่มระยะทาง 320 กิโลเมตรได้ในเวลาเพียง 15 นาที

Jeep (จี๊ป)
Jeep กำลังนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังคงรักษาความสามารถในการขับขี่แบบ Off-road อันเป็นเอกลักษณ์

Jeep Recon (จี๊ป รีคอน): Jeep เพิ่งเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกคือ Avenger ในปี 2023 แต่ก็ยังมี EV อีกมากมายที่กำลังจะตามมา Recon คือรถยนต์ 4×4 ที่แข็งแกร่ง มีขนาดเท่า Wrangler EV คันนี้จะใช้การออกแบบที่แข็งแกร่งและแพลตฟอร์ม STLA Large ที่เป็น EV โดยเฉพาะจากบริษัทแม่ Stellantis ซึ่งยังใช้เป็นพื้นฐานสำหรับ Wagoneer S SUV เรือธงใหม่ของ Jeep

Kia (เกีย)
Kia กำลังขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ EV ที่มีดีไซน์โดดเด่นและเป็นมิตรกับครอบครัว รวมถึงก้าวเข้าสู่ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์

Kia EV4 (เกีย EV4): EV4 ใหม่เป็นรุ่นถัดไปในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับครอบครัวที่มีดีไซน์โดดเด่นของแบรนด์ มีให้เลือกทั้งแบบ Saloon ที่โฉบเฉี่ยวหรือ Hatchback ห้าประตูแบบดั้งเดิม ซึ่งคาดว่าแบบหลังจะเป็นที่นิยมในยุโรป คู่แข่งของ VW ID.3 คันนี้ใช้แพลตฟอร์ม E-GMP เดียวกันกับ Kia EV3 SUV ที่ได้รับรางวัล และให้ ระยะทางวิ่งรถ EV (EV Range) เกือบ 640 กิโลเมตร
Kia PV5 (เกีย PV5): ในปีนี้ Kia กำลังนำความรู้และความเชี่ยวชาญด้านรถยนต์ไฟฟ้ามาสู่โลกของรถตู้ ด้วยกลุ่มรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ โดยมี Kia PV5 เป็นผู้นำในฐานะ Panel Van ที่จะแข่งขันกับ Ford E-Transit Custom นอกจากนี้จะมีรุ่น MPV ที่จะท้าชน Volkswagen ID. Buzz PV5 มีรูปลักษณ์ที่ล้ำยุคกว่ามาก และการออกแบบที่คล้าย Blade Runner จะช่วยให้เข้ากับ Kia EV9 และ EV3 SUV ได้อย่างลงตัว รูปทรงคล้ายอิฐและระยะฐานล้อที่ใหญ่จะช่วยให้ผู้โดยสารมีพื้นที่มากที่สุด และประตูบานเลื่อนด้านหลังจะช่วยในการเข้าถึง ผู้ซื้อที่ต้องการรถยนต์สำหรับครอบครัวจะยินดีที่ทราบว่ารถตู้และ MPV ไฟฟ้าของ Kia จะมาพร้อมกับการรับประกันเจ็ดปีชั้นนำของอุตสาหกรรม

Land Rover (แลนด์ โรเวอร์)
Land Rover กำลังนำเสนอ Defender รุ่นสุดยอดที่ผสมผสานความหรูหราเข้ากับสมรรถนะที่เหนือชั้น

Land Rover Defender OCTA (แลนด์ โรเวอร์ ดีเฟนเดอร์ อ็อคต้า): ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที กำลัง 626 แรงม้า Defender OCTA คือรุ่นสุดยอดของ Land Rover Defender อย่างไม่ต้องสงสัย เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.4 ลิตร เป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดที่ติดตั้งใน Defender ยุคใหม่ และเพื่อให้แชสซีของรถ 4×4 รองรับกำลังมหาศาล Land Rover ได้ทำการปรับปรุงอย่างครอบคลุม รวมถึงเบรก Brembo ที่อัปเกรดแล้ว พวงมาลัยที่เร็วขึ้น ยางที่พัฒนาเป็นพิเศษ และระบบช่วงล่าง 6D Dynamics ใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีคล้ายกับซูเปอร์คาร์ของ McLaren

Lotus (โลตัส)
Lotus กำลังขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ไปสู่ SUV ไฟฟ้าและยังคงรักษาจิตวิญญาณของรถสปอร์ตไฟฟ้าไว้

Lotus Mid-size SUV (โลตัส มิด-ไซส์ เอสยูวี): ในขณะที่ Lotus สร้างชื่อเสียงจากรถสปอร์ตน้ำหนักเบา แบรนด์ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วเป็นผู้ผลิต EV พรีเมียม เริ่มต้นด้วย Eletre Hyper-SUV และ Emeya GT แต่ Lotus หวังที่จะขยายการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้นด้วย Mid-size SUV ที่จะเข้ามาแข่งกับ Porsche Macan Electric ใหม่ Lotus ตั้งเป้าหมายราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 70,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.5 ล้านบาท) สำหรับ Type 134 ซึ่งเป็นชื่อภายในของรุ่นนี้ ซึ่งมีราคาต่ำกว่า Macan อย่างมีนัยสำคัญ แบรนด์ยืนยันว่าจะเปิดเผยข้อมูลในปี 2025
Lotus Electric Sports Car (โลตัส อิเล็กทริก สปอร์ตคาร์): SUV และ Saloon จะเป็นส่วนใหญ่ของยอดขาย Lotus ในไม่ช้า แต่ก็ไม่ได้ละทิ้งมรดกการผลิตรถสปอร์ตเกือบ 80 ปีของตน ในปี 2027 บริษัทจะเปิดตัวรถสปอร์ตไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นแรก ซึ่งจะมาแทน Emira ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเบนซิน รุ่น Type 135 จะถูกสร้างขึ้นที่ฐาน Hethel ของ Lotus ใน Norfolk และใช้สถาปัตยกรรมเฉพาะ

Mazda (มาสด้า)
Mazda กำลังก้าวเข้าสู่ตลาด EV อย่างเต็มตัวด้วย Saloon และ SUV ไฟฟ้า

Mazda 6e (มาสด้า 6e): หลังจาก MX-30 Crossover ที่เป็น EV เพียงรุ่นเดียวมาหลายปี Mazda กำลังจะเปิดตัว Saloon ใหม่ Mazda 6e ที่จะมาถึงในปี 2026 เพื่อแข่งขันกับ Tesla Model 3 น่าเสียดายที่ ระยะทางวิ่งรถ EV (EV Range) ที่เคลมไว้ของ 6e อยู่ที่ 550 กิโลเมตร ซึ่งน้อยกว่า Tesla เกือบ 160 กิโลเมตร อย่างน้อย Mazda ก็ให้คำมั่นสัญญาว่า Saloon ที่ดูดีคันนี้จะมอบ “พฤติกรรมการขับขี่บนถนนที่คาดหวังได้จากผู้ผลิตที่มีประสบการณ์หลายทศวรรษในการสร้างรถยนต์ที่ขับสนุก” นอกจากนี้ยังมีรุ่นพี่น้อง SUV ที่สูงกว่าและใช้งานได้จริงมากขึ้นที่เรียกว่า Mazda CX-6e

McLaren (แมคลาเรน)
McLaren ยังคงสร้างสรรค์ไฮเปอร์คาร์ที่เหนือชั้นด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง

McLaren W1 (แมคลาเรน W1): ก่อนหน้านี้มี F1 แล้วก็ P1 และตอนนี้ McLaren W1 ก็มาถึงแล้วเพื่อแสดงให้โลกเห็นถึงศักยภาพของ Woking W1 เป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Ferrari F80 ที่กล่าวถึงไปก่อนหน้านี้ โดยมาพร้อมระบบขับเคลื่อน Hybrid V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ที่ส่งกำลัง 1,258 แรงม้าทั้งหมดไปยังล้อหลังเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้รถลอยขึ้น “แอโรไดนามิกส์แบบ Ground-effect ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Formula One” สามารถสร้างแรงกดได้ 1,000 กก. ที่ความเร็ว 280 กม./ชม.

Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์)
Mercedes-Benz กำลังขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Cars) ด้วยสถาปัตยกรรมใหม่ที่เน้นความหรูหราและประสิทธิภาพ

Mercedes CLA (เมอร์เซเดส CLA): CLA เจเนอเรชันถัดไปจะเป็นรุ่นแรกที่ Mercedes-Benz เรียกว่ารถยนต์ ‘Entry Luxury’ ใหม่ โดยใช้สถาปัตยกรรม MMA ใหม่ทั้งหมด ซึ่งจะใช้เป็นพื้นฐานสำหรับ SUV สองรุ่นและ Shooting Brake Estate ด้วย ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าสามารถให้ ระยะทางวิ่งรถ EV (EV Range) เกือบ 800 กิโลเมตร และการชาร์จที่รวดเร็วเป็นพิเศษด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ขั้นสูงที่ทำได้ด้วยแพลตฟอร์มใหม่
Mercedes GLC (เมอร์เซเดส GLC): ตามหลัง BMW iX3 รุ่นใหม่ล่าสุด Mercedes GLC ได้รับการเปิดเผยแล้วและเตรียมที่จะออกสู่ท้องถนนในไม่ช้า นี่คือรถยนต์ใหม่ทั้งหมดและไม่เกี่ยวข้องกับ GLC ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบเก่า: ใช้สถาปัตยกรรม MB.EA ที่เป็นไฟฟ้าทั้งหมด และมีแบตเตอรี่ 94kWh ที่ให้ ระยะทางวิ่งรถ EV (EV Range) 700 กิโลเมตร และความเร็วการชาร์จเร็ว DC สูงสุด 330kW รุ่นเปิดตัวที่เรียกว่า GLC 400 4MATIC มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและกำลังรวม 482 แรงม้า จึงมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพ

MINI (มินิ)
MINI John Cooper Works กำลังนำเสนอ Hatchback สมรรถนะสูงทั้งแบบเครื่องยนต์เบนซินและไฟฟ้า

MINI John Cooper Works (มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส): MINI Cooper รุ่นล่าสุดเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่คาดหวังมากที่สุดในปีที่ผ่านมา และกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ตอนนี้แบรนด์ได้เพิ่มความเร้าใจเพื่อสร้าง MINI John Cooper Works Hot Hatch ใหม่ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นำเสนอทั้งเครื่องยนต์เบนซินและระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบ JCW Electric ให้กำลังสูงสุด 254 แรงม้าจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งด้านหน้า ซึ่งเพียงพอสำหรับอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.9 วินาที แต่ยังมีรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรสี่สูบ 228 แรงม้า

Nissan (นิสสัน)
Nissan กำลังพลิกโฉมรุ่นยอดนิยมอย่าง Leaf และ Micra ด้วยการนำเสนอในรูปแบบ EV และ Crossover

Nissan Leaf (นิสสัน ลีฟ): ในฐานะ EV สำหรับตลาดมวลชนรุ่นแรก Nissan Leaf เคยเป็นผู้บุกเบิกอย่างแท้จริง แต่ก็ลดความสำคัญลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนื่องจากคู่แข่งที่ล้ำหน้ากว่า เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ Hatchback สำหรับครอบครัวได้กลายร่างเป็น Crossover SUV ที่โฉบเฉี่ยว ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเดียวกับ Nissan Ariya ที่เคยได้รับรางวัล Car of the Year โปรไฟล์ที่เพรียวบางรวมกับเทคโนโลยีอื่นๆ ทำให้ Leaf ใหม่เป็นรถยนต์ที่มีอากาศพลศาสตร์ดีที่สุดที่แบรนด์ญี่ปุ่นเคยผลิตมา และ ระยะทางวิ่งรถ EV (EV Range) สูงสุดถึง 600 กิโลเมตร ด้วยแบตเตอรี่ 75kWh ที่สมเหตุสมผล ดังนั้นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจึงควรอยู่ในระดับต่ำ
Nissan Micra (นิสสัน ไมครา): นี่คือ Nissan Micra ใหม่ และหากคุณคิดว่ามันดูคล้ายกับ Renault 5 ใหม่ นั่นเป็นเพราะมันเป็นเวอร์ชันที่ติดป้ายและปรับหน้าตาใหม่ของรถฝรั่งเศสคันหรูนั้น Nissan ได้เปลี่ยนไฟหน้าทรงสี่เหลี่ยมและไฟท้ายแนวตั้งของ R5 เป็นไฟหน้าทรงกลมขนาดใหญ่ที่คล้ายกับ Micra Mk3 ที่โด่งดัง นอกจากนี้ยังมีการออกแบบกันชนใหม่ กระจกหลังใหม่ และแน่นอนว่า Nissan ได้เพิ่มตราสัญลักษณ์และการออกแบบล้อของตนเอง แต่แค่นั้น ตัวเลือกแบตเตอรี่ ความเร็ว ระยะทางวิ่งรถ EV (EV Range) ประสิทธิภาพ แชสซี ความอเนกประสงค์ และการตกแต่งภายในล้วนเหมือนกัน

Polestar (โพลสตาร์)
Polestar ยังคงขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ รถยนต์ EV (EV Car) อย่างต่อเนื่องด้วยรุ่น Performance และ SUV

Polestar 5 (โพลสตาร์ 5): หลังจากแนวคิด Polestar Precept ที่น่าทึ่งเปิดเผยมาห้าปี ในที่สุด Volvo ก็พร้อมที่จะเปิดตัวคู่แข่งของ Porsche Taycan และ Lotus Emeya: Polestar 5 มีการเปลี่ยนแปลงการออกแบบเพียงเล็กน้อยสำหรับรุ่นที่ผลิตจริง และเช่นเดียวกับแนวคิด ไม่มีการติดตั้งกระจกหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังให้สูงสุด Polestar 5 ใช้แพลตฟอร์มอะลูมิเนียมอัดรีดและยึดติดแบบเฉพาะที่สร้างขึ้นในสหราชอาณาจักร โดยมีการพัฒนารถ EV เรือธงนี้ด้วย มีระบบไฟฟ้า 800V และกำลังขับมหาศาลถึง 874 แรงม้า และแรงบิด 900Nm
Polestar 7 (โพลสตาร์ 7): Polestar 7 จะเป็นรุ่นที่เจ็ดจากแบรนด์สวีเดน แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือจะเป็นคำตอบของ Tesla Model Y “Premium Compact SUV” คันนี้จะผลิตในยุโรป มีเทคโนโลยีล่าสุด และอาจมีราคาเริ่มต้นประมาณ 40,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.8 ล้านบาท) Polestar จะเปลี่ยนจากการใช้หลายแพลตฟอร์มในปัจจุบันไปใช้ “สถาปัตยกรรมเดียว เพื่อลดความซับซ้อน ต้นทุน และการลงทุน”

Porsche (ปอร์เช่)
Porsche กำลังนำเสนอ รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Cars) ในรุ่น Boxster/Cayman และ Cayenne โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้

Porsche Boxster/Cayman (ปอร์เช่ บ็อกซ์เตอร์/เคย์แมน): รถสปอร์ต Mid-engine ของ Porsche อย่าง Cayman และ Boxster กำลังจะเปลี่ยนจากเครื่องยนต์เบนซินไปใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบ อย่างน้อยก็สำหรับรุ่นปกติ โดยรุ่น GT ระดับสูงอาจยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน ทั้งสองรุ่นจะใช้แพลตฟอร์มรถสปอร์ตไฟฟ้าเฉพาะที่พัฒนาโดย Porsche และจากภาพสปายช็อต จะมีระยะฐานล้อที่ยาวกว่ารุ่นที่กำลังจะตกรุ่น ซึ่งอาจเป็นไปเพื่อรองรับแบตเตอรี่ที่ติดตั้งหลังห้องโดยสารผู้โดยสาร แทนที่จะอยู่ใต้พื้นรถเหมือน EV ส่วนใหญ่ เพื่อช่วยในการกระจายน้ำหนักและการจัดตำแหน่งที่นั่งที่ต่ำ
Porsche Cayenne Electric (ปอร์เช่ คาเยนน์ อิเล็กทริก): Porsche Cayenne จะยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซินและไฮบริดในตอนนี้ แต่ Cayenne Electric ใหม่กำลังจะมาถึงและจะใช้แพลตฟอร์ม PPE ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเดียวกับที่ใช้สำหรับ Macan Electric ดังนั้นคาดว่าจะมีแบตเตอรี่ความจุประมาณ 100kWh มอเตอร์คู่ และระบบช่วงล่างแบบ Active รวมถึงความเป็นไปได้ในการชาร์จแบบไร้สาย

Range Rover (เรนจ์ โรเวอร์)
Range Rover กำลังนำเสนอ Electric SUV ที่ยังคงรักษาความหรูหราและความประณีตในแบบฉบับของแบรนด์

Range Rover Electric (เรนจ์ โรเวอร์ อิเล็กทริก): Range Rover คือ Luxury SUV ดั้งเดิม และกว่าครึ่งศตวรรษต่อมา ยังคงเป็นราชาแห่งป่า แต่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จะมี Range Rover Electric ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมผลิตภัณฑ์ของ JLR, Thomas Müller กล่าวว่า “เรากำลังตั้งเป้าที่จะสร้าง Range Rover ที่เงียบที่สุดและประณีตที่สุดเท่าที่เคยมีมา ส่วนประกอบสำคัญที่สนับสนุนความสำเร็จของ Range Rover ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง – ตอนนี้มาพร้อมกับการปล่อยมลพิษจากท่อไอเสียเป็นศูนย์”

Renault (เรโนลต์)
Renault กำลังสร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์ รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Cars) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์ย้อนยุค

Renault 4 (เรโนลต์ 4): ตามหลัง Renault 5 ที่ยอดเยี่ยมที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ไม่นานคือ Renault 4 Baby Electric SUV มีรูปทรงกล่องคล้าย R4 ดั้งเดิมจากยุคหกสิบ และการออกแบบได้รวมคุณสมบัติที่คุ้นเคยหลายอย่าง เช่น หน้าต่างท้ายรถทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ไฟท้ายรูปทรงยาเม็ด และกระจังหน้าแนวนอนกว้างพร้อมไฟหน้าทรงกลม ใช้แพลตฟอร์ม AmpR Small เดียวกันกับ R5 Hatchback แต่จะมีเฉพาะแบตเตอรี่ 52kWh ที่ใหญ่กว่า ซึ่งให้ ระยะทางวิ่งรถ EV (EV Range) ที่ 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
Renault Twingo (เรโนลต์ ทวิงโก้): Twingo ใหม่ล่าสุดเป็นการเพิ่มเติมสุดท้ายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ EV ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์ย้อนยุคของ Renault โดยมีการแสดงตัวอย่างในรูปแบบแนวคิดในเดือนพฤศจิกายน 2023 Twingo ใหม่มีกำหนดจะเปลี่ยนจากแนวคิดไปสู่การผลิตในเวลาเพียงสองปี และมีราคาเริ่มต้นที่ต่ำกว่า 20,000 ยูโร (ประมาณ 750,000 บาท)

Rivian (ริเวียน)
Rivian สตาร์ทอัพ EV จากอเมริกา กำลังจะเข้าสู่ตลาดโลกด้วย SUV ไฟฟ้าขนาดกลาง

Rivian R2 (ริเวียน R2): Rivian ผู้บุกเบิก EV จากอเมริกา ผู้ผลิตรถกระบะไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกของโลก ในที่สุดก็กำลังจะเข้าสู่ตลาดสหราชอาณาจักรในปี 2027 แต่ไม่ใช่ด้วยรถกระบะ รุ่นแรกที่จะจำหน่ายในอังกฤษคือ Rivian R2: SUV ไฟฟ้าขนาดกลางที่จะแข่งขันกับ Tesla Model Y และอื่นๆ อีกมากมาย คาดว่า Rivian R3 Hatchback และ R3X Hot Hatch จะตามมาในภายหลัง

Skoda (สกอด้า)
Skoda กำลังขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Cars) อย่างมีนัยสำคัญ ควบคู่ไปกับการอัปเดตรุ่นยอดนิยม

Skoda กำลังสร้างบนความสำเร็จของ Enyaq และเปิดตัว SUV ไฟฟ้าที่มีขนาดและราคาที่หลากหลาย รวมถึงรุ่นที่มีราคาต่ำกว่า 20,000 ปอนด์ (ประมาณ 900,000 บาท) ในทำนองเดียวกัน Skoda กำลังพัฒนารถ Estate สำหรับครอบครัวที่ปราศจากการปล่อยมลพิษ เพื่อวางเคียงข้าง Octavia Estate และ Superb Estate นอกจากนี้ แบรนด์ยังได้แสดงแนวคิด Skoda Epiq ซึ่งเป็นตัวอย่างของคู่แข่งขนาด Kamiq ใหม่สำหรับ VW ID. Cross

Suzuki (ซูซูกิ)
Suzuki กำลังเปิดตัว EV รุ่นแรกด้วย SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กพร้อมตัวเลือกขับเคลื่อนสี่ล้อ

Suzuki e Vitara (ซูซูกิ e Vitara): Suzuki ตัดสินใจกระโดดลงสู่ตลาด EV อย่างเต็มตัวด้วยรถยนต์ไฟฟ้าคันแรก โดย e Vitara ใหม่ทั้งหมดเป็น SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ต้องแข่งขันกับคู่แข่งที่น่าประทับใจมากมาย คุณสมบัติที่โดดเด่นคือตัวเลือก AllGrip-e ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งใช้มอเตอร์คู่เพื่อให้ “ประสิทธิภาพที่ทรงพลัง” และแรงฉุดพิเศษในสภาพถนนที่ลื่น ไหล ควบคู่ไปกับรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่ง ระยะทางวิ่งรถ EV (EV Range) สูงสุดของ e Vitara คือ 426 กิโลเมตร

Vauxhall (วอกซ์ฮอลล์)
Vauxhall (หรือ Opel ในบางตลาด) กำลังนำเสนอ SUV ขนาดกะทัดรัดที่เน้นความอเนกประสงค์และราคาที่จับต้องได้

Vauxhall Frontera (วอกซ์ฮอลล์ ฟรอนเตรา): Frontera ได้รับการฟื้นคืนชีพสำหรับ SUV ขนาดกะทัดรัดใหม่ทั้งหมดที่เน้นความอเนกประสงค์และราคาที่จับต้องได้ ด้วยรูปทรง SUV แบบกล่องดั้งเดิม ที่นั่งสูงสุดเจ็ดที่นั่ง และความจุสัมภาระที่อาจสูงถึงเกือบ 1,600 ลิตร Frontera จึงใช้งานได้จริง ในด้านต้นทุน Vauxhall เป็นก้าวสำคัญ เนื่องจากทั้งรุ่นไฟฟ้าเต็มรูปแบบและเบนซินไฮบริดเริ่มต้นจาก 23,495 ปอนด์ (ประมาณ 1 ล้านบาท) ซึ่งเป็นราคาที่เท่าเทียมกันอย่างแท้จริง กำจัดอุปสรรคทั่วไปในการเป็นเจ้าของ EV Frontera Hybrid ใช้เครื่องยนต์เบนซินสามสูบ 1.2 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 28 แรงม้าที่รวมอยู่ในกระปุกเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่หกสปีด ในขณะที่รุ่น EV ได้รับแบตเตอรี่ 44kWh และมอเตอร์ไฟฟ้า 111 แรงม้า ซึ่งให้ ระยะทางวิ่งรถ EV (EV Range) สูงสุด 300 กิโลเมตร แม้ว่ารุ่น Long Range กำลังจะมาถึงในไม่ช้า

Volkswagen (โฟล์คสวาเกน)
Volkswagen กำลังขับเคลื่อนกลยุทธ์ EV สำหรับตลาดมวลชนด้วยรุ่น ID.Polo และ ID.2X ที่ราคาจับต้องได้

Volkswagen ID. Polo (โฟล์คสวาเกน ID. โปโล): Volkswagen ยืนยันว่าชื่อ ID.2 ไม่มีอีกต่อไป: Supermini ไฟฟ้าราคาประหยัดรุ่นใหม่จากแบรนด์จะใช้ชื่อ ID. Polo แทน รถยนต์คันนี้ได้รับการเปิดเผยในระดับหนึ่งในงาน Munich Motor Show 2025 โดยแสดงในรูปแบบลายพรางที่ทำให้เราเห็นภาพรวมว่าจะดูเป็นอย่างไร รุ่นนี้จะใช้แพลตฟอร์ม MEB เวอร์ชันต้นทุนต่ำ ซึ่งจะช่วยให้ราคาเริ่มต้นต่ำ อาจต่ำกว่า 25,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.1 ล้านบาท) ในสหราชอาณาจักรเมื่อรถยนต์มาถึงในปี 2027
Volkswagen ID.2X (โฟล์คสวาเกน ID.2X): Volkswagen ยังให้คำมั่นสัญญาเมื่อนานมาแล้วว่าจะเปิดตัว SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กและราคาประหยัดรุ่นใหม่ที่ใช้ ID.2 (ตอนนี้เรียกว่า ID. Polo) และแพลตฟอร์ม MEB Entry ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นทางเลือกที่ปราศจากการปล่อยมลพิษสำหรับ VW T-Cross ที่ได้รับความนิยม ตอนนี้บริษัทได้ยืนยันแล้วว่าคู่แข่งของ Renault 4 ในอนาคตจะใช้ชื่อ Volkswagen ID.2X และในที่สุดก็จะเปิดเผยในงาน Munich Motor Show ในเดือนกันยายนปีนี้

Volvo (วอลโว่)
Volvo กำลังนำเสนอ Saloon ไฟฟ้าหรูหราระดับเรือธง ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและประสิทธิภาพ

Volvo ES90 (วอลโว่ ES90): Volvo ได้ยกเลิก S60 และ S90 ไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะละทิ้ง Saloon ขนาดใหญ่ทั้งหมด Volvo ES90 ที่กำลังจะมาถึงจะเป็นคู่แข่งของ BMW i5 และ Audi A6 e-tron จากแบรนด์สวีเดน และเป็น EV ที่ล้ำหน้าที่สุดของบริษัทจนถึงปัจจุบัน ภายใต้ตัวรถคือแพลตฟอร์มเดียวกับ EX90 SUV เรือธง แต่ Saloon ได้รับประโยชน์จากมอเตอร์ไฟฟ้าเบาใหม่เพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และเทคโนโลยี 800V ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเพิ่ม ระยะทางวิ่งรถ EV (EV Range) ได้ถึง 300 กิโลเมตรหลังจากชาร์จเพียง 10 นาที ราคาเริ่มต้นที่ 69,650 ปอนด์ (ประมาณ 3.1 ล้านบาท)

บทสรุป: อนาคตที่น่าตื่นเต้นบนท้องถนน

ปี 2025 และปีต่อๆ ไป กำลังจะเป็นยุคทองของวงการยานยนต์อย่างแท้จริง เราได้เห็นการเปลี่ยนผ่านจากเชื้อเพลิงฟอสซิลไปสู่ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และ รถยนต์ไฮบริด (Hybrid Car) ที่ขับเคลื่อนด้วย นวัตกรรมรถยนต์ (Automotive Innovation) ล่าสุด แบรนด์ต่างๆ กำลังผลักดันขีดจำกัดด้านการออกแบบ ประสิทธิภาพ และความยั่งยืน ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบความหรูหรา ความเร็ว ความประหยัด หรือความอเนกประสงค์ ตลาด รถยนต์ใหม่ 2025 (New Cars 2025) ก็มีบางสิ่งบางอย่างที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณเสมอ

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อว่าช่วงเวลานี้คือโอกาสอันดีสำหรับผู้บริโภคในการสัมผัสกับ อนาคตยานยนต์ (Future of Automotive) ที่ทั้งชาญฉลาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า การเลือก ซื้อรถใหม่ (Buy New Car) ในยุคนี้จึงไม่ใช่แค่การตัดสินใจ แต่เป็นการลงทุนในเทคโนโลยีและวิถีชีวิตที่กำลังจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

คุณล่ะ? รถยนต์รุ่นไหนที่ทำให้หัวใจของคุณเต้นแรงที่สุด? มาร่วมพูดคุยถึงอนาคตยานยนต์ที่คุณใฝ่ฝันในคอมเมนต์ด้านล่างนี้กัน!

ที่สุดแห่งยนตรกรรมใหม่: เผยโฉมรถยนต์สุดเร้าใจที่คุณต้องจับตาในปี 2025, 2026 และอนาคต

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่พลิกโฉมหน้าอุตสาหกรรมนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2025 นี้ ตลาดรถยนต์ทั่วโลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่น่าตื่นเต้นที่สุดครั้งหนึ่ง การมาถึงของนวัตกรรมใหม่ๆ เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ และการแข่งขันที่ดุเดือดจากผู้ผลิตทั่วโลก ทั้งจากแบรนด์ยุโรป สหรัฐฯ เอเชีย รวมถึงคลื่นลูกใหญ่จากจีน ทำให้ผู้บริโภคอย่างเรามีทางเลือกที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (EV) ที่เปี่ยมประสิทธิภาพ รถยนต์ไฮบริดที่ผสานการประหยัดพลังงานเข้ากับสมรรถนะ หรือแม้แต่รถยนต์เครื่องสันดาปภายในที่ยังคงรักษาเสน่ห์และเอกลักษณ์ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น

ในปี 2025 นี้ เราได้เห็นรถยนต์รุ่นใหม่มากมายออกสู่ตลาดแล้ว เช่น Nissan Micra โฉมล่าสุด, Toyota RAV4 เจเนอเรชันใหม่ และ Fiat Grande Panda ที่มาพร้อมดีไซน์สุดเก๋ นอกจากนี้ ผู้ผลิตจากจีนยังคงเดินหน้าส่งรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรุ่นเข้ามาเขย่าตลาดอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราได้เห็นนั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะคลื่นแห่งการเปิดตัวรถยนต์ใหม่ยังคงถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อนต่อเนื่องไปจนถึงปี 2026 และหลังจากนั้นอีกหลายปีข้างหน้า

ในบทความนี้ ผมจะพาทุกท่านเจาะลึกถึงรถยนต์รุ่นใหม่ที่น่าจับตาที่สุด ทั้งในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็ก (Superminis), รถซีดานหรู (Saloon Cars), รถ SUV อเนกประสงค์ ไปจนถึงรถซูเปอร์คาร์สมรรถนะสูง โดยเรียงตามลำดับตัวอักษรของแบรนด์ เพื่อให้คุณไม่พลาดทุกข้อมูลสำคัญและเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตของยานยนต์ที่กำลังจะมาถึง

Alfa Romeo Giulia

Alfa Romeo Giulia โฉมใหม่มีภารกิจที่ยิ่งใหญ่ในการสืบทอดความสำเร็จจากรุ่นปัจจุบัน ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในรถคอมแพกต์พรีเมียมที่น่าปรารถนาที่สุด การมาถึงในปี 2026 นี้ จะมาพร้อมทางเลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินไฮบริดและระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าล้วน หัวใจหลักคือแพลตฟอร์ม STLA Large ที่มุ่งเน้นรถยนต์ไฟฟ้า รองรับสถาปัตยกรรมไฟฟ้า 800V สำหรับการชาร์จที่รวดเร็วเป็นพิเศษ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ให้พิสัยการขับขี่เกิน 640 กิโลเมตร และระบบขับเคลื่อนทั้งล้อหลังและขับเคลื่อนสี่ล้อ แต่สิ่งที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือการยืนยันว่าจะมีเวอร์ชัน Quadrifoglio ที่ยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน V6 อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่หลงใหลในเสียงคำรามอันเร้าใจ

Alfa Romeo Stelvio

ก่อนที่ Giulia จะมาถึง SUV รุ่นใหม่ของ Alfa Romeo Stelvio มีกำหนดการเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยจะใช้แพลตฟอร์ม STLA Large เช่นเดียวกับ Giulia และจะนำเสนอทางเลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินและระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ไม่ต่างจาก Giulia รถซีดานรุ่นเตี้ย Stelvio Quadrifoglio โฉมใหม่จะมาพร้อม “บางสิ่งที่ส่งเสียงคำราม” ตามที่หัวหน้าฝ่ายการตลาดของแบรนด์ได้กล่าวไว้ ซึ่งหมายถึงขุมพลังเบนซินอันทรงพลังนั่นเอง

Alpine A290

แฟนๆ รถแฮทช์แบ็กสมรรถนะสูงจากฝรั่งเศสเตรียมเฮ! Alpine ผู้สร้าง A110 รถสปอร์ตน้ำหนักเบาที่ยอดเยี่ยม ได้เปิดตัวเวอร์ชันสมรรถนะสูงของ Renault 5 E-Tech ไฟฟ้าล้วนรุ่นใหม่ ในชื่อ Alpine A290 นอกจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังยิ่งขึ้นแล้ว Alpine ยังได้ปรับปรุงช่วงล่างใหม่ทั้งหมด เพิ่มความกว้างของฐานล้อ ล้อขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง Michelin แบบเฉพาะ และสไตล์ที่สปอร์ตยิ่งขึ้น ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 1,500,000 บาท (คำนวณจากค่าเงินปอนด์)

Alpine A390

Alpine กำลังก้าวเข้าสู่ดินแดนใหม่ด้วยการขยายไลน์อัพจากรถสปอร์ตและฮอตแฮทช์ไปสู่รถยนต์ Coupe-SUV ไฟฟ้า หรือที่แบรนด์เรียกว่า “Sport Fastback” Alpine A390 ที่น่าทึ่งนี้ได้รับการออกแบบให้ดูเหมือน “รถแข่งในชุดสูท” ด้วยรูปทรงที่ดูแข็งแกร่งคล้ายกับคู่แข่งหลักอย่าง Porsche Macan Electric แม้จะใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ Renault Scenic แต่ก็มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ Tri-motor ที่ให้กำลัง 464 แรงม้า และที่สำคัญกว่านั้นคือระบบ Torque Vectoring เพื่อการควบคุมที่คล่องตัวยิ่งขึ้น อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาเพียง 3.9 วินาที และคาดว่าราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณ 2,600,000 บาท

Aston Martin Valhalla

Aston Martin Valhalla จะเป็นรถยนต์ถนนแบบวางเครื่องยนต์กลางที่ผลิตในจำนวนจำกัดรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ 111 ปีของแบรนด์อังกฤษนี้ โดยจะผลิตเพียง 999 คันเท่านั้น ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร แบบ Flat-plane และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ กำลังรวมอยู่ที่ 1,069 แรงม้า และแรงบิด 1,100 นิวตันเมตร ซึ่งเพียงพอที่จะพาตัวรถทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 2.5 วินาที ในขณะที่ระบบอากาศพลศาสตร์แบบ Active Aero ได้รับแรงบันดาลใจจากรถไฮเปอร์คาร์ Valkyrie ของบริษัท และนำความรู้และเทคโนโลยีจาก Formula 1 มาใช้

Audi

ในปี 2024 Audi ประสบความสำเร็จในการเปิดตัวรถยนต์ถึงเจ็ดรุ่น ตั้งแต่ A3 แฮทช์แบ็กและ e-tron GT ที่ได้รับการปรับโฉม ไปจนถึง Q6 e-tron SUV ไฟฟ้าล้วน และ A6 e-tron ซีดาน ที่ใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาร่วมกับ Porsche การมาถึงล่าสุดคือ A5 รุ่นใหม่ ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นการมาแทนที่ A4 ซีดานและ Avant รุ่นเก่า รวมถึง Q5 ล่าสุด แต่ถึงกระนั้น แบรนด์พรีเมียมนี้ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัวลง เนื่องจากยังมี Q3 SUV คอมแพกต์พรีเมียมและ A6 executive saloon เจเนอเรชันถัดไปที่กำลังจะมาถึง Audi ยังคงมุ่งมั่นกับการขยายกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยใช้แพลตฟอร์ม PPE (Premium Platform Electric) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์ EV ของแบรนด์ ทำให้มั่นใจได้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าของ Audi จะนำเสนอทั้งสมรรถนะ ระยะทาง และเทคโนโลยีล้ำสมัยในระดับแนวหน้า

BMW iX3

BMW iX3 โฉมใหม่ได้เผยโฉมแล้ว และเป็นรถยนต์รุ่นแรกในซีรีส์ Neue Klasse ของแบรนด์เยอรมัน ซึ่งเป็นชุดรถยนต์ที่มีรูปลักษณ์และพื้นฐานวิศวกรรมที่ใช้ร่วมกัน เพื่อให้แบรนด์ก้าวทันเทคโนโลยีล่าสุด ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีในรถยนต์และวิศวกรรม เนื่องจาก iX3 มาพร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์ iDrive ล่าสุด เทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่ทำให้รถยนต์รุ่นกลางสามารถวิ่งได้ไกลถึง 800 กิโลเมตร และรุ่นที่มีระยะทางขับขี่ไกลยิ่งขึ้นก็กำลังจะตามมา ซึ่งเป็นผลมาจากสถาปัตยกรรมไฟฟ้า 800 โวลต์ ที่ช่วยให้การชาร์จเร็วขึ้นอย่างมาก: คาดว่าจะสามารถเพิ่มระยะทางได้ประมาณ 400 กิโลเมตรในเวลาเพียง 10 นาทีที่สถานีชาร์จที่รองรับ

BMW M3

BMW 3 Series เจเนอเรชันถัดไปมีกำหนดการมาถึงในปีหน้า และ M3 โฉมใหม่จะตามมาในปี 2027 นี่จะเป็นครั้งแรกที่ M3 มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าล้วน ซึ่งอาจฟังดูเป็นเรื่องที่ขัดใจแฟนๆ รถสปอร์ตซีดานในตำนานบางคน แต่ขุมพลังแบบ Quad-motor สามารถให้กำลังสูงสุดถึง 1,341 แรงม้า (ในทางทฤษฎี) และระบบ Torque Vectoring เพื่อความคล่องตัวที่น่าทึ่ง อย่างที่เราได้สัมผัสจากรถแนวคิด VDX ของ BMW ที่เรียกได้ว่าบ้าคลั่งจริงๆ หากคุณยังไม่มั่นใจ M3 จะยังคงมีตัวเลือกเครื่องยนต์เบนซินทวินเทอร์โบหกสูบเรียง เหมือนกับรุ่นปัจจุบัน

BMW M5 Touring

เป็นครั้งที่สามในประวัติศาสตร์ของ BMW M5 ที่มีเวอร์ชันสเตชั่นแวกอน! M5 Touring โฉมใหม่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน Plug-in Hybrid ที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.4 ลิตร คู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าหนึ่งตัว ให้กำลังรวม 717 แรงม้า และแรงบิด 1,000 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาเพียง 3.6 วินาที พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถ 500 ลิตร

BYD Atto 2

BYD Atto 2 เป็นการเข้าสู่ตลาด SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีการแข่งขันสูงจากผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ของจีน โดยมีคู่แข่งตั้งแต่ Vauxhall Frontera ที่เน้นงบประมาณ ไปจนถึง Skoda Elroq และ Kia EV3 ที่ซับซ้อนกว่า เพื่อดึงดูดผู้ซื้อ Atto 2 มาพร้อมเทคโนโลยีมากมายเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมถึงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.8 นิ้วที่หมุนได้, Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย, กล้อง 360 องศา, เบาะหน้าและพวงมาลัยแบบปรับอุณหภูมิได้ และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มากกว่าหนึ่งโหล รุ่นเริ่มต้น ‘Boost’ มีระยะทาง 338 กิโลเมตร แต่รุ่นแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่ากำลังจะมา

Cadillac Lyriq

หลังจากหายไปจากตลาดยุโรปเกือบหนึ่งทศวรรษ Cadillac กำลังกลับมาพร้อมกับ SUV ไฟฟ้าล้วนสองรุ่น โดยหวังว่าจะสามารถแย่งยอดขายจาก Audi, BMW และ Mercedes ได้ การกลับมาของแบรนด์อเมริกันอันเป็นเอกลักษณ์นี้เริ่มต้นด้วย Cadillac Lyriq ซึ่งเป็น SUV ขนาดใหญ่ที่ดูโฉบเฉี่ยวและซับซ้อน มุ่งเป้าไปที่คู่แข่งอย่าง BMW iX Lyriq จะมาพร้อมมอเตอร์คู่เป็นมาตรฐานที่ให้กำลัง 520 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 102kWh ซึ่งคาดว่าจะให้ระยะทาง 530 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง หน้าจอ OLED ขนาดใหญ่ 33 นิ้วที่กว้างขวางครอบคลุมทั่วแผงหน้าปัด และคาดว่าป้ายราคาจะสูงถึงประมาณ 3,200,000 บาท หากราคานั้นสูงเกินไป Cadillac Optiq ที่มีขนาดกะทัดรัดกว่าและคาดว่าจะมีราคาถูกกว่าก็ไม่น่าจะอยู่ห่างไกลนัก

Citroen e-C3

Citroen e-C3 ใหม่ล่าสุดที่ได้รับรางวัล กำลังถูกวางตำแหน่งให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กสำหรับทุกคน เพราะราคาเริ่มต้นเพียงประมาณ 960,000 บาท แบตเตอรี่ LFP (lithium ferro phosphate) ขนาด 44kWh ให้ระยะทาง 320 กิโลเมตรที่เหมาะสม แต่ Citroen จะนำเสนอตัวเลือกแบตเตอรี่ที่ถูกกว่าอีกด้วย ซึ่งมีระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร e-C3 มีรูปลักษณ์แบบครอสโอเวอร์มากกว่ารถยนต์ขนาดเล็กที่มาแทนที่ ในขณะที่ระบบกันสะเทือนแบบ Hydraulic Bump-Stops และเบาะนั่ง Active Comfort ที่นุ่มสบายอันเป็นเอกลักษณ์ของ Citroen ก็ยังคงมีให้เห็น

Citroen C3 Aircross

Citroen C3 Aircross โฉมใหม่เป็นคู่แข่งของ Dacia Duster ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากค่ายฝรั่งเศส และมีลูกเล่นที่น่าสนใจอยู่บ้าง ที่น่าประหลาดใจที่สุดคือตัวเลือกแบบห้าหรือเจ็ดที่นั่ง แม้ว่า SUV ขนาดเล็กนี้จะมีความยาวเพียง 4.39 เมตร ผู้ซื้อยังสามารถเลือกระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน ไฮบริด และไฟฟ้าล้วน โดย e-C3 Aircross EV จะมีระยะทางระหว่าง 300 ถึง 400 กิโลเมตร ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 900,000 บาท หรือประมาณ 110,000 บาท แพงกว่า C3 รุ่นที่เทียบเท่า

Citroen C5 Aircross

ขั้นตอนสุดท้ายของการปรับปรุงไลน์อัพของ Citroen คือ C5 Aircross เจเนอเรชันถัดไปที่โดดเด่น ความสะดวกสบายยังคงเป็นจุดเน้นหลัก แต่ SUV สำหรับครอบครัวจากฝรั่งเศสก็มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อให้มีพื้นที่สำหรับเบาะหลังที่คาดว่าจะเป็นผู้นำในกลุ่ม รวมถึงพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ 651 ลิตร ห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้รู้สึกเหมือนห้องนั่งเล่นของคุณ ในขณะเดียวกัน ภายใต้ตัวถังที่โดดเด่นคือแพลตฟอร์ม STLA Medium เดียวกันกับที่ใช้ใน Peugeot 3008 และ Vauxhall Grandland รุ่นล่าสุด ดังนั้นตัวเลือกของระบบขับเคลื่อนแบบ Mild-hybrid, Plug-in Hybrid และไฟฟ้าล้วนจึงเหมือนกันด้วย EV มีระยะทางสูงสุดถึง 680 กิโลเมตร

Cupra Raval

Cupra Raval เป็นคู่แข่งสปอร์ตสำหรับ Volkswagen ID.Polo ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งทั้งคู่ได้จัดแสดงในงาน Munich Motor Show 2025 Raval ยังไม่ได้รับการเปิดเผยอย่างสมบูรณ์ แต่ได้รับการยืนยันผ่านรถยนต์แนวคิดที่ปกคลุมด้วยลายพราง รถยนต์จะถูกเปิดเผยอย่างเต็มรูปแบบในภายหลัง อาจเป็นช่วงต้นปี 2026 รถยนต์ Cupra ขนาดเล็กนี้จะมีความยาวมากกว่าสี่เมตรเล็กน้อย ซึ่งเหมาะสำหรับถนนในเมือง แต่มีห้าประตูเพื่อความอเนกประสงค์เพิ่มเติม จะขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยกำลังมากกว่า 200 แรงม้า และมีระยะทางสูงสุดถึง 430 กิโลเมตรในรุ่นที่เหมาะสม Raval จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ และแม้ว่าราคาจะยังไม่ได้รับการยืนยันในเร็วๆ นี้ แต่เราคาดว่าราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณ 1,100,000 บาท

Dacia

ข่าวดีสำหรับทุกคน Dacia กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับงบประมาณมากยิ่งขึ้น ด้วยแผนการสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ในปีนี้เพียงปีเดียวก็ได้เห็นการมาถึงของ Dacia Duster Mk3 ใหม่ ซึ่งเป็น Small SUV แห่งปีของเรา และ Dacia Spring EV ที่มีราคาต่ำกว่า 650,000 บาท นอกจากนี้ Dacia Bigster ก็ได้ออกสู่ตลาดในที่สุด ด้วยความหวังที่จะเขย่าตลาด SUV ขนาดกลาง Bigster เป็นหนึ่งในสามรุ่นใหม่ที่ Dacia กำลังเปิดตัวในกลุ่ม C-segment ที่สำคัญของตลาดรถยนต์ โดยคาดว่าอีกรุ่นหนึ่งจะมาท้าทาย Skoda Octavia ที่ได้รับรางวัล นั่นเป็นการต่อสู้ในสังเวียนที่น่าตื่นเต้นที่เราอยากเห็น

DS No8

DS No8 เป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่สำหรับแบรนด์พรีเมียมจากปารีสอย่าง DS ซึ่งยังคงยืนหยัดในการต่อสู้กับคู่แข่งอย่าง BMW, Audi และ Mercedes รถคูเป้-SUV ไฟฟ้าล้วนที่หรูหรานี้มุ่งเน้นที่ความหรูหรา ความสะดวกสบาย และคุณสมบัติที่แบรนด์เรียกว่า ‘serene’ (สงบเงียบ) นอกจากนี้ยังให้ระยะทางที่น่าทึ่งถึง 750 กิโลเมตร และด้วยราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 2,200,000 บาท จึงเป็นราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งอย่าง Polestar 4 และ Audi Q6 e-tron อย่างมาก

Ferrari F80

ล่าสุดในสายเลือดรถไฮเปอร์คาร์ “ครั้งหนึ่งในทศวรรษ” อันรุ่งโรจน์ที่เกิดจาก Maranello, Ferrari F80 เป็นผู้สืบทอดของ F40, F50, Enzo และ LaFerrari การออกแบบที่น่าทึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่ง 499P ที่ชนะการแข่งขัน Le Mans ของ Ferrari เช่นเดียวกับระบบส่งกำลัง: เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.0 ลิตร รอบเครื่องยนต์ 9,200 รอบต่อนาที คู่กับเทอร์โบสองตัวและมอเตอร์ไฟฟ้าห้าตัว กำลังรวมอยู่ที่ 1,183 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 2.15 วินาที และมีราคาที่สูงกว่า 130 ล้านบาท

Ferrari Elettrica

ถูกต้องแล้ว แม้แต่ Ferrari ก็ต้องกัดฟันผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งอาจจะใช้ชื่อว่า ‘Ferrari Elettrica’ ตามภาพถ่ายสายลับของรถทดสอบ EV คันแรกจาก Maranello น่าจะเป็นรถยนต์สี่ประตูมากกว่าซูเปอร์คาร์สองประตู เราไม่คาดหวังว่าจะเป็น SUV แบบ 4×4 ที่มีรูปร่างเป็นกล่อง แต่เป็นบางสิ่งที่คล้ายกับ Ferrari Purosangue ที่มีสไตล์ดุดัน ซึ่งบริษัทได้เรียกว่าเป็น “รถสปอร์ตสี่ที่นั่งสี่ประตู” ดูเหมือนว่า Ferrari กำลังวางแผนวิธีที่จะทำให้รถคันนี้เป็นรถที่น่าขับขี่อย่างมีส่วนร่วม

Fiat Grande Panda

ผ่านมานานกว่าทศวรรษแล้วนับตั้งแต่ Fiat Panda รุ่นปัจจุบันเปิดตัว ดังนั้นรุ่นใหม่จึงล่าช้าไปนาน และในที่สุด Fiat Grande Panda ก็มาถึง นี่คือรถยนต์ฝาแฝดที่มีรูปทรงเป็นกล่องและมีสไตล์สนุกสนานของ Citroen e-C3 รถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีของ Auto Express และเป็นรุ่นแรกในตระกูลรุ่นใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Panda การออกแบบแบบ Retro-futuristic ได้รับแรงบันดาลใจจาก Panda รุ่นดั้งเดิมจากยุคแปดสิบ รวมถึง Panda 4×4 ที่ดูแข็งแกร่งกว่า ภายในก็มีเอกลักษณ์ไม่แพ้กัน มีองค์ประกอบสี่เหลี่ยมมากขึ้นภายใน พร้อมชุดสีที่สดใส และวัสดุที่น่าสนใจให้เลือก เช่น ใยไม้ไผ่บนแผงหน้าปัด นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เก็บของมากมาย แต่คุณสมบัติที่ใช้งานได้จริงที่สุดของ Grande Panda คือสายชาร์จแบบพับเก็บได้ที่ซ่อนอยู่ในด้านหน้าของรุ่น EV จะมีเวอร์ชันไฮบริดให้เลือกด้วย และราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 790,000 บาท

Ford

หากคุณคิดว่าการที่ Ferrari ใส่เครื่องยนต์ V6 ลงในไฮเปอร์คาร์หลายล้านปอนด์รุ่นใหม่นั้นเป็นเรื่องที่ถกเถียงกัน คุณอาจไม่ได้ยินว่าหลังจากหายไป 40 ปี ชื่อ Ford Capri อันศักดิ์สิทธิ์ได้ถูกนำกลับมาใช้ใหม่…สำหรับรถยนต์ SUV ไฟฟ้า ส่วนสุดท้ายนั้นไม่น่าแปลกใจ เพราะ Ford กำลังมุ่งเน้นไปที่รถยนต์ไฟฟ้าอย่างมาก โดยได้เปิดตัว Explorer SUV ใหม่เมื่อเร็วๆ นี้ และรุ่น EV ของ Puma ครอสโอเวอร์ขนาดเล็กที่ขายดีที่สุด อย่างไรก็ตาม Mustang ยังคงปฏิเสธที่จะทิ้งเครื่องยนต์ V8 และที่ดีกว่านั้นคือ มีเวอร์ชันที่เน้นการแข่งขันในสนามแข่งอย่าง Mustang GTD ที่มาพร้อมกำลังมากกว่า 800 แรงม้า และเทคโนโลยีที่ถูกห้ามในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต

Genesis GV60 Magma

BMW มีแผนก M, Mercedes มี AMG และตอนนี้ Genesis ก็วางแผนที่จะเปิดตัวรุ่น Magma สมรรถนะสูงของไลน์อัพของตนเอง โดยเริ่มต้นด้วย Genesis GV60 Magma ที่ร้อนแรง ซึ่งมีกำหนดการมาถึงในช่วงปลายปี และเราสงสัยว่าจะมาพร้อมกำลังที่มากกว่า Hyundai Ioniq 5 N และ Kia EV6 GT ที่ทรงพลังอยู่แล้วถึง 641 แรงม้า ซึ่งใช้แพลตฟอร์มเดียวกัน Tyrone Johnson หัวหน้าฝ่ายพัฒนา Genesis ยังบอกกับ Auto Express ว่า: “เรามีแนวคิดที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และสิ่งที่เราพยายามบรรลุนั้นแตกต่างจาก Ioniq 5 N หรือ EV6 GT อย่างสิ้นเชิง” ซึ่งบ่งชี้ว่า GV60 Magma จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รุ่นแนวคิดที่ปรากฏในงาน Goodwood Festival of Speed 2024 ให้แนวคิดที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ที่ Genesis วางแผนไว้ รวมถึงฐานล้อที่กว้างขึ้น ช่วงล่างที่ต่ำลง รูปลักษณ์ที่ดุดัน และการตกแต่งภายในที่สปอร์ตยิ่งขึ้น พร้อมชุดเบาะนั่งแบบ Bucket Seat ที่ลึก

Honda 0 SUV

เมื่อพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้า Honda อยู่ในสถานะที่ตามหลังคู่แข่งมาพักหนึ่ง แต่จะไม่นานอีกต่อไป เพราะ Honda ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าล้ำสมัยใหม่เจ็ดรุ่นภายในปี 2030 ทั้งหมดภายใต้แบรนด์ย่อยใหม่ระดับโลก ‘0 Series’ รุ่นแรกจะมาถึงในปี 2026 โดยเริ่มต้นด้วย SUV ขนาดกลางที่โฉบเฉี่ยวที่เราได้เห็นในรูปแบบของรถต้นแบบแล้ว หลังจากนั้นไม่นานก็จะเป็นรถซีดานเรือธงที่อิงจากแนวคิด Honda Saloon ที่ล้ำสมัย

Honda Prelude

หลังจากหายไปนานกว่าสองทศวรรษ Honda Prelude จะกลับมาอีกครั้งในครึ่งแรกของปี 2026 รุ่นที่หกใหม่นี้จะเป็นรถคูเป้สองประตูที่โฉบเฉี่ยว พร้อมขุมพลังไฮบริด และเทคโนโลยีเกียร์เสมือนจริงที่ Honda เรียกว่า ‘S Shift’ ซึ่งคาดว่าจะจำลอง “เสียงและความรู้สึกของการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติที่รวดเร็ว” รถแนวคิดของ Prelude ใหม่ได้เปิดตัวเมื่อสองปีที่แล้ว และนับตั้งแต่นั้นมา การออกแบบก็ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปมากนัก หรือแทบจะไม่มีเลย

Hyundai Inster

Hyundai Inster เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กราคาจับต้องได้รุ่นใหม่ของแบรนด์ ที่มีรูปลักษณ์แปลกตาแต่น่ารักอย่างยิ่ง มีขนาดเล็กกว่ารถยนต์ขนาดเล็กอย่าง Skoda Fabia หรือ Renault Clio แต่ใช้พื้นที่ภายในห้องโดยสารทุกมิลลิเมตรได้อย่างคุ้มค่า และมีเบาะหลังแบบเลื่อนได้ ทำให้รถคันเล็กนี้มีความอเนกประสงค์อย่างน่าประหลาดใจ ในความเป็นจริงแล้ว มันกว้างขวางมากจนคุณสามารถใส่กระดานโต้คลื่นเข้าไปได้ Inster ยังมีระยะทางสูงสุดถึง 368 กิโลเมตร และมีราคาเริ่มต้นที่ 1,030,000 บาท

Hyundai Ioniq 9

นอกจากจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่สุดแล้ว Hyundai ยังได้เปิดตัว EV ที่ใหญ่ที่สุด: Ioniq 9 เจ็ดที่นั่ง ยานยนต์ขนาดห้าเมตรคันนี้เป็นทางเลือกที่ล้ำสมัยและไร้มลพิษสำหรับ Hyundai Santa Fe และเป็นรถยนต์ฝาแฝดของ Kia EV9 ที่ได้รับรางวัล SUV ไฟฟ้าขนาดใหญ่สองรุ่นที่โดดเด่นนี้ใช้แพลตฟอร์ม E-GMP เดียวกัน แต่ Ioniq 9 มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่า 110.3kWh ซึ่งเมื่อรวมกับการออกแบบที่ลื่นไหลอย่างน่าประหลาดใจ ทำให้มีระยะทางสูงสุดถึง 620 กิโลเมตร Ioniq 9 มีการออกแบบภายในที่สดใหม่และสมกับเป็นเรือธง เต็มไปด้วยเทคโนโลยี รวมถึงจอแสดงผลคู่ขนาด 12.3 นิ้วที่รวมอยู่ในแผงโค้ง ระบบตัดเสียงรบกวนถนนแบบ Active และผู้ช่วย AI จะมีให้เลือกทั้งแบบเจ็ดที่นั่งและหกที่นั่ง และด้วยความสำคัญของการใช้งานจริงสำหรับรถยนต์ประเภทนี้ มีพื้นที่เก็บสัมภาระมากถึงประมาณ 2,000 ลิตร ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของเบาะนั่ง คาดว่าราคาจะเริ่มต้นที่ 2,800,000 บาท เมื่อเปิดรับจองในช่วงปลายปีนี้

Hyundai Ioniq 3

กลุ่มผลิตภัณฑ์ Ioniq จะขยายตัวต่อไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าด้วยการเปิดตัว Ioniq 3 รุ่นที่เล็กกว่า ซึ่งได้รับการเผยโฉมล่วงหน้าในงาน Munich Motor Show 2025 โดย Hyundai Concept Three คาดว่ารถแฮทช์แบ็กไฟฟ้าล้วนรุ่นใหม่ ซึ่งจะเป็นคู่แข่งของ Volkswagen ID.3 จะได้รับการเปิดเผยในปี 2026 รถแนวคิดบ่งชี้ถึงทิศทางที่แบรนด์อาจจะใช้กับรุ่นใหม่: มันค่อนข้างสปอร์ตและดูโดดเด่น ดังนั้นคาดหวังรูปลักษณ์ที่ dynamic มากกว่ารูปลักษณ์ที่เรียบง่าย เรายังคาดหวังเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ยอดเยี่ยมจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง ดังนั้นเราจึงตั้งตารอรุ่นใหม่ในปีหน้า

IM Motors L6

IM Motors เป็นแบรนด์พี่น้องระดับพรีเมียมของ MG และเราได้รับแจ้งว่าจะเปิดตัวในตลาดยุโรปในปี 2025 รุ่นแรกที่จะนำเสนอคือ IM L6: รถซีดานไฟฟ้าพรีเมียมที่บริษัทคาดว่าจะมาท้าทาย Tesla Model 3 ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง เราได้รับแจ้งว่า L6 สามารถทำความเร็ว 100 กม./ชม. ได้ในเวลาน้อยกว่าสามวินาที และชาร์จด้วยความเร็วที่มากกว่า 300kW ซึ่งไม่เพียงแต่แซงหน้า Tesla เท่านั้น แต่ยังเทียบเท่ากับสถิติของ Porsche Taycan

Jaguar four-door GT

การปฏิวัติแบรนด์ Jaguar จากบนลงล่างเป็นประเด็นร้อนแรงมาหลายเดือนแล้ว เนื่องจากหนึ่งในแบรนด์รถยนต์หลักของอังกฤษกำลังจะเปลี่ยนไปใช้ระบบไฟฟ้าทั้งหมดและมุ่งสู่ตลาดระดับหรูอย่างจริงจัง ด้วยรถยนต์รุ่นปัจจุบันทั้งหมดที่เลิกผลิตไปแล้ว Jaguar กำลังเตรียมที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าใหม่สามรุ่น โดยเริ่มต้นด้วยรถยนต์ GT สี่ประตูที่จะมีราคาประมาณ 5,600,000 บาท รถยนต์แนวคิดที่ใกล้เคียงการผลิตจะได้รับการเปิดเผยก่อนสิ้นปีนี้ โดยรถยนต์จริงจะมาถึงในปี 2026 GT ที่ยังไม่มีชื่อนี้จะอยู่บนแพลตฟอร์ม EV แบบสั่งทำพิเศษที่เรียกว่า Jaguar Electrified Architecture และใช้เทคโนโลยี “พลิกเกม” ตามที่ผู้บริหารที่เราได้พูดคุยด้วย Steve Marsh ผู้อำนวยการบริหารโครงการยานยนต์ยังเปิดเผยว่ามันจะวิ่งได้ไกลถึง 770 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และสำหรับการเดินทางข้ามทวีป ผู้ขับขี่จะสามารถเพิ่มระยะทางได้ 320 กิโลเมตรในเวลาเพียง 15 นาที จนถึงขณะนี้เราได้เห็นเพียงรถต้นแบบที่พรางตัวอย่างหนักพร้อมสัดส่วนที่ต่ำและดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม แนวคิด Jaguar Type 00 ที่ล้ำสมัยซึ่งจัดแสดงในช่วงปลายปี 2024 บ่งชี้ถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่รถยนต์ผลิตจริงอาจมี

Jeep Recon

Jeep เพิ่งเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าคันแรก Avenger ในปี 2023 แต่นั่นไม่ใช่ EV เพียงรุ่นเดียวที่แบรนด์กำลังพัฒนาอยู่ รุ่นที่เราตื่นเต้นที่สุดคือ 4×4 ที่แข็งแกร่งชื่อ Recon EV ขนาดเท่า Wrangler คันนี้จะใช้การออกแบบที่แข็งแกร่งและแพลตฟอร์ม STLA Large สำหรับ EV โดยเฉพาะจาก Stellantis บริษัทแม่ ซึ่งกำลังถูกใช้เป็นพื้นฐานสำหรับ Wagoneer S SUV เรือธงรุ่นใหม่ของ Jeep

Kia EV4

Kia EV4 ใหม่ล่าสุดเป็นส่วนเพิ่มเติมต่อไปในกลุ่มรถยนต์ครอบครัวไฟฟ้าล้วนที่มีรูปลักษณ์โดดเด่นของแบรนด์ และมีให้เลือกทั้งแบบซีดานที่โฉบเฉี่ยวหรือแฮทช์แบ็กห้าประตูแบบดั้งเดิม โดยคาดว่ารุ่นหลังจะได้รับความนิยมมากกว่าในยุโรป คู่แข่งของ VW ID.3 คันนี้ใช้แพลตฟอร์ม E-GMP เดียวกันกับ Kia EV3 SUV ที่ได้รับรางวัล และให้ระยะทางเกือบ 640 กิโลเมตร เป็นรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับครอบครัวที่ยอดเยี่ยม เงียบสงบ และกว้างขวาง เราประทับใจมากหลังจากขับขี่เป็นครั้งแรกเมื่อเร็วๆ นี้

Kia PV5

ในปีนี้ Kia กำลังนำความรู้และความเชี่ยวชาญด้านรถยนต์ไฟฟ้ามาสู่โลกของรถตู้ ด้วยกลุ่มรถยนต์เชิงพาณิชย์ที่สร้างขึ้นตามวัตถุประสงค์ ซึ่งน่าจะทำให้ Ford E-Transit Family ต้องกังวล ผู้นำการโจมตีคือ Kia PV5 ซึ่งในฐานะรถตู้แผงข้างจะเผชิญหน้ากับ Ford E-Transit Custom นอกจากนี้จะมีเวอร์ชัน MPV ที่จะมาท้าทาย Volkswagen ID. Buzz ในขณะที่ VW มุ่งเน้นไปที่ความรู้สึกแบบนักเล่นกระดานโต้คลื่น PV5 ให้ความรู้สึกที่ล้ำสมัยกว่ามาก และการออกแบบที่เหมาะสมกับ Blade Runner จะช่วยให้มันดูเข้ากับ Kia EV9 และ EV3 SUV รูปทรงที่เกือบจะเป็นกล่องและฐานล้อขนาดใหญ่ควรช่วยให้ผู้โดยสารมีพื้นที่มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นอกจากนี้ประตูหลังแบบเลื่อนจะช่วยให้เข้าถึงได้ง่าย ผู้ซื้อที่เป็นครอบครัวจะยินดีที่ได้ยินว่ารถตู้ไฟฟ้าและ MPV ของ Kia จะมาพร้อมกับการรับประกันเจ็ดปีชั้นนำในอุตสาหกรรม

Land Rover Defender OCTA

ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที กำลัง 626 แรงม้า และราคาที่สูงถึง 7,000,000 บาท Defender OCTA เป็นรุ่นสุดยอดของ Land Rover Defender อย่างไม่ต้องสงสัย เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.4 ลิตร เป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดที่ติดตั้งใน Defender ยุคใหม่ และเพื่อให้มั่นใจว่าแชสซีของ 4×4 สามารถรับมือกับกำลังมหาศาลได้ Land Rover ได้ทำการแก้ไขอย่างกว้างขวาง รวมถึงเบรก Brembo ที่อัปเกรด ระบบบังคับเลี้ยวที่เร็วขึ้น ยางที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ และระบบกันสะเทือน 6D Dynamics ใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีคล้ายกับซูเปอร์คาร์ของ McLaren

Lotus mid-size SUV

แม้ว่า Lotus จะสร้างชื่อเสียงจากรถสปอร์ตน้ำหนักเบา แต่แบรนด์ก็ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วเป็นผู้ผลิตรถยนต์ EV ระดับพรีเมียม โดยเริ่มต้นด้วย Eletre Hyper-SUV และ Emeya GT แต่ Lotus หวังที่จะขยายการเข้าถึงให้ไกลกว่าเจ้าของรถยนต์หรูและผู้บริหารองค์กรด้วย SUV ขนาดกลางที่จะมาท้าทาย Porsche Macan Electric โฉมใหม่ Lotus ตั้งเป้าหมายราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 2,400,000 บาท สำหรับ Type 134 ตามที่รู้จักกันภายใน ซึ่งต่ำกว่า Macan อย่างมีนัยสำคัญ แบรนด์ได้ยืนยันว่าจะมีการเปิดตัวในปี 2025 ดังนั้นโปรดติดตามข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SUV สัญชาติอังกฤษที่กำลังจะมาถึงในเร็วๆ นี้

Lotus electric sports car

SUV และรถซีดานจะคิดเป็นส่วนใหญ่ของยอดขาย Lotus ในไม่ช้า แต่มันก็ไม่ได้ละทิ้งมรดกการผลิตรถสปอร์ตเกือบ 80 ปี ในปี 2027 บริษัทจะเปิดตัวรถสปอร์ตไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกที่จะมาแทนที่ Emira ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน รหัส Type 135 จะถูกสร้างขึ้นที่ฐาน Hethel ของ Lotus ใน Norfolk และใช้สถาปัตยกรรมแบบสั่งทำพิเศษ ในขณะที่การออกแบบคาดว่าจะได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากจากแนวคิด Lotus Theory 1 (ภาพประกอบ)

Mazda 6e

Mazda MX-30 ครอสโอเวอร์ที่มีข้อบกพร่องอย่างน่าผิดหวังเป็น EV เพียงรุ่นเดียวของแบรนด์ญี่ปุ่นมาหลายปีแล้ว แต่จะไม่นานอีกต่อไป เพราะ Mazda 6e ซีดานใหม่ล่าสุดจะมาถึงยุโรปในปี 2026 เพื่อท้าทาย Tesla Model 3 โชคไม่ดีที่มันเริ่มต้นได้ไม่ดีนัก เพราะระยะทางที่ Mazda 6e อ้างว่าทำได้สูงสุด 550 กิโลเมตร นั้นน้อยกว่า Tesla เกือบ 160 กิโลเมตร อย่างน้อย Mazda ก็ให้คำมั่นสัญญาว่าซีดานที่ดูดีคันนี้จะมอบ “พฤติกรรมการขับขี่ที่คาดหวังจากผู้ผลิตที่มีประสบการณ์หลายทศวรรษในการสร้างรถยนต์ที่สนุกต่อการขับขี่” นอกจากนี้ยังมีรุ่น SUV ที่สูงกว่า และน่าจะใช้งานได้จริงกว่า ในชื่อ Mazda CX-6e

McLaren W1

เริ่มจาก F1 แล้ว P1 และตอนนี้ McLaren W1 ก็มาถึงเพื่อแสดงให้โลกเห็นว่า Woking สามารถทำอะไรได้บ้าง คู่แข่งโดยตรงของ Ferrari F80 ที่เรากล่าวถึงก่อนหน้านี้ W1 มีระบบขับเคลื่อนไฮบริด V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ที่ส่งกำลัง 1,258 แรงม้า ทั้งหมดไปยังล้อหลังเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้มันบินขึ้น “ระบบอากาศพลศาสตร์ Ground-effect ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Formula One” สามารถสร้างแรงกดได้ 1,000 กิโลกรัม ที่ความเร็ว 280 กม./ชม.

Mercedes CLA

Mercedes CLA เจเนอเรชันถัดไปจะเป็นรถยนต์รุ่นแรกในสิ่งที่แบรนด์เรียกว่ารถยนต์ ‘entry luxury’ รุ่นใหม่ที่ใช้สถาปัตยกรรม MMA ใหม่ล่าสุด ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำหรับ SUV สองรุ่นและ Shooting Brake Estate ด้วย ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าสามารถให้ระยะทางเกือบ 800 กิโลเมตร และการชาร์จที่รวดเร็วเป็นพิเศษด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ขั้นสูงที่ทำได้ด้วยแพลตฟอร์มใหม่ มันมีราคาที่เหมาะสมและเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือกว่ารถยนต์ EV ของ Mercedes รุ่นก่อนหน้าที่มีขนาดใหญ่กว่าบางรุ่น

Mercedes GLC

ต่อเนื่องจาก BMW iX3 รุ่นใหม่ Mercedes GLC ล่าสุดได้เผยโฉมแล้วและมีกำหนดจะออกสู่ตลาดในเร็วๆ นี้ เป็นรุ่นใหม่ทั้งหมดและไม่เกี่ยวข้องกับ GLC ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในรุ่นเก่า: ใช้สถาปัตยกรรม MB.EA ที่เป็นไฟฟ้าล้วนใหม่ และมีแบตเตอรี่ 94kWh ที่ให้ระยะทาง 700 กิโลเมตร และความเร็วในการชาร์จเร็ว DC สูงสุด 330kW รุ่นเปิดตัวที่เรียกว่า GLC 400 4MATIC มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและกำลังรวม 482 แรงม้า ดังนั้นประสิทธิภาพจึงมั่นใจได้ เราจะต้องรออีกเล็กน้อยเพื่อดูว่ามันจะสามารถเอาชนะ BMW iX3 ใหม่ล่าสุดได้หรือไม่ ดังนั้นโปรดติดตามรีวิวรถทั้งสองคันของเราในเร็วๆ นี้

MINI John Cooper Works

MINI Cooper ล่าสุดเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ได้รับการคาดหวังมากที่สุดในปีที่แล้ว และกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ตอนนี้แบรนด์ได้เพิ่มความพิเศษเพื่อสร้าง MINI John Cooper Works ฮอตแฮทช์รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินและไฟฟ้าล้วน JCW Electric ให้กำลังสูงสุด 254 แรงม้า จากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งด้านหน้า ซึ่งเพียงพอสำหรับ 0-100 กม./ชม. ใน 5.9 วินาที – เร็วกว่า Hyundai i20 N – แต่ก็ยังมีรุ่นเบนซินแบบ Old-school ที่มาพร้อมเครื่องยนต์สี่สูบ 2.0 ลิตร 228 แรงม้า น่าเสียดายที่ไม่มีตัวเลือกเกียร์ธรรมดาอีกต่อไป มีเพียงเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่เจ็ดสปีด แต่ผู้ซื้อยังคงมีทางเลือกตัวถังแบบ Hard-top หรือ Convertible ในรุ่นเบนซิน

Nissan Leaf

ในฐานะ EV สำหรับตลาดมวลชนคันแรก Nissan Leaf เป็นผู้บุกเบิกอย่างแท้จริง แต่ก็ค่อยๆ ถูกคู่แข่งที่ก้าวหน้ากว่าและเหนือกว่าโดยทั่วไปแซงหน้าไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มความน่าดึงดูดใจ รถแฮทช์แบ็กสำหรับครอบครัวได้กลายร่างเป็น SUV ครอสโอเวอร์ที่เพรียวบาง ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเดียวกับ Nissan Ariya ซึ่งเคยเป็น Auto Express Car of the Year รูปทรงที่โฉบเฉี่ยวรวมกับเทคนิคอื่นๆ ทำให้ Leaf รุ่นใหม่เป็นรถยนต์ที่มีอากาศพลศาสตร์ดีที่สุดเท่าที่แบรนด์ญี่ปุ่นเคยผลิตมา และมีระยะทางขับขี่สูงสุดถึง 600 กิโลเมตร ซึ่งมาจากแบตเตอรี่ขนาด 75kWh ที่สมเหตุสมผล ดังนั้นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานควรจะต่ำตามที่คุณคาดหวังจากรถยนต์ชื่อนี้

Nissan Micra

นี่คือ Nissan Micra โฉมใหม่ และหากคุณคิดว่ามันดูน่าสงสัยเหมือน Renault 5 ใหม่ นั่นเป็นเพราะมันเป็นเวอร์ชันที่เปลี่ยนตราและส่วนหน้าของรถฝรั่งเศสที่ทันสมัย Nissan ได้ทิ้งไฟหน้าสี่เหลี่ยมและไฟท้ายแนวตั้งของ R5 เพื่อใช้ไฟหน้าทรงกลมขนาดใหญ่ที่ดูตลกขบขัน คล้ายกับ Micra Mk3 อันโด่งดัง นอกจากนี้ยังมีกันชนที่ออกแบบใหม่ กระจกหลังใหม่ และแน่นอนว่า Nissan ได้เพิ่มตราสัญลักษณ์และการออกแบบล้อของตนเองเข้าไป แต่ก็เท่านั้น ตัวเลือกแบตเตอรี่ ความเร็ว ระยะทาง ประสิทธิภาพ แชสซี การใช้งานจริง และภายในห้องโดยสารล้วนเหมือนกัน

Polestar 5

ผ่านมาห้าปีแล้วนับตั้งแต่ Polestar Precept แนวคิดที่น่าทึ่งได้ถูกเปิดเผย แต่ในที่สุด Volvo ก็พร้อมที่จะเปิดตัวคู่แข่งของ Porsche Taycan และ Lotus Emeya: Polestar 5 มีการเปลี่ยนแปลงการออกแบบเพียงเล็กน้อยสำหรับรุ่นผลิตจริง และเช่นเดียวกับแนวคิด ไม่มีหน้าต่างด้านหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังให้สูงสุด – เช่นเดียวกับ Polestar 4 คูเป้ น่าเสียดายที่รายละเอียดหนึ่งที่ไม่ได้ถูกนำมาใช้คือประตูแบบ ‘suicide’ coach doors ของแนวคิดดั้งเดิม ในขณะเดียวกัน ภายในจะใช้ประโยชน์จากวัสดุรีไซเคิลและวัสดุจากพืชอย่างกว้างขวางเพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ด้านสิ่งแวดล้อม แทนที่จะใช้สถาปัตยกรรมที่มีอยู่ Polestar 5 พึ่งพาแพลตฟอร์มอะลูมิเนียมอัดและเชื่อมแบบสั่งทำพิเศษที่สร้างขึ้นในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นที่ที่ EV เรือธงได้รับการพัฒนาด้วย มีระบบไฟฟ้า 800V และกำลังขับที่มหาศาลถึง 874 แรงม้า และแรงบิด 900 นิวตันเมตร

Polestar 7

หากคุณยังเดาไม่ถูก Polestar 7 จะเป็นรถยนต์รุ่นที่เจ็ดจากแบรนด์สวีเดน แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือจะเป็นคำตอบของแบรนด์สำหรับ Tesla Model Y “Premium compact SUV” คันนี้จะถูกสร้างขึ้นในยุโรป มีเทคโนโลยีล่าสุด และอาจมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 1,750,000 บาท Polestar จะเปลี่ยนจากแนวทางแพลตฟอร์มที่หลากหลายในปัจจุบันไปใช้ “สถาปัตยกรรมเดียว ลดความซับซ้อน ต้นทุน และการลงทุน”

Porsche Boxster/Cayman

รถสปอร์ตเครื่องยนต์กลางของ Porsche อย่าง Cayman และ Boxster ในไม่ช้าจะละทิ้งเครื่องยนต์เบนซินเพื่อเปลี่ยนไปใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าล้วน อย่างน้อยก็สำหรับรุ่นปกติ – เนื่องจากรุ่น GT ระดับสูงอาจยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน ทั้งสองรุ่นจะใช้แพลตฟอร์มรถสปอร์ตไฟฟ้าแบบสั่งทำพิเศษที่พัฒนาโดย Porsche และจากภาพถ่ายสายลับของเรา จะมีฐานล้อยาวกว่ารุ่นปัจจุบัน ซึ่งน่าจะเป็นเพื่อรองรับชุดแบตเตอรี่ที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังห้องโดยสารของผู้โดยสาร แทนที่จะอยู่ใต้พื้นเหมือน EV ส่วนใหญ่ สิ่งนี้จะช่วยในการกระจายน้ำหนักและการบรรลุตำแหน่งการนั่งที่ต่ำ

Porsche Cayenne Electric

Porsche Cayenne จะยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซินและไฮบริดในขณะนี้ แต่ Cayenne Electric ใหม่กำลังจะมา และจะใช้แพลตฟอร์ม PPE นี่เป็นแพลตฟอร์มเดียวกับที่ใช้สำหรับ Macan Electric ดังนั้นคาดว่าแบตเตอรี่จะมีความจุประมาณ 100kWh, มอเตอร์คู่ และช่วงล่างแบบ active รวมถึงความเป็นไปได้ของการชาร์จแบบไร้สาย นี่คือเมื่อคุณขับรถไปจอดในที่จอดรถที่รองรับซึ่งสามารถชาร์จรถได้ – เหมือนกับที่คุณวางสมาร์ทโฟนบนแผ่นชาร์จไร้สาย

Range Rover Electric

Range Rover เป็น SUV หรูหราดั้งเดิม และมากกว่าครึ่งศตวรรษต่อมา มันก็ยังคงเป็นราชาแห่งป่า แต่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จะมี Range Rover Electric Thomas Müller ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมผลิตภัณฑ์ของ JLR กล่าวว่า “เรากำลังดำเนินการตามเป้าหมายเพื่อสร้าง Range Rover ที่เงียบที่สุดและประณีตที่สุดเท่าที่เคยมีมา ส่วนผสมมหัศจรรย์ที่สนับสนุนความสำเร็จของ Range Rover ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง – ตอนนี้นำเสนอพร้อมกับการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์”

Renault 4

ตามมาติดๆ กับ Renault 5 ใหม่ที่ยอดเยี่ยมซึ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปีนี้คือ Renault 4 SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กคันนี้มีรูปทรงเป็นกล่องคล้ายกับ R4 ดั้งเดิมจากยุคหกสิบ และการออกแบบได้รวมคุณสมบัติที่คุ้นเคยหลายอย่าง เช่น กระจกสามเหลี่ยมด้านหลัง ไฟท้ายรูปแคปซูล และกระจังหน้าแนวนอนกว้างพร้อมไฟหน้าทรงกลม ใช้แพลตฟอร์ม AmpR Small เดียวกันกับ R5 แฮทช์แบ็ก แต่จะมีให้เลือกเฉพาะแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 52kWh ที่ให้ระยะทาง 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

Renault Twingo

ส่วนเพิ่มเติมสุดท้ายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ EV ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Retro ของ Renault คือ Twingo ใหม่ล่าสุด ซึ่งได้รับการเผยโฉมในรูปแบบแนวคิดในเดือนพฤศจิกายน 2023 Luca de Meo ซีอีโอของ Renault อธิบายว่าเป็น “กระสุนเงินสำหรับการเดินทางที่ยั่งยืน” Twingo ใหม่มีกำหนดจะเปลี่ยนจากแนวคิดไปสู่การผลิตในเวลาเพียงสองปี และมีราคาเริ่มต้นที่น่าทึ่งต่ำกว่า 20,000 ยูโร – หรือประมาณ 770,000 บาท ตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน และใช่ มันกำลังจะมาถึงในยุโรป!

Rivian R2

Rivian บริษัทสตาร์ทอัพ EV ผู้บุกเบิกของอเมริกา ผู้ผลิตรถกระบะไฟฟ้าล้วนคันแรกของโลก จะเข้าสู่ตลาดยุโรปในที่สุดในปี 2027 แต่ไม่ใช่ด้วยรถกระบะ รุ่นแรกที่จะวางขายในยุโรปคือ Rivian R2: SUV ไฟฟ้าขนาดกลางที่จะมาท้าทาย Tesla Model Y และอื่นๆ อีกมากมาย เรายังคาดว่า Rivian R3 แฮทช์แบ็กและ R3X ฮอตแฮทช์จะมาถึงในภายหลัง

Skoda

ปี 2024 เป็นปีที่วุ่นวายอย่างยิ่งสำหรับ Skoda ด้วยเช่นกัน เพราะหลายรุ่นยอดนิยมได้รับการปรับปรุง เช่น Kamiq และ Octavia นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว Kodiaq เจเนอเรชันที่สองใหม่ล่าสุด และ Superb ล่าสุด – ซึ่งทั้งสองรุ่นได้รับรางวัลจาก Auto Express New Car Awards เมื่อมองไปข้างหน้า แบรนด์เช็กจะต่อยอดความสำเร็จของ Enyaq และเปิดตัว SUV ไฟฟ้าที่มีขนาดและราคาที่หลากหลาย รวมถึงรุ่นที่มีราคาต่ำกว่า 880,000 บาท เช่นเดียวกัน Skoda กำลังพัฒนารถยนต์สเตชั่นแวกอนสำหรับครอบครัวที่ไร้มลพิษ เพื่อวางตำแหน่งควบคู่ไปกับ Octavia Estate และ Superb Estate ที่ยอดเยี่ยม แบรนด์ยังได้จัดแสดง Skoda Epiq แนวคิดเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นการเผยโฉมคู่แข่งใหม่ขนาดเท่า Kamiq สำหรับ VW ID. Cross

Suzuki e Vitara

Suzuki ได้ตัดสินใจกระโดดลงสู่บ่อน้ำลึกด้วย EV คันแรก โดย e Vitara ใหม่ล่าสุดเป็น SUV ไฟฟ้าล้วนขนาดเล็กที่จะต้องแข่งขันกับคู่แข่งที่น่าประทับใจมากมาย คุณสมบัติที่โดดเด่นอย่างหนึ่งคือตัวเลือก AllGrip-e ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งใช้มอเตอร์คู่เพื่อให้ “สมรรถนะที่ทรงพลัง” และการยึดเกาะถนนเป็นพิเศษในสภาพถนนที่ลื่นไหล ซึ่งเสริมรูปลักษณ์ที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ระยะทางสูงสุดของ e Vitara คือ 426 กิโลเมตร ซึ่งเหนือกว่า Jeep Avenger เพียงเล็กน้อย แต่ไม่สามารถเทียบกับรถยนต์อย่าง Kia EV3 ที่สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 600 กิโลเมตรในครั้งเดียว

Vauxhall Frontera

Vauxhall Frontera ไม่มีชื่อเสียงเทียบเท่ากับ Ford Capri หรือ Honda Prelude แต่ก็ถูกนำกลับมาใช้ใหม่สำหรับ SUV คอมแพกต์ใหม่ล่าสุดที่เน้นความอเนกประสงค์และความสามารถในการเป็นเจ้าของ ด้วยรูปทรง SUV แบบกล่องดั้งเดิม มีที่นั่งสูงสุดเจ็ดที่นั่ง และความจุสัมภาระที่อาจถึงเกือบ 1,600 ลิตร Frontera จึงใช้งานได้จริงด้วย ในแง่ของต้นทุน Vauxhall เป็นก้าวสำคัญ เพราะทั้งรุ่นไฟฟ้าล้วนและเบนซินไฮบริดเริ่มต้นที่ 1,030,000 บาท – ความเท่าเทียมกันของราคาอย่างแท้จริง ซึ่งช่วยขจัดอุปสรรคทั่วไปในการเป็นเจ้าของ EV Frontera Hybrid ใช้การผสมผสานที่เรียบง่ายระหว่างเครื่องยนต์เบนซินสามสูบ 1.2 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 28 แรงม้า ที่รวมอยู่ในกระปุกเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่หกสปีด ในขณะที่ EV มีแบตเตอรี่ 44kWh และมอเตอร์ไฟฟ้า 111 แรงม้า ซึ่งให้ระยะทางสูงสุด 300 กิโลเมตร – แม้ว่ารุ่น Long Range กำลังจะมาถึงในเร็วๆ นี้

Volkswagen ID. Polo

Volkswagen ได้ยืนยันแล้วว่าชื่อ ID.2 ไม่มีอีกต่อไป: รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กราคาจับต้องได้รุ่นใหม่จากแบรนด์จะใช้ชื่อ ID. Polo แทน รถยนต์ได้รับการเปิดเผยในระดับหนึ่งในงาน Munich Motor Show 2025 โดยจัดแสดงภายใต้ลายพรางที่ให้แนวคิดที่ดีเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของมัน รุ่นนี้จะใช้แพลตฟอร์ม MEB เวอร์ชันต้นทุนต่ำ ซึ่งจะช่วยให้มีราคาเริ่มต้นที่ต่ำ: อาจต่ำกว่า 1,100,000 บาท ในยุโรปเมื่อรถยนต์มาถึงในปี 2027

Volkswagen ID.2X

Volkswagen ยังเคยให้คำมั่นสัญญาเมื่อนานมาแล้วว่าจะเปิดตัว SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กและราคาจับต้องได้รุ่นใหม่ที่ใช้ ID.2 – ตอนนี้เรียกว่า ID. Polo ซึ่งอยู่ด้านบน – และแพลตฟอร์ม MEB Entry ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นทางเลือกที่ไร้มลพิษสำหรับ VW T-Cross ที่ได้รับความนิยม บริษัทได้ยืนยันแล้วว่าคู่แข่งของ Renault 4 ในอนาคตจะใช้ชื่อ Volkswagen ID.2X และในที่สุดก็จะได้รับการเปิดเผยในงาน Munich Motor Show ในเดือนกันยายนปีนี้

Volvo ES90

Volvo ได้ยุติการผลิต S60 และ S90 ไปเมื่อปีที่แล้ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าบริษัทจะทิ้งรถซีดานขนาดใหญ่ไปทั้งหมด Volvo ES90 ที่กำลังจะมาถึงจะเป็นคู่แข่งของแบรนด์สวีเดนสำหรับ BMW i5 และ Audi A6 e-tron รวมถึง EV ที่ล้ำหน้าทางเทคโนโลยีที่สุดของแบรนด์จนถึงปัจจุบัน ภายใต้พื้นฐานเดียวกับ EX90 SUV เรือธง แต่ซีดานได้รับประโยชน์จากมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กใหม่เพื่อสมรรถนะและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น รวมถึงเทคโนโลยี 800V ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเพิ่มระยะทางได้ 300 กิโลเมตร หลังจากชาร์จเพียง 10 นาที ราคาเริ่มต้นที่ 3,000,000 บาท

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอยืนยันว่าปี 2025 และปีต่อๆ ไป จะเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างแท้จริง ด้วยรถยนต์รุ่นใหม่เหล่านี้ที่กำลังจะเข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ ไม่ว่าคุณจะมองหารถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รถไฮบริดที่ประหยัดน้ำมัน หรือรถยนต์สมรรถนะสูงที่เร้าใจ ตลาดก็พร้อมจะมอบทางเลือกที่หลากหลายและนวัตกรรมที่ล้ำสมัยให้กับคุณ

อนาคตของยานยนต์ไม่ได้อยู่ที่แค่การขับเคลื่อนเท่านั้น แต่อยู่ที่ประสบการณ์ เทคโนโลยี และความยั่งยืนที่แบรนด์ต่างๆ กำลังนำเสนอออกมา รถยนต์เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาพใหญ่ที่กำลังจะเปลี่ยนโฉมการเดินทางของเราไปตลอดกาล

แล้วคุณล่ะ สนใจรถยนต์รุ่นไหนเป็นพิเศษ หรือมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับอนาคตของยานยนต์? มาร่วมพูดคุยและแบ่งปันมุมมองของคุณในคอมเมนต์ด้านล่างนี้เลย!

Previous Post

N0511363 สวย หมวย ทำไมเทอย นเย ยวได part 2

Next Post

N0511364 ทำไมต องให เพ อนจ าย อยากได ายเอง part 2

Next Post
N0511364 ทำไมต องให เพ อนจ าย อยากได ายเอง part 2

N0511364 ทำไมต องให เพ อนจ าย อยากได ายเอง part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N0511139 แม กแต องชาย part 2
  • N0511138 ไม าจะเร ยกคนข เผ อกหร อคนข งกด part 2
  • N0511134 เล ยงหลานตามเพศท เก part 2
  • N0511137 ความอดทนของคนม นก หมดก นบ าง part 2
  • N0511132 สะใภ ทำงานหาเง นจนไม เวลามาด แลเเม part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.