• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N0411568 วาสนาผ วหมอ EP2 part 2

admin79 by admin79
November 3, 2025
in Uncategorized
0
N0411568 วาสนาผ วหมอ EP2 part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

อนาคตแห่ง SUV: เจาะลึกรุ่นท็อปหรูและแรงปี 2025 ที่คุณต้องรู้

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของตลาดรถยนต์มานับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่มีเซกเมนต์ใดที่เติบโตและปรับตัวได้รวดเร็วเท่ากับ Sport Utility Vehicle หรือ SUV อีกแล้ว จากเดิมที่เป็นเพียงรถอเนกประสงค์สำหรับครอบครัว ปัจจุบัน SUV ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดไปสู่โลกของสมรรถนะสุดขีดและความหรูหราเหนือระดับ ที่พร้อมจะตอบสนองความต้องการของผู้ที่แสวงหาความตื่นเต้นเร้าใจหลังพวงมาลัย โดยไม่ทิ้งซึ่งฟังก์ชันการใช้งานในชีวิตประจำวัน

SUV สมรรถนะสูงเหล่านี้ไม่ใช่แค่รถที่พาคุณไปซื้อของเท่านั้น แต่ถูกออกแบบมาเพื่อการเข้าโค้งอย่างแม่นยำ การเร่งความเร็วที่ทำให้หัวใจเต้นรัว และการสะกดทุกสายตาไม่ว่าจะโลดแล่นไปที่ใด ในปี 2025 นี้ ตลาด SUV ยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยแบรนด์ระดับโลกต่างทุ่มเทพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสร้างสรรค์ยานยนต์ที่ผสานความลงตัวระหว่างพละกำลัง ความสะดวกสบาย และสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ บทความนี้คือประตูสู่โลกของ SUV สมรรถนะสูง เราจะพาคุณเจาะลึกทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้ เพื่อค้นหา SUV ที่สมบูรณ์แบบที่ตอบโจทย์ความเร่งและความเร้าใจในแบบของคุณ ไม่ว่าคุณจะมองหารถที่พร้อมลงสนามแข่ง จรวดหรูหราบนท้องถนน หรือนักรบออฟโรดที่มีด้านป่าเถื่อนซ่อนอยู่ รับรองว่ามี SUV สมรรถนะสูงที่ถูกใจคุณอย่างแน่นอน

การเติบโตอย่างมหาศาลของเซกเมนต์ SUV ในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา ได้ทำให้รถยนต์ประเภทนี้กลายเป็นหัวใจหลักของอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างแท้จริง SUV ตอบสนองความต้องการของครอบครัวยุคใหม่และสังคมโดยรวม จนกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันและสะท้อนถึงสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน แม้ว่า SUV จะยังคงโดดเด่นในด้านอรรถประโยชน์ แต่ก็ก้าวข้ามภาพลักษณ์ “รถแม่บ้าน” (ที่มักถูกล้อเลียน) ไปไกลแล้ว เมื่อทั้ง SUV และฐานลูกค้ามีการพัฒนา ความต้องการรถยนต์สมรรถนะสูงก็ผลิบานขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

สิ่งนี้กระตุ้นให้แบรนด์หรูและสมรรถนะสูงระดับโลกหันมาให้ความสนใจในตลาดนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการ SUV ที่เร็วขึ้น ดีขึ้น และเซ็กซี่ขึ้น ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ทุกรายตระหนักดีว่าความสำเร็จในตลาดนี้ไม่เคยทำกำไรได้มากเท่านี้มาก่อน แม้แต่แบรนด์เฉพาะทางและหายากอย่าง Lamborghini และ Ferrari ก็ยังต้องการเข้ามามีส่วนแบ่งในตลาดนี้ การที่ยอดขาย SUV กลายเป็นเส้นเลือดใหญ่ของบริษัทเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องเกินจริง และแม้แต่ผู้ที่หลงใหลในรถสปอร์ตตัวยงก็ไม่ควรมองข้ามข้อเท็จจริงนี้ เพราะผลกำไรมหาศาลมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการที่บริษัทเหล่านี้จะยังคงสามารถลงทุนในการพัฒนาและผลิตรถสปอร์ตที่เป็นชื่อเสียงของพวกเขาได้ ซึ่งกระบวนการนี้จะวนเวียนกลับมาเป็นประโยชน์เมื่อเทคโนโลยีจากซูเปอร์คาร์และรถยนต์สมรรถนะสูงถูกถ่ายทอดลงมายัง SUV ทำให้ตลาดเป้าหมายขยายกว้างขึ้นกว่าเดิม และเป็นแรงผลักดันยอดขายอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราได้เห็น SUV ที่น่าทึ่งมากมายในปัจจุบัน และอีกหลายรุ่นกำลังจะตามมา

สำหรับปี 2025 นี้ เราได้รวบรวม SUV ที่เน้นทั้งความหรูหราและสมรรถนะ ซึ่งมีจำหน่ายอยู่ในตลาด พร้อมข้อมูลอัปเดตและมุมมองจากประสบการณ์ตรง เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกซื้อของคุณ

ทำความรู้จัก SUV สมรรถนะสูงและหรูหราประจำปี 2025

2025 Alfa Romeo Stelvio Quadrifoglio
หากคุณมองหา SUV ที่มอบประสบการณ์ขับขี่ที่สนุกสนานที่สุดในตลาด ต้องนี่เลย Stelvio Quadrifoglio หัวใจหลักคือเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบขนาด 2.9 ลิตรที่ได้แรงบันดาลใจจาก Ferrari ให้กำลัง 505 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.6 วินาที พร้อมเสียงคำรามของท่อไอเสียที่เร้าใจ ระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งมาอย่างพิถีพิถัน การบังคับเลี้ยวที่ตอบสนองฉับไว และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบเน้นสมรรถนะ ทำให้มันเข้าโค้งได้อย่างยอดเยี่ยม นี่คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างสมรรถนะอันเร้าใจ สไตล์อิตาเลียน และการใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ราคาเริ่มต้นประมาณ 94,965 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ไม่รวมภาษีนำเข้าในไทย)

2025 Aston Martin DBX
DBX กลับมาในปี 2025 ในฐานะ SUV เรือธงของแบรนด์ ที่ผสมผสานพลวัตการขับขี่ที่น่าตื่นเต้น เข้ากับงานฝีมืออันประณีตและเทคโนโลยีล้ำสมัย รุ่นปี 2025 ตัดรุ่นพื้นฐานออก เหลือเพียง DBX707 ที่เน้นสมรรถนะสูงเท่านั้น ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบขนาด 4.0 ลิตร ที่ปรับแต่งให้มีกำลังถึง 697 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.1 วินาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดที่เปลี่ยนได้รวดเร็ว ภายในได้รับการออกแบบใหม่พร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์ใหม่ล่าสุด DBX มอบประสบการณ์ที่หรูหราและน่าตื่นเต้นอย่างแท้จริง ราคาเริ่มต้นประมาณ 253,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

2025 Audi SQ5 / SQ7 / SQ8 / RS Q8
Audi นำเสนอไลน์อัพ SUV สมรรถนะสูงที่หลากหลายสำหรับปี 2025 โดย SQ5 ใหม่เอี่ยมมาพร้อมเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบ 3.0 ลิตร 362 แรงม้า มอบความสบายและความเร็วที่ลงตัว ในขณะที่ SQ7 คือ SUV สำหรับครอบครัวที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ชื่นชอบ ด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร 500 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที และภายในที่หรูหราครบครัน หากต้องการความสปอร์ตยิ่งขึ้น SQ8 คือตัวเลือกที่โดดเด่นด้วยการออกแบบที่เพรียวบาง และพละกำลัง V8 ที่เร้าใจไม่แพ้กัน แต่สำหรับสุดยอดสมรรถนะ Audi RS Q8 คือรถที่เทียบเท่า Lamborghini Urus ในราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า ด้วยเครื่องยนต์ V8 ที่ให้กำลังสูงถึง 631 แรงม้าในรุ่น Performance ทำให้เป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดรอบสนาม Nordschleife แต่ยังคงใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน

2025 Bentley Bentayga / Bentayga EWB
Bentley Bentayga ยังคงเป็นมาตรฐานของ SUV หรูหราที่มาพร้อมสมรรถนะที่น่าประทับใจ สำหรับปี 2025 ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ยังคงนำเสนอเครื่องยนต์ V8 ที่ให้กำลัง 550 แรงม้า หรือรุ่น Hybrid ที่ให้กำลัง 443 แรงม้า แต่เน้นประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิง Bentayga มอบการขับขี่ที่นุ่มนวล ความหรูหราระดับเฟิร์สคลาส และความคล่องตัวที่น่าประหลาดใจ รุ่น Bentayga EWB (Extended Wheel Base) เพิ่มพื้นที่วางขาด้านหลังอย่างมหาศาล ทำให้เป็น SUV สำหรับครอบครัวที่ใช้งานได้จริงมากขึ้น โดยยังคงความหรูหราและสมรรถนะเดิมไว้ได้อย่างครบถ้วน ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 205,925 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไปจนถึง 339,150 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับรุ่น EWB Mulliner

2025 BMW X3 M / X4 M / X5 M / X6 M
BMW M Division ยังคงสร้างสรรค์ SUV ที่เน้นสมรรถนะเป็นหลัก สำหรับปี 2025 X3 M และ X4 M (รุ่นคูเป้) ยังคงเป็นตัวเลือกที่เร้าใจ ด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร 473 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.9 วินาที มอบความคล่องตัวแบบรถสปอร์ตในแพ็คเกจ SUV ขนาดกะทัดรัด แต่ถ้าคุณต้องการสุดยอดประสบการณ์ X5 M และ X6 M (รุ่นคูเป้) คือซูเปอร์ SUV ที่แท้จริง ด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.4 ลิตร พร้อมระบบ Mild-Hybrid 48V ให้กำลัง 617 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.7 วินาที พร้อมระบบช่วงล่าง M-adaptive และเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ทำให้การขับขี่เร้าใจและหรูหราในเวลาเดียวกัน

2025 Cadillac Escalade V-Series
Escalade V-Series ยกระดับ SUV อันเป็นเอกลักษณ์ให้ก้าวไปสู่จุดสูงสุดของสมรรถนะและความพิเศษเฉพาะตัว ด้วยเครื่องยนต์ V8 ซูเปอร์ชาร์จ 6.2 ลิตรที่สร้างด้วยมือ ให้กำลังมหาศาลถึง 682 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.4 วินาที ซึ่งเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งสำหรับ SUV ขนาดใหญ่นี้ ระบบช่วงล่างปรับแต่งเพื่อสมรรถนะ Magnetic Ride Control 4.0 และเบรก Brembo ขนาดใหญ่ ช่วยให้การควบคุมและการหยุดรถยอดเยี่ยม ภายในคือสวรรค์แห่งความหรูหราและเทคโนโลยี พร้อมจอ OLED โค้งขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมแผงหน้าปัด Escalade V-Series คือนิยามใหม่ของ SUV หรูหราที่ผสานสมรรถนะอันดุดันเข้ากับความโอ่อ่าได้อย่างลงตัว

2025 Dodge Durango SRT 392 / SRT Hellcat
Dodge Durango SRT 392 เปรียบเสมือนรถ Muscle Car ในร่าง SUV สำหรับครอบครัว ด้วยเครื่องยนต์ HEMI V8 ขนาด 6.4 ลิตร ให้กำลัง 475 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.7 วินาที พร้อมช่วงล่างที่ปรับแต่งเพื่อสมรรถนะและเบรก Brembo ทำให้มันสามารถเข้าโค้งได้อย่างน่าประหลาดใจ แต่ถ้าต้องการความสุดขีด Durango SRT Hellcat คือคำตอบ ด้วยเครื่องยนต์ V8 Hellcat ซูเปอร์ชาร์จ 6.2 ลิตร ที่ให้กำลังมหาศาลถึง 710 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 3.5 วินาที ทำให้มันเป็น SUV ที่เร็วที่สุดในตลาด พร้อมลากจูงเรือของคุณไปทะเลสาบ และแซงรถสปอร์ตได้ในเวลาเดียวกัน

2025 Ferrari Purosangue
Purosangue ไม่ใช่แค่ SUV คันแรกของ Ferrari แต่มันคือนิยามใหม่ของยานยนต์ที่ท้าทายขนบธรรมเนียม นี่ไม่ใช่รถครอบครัวยกสูงทั่วไป แต่เป็น Ferrari พันธุ์แท้ที่มาพร้อมจิตวิญญาณของรถสปอร์ตและความอเนกประสงค์ของ SUV ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V12 หายใจเองขนาด 6.5 ลิตร ให้กำลัง 715 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 3.3 วินาที ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อขั้นสูง ช่วงล่างแอคทีฟ และระบบบังคับเลี้ยวสี่ล้อ มอบการควบคุมที่ยอดเยี่ยมและคล่องตัว ภายในหรูหรากว้างขวาง Purosangue คือรถที่ปฏิวัติวงการที่นิยามใหม่ของความเป็น Ferrari

2025 Ford F-150 Raptor / Raptor R และ Ford Bronco Raptor
สำหรับผู้ที่รักการผจญภัยและต้องการขีดจำกัดสูงสุดของรถกระบะและ SUV ออฟโรด Ford F-150 Raptor และ Raptor R คือราชาแห่งทะเลทราย Raptor ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V6 EcoBoost ทวินเทอร์โบ 3.5 ลิตร 450 แรงม้า พร้อมช่วงล่าง Fox Live Valve ที่ยอดเยี่ยม ส่วน Raptor R มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 Predator ซูเปอร์ชาร์จ 5.2 ลิตร 700 แรงม้า มอบสมรรถนะออฟโรดที่ทรงพลังที่สุดในตลาด ขณะที่ Ford Bronco Raptor คือสัตว์ร้ายออฟโรดตัวจริง ที่สร้างมาเพื่อพิชิตภูมิประเทศที่ท้าทายที่สุด ด้วยเครื่องยนต์ V6 EcoBoost ทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร 418 แรงม้า และช่วงล่าง HOSS 4.0 ที่ออกแบบมาเพื่อการลุยโดยเฉพาะ

2025 Lamborghini Urus
Lamborghini Urus มุ่งสู่อนาคตด้วยระบบส่งกำลัง Plug-in Hybrid ที่ทรงพลัง บ่งบอกถึงยุคใหม่ของ SUV สมรรถนะสูงนี้ เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร อันเป็นเอกลักษณ์ ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าในรุ่น Urus S.E. (Super Elettrica) ให้กำลังมหาศาลถึง 789 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.1 วินาที และสามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าได้ประมาณ 48 กม. Urus ผสานความบ้าคลั่งของ Lamborghini เข้ากับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะรุ่น Performante ที่เน้นการลดน้ำหนักและอากาศพลศาสตร์เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่ดุดันยิ่งขึ้น

2025 Lotus Eletre
Lotus Eletre คือรถยนต์ที่พลิกโฉมวงการของ Lotus อย่างแท้จริง นี่คือ SUV ไฟฟ้าล้วนคันแรกของแบรนด์อังกฤษที่โดดเด่นด้วยดีไซน์อันน่าทึ่ง เทคโนโลยีล้ำสมัย และสมรรถนะอันน่าประทับใจ Eletre รุ่นพื้นฐานและ S ให้กำลังรวม 603 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.5 วินาที แต่สำหรับรุ่น Eletre R พลังพุ่งทะลุ 905 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 2.95 วินาที Eletre คือตัวเปลี่ยนเกมที่ผสมผสานสไตล์ ความยั่งยืน และความสนุกในการขับขี่ได้อย่างน่าทึ่ง

2025 Maserati Grecale / Grecale Folgore / Levante
Maserati Grecale ปี 2025 เป็น SUV หรูหราขนาดกะทัดรัดที่รวบรวมสไตล์และความหรูหราแบบอิตาลี Grecale GT และ Modena มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ Mild-Hybrid ในขณะที่ Grecale Trofeo ใช้เครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร 523 แรงม้าจาก MC20 มอบสมรรถนะที่เร้าใจ ด้าน Grecale Folgore คือรุ่นไฟฟ้าล้วน ให้กำลังรวม 542 แรงม้า พิสัยการขับขี่ประมาณ 500 กม. มอบการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของสไตล์ ประสิทธิภาพ และความยั่งยืน และสำหรับ SUV เรือธง Levante ยังคงสร้างความประทับใจด้วยสไตล์อิตาลีที่หรูหรา และสมรรถนะอันเร้าใจ โดยเฉพาะรุ่น Trofeo ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 3.8 ลิตร 572 แรงม้า มอบพละกำลังระดับรถสปอร์ต

2025 Mercedes-AMG G63 / GLC-Class / GLE-Class / GLS-Class
Mercedes-AMG ยังคงนำเสนอไลน์อัพ SUV สมรรถนะสูงที่ครอบคลุม สำหรับปี 2025 G63 ยังคงเป็นสัญลักษณ์แห่งสถานะและความหรูหรา มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 biturbo 4.0 ลิตร Mild-Hybrid 48V 577 แรงม้า พร้อมระบบช่วงล่างแบบใหม่เพื่อความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้น ด้าน GLC-Class (ทั้งแบบ SUV และ Coupe) มีการปรับโฉมครั้งใหญ่ โดย GLC 43 มาพร้อมระบบ Mild-Hybrid 416 แรงม้า และ GLC 63 S E PERFORMANCE รุ่น Plug-in Hybrid มอบกำลังรวมมหาศาลถึง 671 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.4 วินาที และ GLE-Class (GLE 53 และ GLE 63 S E) ก็ไม่น้อยหน้า GLE 63 S E เป็น SUV ที่เร็วที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาด ด้วยกำลังรวม 603 แรงม้า และสำหรับ SUV ขนาดใหญ่สุด Mercedes-AMG GLS 63 คือสุดยอดแห่งความหรูหราและสมรรถนะ ด้วยเครื่องยนต์ V8 Mild-Hybrid 603 แรงม้า ที่พร้อมจะพาคุณและครอบครัวเดินทางอย่างรวดเร็วและสะดวกสบายสูงสุด

2025 Porsche Cayenne / Cayenne Turbo E-Hybrid / Macan / Macan EV
Porsche ยังคงเป็นผู้นำในตลาด SUV สมรรถนะสูง สำหรับปี 2025 Cayenne นำเสนอตัวเลือกที่หลากหลาย ตั้งแต่เครื่องยนต์ V6 ไปจนถึง Plug-in Hybrid แต่รุ่นที่เน้นสมรรถนะอย่าง Cayenne S (434 แรงม้า) และ Cayenne GTS (493 แรงม้า) คือสิ่งที่สะท้อนจิตวิญญาณสปอร์ตของ Cayenne ได้อย่างแท้จริง มอบการขับขี่ที่กระฉับกระเฉงและแม่นยำ ส่วน Cayenne Turbo E-Hybrid คือสุดยอด SUV ที่รวมพลังและความประหยัดเข้าไว้ด้วยกัน ด้วยกำลังรวม 729 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.5 วินาที และวิ่งด้วยไฟฟ้าได้ 59 กม.

Macan ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาด SUV หรูขนาดกะทัดรัด โดยเฉพาะ Macan GTS ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตร 434 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.3 วินาที มอบการขับขี่ที่สนุกสนานไม่ต่างจากรถสปอร์ต แต่จุดเปลี่ยนสำคัญคือ Porsche Macan EV ที่สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม PPE ใหม่ทั้งหมด มอบกำลังสูงสุดถึง 603 แรงม้าในรุ่น Turbo อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 3.1 วินาที พร้อมพิสัยการขับขี่สูงสุด 507 กม. Macan EV คือนิยามใหม่ของ SUV ไฟฟ้าที่ยังคงความเป็น Porsche ไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม

2025 Rolls-Royce Cullinan
Rolls-Royce Cullinan ยังคงเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จและความพิเศษเฉพาะตัวในปี 2025 รถยนต์คันนี้ผสมผสานงานฝีมืออันเป็นเอกลักษณ์ของ Rolls-Royce เข้ากับพละกำลังที่ไร้รอยต่อ และความโดดเด่นสะดุดตาพร้อมความสามารถที่น่าประหลาดใจ ด้วยเครื่องยนต์ V12 ทวินเทอร์โบ 6.75 ลิตร ที่ส่งมอบพละกำลังได้อย่างลื่นไหล ภายในคือโอเอซิสแห่งความหรูหราที่ปรับแต่งได้ตามต้องการ Cullinan มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้น ผสมผสานพละกำลังอันไร้ขีดจำกัด ความสะดวกสบายอันเงียบสงบ และความหรูหราสั่งตัด

2025 Range Rover
Range Rover เจเนอเรชันที่ห้ายังคงเป็นสุดยอดแห่งความหรูหรา ความสามารถ และเทคโนโลยี สามารถใช้งานในเมืองได้อย่างไร้ที่ติ และมั่นใจอย่างยิ่งเมื่อออกนอกเส้นทางปกติ ภายในห้องโดยสารคือสวรรค์แห่งความประณีต วัสดุระดับพรีเมียม และเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ผสานรวมเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ตั้งแต่ระบบอินโฟเทนเมนต์ Pivi Pro ไปจนถึงระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง Range Rover ยังคงรักษาตำนานในฐานะรถออฟโรดที่ทรงพลังไว้ ด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อขั้นสูงและเทคโนโลยี Terrain Response 2 ที่ช่วยให้พิชิตเส้นทางที่ท้าทายได้อย่างง่ายดาย Range Rover สะท้อนถึงจุดสูงสุดของ SUV หรูหราอย่างแท้จริง

SUV สมรรถนะสูงรุ่นยอดเยี่ยมประจำปี 2025 ที่เราชื่นชอบ

จากประสบการณ์ในการทดสอบและขับขี่ SUV สมรรถนะสูงมามากมายหลายรุ่นตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีสองรุ่นที่ผมคิดว่าโดดเด่นเป็นพิเศษ และคู่ควรแก่การเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่มองหาความสมบูรณ์แบบในเซกเมนต์นี้

2025 Porsche Macan GTS: ราชาแห่ง SUV ขนาดกะทัดรัด

ทำไมถึงเป็น SUV สมรรถนะสูงที่ดีที่สุด? เพราะ Macan GTS คือรถที่สะท้อนจิตวิญญาณของ Porsche ได้อย่างแท้จริง มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งเร้าใจและประณีต ภายใต้ฝากระโปรงของ Macan GTS คือหัวใจ V6 ทวินเทอร์โบขนาด 2.9 ลิตร ที่ให้กำลังมหาศาลถึง 434 แรงม้า และแรงบิด 405 ปอนด์-ฟุต ส่งผลให้มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.3 วินาที พร้อมเสียงท่อไอเสียที่สปอร์ตและน่าพึงพอใจที่จะทำให้หัวใจคุณเต้นระรัว

Macan GTS มีการควบคุมที่คล่องตัวและแม่นยำในระดับที่เกินคาดสำหรับรถ SUV ขนาดนี้ มันให้ความรู้สึกเบาราวกับเท้า เคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว และยึดเกาะถนนได้อย่างน่าทึ่งเมื่อเข้าโค้ง ระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งเพื่อสมรรถนะสูง (Sport-tuned suspension) และระบบบังคับเลี้ยวที่แม่นยำ สร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ชวนให้นึกถึงรถแฮทช์แบ็กสมรรถนะสูง ไม่ใช่ SUV ยกสูงอย่างที่เห็น เบาะนั่งแบบสปอร์ตของ GTS รองรับสรีระได้ดีและนั่งสบาย แม้ในขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง ทำให้ Macan GTS เป็นแพ็คเกจที่สมบูรณ์แบบ ที่ผสมผสานสมรรถนะ ความหรูหรา และการใช้งานจริงได้อย่างน่าประทับใจ

2025 Audi SQ7: ออล-ราวน์เดอร์ที่ยอดเยี่ยม

ทำไมถึงเป็น SUV สมรรถนะสูงที่ดีที่สุด? เพราะ Audi SQ7 ผสมผสานความหรูหรา การใช้งานจริง และสมรรถนะที่น่าตื่นเต้นเข้าไว้ในแพ็คเกจ SUV เจ็ดที่นั่งที่กว้างขวางและลงตัวอย่างหาที่เปรียบได้ยาก หัวใจของมันคือเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ที่ส่งมอบกำลัง 503 แรงม้า และแรงบิด 568 ปอนด์-ฟุต ซึ่งได้รับคำชมจากผู้เชี่ยวชาญว่าเป็น “พละกำลังระเบิด” และ “เสียงเครื่องยนต์ที่เร้าใจ” มันให้การเร่งความเร็วที่ดุดันและการขับขี่ที่ง่ายดาย

แม้จะเน้นสมรรถนะเป็นหลัก แต่ SQ7 ก็ยังคงให้การควบคุมที่นุ่มนวลและคุณภาพการขับขี่ที่สะดวกสบายได้อย่างยอดเยี่ยม ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro อันเป็นเอกลักษณ์ของ Audi ทำงานร่วมกับช่วงล่างแบบถุงลม (Air suspension) ที่สามารถปรับได้ ทำให้การยึดเกาะถนนและการทรงตัวเป็นเลิศในทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองที่ต้องการความคล่องตัว หรือการเดินทางไกลที่ต้องการความสะดวกสบาย SQ7 ก็สามารถตอบสนองได้อย่างไม่มีที่ติ ภายในห้องโดยสารเป็นอีกจุดแข็ง ด้วยการตกแต่งที่หรูหรา ใช้วัสดุคุณภาพสูง และการจัดวางที่ประณีต ทำให้ SQ7 เป็น SUV ที่สมบูรณ์แบบสำหรับครอบครัวที่ต้องการทั้งความเร็วและพื้นที่ใช้สอย โดยไม่ประนีประนอมกับความหรูหราและสไตล์

บทสรุปและคำเชิญ

ตลาด SUV สมรรถนะสูงในปี 2025 ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่านี่ไม่ใช่เพียงกระแสชั่วคราว แต่เป็นวิวัฒนาการที่แท้จริงของยานยนต์ที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายและซับซ้อนของผู้บริโภค ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้บริหารที่ต้องการความสะดวกสบายระดับเฟิร์สคลาส ผู้ที่ชื่นชอบความเร็วที่ต้องการรถที่พร้อมลงสนาม หรือพ่อแม่ที่ต้องการรถครอบครัวที่ยังคงมอบความตื่นเต้นเร้าใจอยู่เสมอ SUV ในลิสต์นี้ต่างนำเสนอการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของเทคโนโลยีล้ำสมัย งานฝีมืออันประณีต และพละกำลังอันไร้ขีดจำกัด ที่จะทำให้ทุกการเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความสุขและน่าจดจำ

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมกล้าพูดได้ว่าไม่เคยมีช่วงเวลาใดที่ดีไปกว่านี้ในการเป็นเจ้าของ SUV สมรรถนะสูงอีกแล้ว ด้วยนวัตกรรมที่ก้าวล้ำ คุณสมบัติที่น่าประทับใจ และตัวเลือกที่หลากหลายที่พร้อมจะตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ

ถึงเวลาที่คุณจะสัมผัสประสบการณ์แห่งความหรูหราและสมรรถนะเหนือระดับด้วยตัวคุณเองแล้ว! เราขอเชิญชวนให้คุณติดต่อผู้แทนจำหน่ายใกล้บ้าน เพื่อทำการนัดหมายทดลองขับและค้นพบว่า SUV สมรรถนะสูงประจำปี 2025 รุ่นใดที่ “ใช่” สำหรับคุณอย่างแท้จริง อย่ารอช้า โลกแห่งความตื่นเต้นกำลังรอคุณอยู่!

SUV สมรรถนะสูงและหรูหรา 2025: เจาะลึกสุดยอดรถยนต์อเนกประสงค์สำหรับนักขับตัวจริง

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการอันน่าทึ่งของตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) จากรถยนต์ที่เน้นการใช้งานจริง สู่สัญลักษณ์แห่งความหรูหราและขุมพลังที่ไม่ธรรมดา สิ่งที่เราเรียกว่า “Enthusiast SUV” ไม่ใช่แค่รถยนต์สำหรับครอบครัวทั่วไปอีกต่อไป แต่คือผลงานวิศวกรรมที่หลอมรวมความสะดวกสบายเข้ากับสมรรถนะระดับรถสปอร์ต รถยนต์เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความเร้าใจในทุกโค้งถนน พุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และดึงดูดทุกสายตาที่จับจ้อง นี่คือคู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับปี 2025 ที่จะพาคุณดำดิ่งสู่โลกของ SUV สมรรถนะสูง เพื่อค้นหารถที่ตอบโจทย์ความต้องการความเร็วและสไตล์ของคุณได้อย่างแท้จริง

จากรถยนต์ครอบครัว สู่ซูเปอร์คาร์บนความสูง

ย้อนกลับไปในช่วงสองถึงสามทศวรรษที่ผ่านมา SUV ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างปฏิเสธไม่ได้ มันตอบสนองความต้องการของครอบครัวยุคใหม่ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม ภาพลักษณ์ของ SUV ไม่ได้หยุดอยู่แค่ “รถแม่บ้าน” อีกต่อไป ด้วยวิวัฒนาการของทั้งตัวรถและฐานลูกค้า ทำให้เกิดความต้องการ SUV ที่ไม่เพียงแต่ใหญ่และใช้งานได้จริง แต่ยังต้องมีสมรรถนะที่เหนือชั้น ความหรูหราที่โดดเด่น และดีไซน์ที่เย้ายวนใจ

นี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้แบรนด์หรูหราและสมรรถนะสูงระดับโลกหันมาให้ความสนใจอย่างจริงจัง ทุกค่ายรถยักษ์ใหญ่ต่างตระหนักดีว่าความสำเร็จในตลาดนี้มีความสำคัญต่อรายได้หลักอย่างมหาศาล แม้กระทั่งค่ายรถสปอร์ตสุดพิเศษอย่าง Lamborghini และ Ferrari ก็ยังต้องกระโดดลงมาประชันฝีมือ การเข้ามาของแบรนด์เหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาละทิ้งดีเอ็นเอของรถสปอร์ต แต่เป็นการนำเทคโนโลยีและจิตวิญญาณแห่งสมรรถนะมาหล่อหลอมรวมกับความอเนกประสงค์ของ SUV เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่เหนือความคาดหมาย

รายได้มหาศาลจากยอดขาย SUV เหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้บริษัทเหล่านั้นสามารถลงทุนและพัฒนา “ของเล่นสนุกๆ” อย่างรถสปอร์ตระดับตำนานต่อไปได้ และที่น่าสนใจคือ เทคโนโลยีจากรถซูเปอร์คาร์และรถสมรรถนะสูงก็ยังไหลย้อนกลับมาสู่โลกของ SUV ทำให้รถยนต์เหล่านี้มีประสิทธิภาพและน่าดึงดูดใจมากยิ่งขึ้น ขับเคลื่อนยอดขายและนวัตกรรมให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงได้เห็น SUV สมรรถนะสูงที่น่าทึ่งมากมายในช่วงที่ผ่านมา และยังมีอีกหลายรุ่นที่กำลังจะเปิดตัวในอนาคตอันใกล้

บทความนี้จะมุ่งเน้นไปที่ SUV ที่โดดเด่นในด้านสมรรถนะและความหรูหราเป็นพิเศษ โดยทุกรุ่นที่เรานำเสนอล้วนเป็นตัวเลือกที่นักขับผู้คลั่งไคล้จะต้องตื่นเต้นอย่างแน่นอน

SUV สมรรถนะสูงและหรูหราปี 2025: รายละเอียด ราคา และรีวิวจากผู้เชี่ยวชาญ

สำหรับปี 2025 นี้ แม้จะไม่มีการพลิกโฉมครั้งใหญ่สำหรับ SUV สมรรถนะสูงหลายรุ่นที่อยู่ในตลาดมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็มีการอัปเดตย่อยๆ และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เพื่อตอกย้ำตำแหน่งผู้นำในตลาด SUV ระดับพรีเมียมและแรงจัด

2025 Alfa Romeo Stelvio Quadrifoglio
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่มอบความสนุกในการขับขี่สูงสุดในตลาด ด้วยจิตวิญญาณสปอร์ตอิตาเลียนแท้ๆ

ภาพรวม: Alfa Romeo Stelvio Quadrifoglio เป็น SUV สมรรถนะสูงที่อัดฉีดความเร่าร้อนแบบอิตาเลียนเข้าสู่ตลาดที่มักถูกครอบงำด้วยความสมเหตุสมผลแบบเยอรมัน หัวใจของมันคือเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตรที่พัฒนาโดย Ferrari ให้กำลังถึง 505 แรงม้า พุ่งทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.6 วินาที (0-60 ไมล์/ชม. ใน 3.6 วินาที) พร้อมเสียงคำรามของท่อไอเสียที่จะปลุกเร้าจิตวิญญาณนักขับ

แต่ Stelvio Quadrifoglio ไม่ได้เป็นเพียงจรวดทางตรงเท่านั้น แชสซีที่ปรับแต่งมาอย่างประณีต พวงมาลัยที่ตอบสนองฉับไว และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่เน้นสมรรถนะ มอบการควบคุมที่ยอดเยี่ยมและความคล่องตัวที่น่าทึ่ง เบรก Brembo ให้พลังการหยุดที่มั่นใจได้ ช่วยให้คุณควบคุมพลังมหาศาลได้อย่างเต็มที่ ภายนอกผสมผสานความสง่างามและความดุดันเข้าด้วยกัน พร้อมการปรับแต่งตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ละเอียดอ่อน และปลายท่อไอเสียสี่ท่อที่บ่งบอกถึงขุมพลังภายใน

ภายในห้องโดยสารของ Stelvio Quadrifoglio สปอร์ตแต่ก็หรูหราด้วยเบาะนั่งสปอร์ตที่โอบรับสรีระ พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ขนาดใหญ่ และการตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ สร้างบรรยากาศที่เน้นผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลาง แม้เทคโนโลยีภายในอาจไม่ล้ำสมัยเท่าคู่แข่งบางราย แต่มันให้ความสำคัญกับประสบการณ์การขับขี่เหนือสิ่งอื่นใด ด้วยการผสมผสานสมรรถนะอันเร้าใจ สไตล์อิตาเลียน และการใช้งานในชีวิตประจำวัน Stelvio Quadrifoglio จึงเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นและน่าหลงใหลในกลุ่ม SUV สมรรถนะสูง

ราคาและการอัปเดตใหม่: สำหรับปี 2025 Alfa Romeo Stelvio Quadrifoglio เริ่มต้นที่ประมาณ 3.4 ล้านบาท (เทียบจาก $94,965) ไปจนถึงรุ่นพิเศษ 100th Anniversario การเลือกซื้อรุ่นพื้นฐานพร้อมแพ็กเกจ Carbon ที่แต่งกระจกมองข้างและกระจังหน้า V-shaped ก็เพียงพอแล้ว เพราะรุ่น 100th Anniversario เน้นดีไซน์มากกว่าสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง: “Stelvio Quadrifoglio เป็นรถที่ขับสนุกอย่างบ้าคลั่ง เป็น SUV สมรรถนะสูงที่สามารถเข้าโค้งได้อย่างคล่องตัวราวกับรถสปอร์ต แต่ก็ยังใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน เครื่องยนต์เป็นผลงานชิ้นเอกที่มอบอัตราเร่งอันเร้าใจและเสียงเครื่องยนต์ที่จะทำให้คุณอยากหาข้ออ้างในการขับขี่” – Car and Driver

2025 Aston Martin DBX
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ไม่เหมือนใคร หรูหรา น่าตื่นเต้น พร้อมสมรรถนะที่แข็งแกร่ง คู่ควรกับการเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์

ภาพรวม: Aston Martin DBX ที่สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรมใหม่ทั้งหมด ถูกออกแบบมาเพื่อนำเสนอประสบการณ์การเดินทางในสไตล์ Aston Martin อย่างแท้จริง อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล่าสุดเพื่อความปลอดภัย DBX มอบความสะดวกสบาย ความหรูหราอย่างเหนือระดับ และความตื่นเต้นตั้งแต่วินาทีที่คุณก้าวเข้าสู่ห้องโดยสาร ด้วยโครงสร้างอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาและการพัฒนาโดยวิศวกรชั้นยอด DBX จึงขับขี่ได้ไม่เหมือน SUV รุ่นอื่นๆ รถระดับพรีเมียมคันนี้ขับได้ราวกับรถสปอร์ต และสำหรับปี 2025 Aston Martin ได้ยกเลิกโมเดล DBX รุ่นมาตรฐาน เหลือเพียงรุ่น DBX707 ที่เน้นสมรรถนะสูงสุดเท่านั้น สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Aston Martin ในการมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริงในกลุ่ม SUV

ใต้ฝากระโปรงของ DBX707 คือเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตรที่สร้างด้วยมือจาก Mercedes-AMG แต่ได้รับการปรับแต่งให้มีกำลังมหาศาลถึง 697 แรงม้า และแรงบิด 899 นิวตันเมตร เครื่องยนต์อันทรงพลังนี้จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดพร้อมคลัตช์เปียก ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.1 วินาที (0-60 ไมล์/ชม. ใน 3.1 วินาที) ทำให้เป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในตลาด DBX707 ยังมาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อพร้อมเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิปอิเล็กทรอนิกส์ด้านหลัง เพื่อการยึดเกาะและการควบคุมที่ยอดเยี่ยมในทุกสภาพการขับขี่

ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมดสำหรับปี 2025 ด้วยแผงหน้าปัด คอนโซลกลาง และพวงมาลัยใหม่หมดจด ระบบอินโฟเทนเมนต์ใหม่พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 10.2 นิ้ว ใช้งานง่ายขึ้น รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย วัสดุภายในผลิตจากวัสดุชั้นดีที่สุด รวมถึงหนังนุ่มเย็บมือ และการตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ สร้างบรรยากาศที่หรูหราและประณีต พร้อมลำโพง 14 ตัวเป็นมาตรฐาน (ระบบ Bowers & Wilkins 23 ลำโพงเป็นอุปกรณ์เสริม)

ราคาและการอัปเดตใหม่: ราคาของ 2025 Aston Martin DBX เริ่มต้นที่ประมาณ 9.2 ล้านบาท (เทียบจาก $253,000) สำหรับรุ่น DBX707 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวที่มีจำหน่าย คุณสามารถปรับแต่ง DBX ได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านบริการ Q customization ของ Aston Martin เพื่อสร้างสรรค์รถที่สะท้อนตัวตนของคุณได้อย่างแท้จริง

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง: “มันเป็นรถที่ยอดเยี่ยม… DBX มอบอะไรบางอย่างที่แตกต่าง… ดูน่าสนใจ ขับดีมาก และทำได้ตามเป้าหมายทุกอย่าง… รุ่น 707 น่าสนใจจริงๆ ใช่ มันเร็วและดุดันกว่าถ้าคุณกดคันเร่ง แต่เมื่อคุณผ่อน มันก็ยังคงความสบายและขับง่ายไม่ต่างจากรุ่นปกติเลย” – Top Gear

2025 Audi SQ5
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ผสมผสานความสบายและเร็วได้อย่างลงตัว สำหรับนักขับที่มองหาความสมดุล

ภาพรวม: สำหรับปี 2025 Audi SQ5 มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เป็น SUV หรูหราขนาดกะทัดรัดที่ผสานสมรรถนะ เทคโนโลยี และสไตล์เข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยดีไซน์ที่สดใหม่ ภายนอกดูคมชัดขึ้นด้วยไฟหน้า Matrix LED ใหม่ กระจังหน้าและกันชนหน้า-หลังที่ได้รับการปรับปรุง ใต้ฝากระโปรงคือเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบชาร์จ 3.0 ลิตร ให้กำลัง 349 แรงม้า และแรงบิด 500 นิวตันเมตร มอบอัตราเร่งที่เร้าใจและประสบการณ์การขับขี่ที่สปอร์ต

ภายในห้องโดยสาร SQ5 มอบสภาพแวดล้อมระดับพรีเมียมด้วยวัสดุคุณภาพสูงและเทคโนโลยีล้ำสมัย หน้าจอสัมผัสอินโฟเทนเมนต์ขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมอินเทอร์เฟซ MMI touch ของ Audi เป็นศูนย์กลางของคอนโซลกลาง ขณะที่แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว แสดงข้อมูลที่ปรับแต่งได้สำหรับผู้ขับขี่ SQ5 ยังมาพร้อมชุดคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่มาตรฐาน รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ (Adaptive Cruise Control) ระบบเตือนการออกจากเลน (Lane Departure Warning) และระบบตรวจสอบจุดบอด (Blind-spot Monitoring) สำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่ที่ไดนามิกยิ่งขึ้น SQ5 มีแพ็กเกจ Sport ซึ่งรวมถึงโช้กอัพแบบปรับได้ ระบบช่วงล่างแบบสปอร์ต และเฟืองท้ายหลังแบบสปอร์ต ด้วยการผสมผสานสมรรถนะ ความหรูหรา และเทคโนโลยี ทำให้ 2025 Audi SQ5 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ขับขี่ที่มองหา SUV ขนาดกะทัดรัดระดับพรีเมียมที่สามารถรับมือได้ทั้งการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการขับขี่แบบสปอร์ต

ราคาและการอัปเดตใหม่: 2025 Audi SQ5 (รุ่นใหม่) เริ่มต้นที่ประมาณ 2.1 ล้านบาท (เทียบจาก $59,695) แพ็กเกจ Premium Plus ยังคงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดที่ผสมผสานราคาและออปชั่นได้อย่างลงตัว

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง: “SQ5 เป็น SUV สมรรถนะสูงที่ลงตัว ให้ความสบายและกำลัง แต่ก็ไม่ได้มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจที่สุด” – Motor Trend

2025 Audi SQ7
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่สมบูรณ์แบบสำหรับครอบครัวนักขับ เป็นรถที่ตอบโจทย์ทั้งความแรงและความอเนกประสงค์

ภาพรวม: 2025 Audi SQ7 คือ SUV หรูหราที่ผสมผสานสมรรถนะ ความสะดวกสบาย และสไตล์ได้อย่างลงตัว ใต้ฝากระโปรงคุณจะพบกับเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร อันทรงพลัง ให้กำลังมหาศาล 500 แรงม้า และแรงบิด 770 นิวตันเมตร พุ่งทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที (0-60 ไมล์/ชม. ใน 3.8 วินาที) จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro อันเป็นเอกลักษณ์ของ Audi มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ไดนามิก เหมาะสมทั้งการเดินทางประจำวันและการขับขี่สุดสัปดาห์

นอกจากความสามารถด้านสมรรถนะแล้ว SQ7 ยังมีภายในที่ประณีตและกว้างขวาง ด้วยที่นั่งสามแถว รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 7 คน ห้องโดยสารรังสรรค์อย่างพิถีพิถันด้วยวัสดุพรีเมียมและเทคโนโลยีมากมาย รวมถึงระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบเสียง Bang & Olufsen 3D SQ7 ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยด้วยคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง เช่น Adaptive Cruise Control, Lane Departure Warning และ Automatic Emergency Braking

ภายนอก SQ7 แตกต่างจาก Q7 รุ่นมาตรฐานด้วยการออกแบบที่สปอร์ตแต่ละเอียดอ่อน รวมถึงกันชนหน้าใหม่พร้อมช่องรับอากาศขนาดใหญ่ กระจังหน้าดีไซน์เฉพาะ ปลายท่อไอเสียสี่ท่อ และล้ออัลลอยด์ที่โดดเด่น ด้วยเครื่องยนต์ทรงพลัง ภายในที่หรูหรา และเทคโนโลยีขั้นสูง ทำให้ 2025 Audi SQ7 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในกลุ่ม SUV หรู

ราคาและการอัปเดตใหม่: ราคา 2025 Audi SQ7 ที่อัปเดตใหม่ยังไม่เปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าจะเริ่มต้นที่ประมาณ 3.3 ล้านบาท (เทียบจาก $93,000) สำหรับรุ่น Premium Plus และประมาณ 3.5 ล้านบาท (เทียบจาก $98,000) สำหรับรุ่น Prestige ด้วยความแตกต่างของราคาเพียงเล็กน้อย การเลือกรุ่น Prestige ที่เพิ่ม Head-up Display, ประตูแบบ Soft-close และแพ็กเกจ Executive (หน้าต่างด้านข้างแบบ Dual-pane, เบาะหลังปรับอุ่น, เบาะหน้าปรับอากาศ และอื่นๆ) จึงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง: “SQ7 ผสมผสานสมรรถนะมหาศาลและความอเนกประสงค์ของ SUV เข้าไว้ด้วยกันในแพ็กเกจที่ตกแต่งอย่างดีและเหมาะสำหรับครอบครัว” – Car and Driver

2025 Audi SQ8
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: รถที่สวยงาม เลือกได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย เป็นการผสมผสานสไตล์และสมรรถนะในแบบที่โดดเด่น

ภาพรวม: Audi SQ8 แบบห้าที่นั่ง ผสมผสานดีไซน์สไตล์คูเป้ที่เพรียวบางเข้ากับความอเนกประสงค์ของ SUV ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร ให้กำลัง 500 แรงม้า ส่งกำลังไปยังล้อทั้งสี่ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นมาตรฐาน และเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ BMW X6 และ Land Rover Range Rover Velar SQ8 มีสมรรถนะใกล้เคียงกับ RS Q8 แต่มีราคาที่ถูกกว่ามาก ทำให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดโดยรวมจากกลุ่ม SUV สมรรถนะสูงของ Audi

เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับ SQ7 ยังคงได้รับการยกย่องว่ามี “พลังระเบิด” และ “เสียงเครื่องยนต์ที่เร้าใจ” Car and Driver กล่าวว่า 503 แรงม้า และแรงบิด 770 นิวตันเมตร มอบ “อัตราเร่งที่รุนแรง” ในขณะที่ Top Gear ชื่นชม “สมรรถนะที่ง่ายดาย” นักวิจารณ์พบว่าห้องโดยสาร “สบายและเงียบ” ด้วย “วัสดุคุณภาพสูง” และ “ความรู้สึกหรูหรา” Kelley Blue Book กล่าวถึง “เบาะนั่งที่รองรับ” และ “พื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวาง” ในขณะที่ Auto Express เน้นคุณสมบัติ “ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี”

2025 Audi SQ8 มาพร้อมไฟส่องสว่างภายใน LED และระบบจดจำป้ายจราจรเป็นมาตรฐานในทุกรุ่น รุ่น Prestige เพิ่มเบาะหน้าปรับนวดพร้อมฟังก์ชันหน่วยความจำ มีสองแพ็กเกจใหม่: แพ็กเกจ Carbon เพิ่มการตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ที่กรอบกระจกมองข้าง แผงประตู และฝาครอบไฟท้าย ในขณะที่แพ็กเกจ Audi Sport เพิ่มการเย็บด้วยสีแดงที่เบาะนั่ง คอนโซลกลาง และที่พักแขนประตู พร้อมเข็มขัดนิรภัยสีแดงที่สะดุดตา

ราคาและการอัปเดตใหม่: ราคา 2025 Audi SQ8 เริ่มต้นที่ประมาณ 3.6 ล้านบาท (เทียบจาก $98,895) และสูงสุดถึงประมาณ 3.8 ล้านบาท (เทียบจาก $106,195) สำหรับรุ่น Prestige เช่นเดียวกับรถยนต์ Audi รุ่นอื่นๆ การเลือกรุ่น Prestige ที่มีราคาแพงกว่าเล็กน้อยก็คุ้มค่า เพราะมาพร้อมคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่และฟังก์ชันหรูหรามากมาย รวมถึง Adaptive Cruise Control, Lane-keeping Assist, Head-up Display, ประตูแบบ Soft-close, เบาะหลังปรับอุ่น และม่านบังแดดหลังแบบไฟฟ้า

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง: “SQ8 เป็นรถที่มีสมรรถนะน่าตื่นเต้นพร้อมภายในที่หรูหรา แต่ราคาสูงและเครื่องยนต์ที่กินน้ำมันทำให้มันไม่เป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้จริงสำหรับคนส่วนใหญ่” – Car and Driver

2025 Audi RS Q8
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: สวยงามกว่า Lamborghini Urus และมีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมในราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า

ภาพรวม: Audi RS Q8 คือรุ่นที่เร็วที่สุดของ SUV Q8 และยังเป็น SUV ที่มีตรา RS เพียงรุ่นเดียวในตลาดอเมริกาเหนือ นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในสนาม Nordschleife หมายความว่ามีความคล่องตัวอย่างมากสำหรับ SUV ที่คุณสามารถขับไปส่งลูกๆ ที่โรงเรียนได้

RS Q8 มาพร้อมป้ายราคาหลักล้าน แต่สมรรถนะ สไตล์ และคุณสมบัติของมันคุ้มค่ากับการลงทุน หากคุณให้ความสำคัญกับ SUV ที่ร้อนแรงดุจเปลวเพลิง แน่นอนว่า RS Q8 ทุกรุ่นมาพร้อมระบบช่วงล่างถุงลมแบบปรับได้เป็นมาตรฐาน ล้อขนาด 22 นิ้ว เบาะหน้าปรับอุ่นและปรับอากาศ และระบบเสียง Bang & Olufsen 17 ลำโพง เราแนะนำให้เลือกรุ่น Performance ระดับสูงสุด เพื่อปลดล็อกกำลังสูงสุด 631 แรงม้า เมื่อคุณใช้เงินจำนวนนี้แล้ว ทำไมไม่ไปให้สุดล่ะ?

RS Q8 ได้รับการปรับโฉมใหม่สำหรับปี 2025 เพื่อให้สอดคล้องกับรุ่น Q8 และ SQ8 ที่ได้รับการปรับปรุงเมื่อปีที่แล้ว แต่สิ่งสำคัญจริงๆ คือรุ่น Performance ใหม่ 631 แรงม้า รุ่น Performance ไม่เพียงแต่ให้แรงม้าที่มากขึ้น แต่ยังมาพร้อมเฟืองท้ายกลางแบบ Self-locking ระบบไอเสียที่ปรับแต่งเป็นพิเศษ และระบบช่วงล่างที่ไม่เหมือนใครซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยรักษาเสถียรภาพของ RS Q8 ในโค้ง

ราคาและการอัปเดตใหม่: ราคาของ 2025 Audi RS Q8 เริ่มต้นที่ประมาณ 5.3 ล้านบาท (เทียบจาก $145,000) นี่ไม่ใช่ SUV ราคาถูก แต่ถ้าคุณคิดว่ามันเป็น Lamborghini Urus ในราคาที่น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง มันก็จะเริ่มสมเหตุสมผล คุณสามารถเพิ่มออปชั่นต่างๆ ให้กับ RS Q8 ได้ แต่แม้ในรูปแบบพื้นฐาน มันก็เป็นรถที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง: “ดูดีกว่า Lambo Urus สมรรถนะและการควบคุมที่ยอดเยี่ยม แพงมหาศาล… เหมาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการซูเปอร์คาร์และ SUV รวมอยู่ในคันเดียว” – Top Gear

2025 Bentley Bentayga
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: ความประณีตที่คุณคาดหวัง พร้อมสมรรถนะที่เข้ากันได้ดี ถือเป็นหนึ่งใน SUV ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน

ภาพรวม: เครื่องยนต์ V8 อันล้ำสมัยมอบกำลังเกือบ 550 แรงม้า ในขณะที่แรงบิดมหาศาลส่งผลให้อัตราเร่งเกือบจะทันทีทันใด พุ่งทะยานราวกับรถไฟด้วยความสบายสูงสุดและความหรูหราในระดับเฟิร์สคลาส Bentayga V8 มีการควบคุมที่ยอดเยี่ยมและคล่องตัวกว่าที่คุณคาดไม่ถึง แนวคิดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของ Bentley สำหรับ Bentayga คือ SUV ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V6 3.0 ลิตร 335 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้า 162 แรงม้า จับคู่กับแบตเตอรี่ Li-ion 17.3 kWh ด้วยรุ่นนี้ Bentley ได้เสียสละพละกำลังและความเร็วเพื่อแลกกับประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิง แต่ด้วยกำลัง 443 แรงม้า Bentayga Hybrid ก็ไม่ได้เป็นรถที่ช้าเลย Bentley ไม่ได้ลดทอนความหรูหรา ดังนั้น 2024 Bentayga Hybrid (ข้อมูลยังคงใช้กับ 2025) ยังคงมอบประสบการณ์ที่หรูหราเช่นเดิม

ในแง่ของรุ่นย่อย มี Bentayga A ซึ่งให้กำลังและสมรรถนะเช่นเดียวกับรุ่น BV8 มาตรฐาน แต่คุณจะได้ล้อขนาด 21 นิ้ว ความหรูหราภายในเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และสิ่งอำนวยความสะดวกที่มุ่งเน้นการขับขี่ทางไกล Bentayga S เป็นรุ่น V8 ที่ปรับแต่งให้สปอร์ตยิ่งขึ้น พร้อมการอัปเกรดภายนอกเหนือจากรถพื้นฐาน รวมถึง Blackline trim เป็นมาตรฐาน และกันชน Bentayga Speed รวมถึงล้อ 22 นิ้วแบบห้าก้านพิเศษเป็นมาตรฐาน Bentayga Azure มีการกำหนดค่าภายในหลายแบบและยังมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างที่ Bentley สร้างมาสำหรับ SUV ของพวกเขา

ราคาและการอัปเดตใหม่: 2025 Bentley Bentayga เริ่มต้นที่ประมาณ 7.4 ล้านบาท (เทียบจาก $205,925) สำหรับรุ่น V8 หรือ Hybrid และสูงสุดถึงประมาณ 9 ล้านบาท (เทียบจาก $249,125) สำหรับรุ่น Azure V8 โดยยังไม่รวมออปชั่นต่างๆ เราแนะนำให้เลือกรุ่น Bentayga S มีเครื่องยนต์ V8 เดียวกันแต่ปรับแต่งมาเพื่อการควบคุมที่คมชัดขึ้นและอัตราเร่งที่เร็วขึ้น มอบพลวัตการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมโดยไม่ลดทอนความสบายและความหรูหรา มาพร้อมองค์ประกอบภายนอกสีดำ ล้ออัลลอยด์ขนาดใหญ่ขึ้น และกันชนหน้าที่ดุดันขึ้น ยังมีโหมดสปอร์ตที่ดีขึ้น เบรกที่ดีขึ้น และคาร์บอนไฟเบอร์เป็นอุปกรณ์เสริม

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง: “Bentayga ใหม่เป็นวิวัฒนาการที่ละเอียดอ่อน แต่ชัดเจนว่า Bentley ได้รับฟังความคิดเห็นและทำการปรับปรุงที่สำคัญบางอย่าง” – Autocar

2025 Bentley Bentayga EWB
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV สำหรับครอบครัวที่ใช้งานได้จริงยิ่งขึ้น ด้วยพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นและความหรูหราที่ยังคงเดิม

ภาพรวม: Bentley Bentayga EWB (Extended Wheel Base) คือรุ่นฐานล้อยาวของ SUV สุดหรู เปลี่ยนให้กลายเป็นลิมูซีนขนาดใหญ่ ตัวรถโดยรวมเพิ่มระยะห่างระหว่างล้อ 180 มม. ซึ่งทำให้เบาะหลังมีพื้นที่วางขาที่กว้างขวางมาก สามารถเลือกออปชั่นเบาะนั่งเอนนอนแยกอิสระสองที่นั่งด้านหลัง หรือรุ่นสามที่นั่งที่ไม่สามารถเอนนอนได้ แต่ก็ยังคงเพลิดเพลินกับพื้นที่วางขาที่เพิ่มขึ้น

นอกเหนือจากพื้นที่เพิ่มเติมแล้ว EWB ยังมาพร้อมล้อขนาด 21 นิ้วเป็นมาตรฐานแม้ในรุ่นพื้นฐาน และเพลิดเพลินกับสมรรถนะเช่นเดียวกับ Bentayga รุ่นพื้นฐาน โดยไม่สูญเสียเวลา 0-100 กม./ชม. หรือความเร็วสูงสุด นอกจากนี้ยังได้รับรุ่น Mulliner (ตามภาพ) ซึ่งมาพร้อมการออกแบบสามสีที่พิเศษที่สุด มีให้เลือกแปดชุดสีที่ไม่เหมือนใคร สำหรับปี 2025 Bentayga ยังคงมีรุ่น Mulliner ซึ่งเป็นรุ่นท็อปไลน์ รุ่นนี้รวมถึงองค์ประกอบการออกแบบภายนอกที่ไม่เหมือนใคร และสามารถระบุสีภายในได้เกือบ 4,000 แบบ Mulliner สามารถเลือกได้เฉพาะรุ่น Bentayga ฐานล้อยาวและเครื่องยนต์ V8 เท่านั้น

ราคาและการอัปเดตใหม่: 2025 Bentley Bentayga EWB เริ่มต้นที่ประมาณ 8.6 ล้านบาท (เทียบจาก $236,850) สำหรับรุ่น V8 พื้นฐาน และสูงสุดถึงประมาณ 12.3 ล้านบาท (เทียบจาก $339,150) สำหรับรุ่น EWB Mulliner รุ่นฐานล้อยาวที่ให้พื้นที่วางขาและความสบายที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง รุ่น EWB พื้นฐานคือตัวเลือกที่เราแนะนำ

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง: “ยังคงต้องรอดูกันต่อไปว่า Mulliner EWB จะเสนอการปรับแต่งที่เพียงพอเมื่อเทียบกับรุ่น Mulliner ที่เป็นเอกเทศหรือไม่” – Evo

2025 BMW X3 M / 2025 BMW X4 M
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่สร้างความตื่นเต้น adrenaline rush พร้อมความใช้งานได้จริงสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน (X3 M) และ SUV ที่มอบแรงม้าสูง อัตราเร่งที่รวดเร็ว และการควบคุมที่คล่องแคล่ว (X4 M)

ภาพรวม: BMW X3 M เป็น SUV คอมแพคสมรรถนะสูงที่ผสมผสานการใช้งานจริงเข้ากับพลวัตการขับขี่ที่เร้าใจอย่างลงตัว ใต้ฝากระโปรงคือเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร ให้กำลัง 473 แรงม้า และแรงบิด 600 นิวตันเมตร กำลังนี้ส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ของ BMW ทำให้ X3 M พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.9 วินาที (0-60 ไมล์/ชม. ใน 3.9 วินาที)

นอกจากความเร็วทางตรงที่น่าประทับใจแล้ว X3 M ยังโดดเด่นในด้านการควบคุมและความคล่องตัว ระบบช่วงล่างแบบสปอร์ต โช้กอัพแบบปรับได้ และการปรับแต่งเฉพาะของ M เปลี่ยน SUV คันนี้ให้เป็นเครื่องจักรที่พร้อมเข้าโค้ง พวงมาลัยแม่นยำและตอบสนองได้ดี ให้การตอบสนองที่ยอดเยี่ยมแก่ผู้ขับขี่ เบรกขนาดใหญ่ให้พลังการหยุดที่มั่นใจได้แม้ในขณะขับขี่แบบสปอร์ต การออกแบบภายนอกของ X3 M สะท้อนถึงความสามารถด้านสมรรถนะ ด้วยสไตล์ที่ดุดัน เช่น ช่องรับอากาศขนาดใหญ่ กระจังหน้าดีไซน์เฉพาะ ปลายท่อไอเสียสี่ท่อ และล้ออัลลอยด์ที่โดดเด่น

ภายในห้องโดยสาร X3 M ผสมผสานความหรูหราและความสปอร์ต เบาะนั่งสปอร์ตที่โอบรับสรีระ พวงมาลัยขอบหนา และหน้าจอแสดงผลเฉพาะของ M สร้างสภาพแวดล้อมที่เน้นผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลาง ห้องโดยสารยังใช้วัสดุคุณภาพสูงและเทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว และแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว

BMW X4 M นำความใช้งานได้จริงและสมรรถนะของ X3 M มาห่อหุ้มในแพ็กเกจที่ดูมีสไตล์ยิ่งขึ้นในแบบคูเป้-ไลค์ (Sports Activity Coupe) ด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตรแบบเดียวกัน ให้กำลัง 473 แรงม้า และแรงบิด 600 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ทำให้ X4 M พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 3.9 วินาที มอบอัตราเร่งที่เร้าใจและการยึดเกาะที่มั่นคง การออกแบบที่โดดเด่น เช่น หลังคาลาดเอียง ท้ายรถที่โค้งมน และกันชนหน้าที่ดุดัน ทำให้มันแตกต่างจาก X3 M ที่ดูเป็นรถยนต์แบบดั้งเดิมมากกว่า

ราคาและการอัปเดตใหม่:
สำหรับปี 2025 BMW X3 M เริ่มต้นที่ประมาณ 2.7 ล้านบาท (เทียบจาก $76,495) และ X3 M Competition เริ่มต้นที่ประมาณ 2.9 ล้านบาท (เทียบจาก $83,495)
สำหรับปี 2025 BMW X4 M เริ่มต้นที่ประมาณ 2.9 ล้านบาท (เทียบจาก $80,275) และ X4 M Competition เริ่มต้นที่ประมาณ 3.1 ล้านบาท (เทียบจาก $87,275)
รุ่น Competition เพิ่มกำลังพิเศษ อุปกรณ์อัปเกรด กระจังหน้าและฝาครอบกระจกเงาสีดำเงา และระบบไอเสียแบบสปอร์ตที่ให้เสียงที่น่าทึ่งเป็นมาตรฐาน นอกจากนี้ยังได้ล้อสีดำขนาด 21 นิ้วเป็นมาตรฐาน (เทียบกับ 20 นิ้วในรุ่น M ทั่วไป) และภายในหนัง Merino ที่ได้รับการอัปเกรด ทำให้เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง:
(X3 M) “X3 M เร็วอย่างเหลือเชื่อ พุ่งออกจากโค้งและควบคุมได้อย่างสวยงาม” – Car and Driver
(X4 M) “ถ้าคุณเป็นนักขับ Formula 1 ที่มีครอบครัว คุณจะขับอะไร? BMW X4 M Competition อาจเป็นคำตอบที่ใช่” – Carwow

2025 BMW X5 M / 2025 BMW X6 M
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ระดับซูเปอร์คาร์ เป็นมาตรฐานใหม่ที่เร็ว กว้างขวาง และหรูหรา (X5 M) และเครื่องยนต์ที่น่าทึ่ง พร้อมอัตราเร่งสุดขีด ขับขี่สนุกบนถนนชนบท (X6 M)

ภาพรวม: 2025 BMW X5 M กลับมาเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นในเวที SUV สมรรถนะสูง ด้วยพละกำลังและเทคโนโลยีที่น่าประทับใจเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ ใต้ฝากระโปรง เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.4 ลิตรที่คุ้นเคยได้รับการอัปเกรดด้วยเทคโนโลยี Mild-Hybrid 48V เพิ่มกำลังเป็น 617 แรงม้า และแรงบิด 750 นิวตันเมตร ทำให้ X5 M พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.7 วินาที (0-60 ไมล์/ชม. ใน 3.7 วินาที) พร้อมเสียงเครื่องยนต์ที่รับรองว่าจะสร้างความตื่นเต้นให้กับนักขับทุกคน

แต่ความสามารถของ X5 M ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ความเร็วทางตรงเท่านั้น แชสซีที่ซับซ้อนมาพร้อมระบบช่วงล่าง M แบบปรับได้ ระบบควบคุมการทรงตัว Active Roll Stabilization และระบบเลี้ยวล้อหลัง ทำงานร่วมกันเพื่อให้การควบคุมและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive พร้อมเฟืองท้าย M แบบ Active ช่วยเพิ่มการยึดเกาะและการควบคุม ทำให้ X5 M สามารถเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจด้วยความสงบที่น่าทึ่ง เบรก M Compound ขนาดใหญ่ให้พลังการหยุดที่มั่นใจได้ สามารถหยุด SUV อันทรงพลังนี้ได้อย่างแม่นยำ

ภายในห้องโดยสาร X5 M มอบสภาพแวดล้อมที่หรูหราและล้ำหน้าทางเทคโนโลยี หน้าจอโค้ง BMW Curved Display ครองแผงหน้าปัด ผสานรวมแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสอินโฟเทนเมนต์ขนาด 14.9 นิ้ว เบาะนั่ง M Sport ให้การรองรับที่ยอดเยี่ยมในขณะขับขี่แบบสปอร์ต ในขณะที่วัสดุพรีเมียมและการตกแต่งที่ประณีตสร้างบรรยากาศแห่งความซับซ้อน ด้วยการผสมผสานสมรรถนะที่ระเบิด เทคโนโลยีล้ำสมัย และการตกแต่งที่หรูหรา 2025 BMW X5 M ยังคงสร้างมาตรฐานระดับสูงสำหรับ SUV สมรรถนะสูง

2025 BMW X6 M สร้างชื่อเสียงในฐานะ SUV สไตล์คูเป้สมรรถนะสูง มอบการผสมผสานที่เร้าใจระหว่างพลัง สไตล์ และเทคโนโลยี มีเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.4 ลิตรทรงพลังเดียวกับ X5 M ซึ่งได้รับการปรับปรุงด้วยเทคโนโลยี Mild-Hybrid 48V ให้กำลังรวม 617 แรงม้า และแรงบิด 750 นิวตันเมตร แปลงเป็นอัตราเร่งที่เร้าใจ โดย X6 M สามารถพุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 3.7 วินาที (0-60 ไมล์/ชม. ใน 3.7 วินาที)

ราคาและการอัปเดตใหม่:
2025 BMW X5 M Competition ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 4.6 ล้านบาท (เทียบจาก $125,975) และมีเพียงรุ่น Competition เป็นตัวเลือกในปีนี้
2025 BMW X6 M Competition ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 4.8 ล้านบาท (เทียบจาก $130,875) และมีเพียงรุ่น Competition เป็นตัวเลือกในปีนี้

รุ่น Competition มอบคุณสมบัติที่เพิ่มสมรรถนะที่ดีที่สุดเป็นมาตรฐาน รวมถึงระบบช่วงล่างแบบปรับได้ ระบบไอเสียแบบสปอร์ต และชุดล้อแบบ Staggered ขนาด 21 นิ้ว/22 นิ้ว พร้อมยางสำหรับฤดูร้อน สำหรับผู้ที่ต้องการใช้จ่ายมากขึ้น แพ็กเกจ Executive ที่เป็นอุปกรณ์เสริมจะเพิ่มคุณสมบัติหรูหรา เช่น ที่วางแก้วแบบอุ่นและเย็น เบาะนั่งปรับอุ่นหน้าและหลัง เบาะนวดสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า ประตูแบบ Soft-close และอื่นๆ

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง:
(X5 M) “X5 M เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถทางวิศวกรรมของ BMW อย่างแท้จริง เป็นทั้ง SUV หรูหราที่สะดวกสบายและรถสมรรถนะสูงที่พร้อมลงสนามแข่ง” – US News Cars
(X6 M) “ถ้าคุณให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ที่สะดุดตาและอัตราเร่งที่ดุดัน X6 M จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง” – Kelly Blue Book

2025 Cadillac Escalade V-Series
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: เครื่องจักรที่คล่องตัวและทรงพลังอย่างน่าประหลาดใจ ท้าทายขนาดและน้ำหนักของมัน

ภาพรวม: 2025 Cadillac Escalade V-Series ยกระดับ SUV สุดหรูที่เป็นไอคอนให้สูงขึ้นไปอีกขั้นของสมรรถนะและความพิเศษเฉพาะตัว ใต้ฝากระโปรงคำรามด้วยเครื่องยนต์ V8 ซูเปอร์ชาร์จ 6.2 ลิตรที่สร้างด้วยมือ ปลดปล่อยกำลังมหาศาล 682 แรงม้า และแรงบิด 885 นิวตันเมตร แปลงเป็นอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.4 วินาที (0-60 ไมล์/ชม. ใน 4.4 วินาที) ซึ่งเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งสำหรับ SUV ที่มีขนาดและสถานะเช่นนี้ Escalade V-Series ไม่ได้อาศัยเพียงแค่พละกำลังดิบเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งเพื่อสมรรถนะด้วย Magnetic Ride Control 4.0, เฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิป และเบรก Brembo ขนาดใหญ่ เพื่อให้การควบคุมที่ยอดเยี่ยมและพลังการหยุดที่เหนือชั้น

Escalade V-Series โดดเด่นด้วยองค์ประกอบการออกแบบเฉพาะที่บ่งบอกถึงศักยภาพด้านสมรรถนะ กันชนหน้าดีไซน์เฉพาะพร้อมช่องรับอากาศขนาดใหญ่ กระจังหน้าแบบตาข่าย และตรา V-Series ทำให้แตกต่างจาก Escalade รุ่นมาตรฐาน ล้อขนาด 24 นิ้วสุดพิเศษ คาลิเปอร์เบรก Edge Red ที่เป็นอุปกรณ์เสริม และปลายท่อไอเสียสี่ท่อ เน้นย้ำถึงความเป็นสปอร์ต ภายในห้องโดยสารเป็นแหล่งรวมความหรูหราและเทคโนโลยี เบาะหนัง Semi-aniline พร้อมการเย็บที่ไม่เหมือนใครและโลโก้ V-Series มอบความสบายและการรองรับที่ยอดเยี่ยม หน้าจอ OLED โค้งครอบคลุมแผงหน้าปัด โดยรวมแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 14.2 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสอินโฟเทนเมนต์ขนาด 16.9 นิ้ว

ด้วยการผสมผสานสมรรถนะที่ระเบิด ดีไซน์ที่สะดุดตา และสิ่งอำนวยความสะดวกอันหรูหรา 2025 Cadillac Escalade V-Series นิยามใหม่ของกลุ่ม SUV หรู เป็นรถที่สามารถพาครอบครัวเดินทางได้อย่างสบายและมีสไตล์ พร้อมทั้งมอบสมรรถนะที่เร้าใจตามต้องการ สำหรับผู้ที่มองหาที่สุดแห่งความหรูหราและสมรรถนะใน SUV, Escalade V-Series ยืนหนึ่ง

ราคาและการอัปเดตใหม่: 2025 Cadillac Escalade V-Series เริ่มต้นที่ประมาณ 5.9 ล้านบาท (เทียบจาก $161,990) มีออปชั่นมากมายให้เลือก แต่ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและความหรูหรา ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ เพียงแค่เลือกรุ่น V-Series ก็เพียงพอแล้ว

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง: “เครื่องยนต์ V8 ซูเปอร์ชาร์จมอบพลังที่น่าตื่นเต้น พร้อมกับเสียงไอเสียที่งดงาม” – Motor Trend

2025 Dodge Durango SRT 392 / 2025 Dodge Durango SRT Hellcat
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ใช้งานได้จริงพร้อมความสามารถด้านสมรรถนะที่น่าทึ่งในเวลาเดียวกัน

ภาพรวม: Dodge Durango SRT 392 คือรถ Muscle Car ที่ปลอมตัวเป็น SUV สำหรับครอบครัว เป็นรถที่ท้าทายความคาดหวัง มอบสมรรถนะที่เร้าใจและเสียง V8 ที่ดุดัน ในขณะที่ยังคงความใช้งานได้จริงและความอเนกประสงค์ของ SUV แบบสามแถว ใต้ฝากระโปรงคือเครื่องยนต์ HEMI V8 6.4 ลิตร ที่ให้กำลัง 475 แรงม้า และแรงบิด 637 นิวตันเมตร แปลงเป็นอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.7 วินาที (0-60 ไมล์/ชม. ใน 4.7 วินาที) ทำให้เป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในคลาส แต่ Durango SRT 392 ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความเร็วทางตรงเท่านั้น Dodge ได้ติดตั้งระบบช่วงล่างแบบสปอร์ต เบรก Brembo และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ช่วยให้สามารถเข้าโค้งได้อย่างคล่องตัวอย่างน่าประหลาดใจ เป็นรถที่สามารถเดินทางบนถนนที่คดเคี้ยวได้อย่างสบาย หรือแม้กระทั่งลงสนามแข่งได้อย่างมั่นใจ

การออกแบบภายนอกที่ดุดันของ Durango SRT 392 ด้วยตัวถังที่กว้างขึ้น ช่องดักลมบนฝากระโปรง และล้อขนาด 20 นิ้ว ยิ่งบ่งบอกถึงศักยภาพด้านสมรรถนะ ภายใน Durango SRT 392 มีห้องโดยสารที่สะดวกสบายและตกแต่งอย่างดีพร้อมที่นั่งสูงสุด 7 คน เบาะนั่งหน้าปรับอุ่นและปรับอากาศ พวงมาลัยปรับอุ่น และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคุณสมบัติที่ทำให้เป็นสถานที่ที่น่ารื่นรมย์ในการใช้เวลา ด้วยการผสมผสานสมรรถนะแบบ Muscle Car ความใช้งานได้จริงของ SUV และภายในที่สะดวกสบาย Dodge Durango SRT 392 จึงเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นและน่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการทุกอย่าง

2025 Dodge Durango SRT Hellcat กลับมาอีกครั้ง ท้าทายความคาดหวังและตรรกะด้วยการยัดเครื่องยนต์ V8 Hellcat ซูเปอร์ชาร์จ 6.2 ลิตร ลงใน SUV สำหรับครอบครัว เครื่องยนต์ยักษ์ตัวนี้ผลิตกำลังมหาศาล 710 แรงม้า และแรงบิด 875 นิวตันเมตร เปลี่ยน Durango ให้กลายเป็นสัตว์ร้ายแห่งสมรรถนะที่แท้จริง ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.5 วินาที (0-60 ไมล์/ชม. ใน 3.5 วินาที) และเวลาควอเตอร์ไมล์ 11.5 วินาที Durango SRT Hellcat สามารถทำให้รถสปอร์ตหลายคันอับอายได้ ในขณะที่ยังคงรองรับผู้โดยสารเจ็ดคนและสัมภาระได้อย่างสบาย

ราคาและการอัปเดตใหม่:
2025 Durango SRT 392 เริ่มต้นที่ประมาณ 2.8 ล้านบาท (เทียบจาก $76,590) และรุ่นสูงสุดคือ SRT 392 AlcHEMI ที่ประมาณ 3.3 ล้านบาท (เทียบจาก $91,390)
2025 Durango SRT Hellcat เริ่มต้นที่ประมาณ 3.7 ล้านบาท (เทียบจาก $104,000) และรุ่นพิเศษ Silver Bullet ที่ประมาณ 4.1 ล้านบาท (เทียบจาก $115,315) ซึ่งมาพร้อมการตกแต่งพิเศษ เช่น ฝากระโปรงสีดำ Satin และการเย็บสองสีทั่วทั้งภายใน

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง:
(SRT 392) “Durango SRT 392 เป็น Hot Rod สำหรับครอบครัวที่สนุกสุดเหวี่ยง สามารถลากเรือของคุณไปยังทะเลสาบ และแซง Mustang ได้ที่ไฟแดง” – Car and Driver
(SRT Hellcat) “Durango Hellcat เป็น SUV ที่เร็วอย่างน่าขัน สามารถพาครอบครัวไปซ้อมฟุตบอลได้ในนาทีเดียว และทำเวลาควอเตอร์ไมล์ 11.5 วินาทีในนาทีถัดมา” – Motor Trend

2025 Ferrari Purosangue
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: การผสมผสานที่ลงตัวของสมรรถนะ ความใช้งานได้จริง และความหรูหรา สำหรับครอบครัวผู้หลงใหลความเร็ว

ภาพรวม: Ferrari Purosangue ไม่ใช่เพียงแค่ SUV คันแรกของ Ferrari เท่านั้น แต่ยังเป็นแถลงการณ์ที่ท้าทายขนบธรรมเนียมและนิยามใหม่ของความคาดหวัง นี่ไม่ใช่รถครอบครัวที่สูงตระหง่านทั่วไป แต่เป็น Ferrari พันธุ์แท้ที่มีจิตวิญญาณของรถสปอร์ตและความอเนกประสงค์ของ SUV การออกแบบที่เพรียวบางตามหลักอากาศพลศาสตร์ ด้วยฝากระโปรงยาว ซุ้มล้อที่ดุดัน และท่าทางที่สง่างาม เป็นเอกลักษณ์ของ Ferrari อย่างไม่ต้องสงสัย ในขณะที่ความสูงจากพื้นดินที่เพิ่มขึ้นและสี่ประตูมอบระดับการใช้งานจริงใหม่สำหรับม้าพยศ

ใต้ฝากระโปรง Purosangue มาพร้อมเครื่องยนต์ V12 Naturally Aspirated 6.5 ลิตร ที่ปลดปล่อยพลังเสียงอันไพเราะ ให้กำลัง 715 แรงม้า และแรงบิด 716 นิวตันเมตร แปลงเป็นสมรรถนะที่น่าทึ่ง ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.3 วินาที (0-60 ไมล์/ชม. ใน 3.3 วินาที) และความเร็วสูงสุด 310 กม./ชม. (193 ไมล์/ชม.) แต่ Purosangue ไม่ได้เป็นเพียงแค่จรวดทางตรงเท่านั้น ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อขั้นสูง ระบบช่วงล่าง Active Suspension และระบบเลี้ยวล้อหลัง มอบการควบคุมที่ยอดเยี่ยมและความคล่องตัว ทำให้เป็นรถที่ขับสนุกบนถนนที่คดเคี้ยว

ภายในห้องโดยสาร Purosangue มีห้องโดยสารที่หรูหราและกว้างขวางพร้อมที่นั่งสำหรับสี่คน แผงหน้าปัดที่เน้นผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางมีแผงหน้าปัดดิจิทัล ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 10.2 นิ้ว และการออกแบบ Dual-Cockpit ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งมอบหน้าจอแสดงผลและการควบคุมสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าโดยเฉพาะ เบาะหลังมีพื้นที่วางขาและพื้นที่เหนือศีรษะที่กว้างขวาง ทำให้ Purosangue เป็นรถที่สะดวกสบายและใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ด้วยการผสมผสานสมรรถนะอันเร้าใจ ดีไซน์ที่น่าทึ่ง และความใช้งานได้จริงที่น่าประหลาดใจ Ferrari Purosangue จึงเป็นรถยนต์ที่พลิกเกมที่นิยามใหม่ของสิ่งที่เป็นไปได้สำหรับ Ferrari

ราคาและการอัปเดตใหม่: ไม่มีอะไรใหม่สำหรับ Purosangue ในปี 2025 มีเพียงรุ่นเดียว ราคาเริ่มต้นที่เกือบ 15.6 ล้านบาท (เทียบจาก $428,686) Purosangue ให้ความสำคัญกับออปชั่นสำหรับผู้ซื้อ และแน่นอนว่านี่คือ Ferrari คุณสามารถเลือกออปชั่นได้อย่างเต็มที่

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง: “Purosangue ขับขี่ได้เหมือน Ferrari อย่างแท้จริง ด้วยความคล่องตัวและการตอบสนองที่เหลือเชื่อ ท้าทายขนาดและรูปทรงของมัน” – Car and Driver

2025 Ford F-150 Raptor / Raptor R
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: รถกระบะออฟโรดที่มีความสามารถอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งผลักดันขีดจำกัดของสิ่งที่เป็นไปได้ในรถกระบะ

ภาพรวม: 2025 Ford F-150 Raptor และ Raptor R ยังคงครองตำแหน่งสูงสุดในโลกของรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง รถยนต์เหล่านี้สร้างขึ้นสำหรับผู้ที่ต้องการการผจญภัยที่ตื่นเต้นและต้องการความสามารถสูงสุดจากยานพาหนะของตน รถทั้งสองคันใช้แพลตฟอร์มเดียวกันและการออกแบบที่ดุดัน แต่ตอบสนองความต้องการของนักผจญภัยออฟโรดที่แตกต่างกัน

F-150 Raptor ซึ่งเป็นรุ่น “พื้นฐาน” ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร มีเครื่องยนต์ EcoBoost V6 ทวินเทอร์โบ 3.5 ลิตรที่ทรงพลัง ให้กำลัง 450 แรงม้า และแรงบิด 691 นิวตันเมตร กำลังนี้ส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ซับซ้อนพร้อมกล่องเกียร์ Torque-on-demand ระบบช่วงล่างของ Raptor คือจุดเด่น ด้วยโช้กอัพ Fox 3.1 Live Valve Internal Bypass ที่ให้การควบคุมและการหน่วงที่ยอดเยี่ยมแม้บนพื้นที่ที่ท้าทายที่สุด ด้วยระยะยุบตัวของช่วงล่างด้านหน้า 13.1 นิ้ว และด้านหลัง 14.1 นิ้ว Raptor สามารถดูดซับแรงกระแทกและการกระโดดได้อย่างง่ายดาย

สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะที่เหนือชั้นกว่านั้น F-150 Raptor R ยกระดับไปอีกขั้น ใต้ฝากระโปรงมีเครื่องยนต์ V8 Predator ซูเปอร์ชาร์จ 5.2 ลิตร ยืมมาจาก Mustang Shelby GT500 ที่ปลดปล่อยกำลังมหาศาล 700 แรงม้า และแรงบิด 868 นิวตันเมตร ทำให้ Raptor R เป็นรถกระบะออฟโรดที่ทรงพลังที่สุดในตลาด นอกจากนี้ยังมีการปรับแต่งช่วงล่างเฉพาะ ตัวรถกว้างขึ้น และยาง All-terrain ขนาด 37 นิ้ว ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่ออฟโรดให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่น Raptor หรือ Raptor R คุณจะได้รับรถกระบะที่สามารถพิชิตทุกสภาพพื้นที่และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ตื่นเต้นเร้าใจ

ราคาและการอัปเดตใหม่: 2025 F-150 Raptor เริ่มต้นที่ประมาณ 2.9 ล้านบาท (เทียบจาก $80,900) สำหรับรุ่นพื้นฐาน และประมาณ 4.1 ล้านบาท (เทียบจาก $112,725) สำหรับรุ่น R ที่บ้าคลั่ง

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง: “Raptor R คือรถ Monster Truck ที่ฉีดสเตียรอยด์ ด้วยเครื่องยนต์ V8 ที่ดุร้ายที่มอบพลังที่น่าตกตะลึงและเสียงเครื่องยนต์ที่เข้ากัน” – Top Gear

2025 Ford Bronco Raptor
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: สัตว์ร้ายออฟโรดที่แท้จริง สามารถรับมือกับภูมิประเทศที่ท้าทายที่สุดได้อย่างง่ายดาย

ภาพรวม: Ford Bronco Raptor ไม่ใช่ SUV ธรรมดาของคุณ เป็นสัตว์ร้ายออฟโรดสมรรถนะสูงที่สร้างขึ้นเพื่อพิชิตภูมิประเทศที่ท้าทายที่สุด ลองนึกภาพว่าเป็นรถ Monster Truck ที่วิ่งในทะเลทราย ปีนป่ายโขดหิน และกระโดดข้ามเนินทรายพร้อมป้ายทะเบียน Ford นำ Bronco ที่มีความสามารถอยู่แล้วมาเติมเต็มด้วย DNA ของ Raptor ทำให้เกิดรถยนต์ที่ผลักดันขีดจำกัดของสมรรถนะออฟโรด

ใต้ฝากระโปรง Bronco Raptor บรรจุเครื่องยนต์ EcoBoost V6 ทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร ที่ให้กำลัง 418 แรงม้า และแรงบิด 597 นิวตันเมตร กำลังนี้ส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ซับซ้อนพร้อมเพลาท้าย Dana 50 Heavy-Duty AdvanTEK และเพลาหน้า Dana 44 AdvanTEK ระบบช่วงล่างของ Bronco Raptor คือจุดเด่นอย่างแท้จริง มีระบบช่วงล่างออฟโรดสมรรถนะสูง (HOSS 4.0) พร้อมโช้กอัพ Fox 3.1 Internal Bypass Semi-active แดมเปอร์ ช่วงล่างแบบ Long-travel และยาง All-terrain ขนาด 37 นิ้ว การตั้งค่านี้ช่วยให้ Bronco Raptor ดูดซับแรงกระแทกและการกระโดดได้อย่างง่ายดาย ให้การควบคุมและเสถียรภาพที่ยอดเยี่ยมแม้ในสภาพแวดล้อมออฟโรดที่ท้าทายที่สุด

การออกแบบภายนอกของ Bronco Raptor ดุดันไม่แพ้สมรรถนะ ซุ้มล้อที่กว้างขึ้น กระจังหน้าเฉพาะ และตัวอักษร “FORD” ที่โดดเด่น ไม่ต้องสงสัยเลยถึงความตั้งใจของมัน คุณสมบัติการใช้งาน เช่น แผ่นกันกระแทกเหล็ก แผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถสำหรับงานหนัก และตะขอเกี่ยวลากจูง ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่ออฟโรด ภายในห้องโดยสารผสมผสานความทนทานและความประณีต ด้วยเบาะไวนิลเกรดมารีน ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสความละเอียดสูง และคุณสมบัติที่เน้นการขับขี่ออฟโรด Bronco Raptor เป็นเครื่องจักรที่ไม่เหมือนใครและมีความสามารถอย่างแท้จริงที่นิยามใหม่ของ SUV ออฟโรด

ราคาและการอัปเดตใหม่: 2025 Bronco Raptor มีราคาประมาณ 3.3 ล้านบาท (เทียบจาก $91,930) ซึ่งค่อนข้างสูงสำหรับ Ford Bronco Raptor มีให้เลือกเฉพาะในรูปแบบตัวถังสี่ประตูและระดับการตกแต่งเดียวเท่านั้น การนำเสนอหลักมาพร้อมสิ่งดีๆ มากมาย ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องเสียเงินเพิ่มกับออปชั่นมากนัก ระบบเสียงยอดเยี่ยม และมีอุปกรณ์ออฟโรดทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับภารกิจหลักในการเป็น Bronco ที่สุดขีดที่สุด

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง: “รถคันนี้สามารถปีนโขดหิน ลุยแม่น้ำ และกระโดดข้ามเนินทรายได้อย่างคล่องตัวและสง่างามอย่างเหลือเชื่อ” – Motor Trend

2025 Lamborghini Urus
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: ความสมดุลที่ลงตัวระหว่างความบ้าคลั่งแบบ Lamborghini และความใช้งานได้จริงของ SUV สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

ภาพรวม: 2025 Lamborghini Urus พุ่งเข้าสู่โลกอนาคตด้วยระบบส่งกำลังแบบ Plug-in Hybrid อันทรงพลัง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่สำหรับ SUV สมรรถนะสูงรุ่นนี้ ในขณะที่เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตรยังคงอยู่ แต่ตอนนี้ได้รวมเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อสร้าง Urus S.E. (Super Elettrica) ใหม่ การผสมผสานนี้ปลดปล่อยกำลังมหาศาลถึง 789 แรงม้า และแรงบิด 950 นิวตันเมตร ทำให้ Urus S.E. พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.1 วินาที (0-60 ไมล์/ชม. ใน 3.1 วินาที) นอกเหนือจากพละกำลังดิบ ระบบไฮบริดยังมอบระยะทางขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนประมาณ 48 กิโลเมตร (30 ไมล์) เพิ่มมิติใหม่ของประสิทธิภาพให้กับ Super SUV คันนี้

แต่กลุ่มผลิตภัณฑ์ Urus ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น Urus S “พื้นฐาน” ก็ได้รับการอัปเดตสำหรับปี 2025 ด้วยส่วนหน้าใหม่พร้อมกันชนและฝากระโปรงดีไซน์ใหม่ รวมถึงไฟหน้าและไฟท้ายที่ได้รับการปรับปรุง ภายในทั้ง Urus S และ S.E. ได้รับประโยชน์จากระบบอินโฟเทนเมนต์ที่อัปเกรดและการปรับแต่งที่หลากหลายยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่ต้องการสุดยอดสมรรถนะของ Urus รุ่น Performante ยังคงเป็นตัวเลือกที่โดดเด่น ด้วยมาตรการลดน้ำหนัก การปรับปรุงตามหลักอากาศพลศาสตร์ และการปรับแต่งที่เน้นสนามแข่ง ทำให้ Urus Performante มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจยิ่งขึ้น

สิ่งที่เพิ่มเข้ามาในรายการออปชั่นคือล้อ Galanthus ขนาด 23 นิ้วที่สะดุดตาพร้อมยาง Pirelli P Zero ขนาด 285/35 ที่ด้านหน้าและ 325/30 ที่ด้านหลัง ภายใน Urus S.E. มีหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วที่ใหญ่ขึ้นพร้อมการตอบสนองที่ดีขึ้นและระบบควบคุมด้วยเสียงที่ได้รับการปรับปรุง ในขณะที่ยังคงรักษากลุ่มควบคุมทางกายภาพที่น่าพอใจ รวมถึงสวิตช์ Toggle และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ที่มีกรอบล้อมรอบ การอัปเดตเหล่านี้รวมกันเพื่อยกระดับรูปลักษณ์และความซับซ้อนทางเทคโนโลยีของ Urus ทำให้มั่นใจได้ว่ามันยังคงเป็นรถที่สะดุดตาอย่างยิ่งทั้งภายในและภายนอก

ราคาและการอัปเดตใหม่: Urus “ระดับเริ่มต้น” สำหรับปี 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 8.8 ล้านบาท (เทียบจาก $241,843) และสูงสุดถึงประมาณ 9.9 ล้านบาท (เทียบจาก $273,880) หากคุณเลือกรุ่น Performante ที่เน้นสมรรถนะ รุ่น SE Hybrid ก็ดูน่าสนใจในแง่ของสเปค อาจเป็นทางเลือกที่ดี

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง: “Urus S เป็นมาสเตอร์คลาสในการสร้างรถที่ยอดเยี่ยมให้ดียิ่งขึ้นไปอีก” – Top Gear

2025 Lotus Eletre
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: เกมเปลี่ยนสำหรับ Lotus เป็นการเริ่มต้นบทใหม่ของแบรนด์อังกฤษนี้

ภาพรวม: Lotus Eletre เป็นรถยนต์ที่พลิกโฉม ซึ่งเป็นก้าวสำคัญสำหรับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอังกฤษที่ขึ้นชื่อเรื่องรถสปอร์ตน้ำหนักเบา SUV ไฟฟ้าล้วนคันนี้เป็นครั้งแรกของ Lotus ที่เข้าสู่ตลาด SUV และกำลังสร้างความโดดเด่นด้วยการออกแบบที่สะดุดตา เทคโนโลยีล้ำสมัย และความสามารถด้านสมรรถนะที่น่าประทับใจ รูปทรงตามหลักอากาศพลศาสตร์และเส้นสายที่ประณีตของ Eletre ไม่เพียงแต่เพิ่มความดึงดูดใจทางสายตา แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระยะทางขับขี่ที่น่าประทับใจ

ใต้ผิวหนัง Eletre มาพร้อมระบบส่งกำลังไฟฟ้าอันทรงพลังพร้อมมอเตอร์คู่ที่ให้กำลังรวม 603 แรงม้า และแรงบิด 710 นิวตันเมตร ในรุ่นพื้นฐานและรุ่น S ซึ่งทำให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.5 วินาที (0-60 ไมล์/ชม. ใน 4.5 วินาที) สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะที่เร้าใจยิ่งขึ้น Eletre R ซึ่งเป็นรุ่นท็อป ให้กำลังมหาศาลถึง 905 แรงม้า และแรงบิด 984 นิวตันเมตร ทำให้พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.95 วินาที (0-60 ไมล์/ชม. ใน 2.95 วินาที) Eletre R ยังมาพร้อมกระปุกเกียร์สองสปีดที่ไม่เหมือนใครบนเพลาหลัง ช่วยเพิ่มทั้งอัตราเร่งและประสิทธิภาพ

ภายในห้องโดยสาร Eletre มอบสภาพแวดล้อมที่หรูหราและล้ำหน้าทางเทคโนโลยี ใช้วัสดุที่ยั่งยืนตลอดทั้งคัน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Lotus ในการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัส OLED ขนาด 15.1 นิ้ว ครองแผงหน้าปัด ให้การเข้าถึงระบบนำทาง ความบันเทิง และการตั้งค่ารถยนต์ Eletre ยังมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงมากมาย รวมถึง Adaptive Cruise Control, Lane Keep Assist และระบบกล้อง 360 องศา

ราคาและการอัปเดตใหม่: Eletre ใหม่ทั้งหมดสำหรับปี 2025 มีสามรุ่นในการเปิดตัว 2025 Eletre เริ่มต้นที่ประมาณ 3.9 ล้านบาท (เทียบจาก $110,000) รุ่น Eletre R ที่ทรงพลังที่สุดอยู่ที่ประมาณ 5.3 ล้านบาท (เทียบจาก $148,000)

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง: “Eletre R เร็วอย่างน่าตกใจ มอบอัตราเร่งระดับซูเปอร์คาร์ในแพ็กเกจ SUV” – Car and Driver

2025 Maserati Grecale / Grecale Folgore
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ดูดี แต่ยังต้องพยายามสู้กับคู่แข่งตัวท็อปในกลุ่มตลาดเดียวกัน (Grecale) และการผสมผสานสไตล์ ประสิทธิภาพ และความยั่งยืนแบบอิตาเลียนที่ไม่เหมือนใคร (Grecale Folgore)

ภาพรวม: 2025 Maserati Grecale เปิดตัวในฐานะ SUV หรูหราขนาดกะทัดรัดที่สะท้อนถึงสไตล์และสมรรถนะแบบอิตาเลียน SUV ที่มีสไตล์คันนี้มอบการผสมผสานที่น่าสนใจระหว่างความอเนกประสงค์ เทคโนโลยี และความตื่นเต้นในการขับขี่ ทำให้เป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งในกลุ่มตลาด Grecale GT รุ่นเริ่มต้นขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ Mild-Hybrid 2.0 ลิตร ให้กำลัง 296 แรงม้า และแรงบิด 450 นิวตันเมตร ให้กำลังที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ในขณะที่ระบบ Mild-Hybrid ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ

ถัดไปคือ Grecale Modena ซึ่งมาพร้อมเครื่องยนต์ Mild-Hybrid เดียวกันแต่มีประสิทธิภาพสูงกว่า ให้กำลัง 325 แรงม้า และแรงบิด 450 นิวตันเมตร ทำให้อัตราเร่งดีขึ้นและตอบสนองได้ดีขึ้น สำหรับผู้ที่ต้องการสุดยอดสมรรถนะของ Grecale รุ่น Grecale Trofeo อยู่บนสุดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยใช้เครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร ที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งมาจากซูเปอร์คาร์ MC20 เครื่องยนต์อันทรงพลังนี้ปลดปล่อยกำลัง 523 แรงม้า และแรงบิด 620 นิวตันเมตร ทำให้ Grecale Trofeo พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที (0-60 ไมล์/ชม. ใน 3.8 วินาที) ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นใด Grecale ก็มอบห้องโดยสารที่หรูหราและตกแต่งอย่างดีด้วยวัสดุคุณภาพสูงและคุณสมบัติเทคโนโลยีขั้นสูง

2025 Maserati Grecale Folgore (ไฟฟ้า) ยกระดับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Grecale ด้วยสมรรถนะที่ยั่งยืนให้กับ SUV สไตล์อิตาเลียน รุ่นไฟฟ้าล้วนคันนี้มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ให้กำลังรวม 542 แรงม้า และแรงบิด 800 นิวตันเมตร ทำให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.1 วินาที (0-60 ไมล์/ชม. ใน 4.1 วินาที) Folgore ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความเร็วทางตรงเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ 105 kWh ที่ให้ระยะทางขับขี่ประมาณ 500 กิโลเมตร (310 ไมล์) ทำให้เป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้จริงสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกล Grecale Folgore แตกต่างจากรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินด้วยการออกแบบที่ละเอียดอ่อนแต่โดดเด่น ล้อแอโรไดนามิกที่ไม่เหมือนใครเพิ่มประสิทธิภาพ ในขณะที่การตกแต่งด้วยสีทองแดงบนตราสัญลักษณ์ภายนอกและคาลิเปอร์เบรกบ่งบอกถึงความเป็นรถไฟฟ้า

ราคาและการอัปเดตใหม่:
2025 Maserati Grecale เริ่มต้นที่ประมาณ 2.5 ล้านบาท (เทียบจาก $69,995) สำหรับรุ่น GT และรุ่น Trofeo ที่ทรงพลังที่สุดอยู่ที่ประมาณ 3.9 ล้านบาท (เทียบจาก $109,495) รุ่น Modena คุ้มค่ากับราคาที่เพิ่มขึ้นเกือบ 1 แสนบาท เพราะมาพร้อมโช้กอัพแบบปรับได้ ล้อ 20 นิ้ว ซันรูฟไฟฟ้า เบาะหน้าปรับไฟฟ้า 14 ทิศทาง Adaptive Cruise Control การตกแต่งภายในด้วยไม้ และอื่นๆ

2025 Maserati Grecale Folgore ซึ่งเป็นรุ่นใหม่สำหรับปี 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 4 ล้านบาท (เทียบจาก $110,495) มาพร้อมคุณสมบัติที่ค่อนข้างดีในรุ่นเดียว ดังนั้นคุณสามารถซื้อ Grecale Folgore ได้ในราคาใกล้เคียงกับราคาที่ตั้งไว้ 4 ล้านบาท

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง:
(Grecale) “Grecale เป็น SUV ที่อเนกประสงค์ที่สามารถปรับให้เข้ากับสถานการณ์การขับขี่ที่หลากหลาย ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปทำงานหรือสำรวจชนบท” – Road & Track
(Grecale Folgore) “มันควบคุมได้อย่างคล่องตัวจนน่าเหลือเชื่อสำหรับสัดส่วนของ SUV รู้สึกเหมือนรถ Hot Hatch มากกว่ารถออฟโรดขนาดใหญ่” – Top Gear

2025 Maserati Levante
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ใหญ่ สวยงาม และหรูหรา ทำในแบบฉบับของ Maserati

ภาพรวม: 2025 Maserati Levante ซึ่งเป็น SUV เรือธงของแบรนด์ ยังคงสร้างความประทับใจด้วยการผสมผสานสไตล์อิตาเลียน การตกแต่งที่หรูหรา และสมรรถนะอันเร้าใจ ปีนี้กลุ่มผลิตภัณฑ์ Levante ได้รับการปรับโฉมด้วยสไตล์ที่อัปเดต เทคโนโลยีที่ได้รับการปรับปรุง และระบบส่งกำลังที่ประณีตยิ่งขึ้น การออกแบบภายนอกคมชัดขึ้นเล็กน้อยด้วยการออกแบบกระจังหน้าใหม่ ไฟหน้าและไฟท้ายที่ได้รับการปรับปรุง ภายในห้องโดยสารมีระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วใหม่พร้อมซอฟต์แวร์ล่าสุดของ Maserati ซึ่งมอบการทำงานและการเชื่อมต่อที่ดีขึ้น

กลุ่มผลิตภัณฑ์ Levante มีตัวเลือกระบบส่งกำลังที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการและความชอบที่แตกต่างกัน Levante GT รุ่นเริ่มต้นมีเครื่องยนต์ 4 สูบ Mild-Hybrid 2.0 ลิตร ที่ให้สมดุลระหว่างสมรรถนะและประสิทธิภาพ โดยให้กำลัง 325 แรงม้า Levante Modena เพิ่มสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร ที่ให้กำลัง 424 แรงม้า สำหรับผู้ที่ต้องการสุดยอดสมรรถนะของ Levante รุ่น Levante Trofeo ครองตำแหน่งสูงสุดด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 3.8 ลิตรที่ดุร้าย ปลดปล่อยกำลัง 572 แรงม้า และอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที (0-60 ไมล์/ชม. ใน 3.8 วินาที)

ไม่ว่าคุณจะเลือก Levante รุ่นใด คุณจะได้รับการปรนเปรอด้วยประสบการณ์การขับขี่ที่หรูหราและประณีต ภายในห้องโดยสารรังสรรค์ด้วยวัสดุพรีเมียม เช่น หนังและไม้ ในขณะที่คุณสมบัติเช่น เบาะนั่งปรับอุ่นและปรับอากาศ ระบบเสียงระดับพรีเมียม และซันรูฟแบบพาโนรามา ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ด้วยการผสมผสานการออกแบบสไตล์อิตาเลียน เครื่องยนต์ทรงพลัง และสิ่งอำนวยความสะดวกอันหรูหรา 2025 Maserati Levante ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในกลุ่ม SUV หรู

ราคาและการอัปเดตใหม่: ราคา 2025 Levante เริ่มต้นที่ประมาณ 3.7 ล้านบาท (เทียบจาก $103,495) และสูงสุดถึงประมาณ 6.8 ล้านบาท (เทียบจาก $189,495) สำหรับรุ่น Trofeo
ตามชื่อ Trofeo คือรุ่นที่ทรงพลังที่สุดของ Levante และเป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบให้กำลัง 580 แรงม้า ดีพอที่จะเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.6 วินาที ซึ่งเป็นสมรรถนะระดับรถสปอร์ต Levante Trofeo ยังมาพร้อมอุปกรณ์ที่จัดเต็มอีกด้วย

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง: “Levante Trofeo เป็นสัตว์ร้าย เครื่องยนต์ V8 ที่มาจาก Ferrari สร้างเสียงที่งดงามและมอบแรงผลักดันที่ทำให้คุณหัวเราะ” – Top Gear

2025 Mercedes-AMG G63
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: สัญลักษณ์แห่งฐานะ แต่ก็เป็นรถที่หรูหราและสะดวกสบายอย่างแท้จริง

ภาพรวม: Mercedes-AMG G 63 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ “G-Wagon” เป็นไอคอนแห่งความสามารถในการขับขี่ออฟโรดและความหรูหราที่ไม่ลดละ SUV ในตำนานคันนี้ ด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมและดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากทางทหาร ได้เป็นสัญลักษณ์ของฐานะและความสามารถมานานหลายทศวรรษ สำหรับปี 2025 G 63 ได้รับการอัปเดตที่ครอบคลุมซึ่งช่วยเพิ่มสมรรถนะ เทคโนโลยี และความประณีต ในขณะที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์อันเป็นสัญลักษณ์ไว้

ใต้ฝากระโปรง G 63 บรรจุเครื่องยนต์ V8 Biturbo 4.0 ลิตรของ AMG ที่สร้างด้วยมือ ซึ่งปัจจุบันมาพร้อมระบบ Mild-Hybrid 48V เครื่องยนต์ทรงพลังนี้ให้กำลัง 577 แรงม้า และแรงบิด 850 นิวตันเมตร ทำให้ G 63 พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาประมาณ 4.2 วินาที (0-60 ไมล์/ชม. ใน 4.2 วินาที) ระบบ Mild-Hybrid ไม่เพียงแต่เพิ่มสมรรถนะเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษ ความสามารถในการขับขี่ออฟโรดของ G 63 ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมด้วยระบบช่วงล่างที่ได้รับการปรับปรุง ซึ่งให้การเคลื่อนที่ของล้อที่ดีขึ้นและการขับขี่ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นบนภูมิประเทศที่ขรุขระ

ภายในห้องโดยสาร G 63 เป็นแหล่งรวมความหรูหราและเทคโนโลยี หนังที่เย็บด้วยมือ การตกแต่งด้วยไม้ที่สร้างด้วยมือ และการตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมขัดเงาสร้างบรรยากาศของความหรูหราและประณีต แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ครองแผงหน้าปัด ให้การเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงมากมาย สำหรับปี 2025 G 63 ได้นำเสนอคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ใหม่ๆ รวมถึง Active Steering Assist และ Active Emergency Stop Assist ซึ่งช่วยเพิ่มทั้งความปลอดภัยและความสะดวกสบาย

ราคาและการอัปเดตใหม่: ราคา 2025 Mercedes-AMG G63 เริ่มต้นที่ประมาณ 6.9 ล้านบาท (เทียบจาก $190,000) และสูงสุดถึงประมาณ 7.6 ล้านบาท (เทียบจาก $210,000) ขึ้นอยู่กับการตกแต่งและออปชั่น
Mercedes-AMG G63 ค่อนข้างจัดเต็มในรุ่นพื้นฐาน ดังนั้นเราจะเลือกรุ่นพื้นฐาน

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง: “รถคันนี้เป็นรถถัง รู้สึกเหมือนไม่มีวันพัง และให้ความมั่นใจในการรับมือกับอุปสรรคใดๆ” – Car and Driver

2025 Mercedes-AMG GLC-Class
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: การผสมผสานของเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จและมอเตอร์ไฟฟ้าที่ส่งมอบพลังที่ไม่หยุดยั้ง

ภาพรวม: Mercedes-AMG GLC-Class ทั้งในรูปแบบ SUV แบบดั้งเดิมและ Coupe ที่เพรียวบาง มอบสมรรถนะที่ทรงพลังให้กับกลุ่มรถยนต์หรูหราขนาดกะทัดรัด รถยนต์ที่ไดนามิกเหล่านี้ใช้แพลตฟอร์ม GLC ที่ประณีตและอเนกประสงค์ และอัดฉีดด้วย DNA มอเตอร์สปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ของ AMG ส่งผลให้ SUV ที่ทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้กันทั้งบนถนนที่คดเคี้ยวและในเมือง

สำหรับปี 2025 กลุ่มผลิตภัณฑ์ AMG GLC-Class มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยมุ่งเน้นที่สมรรถนะแบบไฟฟ้า AMG GLC 43 4MATIC มาพร้อมระบบ Mild-Hybrid จับคู่กับเครื่องยนต์ 4 สูบเทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตร ให้กำลัง 416 แรงม้า และแรงบิด 500 นิวตันเมตร การตั้งค่านี้ให้อัตราเร่งที่รวดเร็วและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ในขณะที่ระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งโดย AMG และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อช่วยให้การควบคุมที่คล่องตัวและการยึดเกาะที่มั่นคง

ที่จุดสูงสุดของลำดับชั้นสมรรถนะคือ AMG GLC 63 S E PERFORMANCE รุ่นสมรรถนะสูงคันนี้มาพร้อมระบบส่งกำลัง Plug-in Hybrid ที่ก้าวล้ำ ซึ่งผสมผสานเครื่องยนต์ 4 สูบเทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตร เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าอันทรงพลัง ให้กำลังรวม 671 แรงม้า และแรงบิด 1020 นิวตันเมตร ทำให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.4 วินาที (0-60 ไมล์/ชม. ใน 3.4 วินาที) GLC 63 S E PERFORMANCE ยังมีคุณสมบัติที่เพิ่มสมรรถนะมากมาย รวมถึงระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเฉพาะของ AMG ระบบ damping แบบปรับได้ และระบบควบคุมการทรงตัวแบบ Active Roll Stabilization เพื่อให้การควบคุมที่ยอดเยี่ยมและประสบการณ์การขับขี่ที่ไดนามิก

ทั้ง GLC 43 และ GLC 63 S E PERFORMANCE มีให้เลือกทั้งแบบตัวถัง SUV และ Coupe มอบทางเลือกระหว่าง SUV ที่ใช้งานได้จริงและอเนกประสงค์ หรือ Coupe ที่เพรียวบางและสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยหลังคาลาดเอียง ด้วยการผสมผสานสมรรถนะที่ทรงพลัง เทคโนโลยีขั้นสูง และการตกแต่งที่หรูหรา 2025 Mercedes-AMG GLC-Class และ GLC-Class Coupe จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา SUV หรูหราขนาดกะทัดรัดที่มีความเร้าใจ

ราคาและการอัปเดตใหม่: ราคา 2025 AMG GLC-Class เริ่มต้นที่ประมาณ 2.4 ล้านบาท (เทียบจาก $66,000) สำหรับรุ่นพื้นฐานในตัวถังปกติ และ 2.6 ล้านบาท (เทียบจาก $71,750) สำหรับตัวถังคูเป้
รุ่น GLC63 S E Performance เป็นสัตว์ร้ายที่แท้จริง ดังนั้นจงไปหามาขับ กำลัง 671 แรงม้า คุ้มค่ากับราคาที่ตั้งไว้กว่า 3.3 ล้านบาท (เทียบจาก $92,600)

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง: “GLC 63 S E PERFORMANCE เร็วอย่างน่าตกใจ แรงดันไฟฟ้าจากมอเตอร์ไฟฟ้าให้แรงบิดทันที ทำให้รู้สึกเหมือนจรวดเมื่อออกตัว” – Top Gear

2025 Mercedes-AMG GLE-Class
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: ควบคุมได้อย่างน่าประหลาดใจสำหรับขนาดของมัน และยังมีกำลังที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย

ภาพรวม: Mercedes-AMG GLE-Class สำหรับปี 2025 ยังคงครองตำแหน่งในฐานะ SUV หรูหราสมรรถนะสูงที่ผสมผสานพลังที่เร้าใจเข้ากับความสะดวกสบายที่ประณีตและเทคโนโลยีขั้นสูงได้อย่างลงตัว SUV ขนาดกลางคันนี้ ซึ่งอิงตาม Mercedes-Benz GLE ได้รับการปรับแต่งโดย AMG โดยเน้นที่พลวัตการขับขี่ที่เพิ่มขึ้น สไตล์ที่ดุดัน และระบบส่งกำลังไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ กลุ่มผลิตภัณฑ์ GLE-Class AMG สำหรับปี 2025 ได้รับการปรับปรุงให้เรียบง่ายขึ้น โดยนำเสนอ GLE 53 และ GLE 63 สมรรถนะสูง

GLE 53 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงเทอร์โบชาร์จ 3.0 ลิตร ซึ่งได้รับการปรับปรุงด้วยระบบ Mild-Hybrid การตั้งค่านี้ให้กำลัง 429 แรงม้า และแรงบิด 520 นิวตันเมตร ให้กำลังที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการเร่งความเร็ว เครื่องยนต์จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT TCT 9 สปีด ที่ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วและราบรื่น ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC+ ช่วยให้การควบคุมและการยึดเกาะที่มั่นใจได้ในสภาพต่างๆ ซึ่งมีส่วนช่วยให้ GLE 53 มีความเป็นสปอร์ต

Mercedes-AMG GLE 63 S E อยู่บนสุดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ GLE-Class ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ต่อเทคโนโลยีไฮบริดสมรรถนะสูง SUV คันนี้มีพละกำลังที่แข็งแกร่ง ผสมผสานเครื่องยนต์ V8 Biturbo 4.0 ลิตรของ AMG ที่สร้างด้วยมือ เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าอันทรงพลัง ให้กำลังรวม 603 แรงม้า และแรงบิด 850 นิวตันเมตร การตั้งค่านี้ทำให้ GLE 63 S E พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.7 วินาที (0-60 ไมล์/ชม. ใน 3.7 วินาที) ทำให้เป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในตลาด

ราคาและการอัปเดตใหม่: ราคา 2025 AMG GLE53 เริ่มต้นที่ประมาณ 3.2 ล้านบาท (เทียบจาก $90,350) และ GLE63 S เริ่มต้นที่ประมาณ 4.8 ล้านบาท (เทียบจาก $131,950)
เราชอบ GLE63 แต่ราคาสูงเกินไปที่จะเป็นตัวเลือกที่ถูกต้อง เลือก GLE53 แล้วเพิ่มออปชั่นดีๆ คุณก็ยังจะอยู่ต่ำกว่า 3.6 ล้านบาท (เทียบจาก $100,000) แพ็กเกจ Winter นั้นยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่อยู่ในสภาพอากาศหนาวเย็น โดยให้พวงมาลัยปรับอุ่นและที่ปัดน้ำฝนปรับอุ่น

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง: “GLE 63 S E เป็นความสำเร็จทางเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยม แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของ AMG ทั้งในด้านสมรรถนะและการใช้พลังงานไฟฟ้า” – Car and Driver

2025 Mercedes-AMG GLS-Class
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ขนาดใหญ่ ใช้งานได้จริง และเร็วมากสำหรับคุณและครอบครัว

ภาพรวม: Mercedes-AMG GLS 63 คือที่สุดของความหรูหราและสมรรถนะของ SUV เป็นรถที่สามารถพิชิตทุกเส้นทางในขณะที่ปรนเปรอผู้โดยสารด้วยความสะดวกสบายที่ไม่มีใครเทียบได้ SUV ขนาดเต็มคันนี้ ซึ่งอิงตาม Mercedes-Benz GLS ที่หรูหราอยู่แล้ว ได้รับการปรับแต่งโดย AMG อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยเครื่องยนต์ V8 ที่สร้างด้วยมือ ระบบช่วงล่างแบบสปอร์ต และอุปกรณ์หรูหรามากมาย

ใต้ฝากระโปรง GLS 63 บรรจุเครื่องยนต์ V8 Biturbo 4.0 ลิตรของ AMG ที่สร้างด้วยมือ ซึ่งได้รับการปรับปรุงด้วยระบบ Mild-Hybrid 48V เครื่องยนต์ทรงพลังนี้ให้กำลัง 603 แรงม้า และแรงบิด 850 นิวตันเมตร ทำให้ GLS 63 พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาประมาณ 4.1 วินาที (0-60 ไมล์/ชม. ใน 4.1 วินาที) ระบบ Mild-Hybrid ไม่เพียงแต่เพิ่มสมรรถนะเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษ เกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT TCT 9 สปีด ของ GLS 63 ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วและราบรื่น ในขณะที่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AMG Performance 4MATIC+ ช่วยให้การควบคุมและการยึดเกาะที่มั่นใจได้ในสภาพต่างๆ

ภายในห้องโดยสาร GLS 63 เป็นแหล่งรวมความหรูหราและเทคโนโลยี เบาะหนัง Nappa ระดับพรีเมียม การตกแต่งด้วยไม้ที่สร้างด้วยมือ และการตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมขัดเงาสร้างบรรยากาศของความหรูหราและประณีต แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ครองแผงหน้าปัด ให้การเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงมากมาย ผู้โดยสารในแถวที่สองและสามเพลิดเพลินกับพื้นที่และความสะดวกสบายที่กว้างขวาง ด้วยคุณสมบัติเช่น เบาะนั่งปรับอุ่นและปรับอากาศ ระบบควบคุมอุณหภูมิส่วนบุคคล และระบบความบันเทิงสำหรับเบาะหลัง ด้วยการผสมผสานสมรรถนะอันเร้าใจ ความหรูหราที่กว้างขวาง และเทคโนโลยีขั้นสูง Mercedes-AMG GLS 63 จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการที่สุดของความประณีตและความสามารถของ SUV

ราคาและการอัปเดตใหม่: ราคา 2025 AMG GLS63 เริ่มต้นที่ประมาณ 5.3 ล้านบาท (เทียบจาก $147,000) และมีให้เลือกเพียงรุ่นเดียว
นี่คือ SUV ราคาแพงและมาพร้อมอุปกรณ์จัดเต็ม โชคดีที่มีแพ็กเกจ Warmth and Comfort ที่เราแนะนำ ซึ่งมีคุณสมบัติที่เพิ่มความอบอุ่นมากมาย

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง: “GLS 63 สามารถทำให้รถสปอร์ตหลายคันอับอายในทางตรง ในขณะที่ยังคงบรรทุกผู้โดยสารเจ็ดคนได้อย่างสบายสูงสุด” – Motor Trend

2025 Porsche Cayenne
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่สะดวกสบายและเร็ว และยังคงเป็นรถที่ดีที่สุดในกลุ่ม SUV ในด้านการขับขี่

ภาพรวม: 2025 Porsche Cayenne ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา SUV หรูหราที่ให้สมรรถนะเต็มที่ ปีนี้กลุ่มผลิตภัณฑ์ Cayenne มีตัวเลือกระบบส่งกำลังที่หลากหลาย ตั้งแต่เครื่องยนต์ V6 ทรงพลังไปจนถึง Plug-in Hybrid ที่ให้ระยะทางขับขี่ด้วยไฟฟ้าที่น่าประทับใจ แต่เป็นรุ่นที่เน้นสมรรถนะที่จับแก่นแท้ของความเป็นสปอร์ตของ Cayenne ได้อย่างแท้จริง

Cayenne S ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตร ให้กำลัง 434 แรงม้า และแรงบิด 550 นิวตันเมตร ทำให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.7 วินาที (0-60 ไมล์/ชม. ใน 4.7 วินาที) พร้อมเสียงไอเสียที่สปอร์ต Cayenne S ยังได้รับประโยชน์จากระบบช่วงล่างแบบสปอร์ตและเบรกขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มความคล่องตัวและการควบคุม

สำหรับผู้ที่ต้องการความตื่นเต้นยิ่งขึ้น Cayenne GTS ยกระดับสมรรถนะไปอีกขั้น เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ให้กำลัง 493 แรงม้า และแรงบิด 620 นิวตันเมตร ทำให้สามารถทำความเร็ว 100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 4.2 วินาที (0-60 ไมล์/ชม. ใน 4.2 วินาที) GTS ยังมีช่วงล่างที่ต่ำลง ระบบไอเสียแบบสปอร์ต และการออกแบบเฉพาะที่เน้นถึงความเป็นสปอร์ต

รุ่นที่เน้นสมรรถนะเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ Cayenne ในการผสมผสานการใช้งานจริงเข้ากับสมรรถนะอันเร้าใจ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งประณีตและน่าตื่นเต้น ไม่ว่าคุณจะขับขี่ในเมืองหรือขับบนถนนภูเขาที่คดเคี้ยว 2025 Porsche Cayenne มอบการผสมผสานที่ลงตัวของความหรูหราและความสปอร์ตที่จะทำให้ผู้ขับขี่ที่พิถีพิถันที่สุดพึงพอใจ

ราคาและการอัปเดตใหม่: 2025 Porsche Cayenne เริ่มต้นที่ประมาณ 3.1 ล้านบาท (เทียบจาก $86,695) และสูงสุดถึงประมาณ 4.6 ล้านบาท (เทียบจาก $126,895) สำหรับรุ่น GTS
แนะนำให้เลือกรุ่น Cayenne พื้นฐานแล้วเพิ่มแพ็กเกจ Premium และ Sport Chrono
รุ่น GTS 493 แรงม้า เข้าร่วมกลุ่มผลิตภัณฑ์ Cayenne สำหรับปี 2025 เป็นรุ่นที่ยอดเยี่ยม และได้รับเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตรเดียวกับ Cayenne S แต่ได้กำลังเพิ่มขึ้น 25 แรงม้า มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อระบายความร้อนด้วยน้ำและส่วนประกอบช่วงล่างบางส่วนที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงการตอบสนองของพวงมาลัย GTS มาพร้อมแพ็กเกจ Sport Design เป็นมาตรฐาน ซึ่งเพิ่มการตกแต่งภายนอกสีดำทั่วไปและองค์ประกอบการออกแบบเฉพาะของ GTS อื่นๆ

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง: “ยังคงเป็น SUV ที่ดีที่สุดสำหรับนักขับ… โดยห่างไกล”

2025 Porsche Cayenne Coupe Turbo E-Hybrid
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: ยังคงเป็น SUV ที่ดีที่สุดรอบด้านสำหรับการขายในวันนี้

ภาพรวม: 2025 Porsche Cayenne Turbo E-Hybrid เป็น SUV สมรรถนะสูงที่นิยามใหม่ของความทรงพลังและประสิทธิภาพ Plug-in Hybrid คันนี้ผสมผสานเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างลงตัว ส่งผลให้มีกำลังรวมถึง 729 แรงม้า และแรงบิด 950 นิวตันเมตร แปลงเป็นอัตราเร่งที่น่าทึ่ง ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.5 วินาที (0-60 ไมล์/ชม. ใน 3.5 วินาที) ทำให้เป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในตลาด

แต่ Cayenne Turbo E-Hybrid ไม่ได้เป็นเพียงแค่พละกำลังดิบเท่านั้น ยังมีระยะทางขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนที่น่าประทับใจถึง 60 กิโลเมตร (37 ไมล์) ทำให้สามารถเดินทางในเมืองและทำธุระได้โดยปราศจากการปล่อยมลพิษ ระบบไฮบริดผสานเครื่องยนต์เบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าด้วยกันอย่างราบรื่น มอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลและประณีต ไม่ว่าคุณจะขับด้วยพลังงานไฟฟ้าหรือปลดปล่อยพลัง V8 เต็มรูปแบบ Cayenne Turbo E-Hybrid ยังมีระบบช่วงล่างแบบสปอร์ต ระบบช่วงล่างถุงลมแบบปรับได้ และระบบ Porsche’s Active Suspension Management (PASM) เพื่อให้การควบคุมที่ยอดเยี่ยมและการขับขี่ที่สะดวกสบาย

ภายในห้องโดยสาร Cayenne Turbo E-Hybrid มอบสภาพแวดล้อมที่หรูหราและล้ำหน้าทางเทคโนโลยี วัสดุพรีเมียม เช่น หนังและคาร์บอนไฟเบอร์ตกแต่งภายใน ในขณะที่แผงหน้าปัดดิจิทัลโค้งขนาด 12.6 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสกลางขนาด 12.3 นิ้ว ให้การเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงมากมาย

ราคาและการอัปเดตใหม่: ราคา 2025 Cayenne Turbo เริ่มต้นที่ประมาณ 5.7 ล้านบาท (เทียบจาก $158,995)
รถคันนี้มาพร้อมอุปกรณ์ที่ครบครัน เร็วราวกับสายฟ้า และใช้งานได้จริงตั้งแต่แกะกล่อง

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง: “Cayenne เป็นมาตรฐานในกลุ่ม SUV หรูหรา โดยมอบการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างสมรรถนะ ความหรูหรา และความใช้งานได้จริง” – Motor Trend

2025 Porsche Macan / 2025 Porsche Macan EV
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: เหมาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการ SUV ที่สามารถรับมือได้ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวันและการผจญภัยช่วงสุดสัปดาห์ (Macan) และให้ความรู้สึกเหมือน Porsche ในทุกแง่มุม คล่องตัว ตอบสนองได้ดี และขับสนุกอย่างไม่น่าเชื่อ (Macan EV)

ภาพรวม: 2025 Porsche Macan ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา SUV หรูหราขนาดกะทัดรัดที่ให้ความสำคัญกับสมรรถนะและความสนุกในการขับขี่ ในขณะที่รุ่นไฟฟ้ากำลังเป็นที่จับตา Macan ที่ใช้น้ำมันยังคงเป็นตัวเลือกที่เกี่ยวข้องและน่าตื่นเต้น โดยมีรุ่นย่อยที่ตอบสนองความต้องการและความชอบที่แตกต่างกัน

Macan พื้นฐานเริ่มต้นด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบเทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตร ให้กำลัง 261 แรงม้า และแรงบิด 400 นิวตันเมตร ให้กำลังที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการเร่งความเร็ว ในขณะที่ยังคงประหยัดน้ำมัน สำหรับผู้ที่ต้องการความเร้าใจมากขึ้น Macan T เพิ่มความสปอร์ตด้วยระบบช่วงล่างแบบสปอร์ต การออกแบบเฉพาะ และการตอบสนองคันเร่งที่ดีขึ้น

Macan S เพิ่มสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตร ให้กำลัง 375 แรงม้า และแรงบิด 520 นิวตันเมตร ทำให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.6 วินาที (0-60 ไมล์/ชม. ใน 4.6 วินาที) พร้อมเสียงไอเสียที่สปอร์ต Macan S ยังได้รับประโยชน์จากเบรกขนาดใหญ่ขึ้นและระบบช่วงล่างถุงลมแบบปรับได้ที่เป็นอุปกรณ์เสริม ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการควบคุม

ที่จุดสูงสุดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Macan ที่ใช้น้ำมันคือ Macan GTS รุ่นที่เน้นสมรรถนะนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตร ที่ให้กำลังมหาศาล 434 แรงม้า และแรงบิด 550 นิวตันเมตร ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.3 วินาที (0-60 ไมล์/ชม. ใน 4.3 วินาที) GTS มอบสมรรถนะอันเร้าใจที่เทียบเท่ากับรถสปอร์ตบางรุ่น นอกจากนี้ยังมีระบบไอเสียแบบสปอร์ต ช่วงล่างที่ต่ำลง และองค์ประกอบการออกแบบเฉพาะที่เน้นความเป็นสปอร์ต

Porsche Macan EV เป็นรุ่นที่สำคัญสำหรับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมัน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสู่โลกของ SUV ไฟฟ้าสมรรถนะสูง รุ่นใหม่ทั้งหมดนี้สัญญาว่าจะมอบพลวัตการขับขี่และความหรูหราที่ Porsche มีชื่อเสียง แต่มาพร้อมกับความยั่งยืนและเทคโนโลยีขั้นสูง สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม Premium Platform Electric (PPE) Macan EV มีการออกแบบที่เพรียวบางและตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ปรับให้เหมาะสมทั้งสมรรถนะและประสิทธิภาพ เส้นโค้งที่เรียบเนียนและเส้นสายที่ประณีตไม่เพียงแต่เพิ่มความดึงดูดใจทางสายตา แต่ยังช่วยเพิ่มระยะทางขับขี่ที่น่าประทับใจถึง 500 กิโลเมตร (315 ไมล์)

กลุ่มผลิตภัณฑ์ Macan EV มีรุ่นย่อยที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการและความชอบที่แตกต่างกัน รุ่นพื้นฐานมีมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวที่ขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลัง 355 แรงม้า และแรงบิด 560 นิวตันเมตร ให้กำลังที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการเร่งความเร็ว ในขณะที่ยังคงมีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น รุ่น 4S และ Turbo เพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าตัวที่สองที่เพลาหน้า สร้างระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีกำลังและการยึดเกาะที่มากขึ้น รุ่น 4S มีกำลังรวม 509 แรงม้า และแรงบิด 700 นิวตันเมตร ในขณะที่ Turbo ปลดปล่อยกำลังมหาศาลถึง 603 แรงม้า และแรงบิด 1000 นิวตันเมตร ด้วยการกำหนดค่าระดับสูงสุดนี้ Macan EV Turbo สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.1 วินาที (0-60 ไมล์/ชม. ใน 3.1 วินาที) ทำให้เป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในตลาด

ราคาและการอัปเดตใหม่:
2025 Macan ที่ใช้น้ำมัน เริ่มต้นที่ประมาณ 2.3 ล้านบาท (เทียบจาก $64,895) สำหรับรุ่นพื้นฐาน และสูงสุดถึงประมาณ 3.3 ล้านบาท (เทียบจาก $90,995) สำหรับรุ่น GTS
เลือก GTS ได้เลย เพราะอีกไม่นานเราก็อาจจะไม่ได้เห็น Macan ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในแล้ว ดังนั้นควรเลือกรุ่นที่ดีที่สุด

2025 Porsche Macan EV เริ่มต้นที่ประมาณ 2.8 ล้านบาท (เทียบจาก $77,295) สำหรับรุ่นพื้นฐาน และสูงสุดถึงประมาณ 3.9 ล้านบาท (เทียบจาก $107,295) สำหรับรุ่น Turbo
รุ่น Turbo จะเป็นตัวเลือกส่วนตัวของผม แต่ราคาสูงถึงเกือบ 4 ล้านบาท ดังนั้นเราจะเลือก 4S ที่ให้กำลัง 442 แรงม้า

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง:
(Macan GTS) “Macan GTS เป็น SUV ที่เร็วอย่างจริงจัง รู้สึกเร็วกว่าตัวเลขที่บ่งบอกไว้มาก ต้องขอบคุณเครื่องยนต์ที่ตอบสนองได้ดีและการควบคุมที่เฉียบคม” – Car and Driver
(Macan EV) “จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำและแชสซีที่สมดุลของ Macan EV ทำให้มีความสามารถในการควบคุมที่น่าประทับใจ” – Road & Track

2025 Rolls-Royce Cullinan
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: สัญลักษณ์แห่งความสำเร็จและความพิเศษเฉพาะตัว เป็นสัญลักษณ์ที่แท้จริงของการมาถึงอย่างมีสไตล์

ภาพรวม: 2025 Rolls-Royce Cullinan ซึ่งเป็นรถ SUV สุดหรูรุ่นแรกของแบรนด์ ยังคงนิยามใหม่ของความหรูหราแบบออฟโรด รถยนต์ที่สง่างามคันนี้ ซึ่งตั้งชื่อตามเพชรที่ใหญ่ที่สุดที่เคยค้นพบ ผสมผสานฝีมืออันเป็นเอกลักษณ์ของ Rolls-Royce และพละกำลังที่ง่ายดายเข้ากับรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและความสามารถที่น่าประหลาดใจ สำหรับปี 2025 Cullinan ได้รับการปรับปรุงที่ละเอียดอ่อนแต่มีผลกระทบ ซึ่งตอกย้ำตำแหน่งสูงสุดของความหรูหราของ SUV

การออกแบบภายนอกของ Cullinan ได้รับการปรับแต่งอย่างละเอียดอ่อนด้วยกันชนหน้าที่ออกแบบใหม่พร้อมช่องรับอากาศที่ลาดเอียง สร้างรูปลักษณ์ที่ไดนามิกและมุ่งมั่นยิ่งขึ้น กระจังหน้า Pantheon อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นจุดเด่นของ Rolls-Royce ปัจจุบันมีไฟส่องสว่าง เพิ่มความสง่างามที่ทันสมัย ล้อขนาด 23 นิ้วใหม่ ซึ่งผลิตจากอะลูมิเนียมชิ้นเดียว ช่วยเพิ่มความสง่างามของ Cullinan ภายในห้องโดยสาร Cullinan ยังคงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งความหรูหราตามสั่ง ด้วยรายละเอียดที่สร้างด้วยมือ วัสดุที่ดีที่สุด และระดับการปรับแต่งที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่พิถีพิถันที่สุด ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสความละเอียดสูงใหม่พร้อมฟังก์ชันและการเชื่อมต่อที่ได้รับการปรับปรุง ผสานรวมเข้ากับแผงหน้าปัดที่สร้างด้วยมือของ Cullinan ได้อย่างราบรื่น

ใต้ฝากระโปรง Cullinan ยังคงใช้เครื่องยนต์ V12 ทวินเทอร์โบ 6.75 ลิตรที่ทรงพลัง ซึ่งมอบพลังที่ไหลลื่นอย่างต่อเนื่องที่ขับเคลื่อน SUV สุดหรูคันนี้ไปข้างหน้าได้อย่างง่ายดาย ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและเทคโนโลยีช่วงล่างขั้นสูงช่วยให้การขับขี่ที่นุ่มนวลและควบคุมได้ดี แม้บนภูมิประเทศที่ท้าทาย ไม่ว่าคุณจะขับขี่ในเมืองหรือเดินทางออกนอกเส้นทาง 2025 Rolls-Royce Cullinan มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่มีใครเทียบได้ ซึ่งผสมผสานพละกำลังที่ง่ายดาย ความสะดวกสบายอันเงียบสงบ และความหรูหราตามสั่ง

ราคาและการอัปเดตใหม่: 2025 Rolls-Royce Cullinan เริ่มต้นที่ประมาณ 14.3 ล้านบาท (เทียบจาก $392,000) สำหรับรุ่นพื้นฐาน ในขณะที่ Black Badge อยู่ที่ประมาณ 16.5 ล้านบาท (เทียบจาก $454,000)
เลือกออปชั่นได้อย่างเต็มที่ นี่คือ Rolls-Royce
Rolls-Royce ระบุการอัปเดตเล็กน้อยสำหรับ 2025 Cullinan โดยเพิ่มคำต่อท้าย “II” ในชื่อ แต่การเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่เป็นเพียงเครื่องสำอางและเกี่ยวข้องกับอินเทอร์เฟซผู้ใช้

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง: “Cullinan เป็นรถสำหรับผู้ที่ต้องการที่สุดของความหรูหราและความสามารถ” – CNET Roadshow

2025 Range Rover
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: Range Rover จะพาคุณไปถึงจุดหมายอย่างสบายและมีสไตล์

ภาพรวม: Range Rover รุ่นปัจจุบันในรุ่นที่ห้า เป็นการผสมผสานที่ยอดเยี่ยมของความหรูหรา ความสามารถ และเทคโนโลยี เป็นรถที่สามารถเดินทางในป่าคอนกรีตได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่ยังคงมั่นใจได้อย่างยิ่งเมื่อเดินทางนอกเส้นทาง รุ่นล่าสุดนี้ เปิดตัวในปี 2022 ยังคงรักษารูปทรงคลาสสิกของ Range Rover ด้วยรูปลักษณ์ที่ตั้งตรงและหลังคาแบบลอยอันเป็นเอกลักษณ์ แต่มีการนำเสนอดีไซน์ที่ทันสมัยและเรียบง่ายที่แสดงออกถึงความซับซ้อน

ภายใน Range Rover เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งความประณีต วัสดุพรีเมียม เช่น หนังนุ่ม แผ่นไม้วีเนียร์แท้ และการตกแต่งโลหะที่สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันตกแต่งห้องโดยสาร ภายในที่กว้างขวางมอบความสบายที่ไม่มีใครเทียบได้สำหรับผู้โดยสารทุกคน พร้อมเบาะหลัง Executive Class ที่ให้การเอนนอนสไตล์เครื่องบินและฟังก์ชันการนวด เทคโนโลยีล้ำสมัยถูกผสานรวมเข้าด้วยกันอย่างราบรื่น ตั้งแต่ระบบอินโฟเทนเมนต์ Pivi Pro ที่ใช้งานง่ายพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ ไปจนถึงคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบาย

นอกเหนือจากการตกแต่งที่หรูหราแล้ว Range Rover ยังคงรักษาความเป็นต้นกำเนิดในฐานะเครื่องจักรออฟโรดที่มีความสามารถอย่างยอดเยี่ยม ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อขั้นสูง เทคโนโลยี Terrain Response 2 และระบบช่วงล่างถุงลมที่มีให้เลือกช่วยให้สามารถพิชิตภูมิประเทศที่ท้าทายได้อย่างง่ายดาย ตัวเลือกระบบส่งกำลังที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพ รวมถึง Mild Hybrid, Plug-in Hybrid และ V8 อันทรงพลัง ช่วยให้มั่นใจถึงสมรรถนะที่ง่ายดายในทุกสถานการณ์ Range Rover เป็นตัวอย่างที่ดีของ SUV หรูหรา โดยมอบการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของความสง่างามที่ประณีตและความสามารถที่ทนทาน

ราคาและการอัปเดตใหม่: ราคา 2025 Land Rover Range Rover เริ่มต้นที่ประมาณ 3.9 ล้านบาท (เทียบจาก $109,525) และสูงสุดถึงประมาณ 7.6 ล้านบาท (เทียบจาก $210,625) ขึ้นอยู่กับการตกแต่งและออปชั่น
เราแนะนำให้เลือกรุ่น Autobiography ระดับกลาง ซึ่งเพิ่มคุณสมบัติที่น่าสนใจหลายอย่างที่ผู้ซื้อรถหรูจะชื่นชอบ

สิ่งที่นักวิจารณ์กล่าวถึง: “ความสะดวกสบายระดับสูงมาก ตัวเลือกเครื่องยนต์และการปรับแต่งมากมาย ภายในหรูหรา” – Car and Driver

สุดยอด SUV สมรรถนะสูงประจำปี 2025: ตัวเลือกที่นักขับต้องไม่พลาด

หลังจากที่เราได้สำรวจสุดยอด SUV สมรรถนะสูงและหรูหราสำหรับปี 2025 ไปแล้ว ถึงเวลาที่เราจะมาสรุปตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุด ซึ่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าและยังคงคุณค่าในตลาดได้อย่างยอดเยี่ยม

2025 Porsche Macan GTS: ราชาแห่งกลุ่ม Compact SUV สมรรถนะสูง

เหตุผลที่ Macan GTS คือหนึ่งใน SUV สมรรถนะสูงที่ดีที่สุด:
สำหรับผม Macan GTS ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ในกลุ่ม Compact SUV ที่เน้นสมรรถนะ มันคือรถที่รวบรวมจิตวิญญาณของ Porsche ได้อย่างแท้จริง มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งเร้าใจและประณีต ใต้ฝากระโปรงของ Macan GTS คือเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตรที่ได้รับการปรับแต่งมาอย่างเชี่ยวชาญ ปล่อยกำลังสูงสุด 434 แรงม้า และแรงบิด 550 นิวตันเมตร ซึ่งสามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 4.3 วินาที พร้อมเสียงคำรามของท่อไอเสียที่กระตุ้นอะดรีนาลีนในทุกครั้งที่กดคันเร่ง

สิ่งที่ทำให้ Macan GTS โดดเด่นคือการควบคุมที่คล่องตัวและความแม่นยำที่ท้าทายสัดส่วนของ SUV มันรู้สึกเบา คล่องแคล่วในการเปลี่ยนทิศทาง และยึดเกาะถนนได้อย่างน่าทึ่งในทุกโค้ง ระบบช่วงล่างแบบสปอร์ต (พร้อมระบบถุงลมเป็นอุปกรณ์เสริม) และพวงมาลัยที่ตอบสนองได้เฉียบคม สร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ชวนให้นึกถึงรถ Hot Hatch มากกว่า SUV ที่สูง Car and Driver ยังได้กล่าวไว้ว่า “เบาะนั่งแบบสปอร์ตของ GTS รองรับและสบาย แม้ในขณะขับขี่แบบสปอร์ต” โดยรวมแล้ว Macan GTS คือแพ็กเกจที่สมบูรณ์แบบที่ผสมผสานสมรรถนะ ความหรูหรา และความใช้งานได้จริงได้อย่างลงตัว

2025 Audi SQ7: SUV อเนกประสงค์ที่ยอดเยี่ยม หรูหรา เร็ว และมีสไตล์

เหตุผลที่ Audi SQ7 คือหนึ่งใน SUV สมรรถนะสูงที่ดีที่สุด:
Audi SQ7 ผสมผสานความหรูหรา ความใช้งานได้จริง และสมรรถนะที่น่าตื่นเต้นเข้าไว้ด้วยกันในแพ็กเกจ SUV เจ็ดที่นั่งที่กว้างขวาง หัวใจของมันคือเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ที่ให้กำลัง 503 แรงม้า และแรงบิด 770 นิวตันเมตร ได้รับการยกย่องว่ามี “พลังระเบิด” และ “เสียงเครื่องยนต์ที่เร้าใจ” จากนักวิจารณ์อย่าง Edmunds และ Top Gear ที่ชื่นชม “อัตราเร่งที่รุนแรง” และ “สมรรถนะที่ง่ายดาย”

แม้จะเน้นที่สมรรถนะ แต่ SQ7 ก็ยังมอบ “การควบคุมที่นุ่มนวล” และ “คุณภาพการขับขี่ที่สะดวกสบาย” อย่างไม่น่าเชื่อ Car and Driver สรุปว่า “SQ7 ผสมผสานสมรรถนะมหาศาลและความใช้งานได้จริงของ SUV เข้าไว้ด้วยกันในแพ็กเกจที่ตกแต่งอย่างดีและเหมาะสำหรับครอบครัว” มันคือรถที่สามารถเป็นได้ทั้งรถครอบครัวสุดหรูในวันธรรมดา และสัตว์ร้ายที่พร้อมพาคุณไปสนุกสุดเหวี่ยงในวันหยุดสุดสัปดาห์

อนาคตของ SUV สมรรถนะสูงยังคงสดใสและเต็มไปด้วยนวัตกรรมที่ไม่หยุดยั้ง

จากบทความนี้ เราได้เห็นแล้วว่าโลกของ SUV สมรรถนะสูงและหรูหราในปี 2025 นั้นเต็มไปด้วยตัวเลือกที่น่าตื่นเต้นและหลากหลาย ไม่ว่าคุณจะมองหารถที่เน้นสมรรถนะสูงสุดราวกับซูเปอร์คาร์ แต่ยังคงใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน หรือรถที่ผสมผสานความหรูหราสง่างามเข้ากับขุมพลังที่เหลือเชื่อ คุณก็สามารถพบ SUV ในฝันของคุณได้อย่างแน่นอน แบรนด์ต่างๆ ยังคงผลักดันขีดจำกัดด้านวิศวกรรม นำเสนอเทคโนโลยีไฮบริดและไฟฟ้าที่ก้าวล้ำ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งเร้าใจและยั่งยืน

ในฐานะนักขับผู้คลั่งไคล้ การเลือก SUV สักคันไม่ใช่แค่การตัดสินใจซื้อรถยนต์ แต่เป็นการเลือกคู่หูที่จะร่วมเดินทางไปกับคุณในทุกเส้นทาง ด้วยข้อมูลเชิงลึกที่เรามอบให้ หวังว่าคุณจะสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ เพื่อครอบครอง SUV ที่ไม่ใช่แค่พาคุณจากจุด A ไปจุด B แต่ยังมอบความสุข ความตื่นเต้น และความภาคภูมิใจในทุกครั้งที่อยู่หลังพวงมาลัย

อย่ารอช้า! หากคุณพร้อมที่จะสัมผัสประสบการณ์สุดยอดของ SUV สมรรถนะสูงแห่งปี 2025 หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อค้นหารถที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณ โปรดติดต่อผู้เชี่ยวชาญของเราวันนี้ เพื่อเริ่มต้นการเดินทางที่น่าตื่นเต้นของคุณ!

Previous Post

N0411569 คนว นจ นทร EP1 part 2

Next Post

N0411565 าแม ตายไป EP3 part 2

Next Post
N0411565 าแม ตายไป EP3 part 2

N0411565 าแม ตายไป EP3 part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N0411563 หลอยผ วมาต วอ าย EP1 part 2
  • N0411126 จะได ณค าและความลำบากในการใช เง part 2
  • N0411120 การด แลต วเองหล งคลอด part 2
  • N0411125 องการคนร กเม อตอนท กคนไม องการ part 2
  • N0411124 ความค ดครอบคร วผ วเต าล านป part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.