• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N0411561 มส งสำค EP2 part 2

admin79 by admin79
November 3, 2025
in Uncategorized
0
N0411561 มส งสำค EP2 part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

สุดยอดรถ SUV หรูและสมรรถนะสูงแห่งปี 2025: คู่มือสำหรับผู้หลงใหลความเร็วและสไตล์

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการอันน่าทึ่งของตลาดรถยนต์ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา รถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) ได้ผงาดขึ้นมาเป็นตัวเอกอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่รถสำหรับครอบครัวที่เน้นประโยชน์ใช้สอยอีกต่อไป แต่ได้แปรเปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหรา นวัตกรรม และที่สำคัญที่สุดคือ “สมรรถนะอันเร้าใจ” ในปี 2025 นี้ รถ SUV ไม่ได้เป็นเพียงพาหนะที่พาคุณไปถึงจุดหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีที่แบรนด์ยานยนต์ชั้นนำทั่วโลกได้แสดงศักยภาพสูงสุด โดยผสานความอเนกประสงค์เข้ากับความตื่นเต้นเร้าใจในการขับขี่ได้อย่างไร้ที่ติ

สำหรับผู้ที่มองหามากกว่าแค่การเดินทางจากจุด A ไปจุด B สำหรับผู้ที่ปรารถนาประสบการณ์ขับขี่อันเร้าใจ แรงบันดาลใจจากสนามแข่ง และความสะดวกสบายไร้ที่ติ คู่มือนี้จะนำเสนอสุดยอด รถ SUV หรูและสมรรถนะสูง ที่พร้อมจะตอบสนองทุกความต้องการของคุณในปี 2025 เราจะเจาะลึกถึงรุ่นต่างๆ ที่โดดเด่นในตลาด ตั้งแต่สัตว์ร้ายแห่งสนามแข่งที่หรูหรา ไปจนถึงจรวดหรูหราบนท้องถนน และนักรบออฟโรดผู้แข็งแกร่ง ไม่ว่าความฝันของคุณจะเป็นอย่างไร มี SUV สมรรถนะสูง คันหนึ่งที่รอคุณอยู่แน่นอน

อุตสาหกรรมยานยนต์ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา โดยมีรถยนต์อเนกประสงค์หรือ SUV เข้ามาครองตลาดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ปัจจุบัน SUV กลายเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินชีวิตประจำวัน เป็นการสะท้อนถึงรสนิยมและความต้องการของสังคมยุคใหม่ แม้ว่าประโยชน์ใช้สอยจะยังคงเป็นจุดเด่นหลักของ SUV แต่ภาพลักษณ์ที่เคยถูกผูกติดกับคำว่า “รถแม่บ้าน” ก็ได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เมื่อทั้งตลาด SUV และฐานลูกค้าได้พัฒนาขึ้น ความต้องการ รถ SUV สปอร์ต และรุ่นสมรรถนะสูงก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

สิ่งนี้กระตุ้นให้แบรนด์หรูและแบรนด์สมรรถนะสูงระดับโลกหันมาให้ความสนใจอย่างจริงจัง เพื่อตอบสนองความต้องการรถ SUV ที่เร็วขึ้น ดีขึ้น และมีสไตล์เย้ายวนยิ่งขึ้น ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ทุกรายต่างตระหนักดีว่าความสำเร็จในตลาดนี้ได้กลายเป็นแหล่งรายได้มหาศาลให้กับพวกเขา แม้แต่แบรนด์สุดพิเศษและหายากอย่าง Lamborghini และ Ferrari ก็ยังกระโดดเข้ามาร่วมวงเพื่อชิงส่วนแบ่ง

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การกล่าวว่ายอดขาย SUV ได้กลายเป็น “ขนมปังและเนย” ของบริษัทเหล่านี้คงไม่ใช่เรื่องเกินจริง แม้แต่ผู้คลั่งไคล้รถสปอร์ตตัวยงก็ไม่ควรมองข้ามข้อเท็จจริงนี้ เพราะอะไรน่ะหรือ? ประการแรก ผลกำไรมหาศาลมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการที่บริษัทเหล่านี้จะยังคงสามารถ “แบงค์โรล” โครงการที่สนุกสนานต่อไปได้ นั่นคือการพัฒนาและผลิตรถสปอร์ตที่พวกเขาเป็นที่รู้จักมากที่สุด กระบวนการนี้จะวนเวียนกลับมาเป็นวงจรที่สมบูรณ์ เมื่อเทคโนโลยีของซูเปอร์คาร์และรถสมรรถนะสูงได้ถูกนำมาปรับใช้กับ SUV ซึ่งขยายตลาดเป้าหมายไปยังผู้ซื้อในวงกว้างกว่าเดิม ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้เห็น รถ SUV ระดับไฮเอนด์ ที่น่าทึ่งมากมายในช่วงที่ผ่านมา และยังมีอีกหลายรุ่นที่กำลังจะเปิดตัวในอนาคตอันใกล้

ในบทความนี้ เราได้รวบรวม รถ SUV ประสิทธิภาพสูงรุ่นล่าสุดปี 2025 ที่เน้นความสปอร์ตเป็นหลัก ซึ่งคุณสามารถเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ขับขี่ที่เหนือระดับ

SUV สมรรถนะสูงและหรูหราประจำปี 2025: ตัวเลือกและราคา

ปี 2025 นี้ไม่ได้มีรถรุ่นใหม่ที่พลิกโฉมวงการมากมายนัก ส่วนใหญ่เป็นการอัปเดตเล็กน้อยสำหรับรุ่นที่มีอยู่เดิม แต่ถึงกระนั้น แต่ละรุ่นก็ยังคงมอบประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมาย

2025 Alfa Romeo Stelvio Quadrifoglio

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่มอบความสนุกในการขับขี่มากที่สุดในตลาดอย่างแท้จริง
ภาพรวม: Alfa Romeo Stelvio Quadrifoglio คือ รถ SUV ประสิทธิภาพสูงสัญชาติอิตาลี ที่อัดฉีดความหลงใหลในการขับขี่เข้าสู่เซกเมนต์ที่มักจะถูกครอบงำด้วยความสมเหตุสมผลแบบเยอรมัน มันโดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตรที่พัฒนามาจาก Ferrari ให้กำลัง 505 แรงม้า พุ่งทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.6 วินาที (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) ด้วยเสียงคำรามของท่อไอเสียที่เร่งเร้าหัวใจนักขับ

แต่ Stelvio Quadrifoglio เป็นมากกว่าจรวดทางตรง แชสซีที่ปรับแต่งมาอย่างพิถีพิถัน พวงมาลัยที่ตอบสนองฉับไว และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่เน้นสมรรถนะ มอบการควบคุมที่ยอดเยี่ยมและความคล่องตัว ทำให้การขับขี่บนถนนที่คดเคี้ยวเป็นเรื่องสนุกอย่างแท้จริง ระบบเบรก Brembo ให้พลังการหยุดที่มั่นใจได้ ช่วยให้คุณควบคุมพละกำลังทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์ การออกแบบภายนอกผสมผสานความสง่างามและความดุดัน ด้วยการปรับปรุงอากาศพลศาสตร์ที่ละเอียดอ่อนและปลายท่อไอเสียสี่ท่อที่บ่งบอกถึงสมรรถนะอันทรงพลังที่อยู่ภายใน

ภายในห้องโดยสารของ Stelvio Quadrifoglio นำเสนอความสปอร์ตแต่หรูหรา เบาะนั่งสปอร์ตที่รองรับสรีระ พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ขนาดใหญ่ และการตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ สร้างสภาพแวดล้อมที่มุ่งเน้นผู้ขับขี่เป็นหลัก แม้ว่าภายในอาจจะไม่ได้ล้ำหน้าทางเทคโนโลยีเท่าคู่แข่งบางราย แต่ก็ให้ความสำคัญกับประสบการณ์การขับขี่เหนือสิ่งอื่นใด ด้วยการผสมผสานสมรรถนะที่เร้าใจ สไตล์อิตาเลียน และการใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน Stelvio Quadrifoglio จึงโดดเด่นในฐานะตัวเลือกที่ไม่เหมือนใครและน่าดึงดูดในกลุ่ม SUV สมรรถนะสูง
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: 2025 Alfa Romeo Stelvio Quadrifoglio ไม่ใช่รถราคาถูก เริ่มต้นที่ประมาณ 94,965 ดอลลาร์สหรัฐฯ และสูงถึง 96,625 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและออปชั่นต่างๆ หากคุณมองหาความคุ้มค่าสูงสุด รุ่นพื้นฐานพร้อมแพ็คเกจ Carbon ที่แต่งกระจกมองข้างและกระจังหน้าทรง V ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว ส่วนรุ่น 100th Anniversario เป็นเพียงการปรับแต่งสไตล์ซึ่งอาจไม่คุ้มค่ากับการลงทุนเพิ่มเติมนัก
เสียงจากนักวิจารณ์: “Stelvio Quadrifoglio คือความสนุกที่แท้จริงในการขับขี่ เป็น SUV สมรรถนะสูง ที่สามารถเข้าโค้งด้วยความคล่องตัวของรถสปอร์ต แต่ยังคงใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน เครื่องยนต์คือผลงานชิ้นเอกที่มอบอัตราเร่งที่เร้าใจและเสียงเพลงที่จะทำให้คุณอยากหาข้ออ้างในการขับรถไปเรื่อยๆ” – Car and Driver

2025 Aston Martin DBX

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ไม่เหมือนใคร หรูหรา และน่าตื่นเต้น พร้อมสมรรถนะที่แข็งแกร่ง
ภาพรวม: สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรมใหม่ทั้งหมด DBX ได้รับการออกแบบมาเพื่อพาผู้โดยสารเดินทางในสไตล์ Aston Martin อย่างแท้จริง อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล่าสุดเพื่อความปลอดภัย DBX มอบความสะดวกสบาย ความหรูหราอย่างฟุ่มเฟือย และจะสร้างความตื่นเต้นให้กับคุณตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณนั่งหลังพวงมาลัย ด้วยโครงสร้างอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาและพัฒนาโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ DBX จึงขับขี่ได้ไม่เหมือน SUV หรู รุ่นอื่นๆ ยานยนต์ระดับสูงคันนี้ขับขี่ได้เหมือนรถสปอร์ต

สำหรับปี 2025 Aston Martin DBX กลับมาในฐานะ SUV เรือธงของแบรนด์ รถยนต์หรูหราสมรรถนะสูงที่ผสมผสานพลวัตการขับขี่อันน่าตื่นเต้นเข้ากับงานฝีมืออันประณีตและเทคโนโลยีล้ำสมัย สำหรับปี 2025 Aston Martin ได้ทำการปรับปรุงที่สำคัญ โดยเน้นการยกระดับภายในและปรับปรุงรุ่นย่อย การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดคือการยกเลิกรุ่น DBX มาตรฐาน เหลือเพียงรุ่น DBX707 ที่เน้นสมรรถนะสูง การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Aston Martin ในการมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริงในกลุ่ม SUV ของพวกเขา

ใต้ฝากระโปรง DBX707 มีเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตรที่ประกอบด้วยมือจาก Mercedes-AMG แต่ได้รับการปรับแต่งให้มีกำลังถึง 697 แรงม้า และแรงบิด 663 ปอนด์-ฟุต เครื่องยนต์อันทรงพลังนี้จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดพร้อมคลัตช์เปียกแทนทอร์คคอนเวอร์เตอร์แบบเดิม ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วปานสายฟ้าแลบ และมีส่วนช่วยให้ DBX707 มีสมรรถนะที่น่าประทับใจ สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.1 วินาที ทำให้เป็น SUV ที่เร็วที่สุด รุ่นหนึ่งในตลาด DBX707 ยังมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อพร้อมเฟืองท้ายหลังแบบลิมิเต็ดสลิปอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยให้มั่นใจถึงการยึดเกาะและการควบคุมที่ยอดเยี่ยมในทุกสภาพการขับขี่

ระบบอินโฟเทนเมนต์ใหม่นำเสนออินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายขึ้นและฟังก์ชันการทำงานที่ได้รับการปรับปรุง รวมถึง Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ภายในห้องโดยสารถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยวัสดุที่ดีที่สุด รวมถึงหนังเนื้อนุ่ม การตกแต่งด้วยการเย็บมือ และคาร์บอนไฟเบอร์ สร้างบรรยากาศที่หรูหราและประณีต
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: ราคาของ 2025 Aston Martin DBX เริ่มต้นที่ 253,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และสูงถึง 256,086 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นพื้นฐานหรือ 707 คุณสามารถปรับแต่ง DBX ได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านบริการ Q customization ของ Aston Martin ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่หรูหราและเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง
เสียงจากนักวิจารณ์: “เป็นรถที่ยากจะตัดสินใจ… DBX มอบสิ่งที่แตกต่าง… มันดูน่าสนใจ ขับขี่ได้ดีจริงๆ และตรงตามเป้าหมายทุกประการ… รุ่น 707 เป็นรุ่นที่น่าสนใจจริงๆ ใช่ มันเร็วและดุดันกว่าเมื่อถูกเร่ง แต่เมื่อคุณผ่อนคันเร่ง มันก็สะดวกสบายและไม่เรียกร้องอะไรเลยเหมือนกับรถทั่วไป” – Top Gear

2025 Audi SQ5

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่สะดวกสบายและรวดเร็ว
ภาพรวม: SQ5 รุ่นก่อนหน้าวางจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2018 และแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงในปี 2024 แต่สำหรับปี 2025 เราจะได้สัมผัสกับ SQ5 โฉมใหม่ทั้งหมด 2025 Audi SQ5 คือ รถ SUV หรูขนาดเล็ก ที่ผสมผสานสมรรถนะ เทคโนโลยี และสไตล์เข้าไว้ในแพ็คเกจที่สมบูรณ์แบบ ด้วยการออกแบบที่สดใหม่ SQ5 มีภายนอกที่เฉียบคมขึ้น โดดเด่นด้วยไฟหน้า Matrix LED ใหม่ กระจังหน้าที่ปรับปรุงใหม่ และกันชนหน้าและหลังที่ได้รับการอัปเดต ใต้ฝากระโปรง เครื่องยนต์ V6 เทอร์โบชาร์จ 3.0 ลิตร ให้กำลัง 349 แรงม้า และแรงบิด 369 ปอนด์-ฟุต มอบอัตราเร่งที่เร้าใจและประสบการณ์การขับขี่ที่สปอร์ต

ภายในห้องโดยสาร SQ5 มอบสภาพแวดล้อมระดับพรีเมียมด้วยวัสดุคุณภาพสูงและเทคโนโลยีล้ำสมัย ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้วพร้อมอินเทอร์เฟซ MMI touch ของ Audi ครองคอนโซลกลาง ในขณะที่หน้าจอแสดงผลข้อมูลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้วมอบข้อมูลที่ปรับแต่งได้แก่ผู้ขับขี่ SQ5 ยังมาพร้อมกับชุดคุณสมบัติด้านความช่วยเหลือผู้ขับขี่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ระบบเตือนการออกนอกเลน และระบบตรวจสอบจุดบอด

สำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่ที่ไดนามิกยิ่งขึ้น SQ5 มีแพ็คเกจ Sport ที่เป็นตัวเลือก ซึ่งรวมถึงโช้คอัพแบบปรับได้ ระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต และเฟืองท้ายหลังแบบสปอร์ต ด้วยการผสมผสานสมรรถนะ ความหรูหรา และเทคโนโลยี 2025 Audi SQ5 จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ขับขี่ที่มองหา SUV คอมแพกต์ระดับพรีเมียม ที่สามารถรองรับทั้งการเดินทางในชีวิตประจำวันและการขับขี่ที่เร้าใจ

สำหรับปี 2025 Audi ได้ตัดสินใจที่จะวางขาย SQ5 รุ่นปัจจุบันควบคู่ไปกับรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดา โดย SQ5 รุ่นใหม่มีการออกแบบทั้งภายในและภายนอกใหม่ทั้งหมด และเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบ 3.0 ลิตรก็เพิ่มกำลังเป็น 362 แรงม้า ซึ่งเพิ่มขึ้น 13 แรงม้าจากรุ่นเดิม – และมากกว่าเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบสี่สูบของ Q5 รุ่นใหม่ถึง 94 แรงม้า นอกจากนี้ SQ5 ที่เน้นความสปอร์ตยังคงมีคุณสมบัติอัปเดตอื่นๆ ของ Q5 ปี 2025 รวมถึงการตกแต่งภายนอกและภายในที่สดใหม่ โดยเน้นการผสมผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ากับความหรูหราแบบดั้งเดิมของ Audi รวมถึงตัวเลือกเบาะและวัสดุตกแต่งที่หลากหลาย
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: 2025 Audi SQ5 (รุ่นใหม่) เริ่มต้นที่ประมาณ 59,695 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นราคาที่สูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นปี 2024 รุ่น Premium Plus เป็นการผสมผสานที่ดีที่สุดระหว่างราคาและออปชั่นเสมอมา และยังคงเป็นเช่นนั้นสำหรับปี 2025 โปรดทราบว่าการออกแบบใหม่จะวางขายควบคู่ไปกับการออกแบบเดิมตลอดปี 2025
เสียงจากนักวิจารณ์: “SQ5 เป็น SUV สมรรถนะสูง ที่สมบูรณ์แบบ มอบความสะดวกสบายและพละกำลัง แต่ไม่ได้มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจที่สุด” – Motor Trend

2025 Audi SQ7

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: SUV สำหรับครอบครัวที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสมรรถนะ
ภาพรวม: 2025 Audi SQ7 คือ SUV หรูหรา ที่ผสมผสานสมรรถนะ ประโยชน์ใช้สอย และสไตล์เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ใต้ฝากระโปรง คุณจะพบเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร อันทรงพลัง ให้กำลังถึง 500 แรงม้า และแรงบิด 568 ปอนด์-ฟุต ซึ่งทำให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 3.8 วินาที (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro อันเป็นเอกลักษณ์ของ Audi ทำให้ SQ7 มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ไดนามิก เหมาะสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวันและการขับขี่สุดสัปดาห์ที่เร้าใจ

นอกเหนือจากสมรรถนะแล้ว SQ7 ยังมีภายในที่กว้างขวางและประณีต ด้วยเบาะนั่งสามแถว สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดเจ็ดคน ห้องโดยสารถูกสร้างสรรค์อย่างพิถีพิถันด้วยวัสดุระดับพรีเมียม และมาพร้อมกับเทคโนโลยีมากมาย รวมถึงระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบเสียง Bang & Olufsen 3D SQ7 ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยด้วยคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ระบบเตือนการออกนอกเลน และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ

ในด้านรูปลักษณ์ SQ7 โดดเด่นจาก Q7 มาตรฐานด้วยการออกแบบที่สปอร์ตแต่ละเอียดอ่อน ซึ่งรวมถึงกันชนหน้าที่ได้รับการปรับปรุงพร้อมช่องดักอากาศขนาดใหญ่ขึ้น การออกแบบกระจังหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ ปลายท่อไอเสียสี่ท่อ และตัวเลือกล้อที่โดดเด่น ด้วยเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง ภายในที่หรูหรา และเทคโนโลยีขั้นสูง 2025 Audi SQ7 จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในกลุ่ม SUV หรูหรา

Audi ได้เปิดเผยรุ่น Q7 และ SQ7 ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่สำหรับรุ่นปี 2025 โดยมีการเปลี่ยนแปลงที่กันชนหน้าและหลังใหม่ พร้อมกระจังหน้าปรับรูปทรง ไฟหน้าสูงขึ้น และไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบใหม่ สปอยเลอร์หน้าใหม่และช่องดักอากาศกรอบสี ส่วนด้านหลังมีดิฟฟิวเซอร์ใหม่และไฟท้ายที่ได้รับการปรับปรุง ตัวเลือกสีตัวถังปัจจุบันรวมถึง Sakhir Gold, Ascari Blue และ Chili Red รวมถึงตัวเลือกเบาะและวัสดุตกแต่งไม้/โลหะใหม่ นอกจากนี้ยังมีการออกแบบล้อใหม่และการอัปเกรดอินโฟเทนเมนต์ รวมถึงการผสานแอปพลิเคชันใหม่ๆ
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: ราคาของ 2025 Audi SQ7 ที่ได้รับการอัปเดตใหม่ยังไม่กำหนด แต่คาดว่าจะเริ่มต้นที่ประมาณ 93,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และสูงถึง 98,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย ด้วยความแตกต่างเล็กน้อยระหว่าง Premium Plus และ Prestige การเลือกรุ่น Prestige จึงสมเหตุสมผลกว่า โดยจะเพิ่ม Head-Up Display, ประตูแบบ Soft-Close ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า และแพ็คเกจ Executive (กระจกข้างสองชั้น, เบาะหลังปรับอุ่น, เบาะหน้าปรับอากาศ และอื่นๆ)
เสียงจากนักวิจารณ์: “SQ7 ผสมผสานสมรรถนะระดับเมกะกับประโยชน์ใช้สอยของ SUV ในแพ็คเกจที่ตกแต่งอย่างดีและอเนกประสงค์ เหมาะสำหรับครอบครัว” – Car and Driver

2025 Audi SQ8

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: สวยงามน่าทึ่ง เป็นตัวเลือกที่มั่นคงและปลอดภัย
ภาพรวม: Audi SQ8 ห้าที่นั่งผสมผสานการออกแบบสไตล์คูเป้ที่เพรียวบางเข้ากับความอเนกประสงค์ของ SUV ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร ให้กำลัง 500 แรงม้า ส่งกำลังไปยังล้อทั้งสี่ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และคู่แข่งได้แก่ BMW X6 และ Land Rover Range Rover Velar มันใกล้เคียงกับสมรรถนะของ RSQ8 และมีราคาถูกกว่ามาก ทำให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดในภาพรวมจากกลุ่ม Audi SUV สมรรถนะสูง

เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับ SQ7 ยังคงได้รับการยกย่องในเรื่อง “พละกำลังอันระเบิด” และ “เสียงคำรามที่เร้าใจ” Car and Driver ตั้งข้อสังเกตว่า 503 แรงม้า และ 568 ปอนด์-ฟุต ของแรงบิดให้ “อัตราเร่งที่โหดร้าย” ในขณะที่ Top Gear ชื่นชม “สมรรถนะที่ง่ายดาย” นักวิจารณ์พบว่าห้องโดยสาร “สะดวกสบายและเงียบสงบ” ด้วย “วัสดุคุณภาพสูง” และ “ความรู้สึกหรูหรา” Kelley Blue Book กล่าวถึง “เบาะนั่งที่รองรับสรีระ” และ “พื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวาง” ในขณะที่ Auto Express เน้นย้ำคุณสมบัติ “ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยี”

2025 Audi SQ8 มาพร้อมกับไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารแบบ LED และระบบจดจำป้ายจราจรเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย รุ่น Prestige เพิ่มเบาะหน้าแบบนวดพร้อมฟังก์ชันหน่วยความจำเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน นอกจากนี้ยังมีแพ็คเกจใหม่สองแพ็คเกจ ได้แก่ แพ็คเกจ Carbon ที่เพิ่มการตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ให้กับกรอบกระจกมองข้าง แผ่นปิดประตู และฝาครอบไฟท้าย ในขณะที่แพ็คเกจ Audi Sport นำการเย็บเน้นสีแดงมาสู่เบาะนั่ง คอนโซลกลาง และที่พักแขนประตู พร้อมกับเข็มขัดนิรภัยสีแดงที่โดดเด่น
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: ราคาของ 2025 Audi SQ8 เริ่มต้นที่ 98,895 ดอลลาร์สหรัฐฯ และสูงถึง 106,195 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยที่คุณเลือก เช่นเดียวกับรถ Audi รุ่นอื่นๆ การเลือกรุ่น Prestige ที่มีราคาแพงกว่านั้นคุ้มค่า มันไม่ได้แพงกว่ามากนักและรวมเอาอุปกรณ์เสริมที่น่าสนใจบางอย่างไว้ด้วย มาพร้อมกับคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่และความหรูหรามากมาย รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ Head-Up Display ประตูแบบ Soft-Close เบาะหลังปรับอุ่น และม่านบังแดดหลังแบบไฟฟ้า
เสียงจากนักวิจารณ์: “SQ8 เป็นรถที่มีสมรรถนะน่าตื่นเต้นพร้อมภายในที่หรูหรา แต่ราคาที่สูงและเครื่องยนต์ที่กินน้ำมันทำให้มันไม่เป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้จริงสำหรับคนส่วนใหญ่” – Car and Driver

2025 Audi RS Q8

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: Lamborghini Urus ที่เย้ายวนกว่า และราคาถูกกว่ามาก
ภาพรวม: Audi RS Q8 เป็น Q8 SUV ที่เร็วที่สุด และเป็น SUV ที่มีตรา RS เพียงรุ่นเดียวในตลาดอเมริกาเหนือ นอกจากนี้ยังเป็น SUV ที่เร็วที่สุด รุ่นหนึ่งบนสนาม Nordschleife ซึ่งหมายความว่ามันมีความคล่องตัวอย่างมากสำหรับ SUV ที่คุณสามารถพาลูกๆ ไปโรงเรียนได้

RS Q8 มาพร้อมป้ายราคาหกหลัก แต่สมรรถนะ สไตล์ และคุณสมบัติของมันคุ้มค่ากับการลงทุน – ถ้าคุณให้ความสำคัญกับ SUV ที่ร้อนแรงสุดๆ แน่นอนว่า RS Q8 ทุกรุ่นมาพร้อมกับระบบช่วงล่างถุงลมแบบปรับได้เป็นมาตรฐาน ล้อขนาด 22 นิ้ว เบาะหน้าปรับอุ่นและเย็น และระบบสเตอริโอ Bang & Olufsen 17 ลำโพง เราจะเลือกรุ่น Performance ท็อปสุดเพื่อปลดล็อกกำลัง 631 แรงม้า เมื่อคุณใช้จ่ายเงินจำนวนนี้ ทำไมไม่ไปให้สุดล่ะ?

RS Q8 ได้รับการปรับโฉมใหม่สำหรับปี 2025 เพื่อให้สอดคล้องกับรุ่น Q8 และ SQ8 ซึ่งได้รับการปรับโฉมเมื่อปีที่แล้ว แต่สิ่งที่น่าสนใจอย่างแท้จริงคือรุ่น Performance ใหม่ 631 แรงม้า รุ่น Performance ไม่เพียงแต่มอบพละกำลังที่มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับเฟืองท้ายกลางแบบ Self-Locking ระบบท่อไอเสียที่ปรับแต่งมาเป็นพิเศษ และระบบช่วงล่างที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อช่วยให้ RS Q8 มีเสถียรภาพในการเข้าโค้ง
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: ราคาของ 2025 Audi RS Q8 เริ่มต้นที่ 145,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ นี่ไม่ใช่ SUV ราคาถูก แต่ถ้าคุณคิดว่ามันคือ Lamborghini Urus ที่ราคาไม่ถึงครึ่ง มันก็เริ่มสมเหตุสมผล คุณสามารถเพิ่มออปชั่นให้กับ RS Q8 ได้ แต่แม้ในรูปแบบพื้นฐาน มันก็เป็นรถที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง
เสียงจากนักวิจารณ์: “ดูดีกว่า Lambo Urus สมรรถนะและการควบคุมที่น่าทึ่ง แพงมาก… เหมาะอย่างยิ่งถ้าคุณต้องการซูเปอร์คาร์และ SUV ในคันเดียว” – Top Gear

2025 Bentley Bentayga

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: ความประณีตที่คุณคาดหวัง พร้อมสมรรถนะที่เข้ากันได้ดี SUV ที่ดีที่สุด ในตอนนี้
ภาพรวม: เครื่องยนต์ V8 ที่ล้ำสมัยให้กำลังเกือบ 550 แรงม้า ในขณะที่ลักษณะของแรงบิดทำให้เกิดอัตราเร่งเกือบจะทันที ดึงเหมือนรถไฟด้วยความสะดวกสบายสูงสุดและความหรูหราระดับเฟิร์สคลาส Bentayga V8 มีการควบคุมที่ยอดเยี่ยมและคล่องตัวกว่าที่คุณคาดไม่ถึง Bentley นำเสนอ Bentayga Hybrid ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดย SUV คันนี้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V6 3.0 ลิตร 335 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้า 162 แรงม้า จับคู่กับแบตเตอรี่ Li-ion 17.3 kWh

ด้วยรุ่นนี้ Bentley ได้เสียสละพละกำลังและความเร็วเพื่อประหยัดน้ำมัน แต่ด้วยกำลัง 443 แรงม้า Bentayga Hybrid ก็ไม่ได้ช้าแต่อย่างใด Bentley ไม่ได้ลดทอนความหรูหรา ดังนั้น 2024 Bentayga Hybrid จึงยังคงมอบประสบการณ์ที่หรูหราเช่นเดียวกับผู้โดยสาร รุ่น Bentayga A มอบพละกำลังและสมรรถนะเช่นเดียวกับรุ่น BV8 มาตรฐาน แต่คุณจะได้ล้อขนาด 21 นิ้ว ความหรูหราภายในเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และสิ่งอำนวยความสะดวกที่มุ่งเน้นการขับขี่ทางไกล

Bentayga S เป็นรุ่น V8 ที่กลั่นกรองและสปอร์ตยิ่งขึ้น พร้อมการอัปเกรดรูปลักษณ์จากรถพื้นฐาน รวมถึงการตกแต่ง Blackline เป็นมาตรฐานและกันชน Bentayga Speed รวมถึงล้อ 22 นิ้วห้าก้านพิเศษเป็นมาตรฐาน Bentayga Azure มีการกำหนดค่าภายในที่หลากหลาย และยังมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ทุกอย่างที่ Bentley สร้างสรรค์มาสำหรับ SUV ของพวกเขา

สำหรับปี 2024 Bentayga มีตัวเลือกไฮบริดในทุกรุ่นย่อย และเครื่องยนต์ W12 ไม่มีให้เลือกอีกต่อไปสำหรับรุ่นนี้ ส่วนรุ่นอื่นๆ ได้รับการอัปเดตพื้นฐานบางอย่างจากการออกแบบ โดยรวมแล้วปี 2025 ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: 2025 Bentley Bentayga เริ่มต้นที่ 205,925 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับรุ่น V8 หรือ Hybrid พื้นฐาน และสูงถึง 249,125 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ Azure V8 และนั่นยังไม่รวมออปชั่นต่างๆ หากคุณต้องการสัมผัสประสบการณ์ที่ดีที่สุดและคุ้มค่ากับการลงทุน ขอแนะนำ Bentayga S มีเครื่องยนต์ V8 เดียวกันแต่ปรับแต่งมาเพื่อการควบคุมที่เฉียบคมขึ้นและอัตราเร่งที่เร็วขึ้น มอบพลวัตการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมโดยไม่ลดทอนความสะดวกสบายและความหรูหรา มาพร้อมองค์ประกอบภายนอกสีดำสนิท ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ขึ้น และกันชนหน้าที่ดุดันยิ่งขึ้น รวมถึงโหมดสปอร์ตที่ดีขึ้น เบรกที่ดีขึ้น และตัวเลือกคาร์บอนไฟเบอร์
เสียงจากนักวิจารณ์: “Bentayga ใหม่คือวิวัฒนาการที่ละเอียดอ่อน แต่ชัดเจนว่า Bentley ได้รับฟังความคิดเห็นและทำการปรับปรุงที่สำคัญบางประการ” – Autocar

2025 Bentley Bentayga EWB

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: SUV สำหรับครอบครัวที่ใช้งานได้จริงมากขึ้น พร้อมพื้นที่เพิ่มขึ้นและความหรูหราเช่นเดิม
ภาพรวม: Bentley Bentayga EWB คือ Bentayga SUV รุ่นฐานล้อยาว ซึ่งเปลี่ยนให้กลายเป็นรถลิมูซีนขนาดใหญ่ ตัวรถโดยรวมเพิ่มระยะห่างระหว่างล้อ 180 มม. ซึ่งทำให้เบาะหลังมีพื้นที่วางขาที่กว้างขวางมาก สามารถเลือกติดตั้งเบาะเอนหลังแยกสองที่นั่งที่ด้านหลัง หรือรุ่นสามที่นั่งที่ไม่สามารถเอนได้ แต่ยังคงเพลิดเพลินกับพื้นที่วางขาที่เพิ่มขึ้น

นอกเหนือจากพื้นที่พิเศษแล้ว EWB ยังมาพร้อมล้อ 21 นิ้วเป็นมาตรฐานแม้ในรุ่นพื้นฐาน และเพลิดเพลินกับสมรรถนะเช่นเดียวกับ Bentayga พื้นฐานโดยไม่เสียเวลา 0-100 กม./ชม. หรือความเร็วสูงสุด นอกจากนี้ยังได้รับรุ่น Mulliner (ตามภาพด้านบน) พร้อมการจัดวางสีสามสีที่พิเศษที่สุด มีให้เลือกแปดสีที่ไม่เหมือนใคร

สำหรับปี 2025 Bentayga ยังคงมีรุ่น Mulliner ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุด รุ่นนี้มีการออกแบบภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์และสามารถระบุการผสมผสานสีภายในได้เกือบ 4000 แบบ Mulliner มีให้เลือกเฉพาะในตัวถัง Bentayga ฐานล้อยาวและเครื่องยนต์ V8
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: 2025 Bentley Bentayga EWB เริ่มต้นที่ 236,850 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับรุ่น V8 พื้นฐาน และสูงถึง 339,150 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ EWB Mulliner เราขอแนะนำรุ่น EWB พื้นฐาน
เสียงจากนักวิจารณ์: “ยังคงต้องรอดูว่า Mulliner EWB มอบการปรับแต่งที่เพียงพอเมื่อเทียบกับรุ่น Mulliner ที่แยกต่างหากหรือไม่” – Evo

2025 BMW X3 M

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่กระตุ้นอะดรีนาลีน พร้อมประโยชน์ใช้สอยที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
ภาพรวม: BMW X3 M คือ SUV ขนาดกะทัดรัดสมรรถนะสูง ที่ผสมผสานประโยชน์ใช้สอยเข้ากับพลวัตการขับขี่ที่เร้าใจอย่างลงตัว ใต้ฝากระโปรงมีเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่ให้กำลัง 473 แรงม้า และแรงบิด 442 ปอนด์-ฟุต กำลังนี้ถูกส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ของ BMW ทำให้ X3 M พุ่งทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.9 วินาที (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง)

นอกเหนือจากความเร็วทางตรงที่น่าประทับใจ X3 M ยังโดดเด่นในการควบคุมและความคล่องตัว ระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต โช้คอัพแบบปรับได้ และการปรับแต่งเฉพาะ M เปลี่ยน SUV คันนี้ให้เป็นเครื่องจักรที่สามารถเข้าโค้งได้อย่างยอดเยี่ยม พวงมาลัยแม่นยำและตอบสนองได้ดี ให้การตอบสนองที่ยอดเยี่ยมแก่ผู้ขับขี่ เบรกขนาดใหญ่ช่วยให้มั่นใจถึงพลังการหยุดที่มั่นใจได้ แม้ในระหว่างการขับขี่ที่เร้าใจ การออกแบบภายนอกของ X3 M สะท้อนถึงสมรรถนะ ด้วยสไตล์ที่ดุดัน เช่น ช่องดักอากาศขนาดใหญ่ขึ้น การออกแบบกระจังหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ ปลายท่อไอเสียสี่ท่อ และตัวเลือกล้อที่โดดเด่น

ภายในห้องโดยสาร X3 M นำเสนอการผสมผสานระหว่างความหรูหราและความสปอร์ต เบาะนั่งสปอร์ตที่รองรับสรีระ พวงมาลัยขอบหนา และหน้าจอแสดงผลเฉพาะ M สร้างสภาพแวดล้อมที่มุ่งเน้นผู้ขับขี่เป็นหลัก ห้องโดยสารยังมาพร้อมกับวัสดุคุณภาพสูงและเทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว และแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว

ตามธรรมเนียมของ BMW X3 M จะมีการปรับราคาขึ้นสำหรับรุ่นปี 2025 สำหรับราคานั้น คุณจะได้… BMW X3 M ซึ่งเหมือนกับรุ่นปี 2024 ทุกประการ เนื่องจาก X3 M มาถึงสำหรับรุ่นปีใหม่โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เตรียมใจให้พร้อม เพราะราคาของ 2025 BMW X3 M เริ่มต้นที่ 76,495 ดอลลาร์สหรัฐฯ และสูงถึง 83,495 ดอลลาร์สหรัฐฯ หากคุณเลือกรุ่น Competition นอกเหนือจากพละกำลังที่เพิ่มขึ้นและอุปกรณ์ที่อัปเกรดแล้ว รุ่น Competition ยังมาพร้อมกับกระจังหน้าและฝาครอบกระจกเงาสีดำเงาที่ดูดุดัน และระบบไอเสียแบบสปอร์ตที่ให้เสียงที่น่าทึ่งเป็นมาตรฐาน เพิ่มล้อสีดำขนาด 21 นิ้วเป็นมาตรฐาน (เทียบกับ 20 นิ้วในรุ่น M ปกติ) และภายในหนัง Merino ที่อัปเกรดแล้ว ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะเห็นว่าทำไมรุ่นนี้ถึงเป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ
เสียงจากนักวิจารณ์: “X3 M นั้นเร็วอย่างเหลือเชื่อ มันพุ่งออกจากโค้งและควบคุมได้ดีเยี่ยม” – Car and Driver

2025 BMW X4 M

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: แรงม้าสูง อัตราเร่งที่รวดเร็ว การควบคุมที่เชี่ยวชาญ
ภาพรวม: BMW X4 M นำเอาความอเนกประสงค์และสมรรถนะของ X3 M มาห่อหุ้มในแพ็คเกจที่ดูมีสไตล์และเหมือนคูเป้มากขึ้น Sports Activity Coupe คันนี้มีเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบที่ดุดันเช่นเดียวกัน ให้กำลัง 473 แรงม้า และแรงบิด 442 ปอนด์-ฟุต จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive X4 M ระเบิดจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.9 วินาที (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) มอบอัตราเร่งที่เร้าใจและการยึดเกาะที่มั่นใจได้

แต่ X4 M เป็นมากกว่าขีปนาวุธทางตรง ระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต โช้คอัพแบบปรับได้ และพวงมาลัยที่แม่นยำ ทำให้การขับขี่ในโค้งเป็นเรื่องสนุก X4 M แสดงให้เห็นถึงความคล่องตัวที่น่าทึ่งสำหรับ SUV ด้วยแชสซีที่ตอบสนองได้ดีซึ่งกระตุ้นให้เกิดการขับขี่ที่เร้าใจ องค์ประกอบการออกแบบที่โดดเด่น เช่น หลังคาที่ลาดเอียง ด้านท้ายที่ปั้นแต่ง และกันชนหน้าที่ดุดัน ทำให้แตกต่างจาก X3 M ที่ดูเป็นทางการมากกว่า

ภายในห้องโดยสาร X4 M นำเสนอสภาพแวดล้อมที่หรูหราและเน้นผู้ขับขี่เป็นหลัก เบาะนั่งสปอร์ตให้การรองรับที่ดีเยี่ยมในระหว่างการขับขี่ที่รวดเร็ว ในขณะที่พวงมาลัยขอบหนาและหน้าจอแสดงผลเฉพาะ M ช่วยเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ ห้องโดยสารยังอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยี รวมถึงระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว และแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ด้วยการผสมผสานสมรรถนะ สไตล์ และประโยชน์ใช้สอย BMW X4 M จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใครและน่าตื่นเต้น

ตามธรรมเนียมของ BMW X4 M จะมีการปรับราคาขึ้นสำหรับรุ่นปี 2025 สำหรับราคานั้น คุณจะได้… BMW X4 M ซึ่งเหมือนกับรุ่นปี 2024 ทุกประการ เนื่องจาก X4 M มาถึงสำหรับรุ่นปีใหม่โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: BMW รู้ดีว่าจะทำให้คุณใช้เงินได้อย่างไร! 2025 BMW X4 M เริ่มต้นที่ 80,275 ดอลลาร์สหรัฐฯ และสูงถึง 87,275 ดอลลาร์สหรัฐฯ หากคุณเลือกรุ่น Competition นอกเหนือจากพละกำลังที่เพิ่มขึ้นและอุปกรณ์ที่อัปเกรดแล้ว รุ่น Competition ยังมาพร้อมกับกระจังหน้าและฝาครอบกระจกเงาสีดำเงาที่ดูดุดัน และระบบไอเสียแบบสปอร์ตที่ให้เสียงที่น่าทึ่งเป็นมาตรฐาน เพิ่มล้อสีดำขนาด 21 นิ้วเป็นมาตรฐาน (เทียบกับ 20 นิ้วในรุ่น M ปกติ) และภายในหนัง Merino ที่อัปเกรดแล้ว ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะเห็นว่าทำไมรุ่นนี้ถึงเป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ
เสียงจากนักวิจารณ์: “ถ้าคุณเป็นนักขับ Formula 1 ที่มีครอบครัว คุณจะขับรถอะไร? BMW X4 M Competition อาจจะเป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบ” – Carwow

2025 BMW X5 M

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: Super SUV มาตรฐาน: เร็ว กว้างขวาง และหรูหรา
ภาพรวม: 2025 BMW X5 M กลับมาเป็นกำลังหลักในกลุ่ม SUV สมรรถนะสูง ด้วยพละกำลังและเทคโนโลยีที่น่าประทับใจ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ ใต้ฝากระโปรง เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.4 ลิตรที่คุ้นเคยได้รับการอัปเกรดด้วยเทคโนโลยี Mild-Hybrid 48V เพิ่มกำลังเป็น 617 แรงม้า และแรงบิด 553 ปอนด์-ฟุต ทำให้ X5 M สามารถพุ่งทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.7 วินาที (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) พร้อมเสียงคำรามที่เร้าใจนักขับ

แต่ความสามารถของ X5 M ขยายไปไกลกว่าความเร็วทางตรง แชสซีที่ซับซ้อนมาพร้อมระบบกันสะเทือน M แบบปรับได้ ระบบควบคุมการทรงตัวแบบแอคทีฟ และระบบบังคับเลี้ยวล้อหลัง ทำงานร่วมกันเพื่อให้การควบคุมและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive พร้อมเฟืองท้าย M แบบแอคทีฟช่วยเพิ่มการยึดเกาะและการควบคุม ทำให้ X5 M สามารถเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจด้วยความสงบนิ่งที่น่าทึ่ง เบรก M Compound ขนาดใหญ่ให้พลังการหยุดที่มั่นใจได้ ช่วยให้ SUV อันทรงพลังคันนี้หยุดนิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ภายในห้องโดยสาร X5 M มอบสภาพแวดล้อมที่หรูหราและล้ำหน้าทางเทคโนโลยี หน้าจอ BMW Curved Display ขนาดใหญ่ครองแผงหน้าปัด โดยรวมเอาแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสอินโฟเทนเมนต์ขนาด 14.9 นิ้วเข้าไว้ด้วยกัน เบาะนั่ง M Sport ให้การรองรับที่ดีเยี่ยมในระหว่างการขับขี่ที่เร้าใจ ในขณะที่วัสดุระดับพรีเมียมและการตกแต่งที่ประณีตสร้างบรรยากาศแห่งความหรูหรา ด้วยการผสมผสานสมรรถนะอันระเบิด เทคโนโลยีล้ำสมัย และการตกแต่งที่หรูหรา 2025 BMW X5 M ยังคงสร้างมาตรฐานที่สูงสำหรับ SUV สมรรถนะสูง
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: 2025 BMW X5 M เริ่มต้นที่ 125,975 ดอลลาร์สหรัฐฯ ข่าวดีคือมีเพียงตัวเลือกเดียวสำหรับ X5 M ในปีนี้ คือรุ่น Competition ที่ยอดเยี่ยม รุ่น Competition มอบคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะที่ดีที่สุดทั้งหมดเป็นมาตรฐาน สำหรับผู้ที่สนใจ นั่นหมายความว่าคุณจะได้รับระบบกันสะเทือนแบบปรับได้ ระบบไอเสียแบบสปอร์ต และล้อขนาด 21 นิ้ว/22 นิ้ว แบบต่างขนาดพร้อมยางฤดูร้อน สำหรับผู้ที่ต้องการใช้จ่ายมากขึ้น แพ็คเกจ Executive ที่เป็นตัวเลือกจะเพิ่มคุณสมบัติความหรูหรา เช่น ที่วางแก้วแบบปรับอุ่นและเย็น เบาะนั่งปรับอุ่นทั้งหน้าและหลัง เบาะนวดสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า ประตูแบบ Soft-Close และอื่นๆ
เสียงจากนักวิจารณ์: “X5 M เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถทางวิศวกรรมของ BMW อย่างแท้จริง เป็นทั้ง SUV หรูหราที่สะดวกสบายและเครื่องจักรสมรรถนะสูงที่พร้อมลงสนามแข่ง” – US News Cars

2025 BMW X6 M

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: เครื่องยนต์อันน่าทึ่งพร้อมอัตราเร่งสุดบ้าคลั่ง สนุกสุดเหวี่ยงบนถนนสายรอง
ภาพรวม: 2025 BMW X6 M สร้างขึ้นจากชื่อเสียงของ SUV สไตล์คูเป้สมรรถนะสูง มอบการผสมผสานที่น่าตื่นเต้นระหว่างพละกำลัง สไตล์ และเทคโนโลยี มันใช้เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.4 ลิตร อันทรงพลังร่วมกับ X5 M ซึ่งตอนนี้ได้รับการปรับปรุงด้วยเทคโนโลยี Mild-Hybrid 48V เพื่อให้ได้กำลังรวม 617 แรงม้า และแรงบิด 553 ปอนด์-ฟุต ซึ่งทำให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.7 วินาที (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง)

สมรรถนะของ X6 M ไม่ได้จำกัดอยู่แค่พละกำลังดิบ ต้องขอบคุณแชสซีที่ซับซ้อนซึ่งมาพร้อมระบบกันสะเทือน M แบบปรับได้ ระบบควบคุมการทรงตัวแบบแอคทีฟ และระบบบังคับเลี้ยวล้อหลัง เทคโนโลยีเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อให้การควบคุมและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม ทำให้ SUV ขนาดใหญ่คันนี้สามารถเข้าโค้งได้อย่างแม่นยำอย่างน่าประหลาดใจ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive พร้อมเฟืองท้าย M แบบแอคทีฟช่วยเพิ่มการยึดเกาะและการควบคุม ในขณะที่เบรก M Compound อันทรงพลังให้พลังการหยุดที่มั่นใจได้

ภายในห้องโดยสาร X6 M มอบสภาพแวดล้อมที่หรูหราและเน้นผู้ขับขี่เป็นหลัก หน้าจอ BMW Curved Display เป็นจุดเด่น โดยรวมเอาแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสอินโฟเทนเมนต์ขนาด 14.9 นิ้วเข้าไว้ด้วยกัน เบาะนั่ง M Sport ให้การรองรับที่ดีเยี่ยมในระหว่างการขับขี่ที่เร้าใจ ในขณะที่วัสดุระดับพรีเมียมและการตกแต่งที่ประณีตสร้างบรรยากาศแห่งความหรูหรา ด้วยการผสมผสานการออกแบบที่โดดเด่น สมรรถนะที่เร้าใจ และเทคโนโลยีขั้นสูง 2025 BMW X6 M จึงโดดเด่นในฐานะตัวเลือกที่ไม่เหมือนใครและน่าดึงดูดใจในกลุ่ม SUV สมรรถนะสูง
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เช่นเดียวกับ X5 M, X6 M ได้รับการปรับโฉมสำหรับรุ่นปี 2024 ดังนั้นปี 2025 จึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ราคาของ 2025 BMW X6 M เริ่มต้นที่ 130,875 ดอลลาร์สหรัฐฯ ข่าวดีคือมีเพียงตัวเลือกเดียวสำหรับ X6 M ในปีนี้ คือรุ่น Competition ที่ยอดเยี่ยม ข่าวดีอีกอย่างคือ X6 M มีราคาถูกกว่า X5 M รุ่นพี่ชาย อย่างไรก็ตามมันใช้งานได้จริงน้อยกว่า พูดถึงการใช้งานได้จริง เราแนะนำให้คุณเพลิดเพลินกับระบบกันสะเทือนแบบปรับได้ ระบบไอเสียแบบสปอร์ต และล้อขนาด 21 นิ้ว/22 นิ้ว แบบต่างขนาดพร้อมยางฤดูร้อน ซึ่งทั้งหมดนี้รวมอยู่ในรุ่น Competition เป็นมาตรฐาน
เสียงจากนักวิจารณ์: “ถ้าคุณให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและอัตราเร่งที่โหดร้าย X6 M จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง” – Kelly Blue Book

2025 Cadillac Escalade V-Series

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: รถที่คล่องตัวและมีความสามารถอย่างน่าประหลาดใจ ท้าทายขนาดและน้ำหนักของมัน
ภาพรวม: 2025 Cadillac Escalade V-Series ยกระดับ SUV หรูหรา อันเป็นสัญลักษณ์ไปสู่จุดสูงสุดใหม่ของสมรรถนะและความพิเศษเฉพาะตัว ใต้ฝากระโปรง เครื่องยนต์ V8 ซูเปอร์ชาร์จ 6.2 ลิตรที่ประกอบด้วยมือคำรามปลดปล่อยกำลังอันมหาศาล 682 แรงม้า และแรงบิด 653 ปอนด์-ฟุต ซึ่งทำให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.4 วินาที (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) ซึ่งเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งสำหรับ SUV ที่มีขนาดและสถานะนี้ อย่างไรก็ตาม Escalade V-Series ไม่ได้อาศัยเพียงแค่พละกำลังดิบ ระบบกันสะเทือนที่ปรับแต่งสมรรถนะพร้อม Magnetic Ride Control 4.0 เฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิป และเบรก Brembo ขนาดใหญ่ ช่วยให้มั่นใจถึงการควบคุมและพลังการหยุดที่ยอดเยี่ยม

Escalade V-Series โดดเด่นด้วยองค์ประกอบการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงศักยภาพด้านสมรรถนะ กันชนหน้าโดดเด่นพร้อมช่องดักอากาศขนาดใหญ่ขึ้น กระจังหน้าแบบตาข่าย และตรา V-Series ทำให้แตกต่างจาก Escalade มาตรฐาน ล้อขนาด 24 นิ้วพิเศษ คาลิปเปอร์เบรก Edge Red ที่เป็นตัวเลือก และปลายท่อไอเสียสี่ท่อ เน้นย้ำถึงลักษณะที่แข็งแกร่ง ภายในห้องโดยสารเป็นสวรรค์แห่งความหรูหราและเทคโนโลยี เบาะนั่งหนัง Semi-aniline พร้อมการเย็บที่ไม่เหมือนใครและโลโก้ V-Series มอบความสะดวกสบายและการรองรับที่ยอดเยี่ยม หน้าจอ OLED โค้งครอบคลุมแผงหน้าปัด โดยรวมแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 14.2 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสอินโฟเทนเมนต์ขนาด 16.9 นิ้วเข้าไว้ด้วยกัน

ด้วยการผสมผสานสมรรถนะอันระเบิด การออกแบบที่โดดเด่น และสิ่งอำนวยความสะดวกอันหรูหรา 2025 Cadillac Escalade V-Series ได้นิยามใหม่ของกลุ่ม SUV หรูหรา เป็นรถที่สามารถขนส่งครอบครัวได้อย่างง่ายดายด้วยความสะดวกสบายและสไตล์ ในขณะเดียวกันก็มอบสมรรถนะที่เร้าใจตามต้องการ สำหรับผู้ที่มองหาสุดยอดแห่งความหรูหราและสมรรถนะใน SUV, Escalade V-Series โดดเด่นเป็นหนึ่งเดียว

การอัปเดตภายนอกของ Escalade รวมถึงการปรับโฉมด้านหน้าใหม่ที่มีกระจังหน้าขนาดใหญ่ขึ้นพร้อมลวดลายใหม่ ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบหรี่แสงที่อยู่ใต้รอยพับของฝากระโปรงหน้า ไฟหน้า LED แนวนอน และกรอบกระจังหน้าแบบเรืองแสงที่มีให้เลือก ด้านหลังมีไฟท้ายที่ได้รับการปรับปรุง ฝาครอบกันชนล่างใหม่ และการปรับแต่งเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมีสีและตัวเลือกภายในใหม่และการอัปเกรดมากมาย
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: 2025 Cadillac Escalade V-Series เริ่มต้นที่ 160,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ มีตัวเลือกมากมายที่คุณสามารถเลือกได้ แต่โดยหลักแล้วเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและความหรูหรา ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับคุณ เพียงแค่เลือกรุ่น V-Series คุณก็พร้อมแล้ว
เสียงจากนักวิจารณ์: “เครื่องยนต์ V8 ซูเปอร์ชาร์จมอบพละกำลังที่เร้าใจ พร้อมเสียงท่อไอเสียที่ไพเราะ” – Motor Trend

2025 Dodge Durango SRT 392

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ใช้งานได้จริง พร้อมความสามารถด้านสมรรถนะที่เหลือเชื่อในเวลาเดียวกัน
ภาพรวม: Dodge Durango SRT 392 คือรถ Muscle Car ที่ปลอมตัวเป็น SUV สำหรับครอบครัว เป็นรถที่ท้าทายความคาดหมาย มอบสมรรถนะที่เร้าใจและเสียง V8 ที่ดุดัน ในขณะที่ยังคงให้ประโยชน์ใช้สอยและความอเนกประสงค์ของ SUV 7 ที่นั่ง ใต้ฝากระโปรงมีเครื่องยนต์ HEMI V8 ขนาด 6.4 ลิตร ที่ให้กำลัง 475 แรงม้า และแรงบิด 470 ปอนด์-ฟุต ซึ่งทำให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 4.7 วินาที (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) ทำให้เป็น SUV ที่เร็วที่สุด รุ่นหนึ่งในกลุ่มนี้ แต่ Durango SRT 392 ไม่ได้เป็นเพียงความเร็วทางตรงเท่านั้น

Dodge ได้ติดตั้งระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต เบรก Brembo และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้กับ SUV สมรรถนะสูง คันนี้ ซึ่งช่วยให้สามารถเข้าโค้งได้อย่างคล่องตัวอย่างน่าประหลาดใจ เป็นรถที่สามารถเดินทางบนถนนที่คดเคี้ยวได้อย่างสบาย หรือแม้กระทั่งลงสนามแข่งได้อย่างมั่นใจ การออกแบบที่ดุดันของ Durango SRT 392 ด้วยตัวถังที่กว้างขึ้น ช่องดักลมบนฝากระโปรง และล้อขนาด 20 นิ้ว ยังบ่งบอกถึงศักยภาพด้านสมรรถนะของมัน

ภายใน Durango SRT 392 มีห้องโดยสารที่สะดวกสบายและติดตั้งอุปกรณ์ครบครัน พร้อมเบาะนั่งสำหรับผู้โดยสารสูงสุดเจ็ดคน เบาะหน้าปรับอุ่นและเย็น พวงมาลัยปรับอุ่น และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคุณสมบัติที่ทำให้การเดินทางเป็นเรื่องน่ารื่นรมย์ ด้วยการผสมผสานสมรรถนะของรถ Muscle Car ประโยชน์ใช้สอยของ SUV และภายในที่สะดวกสบาย Dodge Durango SRT 392 จึงเป็นตัวเลือกที่ไม่เหมือนใครและน่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการทุกอย่าง
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: 2025 Durango SRT 392 เริ่มต้นที่ 76,590 ดอลลาร์สหรัฐฯ 2025 Dodge Durango SRT 392 มีให้เลือกสามรุ่นย่อย โดยมีตัวเลือกไม่กี่อย่างในแต่ละรุ่น
เสียงจากนักวิจารณ์: “Durango SRT 392 เป็นรถ Hot Rod ที่สนุกสุดเหวี่ยง เหมาะสำหรับครอบครัว สามารถลากเรือของคุณไปยังทะเลสาบและเอาชนะ Mustang ที่ไฟแดงได้ในเวลาเดียวกัน” – Car and Driver

2025 Dodge Durango SRT Hellcat

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ใช้งานได้จริง พร้อมความสามารถด้านสมรรถนะที่เหลือเชื่อในเวลาเดียวกัน
ภาพรวม: 2025 Dodge Durango SRT Hellcat กลับมาอีกครั้ง ท้าทายความคาดหวังและตรรกะด้วยการยัดเครื่องยนต์ V8 ซูเปอร์ชาร์จ Hellcat ขนาด 6.2 ลิตร เข้าไปใน SUV สำหรับครอบครัว เครื่องยนต์อันมหาศาลนี้สร้างกำลังมหาศาลถึง 710 แรงม้า และแรงบิด 645 ปอนด์-ฟุต เปลี่ยน Durango ให้กลายเป็นสัตว์ร้ายแห่งสมรรถนะอย่างแท้จริง ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.5 วินาที (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) และเวลาควอเตอร์ไมล์ 11.5 วินาที Durango SRT Hellcat สามารถทำให้รถสปอร์ตหลายคันอับอายได้ ในขณะที่ยังคงรองรับผู้โดยสารเจ็ดคนและสัมภาระได้อย่างสะดวกสบาย

แต่ Durango SRT Hellcat เป็นมากกว่าพละกำลังดิบ มันมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ปรับแต่งสมรรถนะ เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดพร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ และระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต ซึ่งช่วยให้สามารถเข้าโค้งได้อย่างคล่องตัวอย่างน่าประหลาดใจสำหรับขนาดของมัน เบรก Brembo ขนาดใหญ่ให้พลังการหยุดที่จำเป็นเพื่อควบคุมสัตว์ร้ายตัวนี้ ในขณะที่ระบบ Launch Control ช่วยให้คุณสามารถเร่งความเร็วได้อย่างรวดเร็ว การออกแบบที่ดุดันของ Durango SRT Hellcat ด้วยตัวถังที่กว้างขึ้น ช่องดักลมบนฝากระโปรง และล้อขนาด 20 นิ้ว ไม่ต้องสงสัยเลยถึงเจตนาด้านสมรรถนะของมัน

ภายใน Durango SRT Hellcat มีห้องโดยสารที่สะดวกสบายและติดตั้งอุปกรณ์ครบครัน พร้อมเบาะนั่งสำหรับผู้โดยสารสูงสุดเจ็ดคน เบาะหน้าปรับอุ่นและเย็น พวงมาลัยปรับอุ่น และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคุณสมบัติที่ทำให้การเดินทางเป็นเรื่องน่ารื่นรมย์ ด้วยการผสมผสานสมรรถนะระดับซูเปอร์คาร์ ประโยชน์ใช้สอยของ SUV และภายในที่สะดวกสบาย 2025 Dodge Durango SRT Hellcat จึงเป็นรถที่ไม่เหมือนใครและน่าตื่นเต้นอย่างแท้จริงที่ท้าทายการจัดหมวดหมู่
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: 2025 Durango SRT Hellcat เริ่มต้นที่ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีรุ่นพิเศษ Silver Bullet ที่มาพร้อมอุปกรณ์ครบครัน สีตัวถัง Triple Nickel (เงิน) และรายละเอียดที่ไม่เหมือนใคร เช่น ฝากระโปรงหน้าสีดำด้านและเย็บสองสีทั่วทั้งภายใน
เสียงจากนักวิจารณ์: “Durango Hellcat เป็น SUV ที่เร็วอย่างเหลือเชื่อ สามารถพาสมาชิกในครอบครัวไปฝึกซ้อมฟุตบอลในนาทีเดียว จากนั้นก็พุ่งทะยานควอเตอร์ไมล์ 11.5 วินาทีในนาทีถัดไป” – Motor Trend

2025 Ferrari Purosangue

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: การผสมผสานที่ลงตัวของสมรรถนะ ประโยชน์ใช้สอย และความหรูหรา สำหรับครอบครัว
ภาพรวม: Ferrari Purosangue ไม่ใช่แค่ SUV คันแรกของ Ferrari เท่านั้น แต่ยังเป็นแถลงการณ์ที่ท้าทายธรรมเนียมปฏิบัติและกำหนดความคาดหวังใหม่ นี่ไม่ใช่รถสำหรับครอบครัวยกสูงทั่วไป แต่เป็น Ferrari พันธุ์แท้ที่มีจิตวิญญาณของรถสปอร์ตและความอเนกประสงค์ของ SUV การออกแบบที่เพรียวบางตามหลักอากาศพลศาสตร์ ด้วยฝากระโปรงหน้ายาว ซุ้มล้อที่แข็งแรง และท่าทางที่ดุดัน เป็นเอกลักษณ์ของ Ferrari อย่างไม่ต้องสงสัย ในขณะที่ความสูงจากพื้นดินที่เพิ่มขึ้นและสี่ประตูมอบระดับใหม่ของประโยชน์ใช้สอยสำหรับม้าลำพอง

ใต้ฝากระโปรง Purosangue มีเครื่องยนต์ V12 Naturally Aspirated 6.5 ลิตร ที่ปลดปล่อยพละกำลังอันไพเราะถึง 715 แรงม้า และแรงบิด 528 ปอนด์-ฟุต ซึ่งทำให้อัตราเร่งที่น่าทึ่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.3 วินาที (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) และความเร็วสูงสุด 310 กม./ชม. (193 ไมล์ต่อชั่วโมง) แต่ Purosangue เป็นมากกว่าขีปนาวุธทางตรง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อขั้นสูง ระบบกันสะเทือนแบบแอคทีฟ และระบบบังคับเลี้ยวล้อหลัง ให้การควบคุมและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม ทำให้การขับขี่บนถนนที่คดเคี้ยวเป็นเรื่องสนุก

ภายใน Purosangue มีห้องโดยสารที่หรูหราและกว้างขวาง พร้อมเบาะนั่งสี่ที่นั่ง ห้องโดยสารที่เน้นผู้ขับขี่มีแผงหน้าปัดดิจิทัล ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 10.2 นิ้ว และการออกแบบห้องโดยสารคู่ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งให้ผู้โดยสารด้านหน้ามีหน้าจอและปุ่มควบคุมของตัวเอง เบาะหลังมีพื้นที่วางขาและพื้นที่เหนือศีรษะที่กว้างขวาง ทำให้ Purosangue เป็นรถที่สะดวกสบายและใช้งานได้จริงสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ด้วยการผสมผสานสมรรถนะที่เร้าใจ การออกแบบที่น่าทึ่ง และประโยชน์ใช้สอยที่น่าประหลาดใจ Ferrari Purosangue เป็นรถที่ก้าวข้ามขีดจำกัดที่กำหนดใหม่ว่า Ferrari สามารถเป็นอะไรได้บ้าง
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงสำหรับ Purosangue สำหรับรุ่นปี 2025 มีให้เลือกหนึ่งรุ่นย่อย 2025 Ferrari Purosangue ไม่ใช่รถราคาถูก เริ่มต้นที่ 428,686 ดอลลาร์สหรัฐฯ Purosangue เป็นเรื่องของออปชั่นสำหรับผู้ซื้อ และใช่ นี่คือ Ferrari ดังนั้นคุณสามารถจัดเต็มกับออปชั่นต่างๆ ได้เลย
เสียงจากนักวิจารณ์: “Purosangue ขับขี่ได้เหมือน Ferrari อย่างแท้จริง ด้วยความคล่องตัวและการตอบสนองที่น่าเหลือเชื่อซึ่งท้าทายขนาดและรูปทรงของมัน” – Car and Driver

2025 Ford F-150 Raptor / Raptor R

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: รถกระบะออฟโรดที่มีความสามารถอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งผลักดันขีดจำกัดของสิ่งที่เป็นไปได้ในรถกระบะ
ภาพรวม: 2025 Ford F-150 Raptor และ Raptor R ยังคงครองตำแหน่งสูงสุดในโลกของ รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง สัตว์ร้ายที่วิ่งในทะเลทรายและปีนป่ายหินเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นสำหรับผู้ที่ปรารถนาการผจญภัยที่กระตุ้นอะดรีนาลีนและต้องการความสามารถสูงสุดจากยานพาหนะของพวกเขา รถทั้งสองคันใช้แพลตฟอร์มเดียวกันและสไตล์ที่ดุดัน แต่ตอบสนองความกระตือรือร้นในการขับขี่ออฟโรดในระดับที่แตกต่างกัน

F-150 Raptor ซึ่งเป็นรุ่น “พื้นฐาน” ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร มีเครื่องยนต์ V6 EcoBoost ทวินเทอร์โบ 3.5 ลิตร ที่ทรงพลัง ให้กำลัง 450 แรงม้า และแรงบิด 510 ปอนด์-ฟุต กำลังนี้ถูกส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ซับซ้อนพร้อมระบบถ่ายทอดแรงบิดแบบ Torque-on-Demand ระบบกันสะเทือนของ Raptor คือจุดที่เวทมนตร์เกิดขึ้น ด้วยโช้คอัพ Fox 3.1 Live Valve Internal Bypass ที่ให้การควบคุมและการหน่วงที่ยอดเยี่ยมแม้บนพื้นผิวที่ท้าทายที่สุด ด้วยระยะยุบตัวของช่วงล่างด้านหน้า 13.1 นิ้ว และด้านหลัง 14.1 นิ้ว Raptor สามารถดูดซับแรงกระแทกและการกระโดดได้อย่างง่ายดาย

สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะที่รุนแรงยิ่งขึ้น F-150 Raptor R ยกระดับไปอีกขั้น ใต้ฝากระโปรงมีเครื่องยนต์ V8 Predator ซูเปอร์ชาร์จ 5.2 ลิตร ซึ่งยืมมาจาก Mustang Shelby GT500 ที่ปลดปล่อยกำลังมหาศาล 700 แรงม้า และแรงบิด 640 ปอนด์-ฟุต ทำให้ Raptor R เป็น รถกระบะออฟโรดที่ทรงพลังที่สุด ในตลาด นอกจากนี้ยังมีการปรับแต่งช่วงล่างที่เป็นเอกลักษณ์ ฐานล้อที่กว้างขึ้น และยาง All-Terrain ขนาด 37 นิ้ว ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่ออฟโรด ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่น Raptor หรือ Raptor R คุณจะได้รับการรับประกันรถกระบะที่สามารถพิชิตทุกสภาพภูมิประเทศและมอบประสบการณ์การขับขี่ที่กระตุ้นอะดรีนาลีน
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: หลังจากปี 2024 ที่ยุ่งเหยิง ซึ่ง Raptor ได้รับการปรับปรุงรูปลักษณ์ โช้คอัพ Fox Dual Live Valve ที่มีให้เลือก ตะขอพ่วงด้านหน้าที่กว้างขึ้น และไฟหน้าใหม่ รุ่นปี 2025 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงโดยพื้นฐานแล้ว ราคาของ 2025 F-150 Raptor เริ่มต้นที่ 81,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับรุ่นพื้นฐาน และเริ่มต้นที่ 113,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับรุ่น R ที่บ้าคลั่ง
เสียงจากนักวิจารณ์: “Raptor R คือรถบรรทุกสัตว์ประหลาดที่เสริมด้วยสเตียรอยด์ ด้วยเครื่องยนต์ V8 ที่ดุดันซึ่งให้พละกำลังที่น่าตกใจและเสียงคำรามที่เข้ากัน” – Top Gear

2025 Ford Bronco Raptor

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: สัตว์ร้ายออฟโรดตัวจริง สามารถลุยภูมิประเทศที่ท้าทายที่สุดได้อย่างง่ายดาย
ภาพรวม: Ford Bronco Raptor ไม่ใช่ SUV ทั่วไป ของคุณ มันคือสัตว์ร้ายออฟโรดสมรรถนะสูงที่สร้างขึ้นเพื่อพิชิตภูมิประเทศที่ท้าทายที่สุด ลองนึกภาพว่าเป็นรถบรรทุกสัตว์ประหลาดที่วิ่งในทะเลทราย ปีนป่ายหิน กระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง และมีป้ายทะเบียน Ford นำ Bronco ที่มีความสามารถอยู่แล้วมาฉีดด้วย DNA ของ Raptor อย่างหนักหน่วง ทำให้ได้รถที่ผลักดันขีดจำกัดของสมรรถนะออฟโรด

ใต้ฝากระโปรง Bronco Raptor มีเครื่องยนต์ V6 EcoBoost ทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร ที่ให้กำลังมหาศาล 418 แรงม้า และแรงบิด 440 ปอนด์-ฟุต กำลังนี้ถูกส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ซับซ้อนพร้อมเพลาท้าย Dana 50 Heavy-Duty AdvanTEK และเพลาหน้า Dana 44 AdvanTEK ระบบกันสะเทือนของ Bronco Raptor คือจุดที่เวทมนตร์เกิดขึ้นอย่างแท้จริง มันมีระบบกันสะเทือนแบบ Off-Road Stability Performance (HOSS 4.0) พร้อมโช้คอัพ Fox 3.1 Internal Bypass Semi-Active ระบบกันสะเทือนระยะยุบตัวยาว และยาง All-Terrain ขนาด 37 นิ้ว การตั้งค่านี้ช่วยให้ Bronco Raptor สามารถดูดซับแรงกระแทกและการกระโดดได้อย่างง่ายดาย ให้การควบคุมและความเสถียรที่ยอดเยี่ยมแม้ในสภาพแวดล้อมออฟโรดที่ยากลำบากที่สุด

การออกแบบภายนอกของ Bronco Raptor นั้นดุดันไม่แพ้สมรรถนะ ซุ้มล้อที่กว้างขึ้น กระจังหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ และตัวอักษร “FORD” ที่โดดเด่น ไม่ต้องสงสัยเลยถึงเจตนาของมัน คุณสมบัติการใช้งาน เช่น แผ่นกันกระแทกเหล็ก แผ่นกันกระแทกสำหรับงานหนัก และตะขอพ่วง ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่ออฟโรด ภายในห้องโดยสารเป็นการผสมผสานระหว่างความแข็งแกร่งและความประณีต ด้วยเบาะหนังไวนิลเกรดเรือ จอสัมผัสอินโฟเทนเมนต์ความละเอียดสูง และคุณสมบัติที่เน้นการขับขี่ออฟโรดมากมาย Bronco Raptor เป็นเครื่องจักรที่ไม่เหมือนใครและมีความสามารถอย่างแท้จริงที่นิยามใหม่ของสิ่งที่เป็น SUV ออฟโรด
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: 2025 Bronco Raptor มีราคาอยู่ที่ 92,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถือว่าสูงสำหรับ Ford Bronco Raptor มีให้เลือกเฉพาะในรูปแบบตัวถังสี่ประตูและรุ่นย่อยเดียวเท่านั้น การเสนอหลักมาพร้อมกับอุปกรณ์ที่ดีมากมาย ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องเสียเงินเพิ่มไปกับออปชั่นมากมาย ระบบเสียงนั้นยอดเยี่ยม และมีอุปกรณ์ออฟโรดทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับภารกิจหลักในการเป็น Bronco ที่สุดขีดที่สุด
เสียงจากนักวิจารณ์: “รถคันนี้สามารถปีนหิน ลุยแม่น้ำ และกระโดดข้ามเนินทรายได้อย่างคล่องตัวและสง่างามอย่างไม่น่าเชื่อ” – Motor Trend

2025 Lamborghini Urus

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: ความสมดุลที่เหมาะสมระหว่างความบ้าคลั่งของ Lamborghini และประโยชน์ใช้สอยในชีวิตประจำวันของ SUV
ภาพรวม: 2025 Lamborghini Urus พุ่งทะยานสู่อนาคตด้วยระบบส่งกำลัง Plug-in Hybrid ที่ทรงพลัง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่สำหรับ SUV สมรรถนะสูง คันนี้ ในขณะที่เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร อันเป็นเอกลักษณ์ยังคงอยู่ ตอนนี้มันได้รวมกับมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อสร้าง Urus S.E. (Super Elettrica) ใหม่ การผสมผสานนี้ปลดปล่อยกำลังอันมหาศาล 789 แรงม้า และแรงบิด 701 ปอนด์-ฟุต ทำให้ Urus S.E. พุ่งทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.1 วินาที (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) นอกเหนือจากพละกำลังดิบแล้ว ระบบไฮบริดยังให้ระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวประมาณ 48 กิโลเมตร (30 ไมล์) ซึ่งเพิ่มมิติของประสิทธิภาพให้กับ Super SUV คันนี้

แต่กลุ่มผลิตภัณฑ์ Urus ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น Urus S “พื้นฐาน” ก็ได้รับการอัปเดตสำหรับปี 2025 โดยมีการปรับปรุงส่วนหน้าด้วยกันชนและการออกแบบฝากระโปรงหน้าใหม่ พร้อมไฟหน้าและไฟท้ายที่ได้รับการอัปเดต ภายในทั้ง Urus S และ S.E. ได้รับประโยชน์จากระบบอินโฟเทนเมนต์ที่อัปเกรดและการปรับแต่งที่หลากหลายยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่แสวงหาสุดยอดสมรรถนะของ Urus รุ่น Performante ยังคงเป็นที่หนึ่ง ด้วยมาตรการลดน้ำหนัก การปรับปรุงอากาศพลศาสตร์ และการปรับแต่งที่เน้นสนามแข่ง Urus Performante มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจและน่าหลงใหลยิ่งขึ้น

ใหม่ในรายการออปชั่นคือล้อ Galanthus ขนาด 23 นิ้วที่โดดเด่น หุ้มด้วยยาง Pirelli P Zero ขนาด 285/35 ที่ด้านหน้าและ 325/30 ที่ด้านหลัง ภายใน Urus S.E. มีหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วที่ใหญ่ขึ้น พร้อมการตอบสนองที่ดีขึ้นและการควบคุมด้วยเสียงที่ได้รับการปรับปรุง แม้ว่าจะเปิดรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แต่ Lamborghini ก็ยังคงรักษาปุ่มควบคุมทางกายภาพที่น่าพึงพอใจ รวมถึงปุ่มสลับและปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์แบบกรงที่น่าดึงดูดใจ การอัปเดตเหล่านี้รวมกันเพื่อยกระดับรูปลักษณ์และความซับซ้อนทางเทคโนโลยีของ Urus ทำให้มั่นใจได้ว่าจะยังคงเป็นที่จับตาเมื่อเห็นทั้งภายในและภายนอก

2025 Lamborghini Urus S.E. เปิดตัวด้วยระบบส่งกำลังไฮบริด 789 แรงม้า สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 3.1 วินาที และมีระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้า 48 กม. นอกจากนี้ยังเป็นผู้นำในการปรับโฉมช่วงกลางวงจรด้วยสไตล์ใหม่ รวมถึงไฟหน้า Matrix LED การออกแบบประตูท้ายและกันชนใหม่ และตัวเลือกสีตัวถังกว่า 100 แบบ ล้อขนาด 23 นิ้วใหม่และหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วที่ได้รับการอัปเกรดช่วยเพิ่มประสบการณ์ ในขณะที่ปุ่มควบคุมทางกายภาพ เช่น ปุ่มสลับและปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์แบบกรงยังคงอยู่ Urus S ก็ได้รับการปรับโฉมสไตล์เช่นกัน ในขณะที่ Performante ยังคงเป็นรุ่นที่เน้นสนามแข่ง
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: Urus “รุ่นเริ่มต้น” เริ่มต้นที่ 241,843 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับปี 2025 และสูงถึง 273,880 ดอลลาร์สหรัฐฯ หากคุณเลือกรุ่น Performante ที่เน้นสมรรถนะ ในระดับราคานี้ การประหยัดเงิน 30,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเลือกรุ่นพื้นฐานนั้นคุ้มค่าจริงหรือ? แน่นอนว่าไม่ นี่คือ Super-SUV ดังนั้นเลือก Performante ไปเลย แต่เราจะบอกว่า Urus SE Hybrid ก็ดูสวยงามเช่นกัน ดังนั้นบางทีนั่นอาจจะเป็นทางเลือกที่ดี? นี่เป็นเรื่องยากที่จะตัดสินใจ
เสียงจากนักวิจารณ์: “Urus S เป็นมาสเตอร์คลาสในการสร้างรถยนต์ที่ยอดเยี่ยมให้ดียิ่งขึ้นไปอีก” – Top Gear

2025 Lotus Eletre

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: นี่คือเกมเปลี่ยนสำหรับ Lotus
ภาพรวม: Lotus Eletre เป็นรถยนต์ที่ล้ำสมัยซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอังกฤษ ที่มีชื่อเสียงด้านรถสปอร์ตน้ำหนักเบา SUV ไฟฟ้าล้วน คันนี้เป็นการบุกเบิกตลาด SUV ครั้งแรกของ Lotus และกำลังสร้างความโดดเด่นด้วยการออกแบบที่โดดเด่น เทคโนโลยีล้ำสมัย และความสามารถด้านสมรรถนะที่น่าประทับใจ รูปทรงตามหลักอากาศพลศาสตร์และเส้นสายที่โค้งมนของ Eletre ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสวยงามทางสายตาเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยในประสิทธิภาพและระยะทางที่น่าประทับใจอีกด้วย

ใต้ผิว Eletre มีระบบส่งกำลังไฟฟ้าที่ทรงพลังพร้อมมอเตอร์คู่ที่ให้กำลังรวม 603 แรงม้า และแรงบิด 523 ปอนด์-ฟุต ในรุ่นพื้นฐานและรุ่น S ซึ่งทำให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 4.5 วินาที (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะที่เร้าใจยิ่งขึ้น Eletre R รุ่นท็อปสุดปลดปล่อยกำลังมหาศาลถึง 905 แรงม้า และแรงบิด 726 ปอนด์-ฟุต พุ่งทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.95 วินาที Eletre R ยังมีเกียร์สองสปีดที่เป็นเอกลักษณ์ที่เพลาหลัง ซึ่งช่วยเพิ่มทั้งอัตราเร่งและประสิทธิภาพ

ภายในห้องโดยสาร Eletre นำเสนอสภาพแวดล้อมที่หรูหราและล้ำหน้าทางเทคโนโลยี มีการใช้วัสดุที่ยั่งยืนทั่วทั้งคัน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Lotus ในการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัส OLED ขนาด 15.1 นิ้ว ครองแผงหน้าปัด โดยให้การเข้าถึงการนำทาง ความบันเทิง และการตั้งค่ารถยนต์ Eletre ยังมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงมากมาย รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ และระบบกล้อง 360 องศา

Eletre เป็นรถใหม่ทั้งหมดสำหรับปี 2025 มีสามรุ่นย่อยในการเปิดตัว
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: 2025 Eletre เริ่มต้นที่ประมาณ 110,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นราคาที่สูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นปี 2024 หากคุณขับรถบนท้องถนน ตัวเลือกเดียวคือรุ่น Spider เนื่องจากรุ่น XX เป็นรถสำหรับสนามแข่ง ในแง่ของออปชั่น หากคุณอยู่ในช่วงราคานี้ มันเป็นเรื่องของรสนิยมและความชอบส่วนบุคคล
เสียงจากนักวิจารณ์: “Eletre R นั้นเร็วอย่างน่าตกใจ มอบอัตราเร่งระดับซูเปอร์คาร์ในแพ็คเกจ SUV” – Car and Driver

2025 Maserati Grecale

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่เหมาะสม ดูดี แต่ยังคงต้องต่อสู้กับคู่แข่งที่ดีที่สุดในกลุ่ม
ภาพรวม: 2025 Maserati Grecale บุกเข้าสู่ตลาด SUV หรูขนาดกะทัดรัด ที่รวบรวมความโดดเด่นและสมรรถนะแบบอิตาลี SUV ที่มีสไตล์คันนี้นำเสนอการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความอเนกประสงค์ เทคโนโลยี และความตื่นเต้นในการขับขี่ ทำให้เป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งในกลุ่มของมัน Maserati นำเสนอ Grecale ในสามรุ่นที่แตกต่างกัน แต่ละรุ่นตอบสนองความต้องการและความชอบที่แตกต่างกัน

Grecale GT ระดับเริ่มต้นขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร Mild-Hybrid ที่ให้กำลัง 296 แรงม้า และแรงบิด 332 ปอนด์-ฟุต ซึ่งให้กำลังที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ในขณะที่ระบบ Mild-Hybrid ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ถัดไปคือ Grecale Modena ซึ่งมีระบบส่งกำลัง Mild-Hybrid ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น โดยให้กำลัง 325 แรงม้า และแรงบิด 332 ปอนด์-ฟุต ซึ่งทำให้อัตราเร่งที่เร้าใจยิ่งขึ้น พร้อมการตอบสนองที่ดีขึ้น

สำหรับผู้ที่ต้องการสุดยอดสมรรถนะของ Grecale รุ่น Grecale Trofeo อยู่บนสุดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ มันทิ้งเครื่องยนต์ 4 สูบเพื่อเลือกใช้เครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูง ซึ่งมาจากซูเปอร์คาร์ MC20 เครื่องยนต์อันทรงพลังนี้ปลดปล่อยกำลังที่น่าตื่นเต้น 523 แรงม้า และแรงบิด 457 ปอนด์-ฟุต ทำให้ Grecale Trofeo พุ่งทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นย่อยใด Grecale ก็มีภายในที่หรูหราและติดตั้งอุปกรณ์ครบครันด้วยวัสดุคุณภาพสูงและคุณสมบัติทางเทคโนโลยีขั้นสูง

แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ครองแผงหน้าปัด ในขณะที่มี Head-Up Display ให้เลือกเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ด้วยการผสมผสานสไตล์อิตาเลียน สมรรถนะที่เร้าใจ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหรา 2025 Maserati Grecale จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา SUV พรีเมียมขนาดกะทัดรัด ที่โดดเด่นจากฝูงชน
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: 2025 Maserati Grecale เริ่มต้นที่ประมาณ 70,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นราคาที่สูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นปี 2024 ด้วยโช้คอัพแบบปรับได้ ล้อขนาด 20 นิ้ว ซันรูฟไฟฟ้า เบาะหน้าปรับไฟฟ้า 14 ทิศทาง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ การตกแต่งภายในด้วยไม้ และสิ่งอื่นๆ ที่น่าสนใจ ทำให้ Modena คุ้มค่ากับราคาที่สูงขึ้นเกือบ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับ Grecale พื้นฐาน
เสียงจากนักวิจารณ์: “Grecale เป็น SUV ที่อเนกประสงค์ที่สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์การขับขี่ที่หลากหลาย ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปทำงานหรือสำรวจชนบท” – Road & Track

2025 Maserati Grecale Folgore

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: การผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของสไตล์อิตาลี สมรรถนะ และความยั่งยืน
ภาพรวม: 2025 Maserati Grecale Folgore ยกระดับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Grecale ด้วยการนำเสนอสมรรถนะที่ยั่งยืนให้กับ SUV สัญชาติอิตาลี รุ่นไฟฟ้าล้วนคันนี้อัดแน่นไปด้วยพละกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ซึ่งให้กำลังรวม 542 แรงม้า และแรงบิด 590 ปอนด์-ฟุต ซึ่งทำให้อัตราเร่งที่เร้าใจ 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 4.1 วินาที (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) แต่ Folgore ไม่ได้เป็นเพียงความเร็วทางตรงเท่านั้น มันยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 105 kWh ที่ให้ระยะทางประมาณ 500 กิโลเมตร (310 ไมล์) ทำให้เป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้จริงสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการเดินทางระยะไกล

Grecale Folgore โดดเด่นจากพี่น้องที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันด้วยการออกแบบที่ละเอียดอ่อนแต่โดดเด่น ล้ออากาศพลศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ในขณะที่การตกแต่งด้วยทองแดงบนตราสัญลักษณ์ภายนอกและคาลิปเปอร์เบรกบ่งบอกถึงลักษณะไฟฟ้าของมัน ภายในห้องโดยสาร Folgore มีเบาะหุ้ม Econyl ที่รีไซเคิลได้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Maserati ต่อความยั่งยืน แผงหน้าปัดถูกครอบงำด้วยแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ซึ่งให้การเข้าถึงการนำทาง ความบันเทิง และการตั้งค่ารถยนต์ ด้วยการผสมผสานสไตล์อิตาลี สมรรถนะที่เร้าใจ และเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 2025 Maserati Grecale Folgore จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา SUV ไฟฟ้าพรีเมียม ที่ไม่ลดทอนความสนุกในการขับขี่

Grecale Folgore เป็นรุ่นใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Maserati สำหรับรุ่นปี 2025 และเป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันที่สองในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของผู้ผลิตรถยนต์
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: ราคาของ 2025 Maserati Grecale Folgore อยู่ที่ 110,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นอยู่กับออปชั่นต่างๆ ด้วยรุ่นย่อยเดียวและอุปกรณ์ที่ดีพอสมควรที่รวมอยู่ในรุ่นดังกล่าว คุณสามารถซื้อ Grecale Folgore ได้ในราคาใกล้เคียงกับราคาที่เสนอ 110,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
เสียงจากนักวิจารณ์: “มันควบคุมได้อย่างคล่องตัวเกินสัดส่วนของ SUV รู้สึกเหมือนรถ Hot Hatch มากกว่ารถออฟโรดขนาดใหญ่” – Top Gear

2025 Maserati Levante

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ใหญ่ สวยงาม และหรูหรา ทำในแบบฉบับ Maserati
ภาพรวม: 2025 Maserati Levante ซึ่งเป็น SUV เรือธงของแบรนด์ ยังคงสร้างความประทับใจด้วยการผสมผสานสไตล์อิตาลี การตกแต่งที่หรูหรา และสมรรถนะที่เร้าใจ ปีนี้กลุ่มผลิตภัณฑ์ Levante ได้รับการปรับโฉมด้วยการออกแบบที่ได้รับการปรับปรุง เทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น และระบบส่งกำลังที่ประณีตยิ่งขึ้น การออกแบบภายนอกได้รับการปรับปรุงอย่างละเอียดด้วยการออกแบบกระจังหน้าใหม่ ไฟหน้าที่ปรับปรุงใหม่ และไฟท้ายที่อัปเดต ภายในห้องโดยสารมีระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วใหม่พร้อมซอฟต์แวร์ล่าสุดของ Maserati ซึ่งมอบฟังก์ชันการทำงานและการเชื่อมต่อที่ได้รับการปรับปรุง

กลุ่มผลิตภัณฑ์ Levante มีตัวเลือกระบบส่งกำลังที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการและความชอบที่แตกต่างกัน Levante GT ระดับเริ่มต้นมีเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร Mild-Hybrid ที่ให้ความสมดุลระหว่างสมรรถนะและประสิทธิภาพ โดยให้กำลัง 325 แรงม้า Levante Modena เพิ่มสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร ที่ให้กำลังที่ทรงพลังยิ่งขึ้น 424 แรงม้า สำหรับผู้ที่ต้องการสุดยอดสมรรถนะของ Levante รุ่น Levante Trofeo อยู่บนสุดด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 3.8 ลิตร ที่ดุดัน ปลดปล่อยกำลังที่น่าตื่นเต้น 572 แรงม้า และอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง)

ไม่ว่าคุณจะเลือก Levante รุ่นใด คุณจะได้รับการปรนเปรอด้วยประสบการณ์การขับขี่ที่หรูหราและประณีต ห้องโดยสารถูกสร้างสรรค์ด้วยวัสดุระดับพรีเมียม เช่น หนังและไม้ ในขณะที่คุณสมบัติเช่น เบาะนั่งปรับอุ่นและเย็น ระบบเสียงพรีเมียม และซันรูฟพาโนรามาช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความหรูหรา ด้วยการผสมผสานการออกแบบอิตาเลียน เครื่องยนต์อันทรงพลัง และสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหรา 2025 Maserati Levante ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในกลุ่ม SUV หรูหรา
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: ราคาของ 2025 Levante เริ่มต้นที่ 103,495 ดอลลาร์สหรัฐฯ และสูงถึง 189,495 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยที่คุณเลือก ตามที่ระบุด้วยตรา Trofeo รุ่น Trofeo เป็นรุ่นที่ทรงพลังที่สุดของตระกูล Levante และเป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบให้กำลัง 580 แรงม้า เพียงพอสำหรับการเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.6 วินาที (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) นั่นคือระดับของรถสปอร์ตที่แท้จริง Levante Trofeo ยังได้รับรายการอุปกรณ์ที่ครบครันอีกด้วย
เสียงจากนักวิจารณ์: “Levante Trofeo เป็นสัตว์ร้าย เครื่องยนต์ V8 ที่มาจาก Ferrari สร้างเสียงที่ไพเราะและมอบแรงผลักดันที่ทำให้คุณหัวเราะได้” – Top Gear

2025 Mercedes-AMG G63

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: สัญลักษณ์แห่งสถานะ แต่ก็เป็น SUV ที่หรูหราและสะดวกสบายอย่างแท้จริง
ภาพรวม: Mercedes-AMG G 63 หรือที่เรียกกันว่า “G-Wagon” เป็นสัญลักษณ์ของความสามารถในการขับขี่ออฟโรดและความหรูหราที่ไม่มีการขอโทษ SUV ในตำนาน คันนี้ด้วยรูปทรงที่เหลี่ยมคมและการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกองทัพ ได้เป็นสัญลักษณ์ของสถานะและความสามารถมานานหลายทศวรรษ สำหรับปี 2025 G 63 ได้รับการอัปเดตที่ครอบคลุมซึ่งช่วยเพิ่มสมรรถนะ เทคโนโลยี และความประณีต ในขณะที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์อันโดดเด่นของมันไว้

ใต้ฝากระโปรง G 63 มีเครื่องยนต์ V8 Biturbo AMG 4.0 ลิตรที่ประกอบด้วยมือ ซึ่งตอนนี้ติดตั้งระบบ Mild-Hybrid 48 โวลต์ ระบบส่งกำลังอันทรงพลังนี้ให้กำลัง 577 แรงม้า และแรงบิด 627 ปอนด์-ฟุต ซึ่งทำให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. โดยประมาณ 4.2 วินาที (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) ระบบ Mild-Hybrid ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มสมรรถนะเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษ ความสามารถในการขับขี่ออฟโรดของ G 63 ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมด้วยระบบกันสะเทือนที่ได้รับการปรับปรุง ซึ่งให้การยึดเกาะที่ดีขึ้นและการขับขี่ที่สบายยิ่งขึ้นบนพื้นผิวที่ขรุขระ

ภายในห้องโดยสาร G 63 เป็นสวรรค์แห่งความหรูหราและเทคโนโลยี หนังที่เย็บด้วยมือ การตกแต่งด้วยไม้ที่สร้างสรรค์ด้วยมือ และการตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมขัดเงา สร้างบรรยากาศแห่งความฟุ่มเฟือยและความประณีต แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ครองแผงหน้าปัด โดยให้การเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงมากมาย สำหรับปี 2025 G 63 นำเสนอคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ใหม่ รวมถึง Active Steering Assist และ Active Emergency Stop Assist ซึ่งช่วยเพิ่มทั้งความปลอดภัยและความสะดวกสบาย

ด้วยการผสมผสานการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ สมรรถนะที่ทรงพลัง การตกแต่งที่หรูหรา และเทคโนโลยีที่ได้รับการปรับปรุง 2025 Mercedes-AMG G 63 ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาสุดยอดแห่งความหรูหราและความสามารถในการขับขี่ออฟโรด
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: G63 มีการเปลี่ยนแปลงสไตล์เล็กน้อยสำหรับปี 2025 ซึ่งตั้งใจจะปรับปรุงอากาศพลศาสตร์ของ SUV รูปทรงลูกบาศก์ กระจังหน้าและกันชนหน้าได้รับการปรับปรุงร่วมกับเสา A ที่ปรับรูปทรงและสปอยเลอร์บนหลังคาที่ละเอียดอ่อนเหนือกระจกบังลมเพื่อช่วยให้ G63 ตัดผ่านอากาศได้ง่ายขึ้น ที่อื่นๆ เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบได้รับระบบไฮบริด 48 โวลต์; ระบบกันสะเทือนแบบปรับได้ด้วยไฮดรอลิกใหม่เป็นตัวเลือก ราคาของ 2025 Mercedes-AMG G63 เริ่มต้นที่ประมาณ 190,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และสูงถึง 210,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและออปชั่นต่างๆ Mercedes-AMG G63 มาพร้อมอุปกรณ์ครบครันในรุ่นพื้นฐาน ดังนั้นเราจะเลือกรุ่นนั้น
เสียงจากนักวิจารณ์: “รถคันนี้เหมือนรถถัง มันให้ความรู้สึกที่ทนทาน และมันให้ความมั่นใจในการจัดการกับอุปสรรคใดๆ” – Car and Driver

2025 Mercedes-AMG GLC-Class

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: การผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จและมอเตอร์ไฟฟ้ามอบพละกำลังที่ไม่ลดละ
ภาพรวม: Mercedes-AMG GLC-Class ทั้งในรูปแบบ SUV แบบดั้งเดิมและ Coupe ที่เพรียวบาง มอบสมรรถนะอันทรงพลังให้กับกลุ่ม Luxury Compact ยานยนต์ไดนามิกเหล่านี้ใช้แพลตฟอร์ม GLC ที่ประณีตและอเนกประสงค์ และฉีดด้วย DNA มอเตอร์สปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ของ AMG ทำให้ได้ SUV ที่เหมาะสำหรับการขับขี่บนถนนที่คดเคี้ยวพอๆ กับการขับขี่ในเมือง

สำหรับปี 2025 กลุ่มผลิตภัณฑ์ AMG GLC-Class มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยเน้นที่สมรรถนะแบบไฟฟ้า AMG GLC 43 4MATIC ตอนนี้มีระบบ Mild-Hybrid จับคู่กับเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ สร้างกำลัง 416 แรงม้า และแรงบิด 369 ปอนด์-ฟุต การตั้งค่านี้ให้อัตราเร่งที่รวดเร็วและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ในขณะที่ระบบกันสะเทือนที่ปรับแต่งโดย AMG และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อช่วยให้การควบคุมที่คล่องตัวและการยึดเกาะที่มั่นใจได้

บนสุดของลำดับชั้นสมรรถนะคือ AMG GLC 63 S E PERFORMANCE รุ่นสมรรถนะสูงคันนี้มีระบบส่งกำลัง Plug-in Hybrid ที่ล้ำสมัย ซึ่งรวมเอาเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง ให้กำลังรวม 671 แรงม้า และแรงบิดมหาศาล 752 ปอนด์-ฟุต ซึ่งทำให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.4 วินาที (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) GLC 63 S E PERFORMANCE ยังมีคุณสมบัติสมรรถนะที่ได้รับการอัปเกรดมากมาย รวมถึงระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเฉพาะ AMG ระบบหน่วงการสั่นสะเทือนแบบปรับได้ และระบบควบคุมการทรงตัวแบบแอคทีฟ ซึ่งช่วยให้การควบคุมที่ยอดเยี่ยมและประสบการณ์การขับขี่ที่ไดนามิก

ทั้ง GLC 43 และ GLC 63 S E PERFORMANCE มีให้เลือกทั้งในรูปแบบตัวถัง SUV และ Coupe ซึ่งมีตัวเลือกระหว่าง SUV ที่ใช้งานได้จริงและอเนกประสงค์ หรือ Coupe ที่เพรียวบางและสปอร์ตกว่าพร้อมหลังคาที่ลาดเอียง ด้วยการผสมผสานสมรรถนะที่ทรงพลัง เทคโนโลยีขั้นสูง และการตกแต่งที่หรูหรา 2025 Mercedes-AMG GLC-Class และ GLC-Class Coupe จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา SUV Luxury Compact ที่มีขอบเขตที่น่าตื่นเต้น

GLC63 กลับมาสำหรับปี 2025 โดยครั้งนี้มาในรูปแบบ S E Performance แม้ว่าคุณจะพบเครื่องยนต์สี่สูบเทอร์โบชาร์จขนาดเล็กใต้ฝากระโปรงหน้า แต่ GLC63 มีกำลัง 671 แรงม้า ต้องขอบคุณมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: ราคาของ 2025 AMG GLC-Class เริ่มต้นที่ 66,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับรุ่นพื้นฐานในตัวถังปกติ และ 71,750 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับตัวถังคูเป้ รุ่น GLC63 S E Performance เป็นสัตว์ร้ายที่สมบูรณ์แบบ ดังนั้นไปหามันซะ 671 แรงม้าคุ้มค่ากับราคาที่สูงกว่า 90,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
เสียงจากนักวิจารณ์: “GLC 63 S E PERFORMANCE นั้นเร็วอย่างน่าตกใจ การเพิ่มพลังงานไฟฟ้าให้แรงบิดทันที ทำให้รู้สึกเหมือนจรวดออกจากเส้นสตาร์ท” – Top Gear

2025 Mercedes-AMG GLE-Class

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: การควบคุมที่น่าประหลาดใจสำหรับขนาดของมัน และมีพละกำลังที่ยอดเยี่ยม
ภาพรวม: Mercedes-AMG GLE-Class สำหรับปี 2025 ยังคงครองตำแหน่ง SUV หรูหราสมรรถนะสูง ที่ผสมผสานพละกำลังที่เร้าใจเข้ากับความสะดวกสบายที่ประณีตและเทคโนโลยีขั้นสูงได้อย่างลงตัว SUV ขนาดกลาง คันนี้ ซึ่งมีพื้นฐานมาจาก Mercedes-Benz GLE ได้รับการปรับแต่งโดย AMG โดยเน้นที่พลวัตการขับขี่ที่เพิ่มขึ้น สไตล์ที่ดุดัน และระบบส่งกำลังไฟฟ้าที่ทรงพลัง กลุ่มผลิตภัณฑ์ GLE-Class AMG สำหรับปี 2025 ได้รับการปรับปรุงให้เรียบง่ายขึ้น โดยนำเสนอ GLE 53 และ GLE 63 ที่เน้นสมรรถนะสูง

GLE 53 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ซึ่งได้รับการปรับปรุงด้วยระบบ Mild-Hybrid การตั้งค่านี้สร้างกำลัง 429 แรงม้า และแรงบิด 384 ปอนด์-ฟุต ซึ่งให้กำลังที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการเร่งความเร็ว เครื่องยนต์จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT TCT 9 สปีด ที่ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วและราบรื่น ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC+ ช่วยให้การควบคุมที่มั่นใจได้และการยึดเกาะในสภาพต่างๆ ซึ่งมีส่วนช่วยให้ GLE 53 มีลักษณะสปอร์ต

Mercedes-AMG GLE 63 S E อยู่บนสุดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ GLE-Class แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ต่อเทคโนโลยีไฮบริดสมรรถนะสูง SUV คันนี้อัดแน่นไปด้วยพละกำลังอย่างจริงจัง โดยรวมเครื่องยนต์ V8 Biturbo AMG 4.0 ลิตรที่สร้างด้วยมือเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง เพื่อให้ได้กำลังรวม 603 แรงม้า และแรงบิดมหาศาล 627 ปอนด์-ฟุต การตั้งค่านี้ช่วยให้ GLE 63 S E เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.7 วินาที (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) ทำให้เป็น SUV ที่เร็วที่สุด รุ่นหนึ่งในตลาด

แต่ GLE 63 S E PERFORMANCE ไม่ได้เป็นเพียงพละกำลังดิบเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีประสิทธิภาพที่น่าประทับใจด้วยระบบไฮบริด ซึ่งสามารถให้ระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวในระยะสั้นสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวันและธุระต่างๆ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AMG Performance 4MATIC+ ช่วยให้การยึดเกาะและการควบคุมที่เหมาะสมที่สุด ในขณะที่ระบบกันสะเทือนถุงลม AMG RIDE CONTROL+ พร้อมการหน่วงการสั่นสะเทือนแบบปรับได้ให้การขับขี่ที่สะดวกสบายและการควบคุมที่เฉียบคม

ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากมายในปี 2025 นอกจากการเพิ่มสีตัวถังใหม่สี่สีและสีเบาะหนังใหม่สามสี: ทุกรุ่นตอนนี้มาพร้อมตรา AMG ที่ปักบนพนักพิงศีรษะและเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือแบบไบโอเมตริกซ์เพื่อความปลอดภัย (ซึ่งเจ๋งมาก)
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: ราคาของ 2025 AMG GLE53 เริ่มต้นที่ 90,350 ดอลลาร์สหรัฐฯ และ GLE63 เริ่มต้นที่ 131,950 ดอลลาร์สหรัฐฯ เราชอบ GLE63 มาก แต่มันแพงเกินไปที่จะเป็นตัวเลือกที่ถูกต้อง เลือก GLE53 แล้วเพิ่มออปชั่นดีๆ บางอย่าง คุณจะยังคงอยู่ภายใต้ราคา 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ แพ็คเกจ Winter นั้นยอดเยี่ยมมากสำหรับผู้ที่อยู่ในสภาพอากาศหนาวเย็น โดยให้พวงมาลัยปรับอุ่น ที่ฉีดน้ำล้างกระจกหน้าปรับอุ่น
เสียงจากนักวิจารณ์: “GLE 63 S E เป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่น่าทึ่ง แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของ AMG ทั้งในด้านสมรรถนะและระบบไฟฟ้า” – Car and Driver

2025 Mercedes-AMG GLS-Class

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ใหญ่ ใช้งานได้จริง และเร็วมากสำหรับคุณและครอบครัว
ภาพรวม: Mercedes-AMG GLS 63 คือสุดยอดการแสดงออกถึงความหรูหราและสมรรถนะของ SUV เป็นรถที่สามารถพิชิตทุกสภาพถนนในขณะที่ให้ความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสารอย่างเหนือชั้น SUV ขนาดเต็ม คันนี้ ซึ่งมีพื้นฐานมาจาก Mercedes-Benz GLS ที่หรูหราอยู่แล้ว ได้รับการปรับแต่งโดย AMG อย่างเต็มที่ โดยมีเครื่องยนต์ V8 ที่สร้างด้วยมือ ระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต และอุปกรณ์ตกแต่งที่หรูหรามากมาย

ใต้ฝากระโปรง GLS 63 มีเครื่องยนต์ V8 Biturbo AMG 4.0 ลิตรที่สร้างด้วยมือ ซึ่งได้รับการปรับปรุงด้วยระบบ Mild-Hybrid 48 โวลต์ ระบบส่งกำลังอันทรงพลังนี้ให้กำลัง 603 แรงม้า และแรงบิด 627 ปอนด์-ฟุต ซึ่งทำให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. โดยประมาณ 4.1 วินาที (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) ระบบ Mild-Hybrid ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มสมรรถนะเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษ เกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT TCT 9 สปีด ของ GLS 63 ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วและราบรื่น ในขณะที่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AMG Performance 4MATIC+ ช่วยให้การควบคุมที่มั่นใจได้และการยึดเกาะในสภาพต่างๆ

ภายในห้องโดยสาร GLS 63 เป็นสวรรค์แห่งความหรูหราและเทคโนโลยี เบาะหนัง Nappa ระดับพรีเมียม การตกแต่งด้วยไม้ที่สร้างสรรค์ด้วยมือ และการตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมขัดเงา สร้างบรรยากาศแห่งความฟุ่มเฟือยและความประณีต แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ครองแผงหน้าปัด โดยให้การเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงมากมาย

ผู้โดยสารในแถวที่สองและสามเพลิดเพลินกับพื้นที่และความสะดวกสบายที่กว้างขวาง ด้วยคุณสมบัติเช่น เบาะนั่งปรับอุ่นและเย็น ระบบควบคุมอุณหภูมิส่วนบุคคล และระบบความบันเทิงสำหรับเบาะหลัง ด้วยการผสมผสานสมรรถนะที่เร้าใจ ความหรูหราที่กว้างขวาง และเทคโนโลยีขั้นสูง Mercedes-AMG GLS 63 จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาสุดยอดแห่งความประณีตและความสามารถของ SUV
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: ราคาของ 2025 AMG GLS63 เริ่มต้นที่ 147,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และมีให้เลือกเพียงรุ่นย่อยเดียว นี่คือ SUV ราคาแพง และมาพร้อมอุปกรณ์ครบครันอย่างน่าขอบคุณ มีแพ็คเกจ Warmth and Comfort ที่เราแนะนำ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วจะให้ความร้อนกับสิ่งต่างๆ มากมาย
เสียงจากนักวิจารณ์: “GLS 63 สามารถทำให้รถสปอร์ตหลายคันอับอายในการวิ่งทางตรง ในขณะที่ยังคงบรรทุกผู้โดยสารเจ็ดคนได้อย่างสะดวกสบายอย่างที่สุด” – Motor Trend

2025 Porsche Cayenne

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่สะดวกสบายและรวดเร็ว และยังคงเป็นอันดับหนึ่งในด้านพลวัต
ภาพรวม: 2025 Porsche Cayenne ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา SUV หรูหรา ที่ไม่ลดทอนสมรรถนะ ปีนี้กลุ่มผลิตภัณฑ์ Cayenne มีตัวเลือกระบบส่งกำลังที่หลากหลาย ตั้งแต่เครื่องยนต์ V6 ที่ทรงพลังไปจนถึง Plug-in Hybrid ที่ให้ระยะทางไฟฟ้าที่น่าประทับใจ แต่เป็นรุ่นที่เน้นสมรรถนะที่จับแก่นแท้ของลักษณะสปอร์ตของ Cayenne ได้อย่างแท้จริง

Cayenne S ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตร สร้างกำลัง 434 แรงม้า และแรงบิด 405 ปอนด์-ฟุต ซึ่งทำให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.7 วินาที (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) พร้อมเสียงท่อไอเสียที่สปอร์ตอย่างน่าพึงพอใจ รุ่น S ยังได้รับประโยชน์จากระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ตและเบรกที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มความคล่องตัวและความสามารถในการควบคุม

สำหรับผู้ที่ต้องการความตื่นเต้นยิ่งขึ้น Cayenne GTS ยกระดับสมรรถนะไปอีกขั้น เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ให้กำลัง 493 แรงม้า และแรงบิด 457 ปอนด์-ฟุต ทำให้สามารถเข้าถึง 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.2 วินาที (60 ไมล์ต่อชั่วโมง) GTS ยังมีระดับความสูงที่ต่ำลง ระบบไอเสียแบบสปอร์ต และการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ที่เน้นลักษณะที่แข็งแกร่ง

รุ่นที่เน้นสมรรถนะเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ Cayenne ในการผสมผสานประโยชน์ใช้สอยเข้ากับสมรรถนะที่เร้าใจ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งประณีตและน่าดึงดูดใจ ไม่ว่าคุณจะขับขี่ในเมืองหรือบนถนนในหุบเขา 2025 Porsche Cayenne มอบการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของความหรูหราและความสปอร์ตที่แน่นอนว่าจะตอบสนองแม้กระทั่งผู้ขับขี่ที่ละเอียดอ่อนที่สุด
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: 2025 Porsche Cayenne เริ่มต้นที่ 87,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และพุ่งขึ้นไปถึง 127,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับรุ่น GTS เลือกรุ่น Cayenne พื้นฐานและเลือกแพ็คเกจ Premium และ Sport Chrono รุ่น GTS 493 แรงม้าเข้าร่วมกลุ่มผลิตภัณฑ์ Cayenne สำหรับปี 2025 เป็นรุ่นที่ยอดเยี่ยมและใช้เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตรเดียวกับ Cayenne S แต่ได้รับการเพิ่มกำลัง 25 แรงม้า มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อระบายความร้อนด้วยน้ำและส่วนประกอบช่วงล่างบางส่วนที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงการตอบสนองของพวงมาลัย GTS มาพร้อมแพ็คเกจ Sport Design เป็นมาตรฐาน ซึ่งเพิ่มการตกแต่งภายนอกสีดำตามปกติและองค์ประกอบการออกแบบเฉพาะ GTS อื่นๆ
เสียงจากนักวิจารณ์: “ยังคงเป็น SUV ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสมรรถนะ … อย่างเห็นได้ชัด”

2025 Porsche Cayenne Turbo E-Hybrid

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: ยังคงเป็น SUV ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ในตลาดวันนี้
ภาพรวม: 2025 Porsche Cayenne Turbo E-Hybrid คือ SUV สมรรถนะสูง ที่นิยามใหม่ของความทรงพลังและมีประสิทธิภาพ Plug-in Hybrid คันนี้ผสมผสานเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างเชี่ยวชาญ ส่งผลให้ได้กำลังรวมที่น่าตกใจ 729 แรงม้า และแรงบิด 700 ปอนด์-ฟุต ซึ่งทำให้อัตราเร่งที่น่าทึ่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.5 วินาที (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) ทำให้เป็น SUV ที่เร็วที่สุด รุ่นหนึ่งในตลาด

แต่ Cayenne Turbo E-Hybrid ไม่ได้เป็นเพียงพละกำลังดิบเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวที่น่าประทับใจถึง 60 กิโลเมตร (37 ไมล์) ซึ่งช่วยให้การเดินทางในเมืองและการทำธุระโดยไม่ปล่อยมลพิษ ระบบไฮบริดผสานเครื่องยนต์เบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าด้วยกันอย่างราบรื่น มอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลและประณีตไม่ว่าคุณจะขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าหรือปลดปล่อยพละกำลัง V8 เต็มรูปแบบ Cayenne Turbo E-Hybrid ยังมีระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต ระบบกันสะเทือนถุงลมแบบปรับได้ และระบบ Porsche Active Suspension Management (PASM) ซึ่งช่วยให้การควบคุมที่ยอดเยี่ยมและการขับขี่ที่สะดวกสบาย

ภายในห้องโดยสาร Cayenne Turbo E-Hybrid นำเสนอสภาพแวดล้อมที่หรูหราและล้ำหน้าทางเทคโนโลยี วัสดุระดับพรีเมียม เช่น หนังและคาร์บอนไฟเบอร์ ประดับประดาภายใน ในขณะที่แผงหน้าปัดดิจิทัลโค้งขนาด 12.6 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสกลางขนาด 12.3 นิ้ว ให้การเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงมากมาย
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: ราคาของ 2025 Cayenne Turbo เริ่มต้นที่ 159,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ รถคันนี้มาพร้อมอุปกรณ์ครบครัน เร็วปานสายฟ้า และใช้งานได้จริงตั้งแต่แกะกล่อง แม้ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางกลไกสำหรับปี 2025 Cayenne Turbo E-Hybrid เช่นเดียวกับ Cayenne ทุกรุ่น ได้รับอุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มเติมสำหรับรุ่นปีใหม่
เสียงจากนักวิจารณ์: “Cayenne เป็นมาตรฐานในกลุ่ม SUV หรูหรา โดยนำเสนอการผสมผสานที่น่าสนใจระหว่างสมรรถนะ ความหรูหรา และประโยชน์ใช้สอย” – Motor Trend

2025 Porsche Macan

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: สมบูรณ์แบบหากคุณต้องการ SUV ที่สามารถรองรับทั้งการผจญภัยในชีวิตประจำวันและวันหยุดสุดสัปดาห์
ภาพรวม: 2025 Porsche Macan ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา SUV หรูขนาดกะทัดรัด ที่ให้ความสำคัญกับสมรรถนะและความสนุกในการขับขี่ ในขณะที่พี่น้องไฟฟ้ากำลังขโมยความสนใจ Macan ที่ใช้แก๊สยังคงเป็นตัวเลือกที่เกี่ยวข้องและน่าตื่นเต้น โดยนำเสนอหลากหลายรุ่นย่อยที่ตอบสนองความต้องการและความชอบที่แตกต่างกัน

Macan พื้นฐานเริ่มต้นด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ให้กำลัง 261 แรงม้า และแรงบิด 295 ปอนด์-ฟุต ซึ่งให้กำลังที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการเร่งความเร็ว ในขณะที่ยังคงประหยัดน้ำมันได้ดี สำหรับผู้ที่ต้องการความกระตือรือร้นมากขึ้น Macan T เพิ่มความสปอร์ตด้วยระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ และคันเร่งที่ตอบสนองได้ดีขึ้น

Macan S เพิ่มสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตร สร้างกำลัง 375 แรงม้า และแรงบิด 383 ปอนด์-ฟุต ซึ่งทำให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.6 วินาที (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) พร้อมเสียงท่อไอเสียที่สปอร์ตอย่างน่าพึงพอใจ รุ่น S ยังได้รับประโยชน์จากเบรกที่ใหญ่ขึ้นและระบบกันสะเทือนถุงลมแบบปรับได้ที่เป็นตัวเลือก ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการควบคุม

บนสุดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Macan ที่ใช้แก๊สคือ Macan GTS รุ่นที่เน้นสมรรถนะนี้มีเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตร ที่ให้กำลังมหาศาล 434 แรงม้า และแรงบิด 405 ปอนด์-ฟุต ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.3 วินาที (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) GTS มอบสมรรถนะที่เร้าใจซึ่งเทียบได้กับรถสปอร์ตบางคัน นอกจากนี้ยังมีระบบไอเสียแบบสปอร์ต ระดับความสูงที่ต่ำลง และองค์ประกอบการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ที่เน้นลักษณะที่แข็งแกร่ง

ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นย่อยใด 2025 Porsche Macan มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งประณีตและน่าดึงดูดใจ พวงมาลัยที่แม่นยำ แชสซีที่สมดุล และเครื่องยนต์อันทรงพลัง ทำให้การขับขี่บนถนนที่คดเคี้ยวเป็นเรื่องสนุก ในขณะที่ภายในที่หรูหราและเทคโนโลยีขั้นสูงให้ความสะดวกสบายสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: ราคาของ 2025 Macan เริ่มต้นที่ 65,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับรุ่นพื้นฐาน และเพิ่มขึ้นเป็น 91,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับรุ่น S ตรงไปที่ GTS เนื่องจากอีกไม่นานเราก็จะไม่ได้ Macan ที่มีเครื่องยนต์สันดาปภายในแล้ว ดังนั้นควรจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดไปเลย
เสียงจากนักวิจารณ์: “Macan GTS เป็น SUV ที่เร็วอย่างจริงจัง มันให้ความรู้สึกเร็วกว่าตัวเลขที่บ่งบอกมาก ต้องขอบคุณเครื่องยนต์ที่ตอบสนองได้ดีและการควบคุมที่เฉียบคม” – Car and Driver

2025 Porsche Macan EV

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: ให้ความรู้สึกเหมือน Porsche ทุกประการ มันคล่องตัว ตอบสนองได้ดี และสนุกกับการขับขี่อย่างไม่น่าเชื่อ
ภาพรวม: Porsche Macan EV เป็นรุ่นสำคัญสำหรับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมัน ซึ่งเป็นการเข้าสู่โลกของ SUV ไฟฟ้าสมรรถนะสูง รุ่นใหม่ทั้งหมดนี้สัญญาว่าจะมอบพลวัตการขับขี่และความหรูหราที่ Porsche มีชื่อเสียง แต่มาพร้อมกับความยั่งยืนและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม Premium Platform Electric (PPE) Macan EV มีการออกแบบที่เพรียวบางและตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมทั้งสมรรถนะและประสิทธิภาพ เส้นโค้งที่นุ่มนวลและเส้นสายที่โค้งมนไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสวยงามทางสายตาเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยให้มีระยะทางที่น่าประทับใจถึง 500 กิโลเมตร (315 ไมล์)

กลุ่มผลิตภัณฑ์ Macan EV มีรุ่นย่อยหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการและความชอบที่แตกต่างกัน รุ่นพื้นฐานมีมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวที่ขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลัง 355 แรงม้า และแรงบิด 415 ปอนด์-ฟุต ซึ่งให้กำลังที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการเร่งความเร็ว ในขณะที่ยังคงมีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น รุ่น 4S และ Turbo เพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าตัวที่สองที่เพลาหน้า สร้างระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีพละกำลังและการยึดเกาะที่มากยิ่งขึ้น รุ่น 4S มีกำลังรวม 509 แรงม้า และแรงบิด 516 ปอนด์-ฟุต ในขณะที่ Turbo ปลดปล่อยกำลังมหาศาลถึง 603 แรงม้า และแรงบิด 737 ปอนด์-ฟุต ด้วยการกำหนดค่าระดับท็อปนี้ Macan EV Turbo สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.1 วินาที (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) ทำให้เป็น SUV ที่เร็วที่สุด รุ่นหนึ่งในตลาด

ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นย่อยใด Macan EV สัญญาว่าจะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ไดนามิกและน่าดึงดูดใจ จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำต้องขอบคุณแบตเตอรี่ที่ติดตั้งอยู่ใต้พื้นห้องโดยสาร มีส่วนช่วยให้การควบคุมและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม ระบบ Porsche Active Suspension Management (PASM) และระบบบังคับเลี้ยวล้อหลังที่เป็นตัวเลือกช่วยเพิ่มความสามารถในการเข้าโค้ง ภายในห้องโดยสาร Macan EV นำเสนอสภาพแวดล้อมที่หรูหราและล้ำหน้าทางเทคโนโลยี วัสดุระดับพรีเมียม แผงหน้าปัดดิจิทัลโค้ง และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ สร้างห้องโดยสารที่ซับซ้อนและเน้นผู้ขับขี่เป็นหลัก ด้วยการผสมผสานสมรรถนะ เทคโนโลยี และความยั่งยืน Porsche Macan EV พร้อมที่จะนิยามใหม่ของกลุ่ม SUV ไฟฟ้า
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: ราคาของ 2025 Porsche Macan EV เริ่มต้นที่ 77,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับรุ่นพื้นฐาน และเพิ่มขึ้นเป็น 107,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับรุ่น Turbo รุ่น Turbo จะเป็นตัวเลือกส่วนตัวของผม แต่ราคานั้นสูงมากที่เกือบ 110,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ดังนั้นเราจะเลือก 4S ที่มี 442 แรงม้า
เสียงจากนักวิจารณ์: “จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำและแชสซีที่สมดุลของ Macan EV ทำให้มีความสามารถในการควบคุมที่น่าประทับใจ” – Road & Track

2025 Rolls-Royce Cullinan

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: สัญลักษณ์แห่งความสำเร็จและความพิเศษเฉพาะตัว เป็นสัญลักษณ์ที่แท้จริงของการมาถึงอย่างมีสไตล์
ภาพรวม: 2025 Rolls-Royce Cullinan ซึ่งเป็นการเข้าสู่โลกของ SUV หรูหราพิเศษ ยังคงนิยามใหม่ของความหรูหราแบบออฟโรด รถที่สง่างามคันนี้ ซึ่งตั้งชื่อตามเพชรที่ใหญ่ที่สุดที่เคยค้นพบ ผสมผสานงานฝีมืออันเป็นเอกลักษณ์ของ Rolls-Royce และพละกำลังที่ง่ายดายเข้ากับการปรากฏตัวที่โดดเด่นและความสามารถที่น่าประหลาดใจ สำหรับปี 2025 Cullinan ได้รับการปรับปรุงที่ละเอียดอ่อนแต่มีผลกระทบ ซึ่งช่วยเสริมตำแหน่งในฐานะสุดยอดของ SUV หรูหรา

การออกแบบภายนอกของ Cullinan ได้รับการปรับแต่งอย่างละเอียดด้วยกันชนหน้าที่ได้รับการออกแบบใหม่พร้อมช่องดักอากาศที่เอียง สร้างรูปลักษณ์ที่ไดนามิกและมีจุดมุ่งหมายมากขึ้น กระจังหน้า Pantheon อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Rolls-Royce ตอนนี้มีไฟส่องสว่าง เพิ่มสัมผัสแห่งความสง่างามที่ทันสมัย ล้อขนาด 23 นิ้วใหม่ที่ผลิตจากอลูมิเนียมชิ้นเดียว ช่วยเพิ่มท่าทางที่สง่างามของ Cullinan ภายในห้องโดยสาร Cullinan ยังคงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของความหรูหราที่สั่งทำพิเศษ ด้วยรายละเอียดที่สร้างสรรค์ด้วยมือ วัสดุที่ดีที่สุด และระดับของการปรับแต่งเฉพาะบุคคลที่ตอบสนองลูกค้าที่ละเอียดอ่อนที่สุด ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสความละเอียดสูงใหม่พร้อมฟังก์ชันการทำงานและการเชื่อมต่อที่ได้รับการปรับปรุง ผสานเข้ากับแผงหน้าปัดที่สร้างสรรค์ด้วยมือของ Cullinan ได้อย่างราบรื่น

ใต้ฝากระโปรง Cullinan ยังคงรักษาเครื่องยนต์ V12 ทวินเทอร์โบ 6.75 ลิตร อันทรงพลังไว้ มอบพละกำลังที่ไหลลื่นซึ่งขับเคลื่อน SUV หรูหรา คันนี้ได้อย่างง่ายดาย ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและเทคโนโลยีช่วงล่างขั้นสูงช่วยให้การขับขี่ที่นุ่มนวลและควบคุมได้ แม้บนพื้นผิวที่ท้าทาย ไม่ว่าคุณจะขับขี่ในเมืองหรือผจญภัยนอกเส้นทาง 2025 Rolls-Royce Cullinan มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่มีใครเทียบได้ ซึ่งผสมผสานพละกำลังที่ง่ายดาย ความสะดวกสบายที่เงียบสงบ และความหรูหราที่สั่งทำพิเศษ
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: 2025 Rolls-Royce Cullinan เริ่มต้นที่ 392,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับรุ่นพื้นฐาน ในขณะที่ Black Badge อยู่ที่ 454,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ จัดเต็มกับออปชั่นต่างๆ เพราะนี่คือ Rolls-Royce หลังจากที่ Rolls-Royce ระบุการอัปเดตเล็กน้อยสำหรับ 2025 Cullinan โดยเพิ่มคำต่อท้าย “II” เข้าไปในชื่อ แต่การเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่เป็นเครื่องสำอางและเกี่ยวข้องกับส่วนติดต่อผู้ใช้
เสียงจากนักวิจารณ์: “Cullinan เป็นรถสำหรับผู้ที่ต้องการสุดยอดแห่งความหรูหราและความสามารถ” – CNET Roadshow

2025 Range Rover

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: Range Rover จะพาคุณไปถึงที่หมายอย่างสะดวกสบายและมีสไตล์
ภาพรวม: Range Rover รุ่นปัจจุบันในเจเนอเรชั่นที่ห้า คือการผสมผสานที่ยอดเยี่ยมของความหรูหรา ความสามารถ และเทคโนโลยี เป็นรถที่เดินทางในเมืองได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่ยังคงมั่นใจอย่างยิ่งเมื่อออกนอกเส้นทาง รุ่นล่าสุดนี้ซึ่งเปิดตัวสำหรับรุ่นปี 2022 ยังคงรักษารูปทรงคลาสสิกของ Range Rover ไว้ด้วยท่าทางที่ตั้งตรงอันเป็นเอกลักษณ์และหลังคาแบบลอยตัว แต่แนะนำภาษาการออกแบบที่ทันสมัยและเรียบง่ายที่แสดงออกถึงความประณีต

ภายใน Range Rover เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งความประณีต วัสดุระดับพรีเมียม เช่น หนังเนื้อนุ่ม ไม้วีเนียร์แท้ และการตกแต่งด้วยโลหะที่สร้างสรรค์อย่างพิถีพิถัน ประดับประดาภายใน ห้องโดยสารที่กว้างขวางให้ความสะดวกสบายที่ไม่มีใครเทียบได้สำหรับผู้โดยสารทุกคน โดยมีเบาะหลัง Executive Class ที่มีให้เลือกซึ่งให้ฟังก์ชันการเอนและการนวดแบบเดียวกับเครื่องบิน เทคโนโลยีล้ำสมัยถูกรวมเข้าด้วยกันอย่างราบรื่น ตั้งแต่ระบบอินโฟเทนเมนต์ Pivi Pro ที่ใช้งานง่ายพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ ไปจนถึงคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบาย

นอกเหนือจากอุปกรณ์ตกแต่งที่หรูหราแล้ว Range Rover ยังคงรักษาความเป็นต้นฉบับในฐานะเครื่องจักรที่มีความสามารถในการขับขี่ออฟโรดได้อย่างยอดเยี่ยม ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อขั้นสูง เทคโนโลยี Terrain Response 2 และระบบกันสะเทือนถุงลมที่มีให้เลือกช่วยให้สามารถพิชิตภูมิประเทศที่ท้าทายได้อย่างง่ายดาย

ตัวเลือกระบบส่งกำลังที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพมากมาย รวมถึง Mild-Hybrid, Plug-in Hybrid และ V8 อันทรงพลัง ช่วยให้มั่นใจถึงสมรรถนะที่ง่ายดายในทุกสถานการณ์ Range Rover รวบรวมสุดยอดของ SUV หรูหรา อย่างแท้จริง โดยนำเสนอการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของความสง่างามที่ประณีตและความสามารถที่แข็งแกร่ง
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: ราคาของ 2025 Land Rover Range Rover เริ่มต้นที่ 109,525 ดอลลาร์สหรัฐฯ และสูงถึง 210,625 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและออปชั่นต่างๆ เราขอแนะนำให้เลือกรุ่น Autobiography ระดับกลาง ซึ่งเพิ่มรายการที่ผู้ซื้อรถหรูจะชื่นชอบหลายรายการ
เสียงจากนักวิจารณ์: “ความสะดวกสบายในระดับสูงมาก ตัวเลือกเครื่องยนต์และการปรับแต่งที่หลากหลาย ภายในที่หรูหรา” – Car and Driver

สุดยอดรถ SUV สปอร์ตและหรูหราของเราสำหรับปี 2025

หลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบจากประสบการณ์ 10 ปีในวงการ นี่คือสองตัวเลือกที่โดดเด่นเป็นพิเศษสำหรับ SUV หรูและสมรรถนะสูง ในปี 2025:

2025 Porsche Macan GTS

ราชันย์แห่งป่า SUV ขนาดกะทัดรัด
ทำไมรุ่นนี้ถึงเป็นสุดยอด SUV สปอร์ตใหม่?
Porsche Macan GTS คือรุ่นที่รวบรวมจิตวิญญาณของ Porsche ได้อย่างแท้จริง มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งเร้าใจและประณีต ใต้ฝากระโปรงของ Macan GTS มีเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตรที่ให้กำลังมหาศาล 434 แรงม้า และแรงบิด 405 ปอนด์-ฟุต ซึ่งทำให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.3 วินาที (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) พร้อมเสียงท่อไอเสียที่สปอร์ตอย่างน่าพึงพอใจที่จะทำให้หัวใจคุณเต้นรัว

Macan GTS ควบคุมได้อย่างคล่องตัวและแม่นยำเกินกว่าสัดส่วนของ SUV มันให้ความรู้สึกเบา คล่องตัวในการเปลี่ยนทิศทาง และยึดเกาะถนนได้อย่างไม่น่าเชื่อในโค้ง ระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต ระบบกันสะเทือนถุงลมที่เป็นตัวเลือก และพวงมาลัยที่แม่นยำ สร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ชวนให้นึกถึง Hot Hatch ไม่ใช่ SUV ยกสูง อย่างที่ Edmunds กล่าวไว้ว่า “Macan GTS ควบคุมได้เหมือนรถสปอร์ต ด้วยพวงมาลัยที่แม่นยำ การโคลงตัวของรถน้อยที่สุด และแชสซีที่สนุกสนาน” Car and Driver กล่าวว่า “เบาะนั่งแบบสปอร์ตของ GTS รองรับสรีระและสะดวกสบาย แม้ในระหว่างการขับขี่ที่เร้าใจ”

โดยรวมแล้ว Macan GTS เป็นแพ็คเกจที่สมบูรณ์แบบที่นำเสนอการผสมผสานที่น่าสนใจระหว่างสมรรถนะ ความหรูหรา และประโยชน์ใช้สอย

2025 Audi SQ7

รถอเนกประสงค์ชั้นยอด: หรูหรา รวดเร็ว มีสไตล์ ตรงตามความต้องการทุกประการ
ทำไมรุ่นนี้ถึงเป็นสุดยอด SUV สปอร์ตใหม่?
Audi SQ7 ผสมผสานความหรูหรา ประโยชน์ใช้สอย และสมรรถนะที่น่าตื่นเต้นเข้าไว้ในแพ็คเกจ SUV เจ็ดที่นั่งที่กว้างขวาง เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ให้กำลัง 503 แรงม้า และแรงบิด 568 ปอนด์-ฟุต ได้รับการยกย่องในเรื่อง “พละกำลังอันระเบิด” และ “เสียงคำรามที่เร้าใจ” นักวิจารณ์อย่าง Edmunds และ Top Gear ชื่นชม “อัตราเร่งที่โหดร้าย” และ “สมรรถนะที่ง่ายดาย”

แม้จะเน้นสมรรถนะ แต่ SQ7 ก็ยังให้ “การควบคุมที่สงบนิ่ง” และ “คุณภาพการขับขี่ที่สะดวกสบาย”

Car and Driver: “SQ7 ผสมผสานสมรรถนะระดับเมกะและประโยชน์ใช้สอยของ SUV ในแพ็คเกจที่ตกแต่งอย่างดีและอเนกประสงค์ เหมาะสำหรับครอบครัว”

ก้าวสู่ประสบการณ์ขับขี่ที่เหนือระดับกับ SUV ในฝันของคุณวันนี้!

ตลาด รถ SUV หรูและสมรรถนะสูง ในปี 2025 นั้นเต็มไปด้วยตัวเลือกที่น่าตื่นเต้น ซึ่งแต่ละคันพร้อมที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าความคาดหมาย ไม่ว่าคุณจะแสวงหาความเร็ว แรงกระตุ้นอะดรีนาลีน หรือความหรูหราสง่างามในทุกการเดินทาง ยานยนต์เหล่านี้ถูกสร้างมาเพื่อคุณ

อย่าปล่อยให้ความปรารถนาในการขับขี่ที่เร้าใจเป็นเพียงความฝัน มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของยุคใหม่แห่งยานยนต์ที่คุณไม่จำเป็นต้องเลือกระหว่างประโยชน์ใช้สอยและสมรรถนะ สำรวจตัวเลือกทั้งหมดที่เราได้นำเสนอ และค้นพบ SUV ที่สมบูรณ์แบบ ที่สะท้อนถึงบุคลิกและความต้องการของคุณอย่างแท้จริง

ถึงเวลาแล้วที่จะยกระดับการเดินทางของคุณให้เหนือกว่าเดิม! เยี่ยมชมโชว์รูมของเราวันนี้เพื่อสัมผัสประสบการณ์จริงและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราเพื่อค้นหา SUV สมรรถนะสูงที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณที่สุด

เจาะลึกสุดยอด SUV หรูและสมรรถนะสูงแห่งปี 2025: คู่มือสำหรับผู้หลงใหลความเร็วและความหรูหรา

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นตลาดรถยนต์เปลี่ยนแปลงไปอย่างมหาศาล และไม่มีเซกเมนต์ใดที่น่าจับตามองเท่ากับกลุ่มรถยนต์ Sports Utility Vehicle หรือ SUV อีกแล้ว จากที่เคยเป็นเพียงรถสำหรับครอบครัวธรรมดา ปัจจุบัน SUV ได้พัฒนาไปไกลกว่านั้นมาก จนกลายเป็นนิยามใหม่ของ “รถยนต์แห่งความเร้าใจ” ที่ผสานการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันเข้ากับสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นและเทคโนโลยีล้ำสมัย นี่ไม่ใช่แค่รถที่พาคุณไปซื้อของเท่านั้น แต่คือพาหนะที่พร้อมจะพาคุณโลดแล่นไปในทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นการเข้าโค้งอันคมกริบ การเร่งความเร็วบนทางตรง หรือการดึงดูดทุกสายตาที่จ้องมองมา ในปี 2025 นี้ ตลาด SUV สมรรถนะสูงและหรูหราได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม และในคู่มือฉบับนี้ ผมจะพาคุณดำดิ่งไปสำรวจโลกของ SUV ระดับพรีเมียมเหล่านี้ เพื่อช่วยให้คุณค้นพบรถที่ตอบโจทย์ความต้องการทั้งในด้านความเร็ว ความสะดวกสบาย และสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณได้อย่างแท้จริง

วิวัฒนาการที่น่าทึ่ง: SUV ไม่ใช่แค่รถครอบครัวอีกต่อไป

ตลอดสองถึงสามทศวรรษที่ผ่านมา รถยนต์ประเภท SUV ได้ก้าวขึ้นมาเป็นดาวเด่นในอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างปฏิเสธไม่ได้ มันตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัวสมัยใหม่ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน รวมถึงเป็นดัชนีสะท้อนสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ในขณะที่ SUV ยังคงโดดเด่นในด้านอรรถประโยชน์ แต่ภาพลักษณ์ที่เคยถูกติดป้ายว่าเป็น “รถแม่บ้าน” ก็ได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อทั้งตัวรถและฐานลูกค้าของ SUV มีการพัฒนา ความต้องการรถยนต์สมรรถนะสูงที่มาพร้อมความหรูหราจึงได้เบ่งบานอย่างรวดเร็ว

นี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้แบรนด์หรูและสมรรถนะสูงชั้นนำระดับโลกหันมาให้ความสนใจ และตอบสนองความต้องการรถยนต์ SUV ที่เร็วขึ้น ดีขึ้น และเซ็กซี่ขึ้น ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ทุกรายต่างตระหนักดีว่าความสำเร็จในตลาดนี้ได้สร้างผลกำไรมหาศาลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แม้แต่แบรนด์รถยนต์เฉพาะทางและรถยนต์ Exotic อย่าง Lamborghini และ Ferrari ก็ยังกระโดดเข้าร่วมสมรภูมิการแข่งขันนี้ด้วยเช่นกัน

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยอดขาย SUV ได้กลายเป็นหัวใจหลักที่ขับเคลื่อนธุรกิจของบริษัทเหล่านี้ และจากประสบการณ์ของผม ผู้ที่หลงใหลรถสปอร์ตตัวยงก็ไม่ควรมองข้ามข้อเท็จจริงนี้ เพราะอะไรน่ะหรือ? ประการแรก กำไรมหาศาลจาก SUV เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทเหล่านี้สามารถนำเงินไปลงทุนและพัฒนา “ของเล่นสนุกๆ” นั่นคือการออกแบบและผลิตรถสปอร์ตที่สร้างชื่อเสียงให้กับพวกเขา กระบวนการนี้จะวนเป็นวงจรเมื่อเทคโนโลยีจากรถซูเปอร์คาร์และรถสมรรถนะสูงไหลย้อนกลับมาสู่ SUV ทำให้ตลาดเป้าหมายขยายกว้างขึ้นกว่าเดิมอย่างมาก ซึ่งในอุดมคติแล้ว สิ่งนี้จะยังคงขับเคลื่อนยอดขายและรักษาวงล้อแห่งนวัตกรรมให้หมุนต่อไป ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้เห็น SUV ที่น่าทึ่งมากมายในปัจจุบัน และยังมีอีกหลายรุ่นที่กำลังจะตามมา

เทรนด์หลักของ SUV สมรรถนะสูงและหรูหราในปี 2025

สำหรับปี 2025 นี้ ตลาด SUV ระดับพรีเมียมยังคงมีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่มีการพลิกโฉมครั้งใหญ่ในทุกรุ่น แต่ก็มีจุดเด่นหลายประการที่บ่งบอกถึงทิศทางของอุตสาหกรรม:

พลังงานไฟฟ้าเข้ามามีบทบาทมากขึ้น: SUV ไฮบริดและไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (BEV) ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลือกอีกต่อไป แต่เป็นกระแสหลักที่ผลักดันขีดจำกัดด้านสมรรถนะและความยั่งยืน
เทคโนโลยีอัจฉริยะขั้นสูง: ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ซับซ้อนขึ้น ระบบอินโฟเทนเมนต์ที่ตอบสนองได้รวดเร็ว และการเชื่อมต่อที่ไร้รอยต่อกลายเป็นมาตรฐาน
การออกแบบที่ประณีตและดุดัน: ผสานความสง่างามเข้ากับความสปอร์ตได้อย่างลงตัว พร้อมการปรับแต่งเล็กน้อยที่ช่วยเสริมบุคลิกเฉพาะตัวของแต่ละแบรนด์
การปรับแต่งเฉพาะบุคคล: แบรนด์หรูนำเสนอทางเลือกในการปรับแต่งที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อให้เจ้าของรถได้แสดงออกถึงรสนิยมที่ไม่เหมือนใคร

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในวงการมานานกว่า 10 ปี ผมคัดสรรสุดยอด SUV ที่คุณสามารถซื้อได้ในวันนี้ ซึ่งล้วนแล้วแต่จัดอยู่ในประเภทรถยนต์สมรรถนะสูงและหรูหราโดดเด่น พร้อมมอบประสบการณ์ขับขี่อันเร้าใจ โดยเราจะเน้นไปที่รุ่นที่น่าตื่นเต้นสำหรับผู้ที่หลงใหลในยานยนต์เป็นพิเศษ

ตัวเลือก SUV สมรรถนะสูงและหรูหราแห่งปี 2025: รายละเอียดและมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ

ต่อไปนี้คือรถยนต์ SUV ระดับพรีเมียมที่เราคัดสรรมานำเสนอ พร้อมมุมมองจากประสบการณ์จริงในวงการ:

Alfa Romeo Stelvio Quadrifoglio 2025
มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ขับสนุกที่สุดในตลาด มอบอารมณ์สปอร์ตอิตาเลียนเต็มพิกัด
ภาพรวม: Alfa Romeo Stelvio Quadrifoglio ยังคงเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นสำหรับผู้ที่แสวงหา SUV สมรรถนะสูงที่อัดแน่นด้วยจิตวิญญาณแบบอิตาเลียน หัวใจของมันคือเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตรที่พัฒนาโดย Ferrari ให้กำลัง 505 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.6 วินาที พร้อมเสียงคำรามของท่อไอเสียที่ปลุกเร้าทุกโสตประสาท ไม่ใช่แค่แรงทางตรง แต่ยังมาพร้อมช่วงล่างที่ปรับแต่งอย่างละเอียด พวงมาลัยที่ตอบสนองฉับไว และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่เน้นสมรรถนะ ทำให้การเข้าโค้งเป็นเรื่องสนุก เบรก Brembo ให้ความมั่นใจในการหยุดรถ การออกแบบภายนอกผสมผสานความสง่างามและความดุดันเข้าด้วยกัน ภายในห้องโดยสารเน้นผู้ขับขี่ด้วยเบาะนั่งสปอร์ต หุ้มหนัง พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ขนาดใหญ่ และการตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์
จุดเด่นปี 2025 และราคาโดยประมาณ: ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญจากปีที่แล้ว ยังคงเน้นที่ประสบการณ์ขับขี่อันเร้าใจเป็นหลัก ราคาเริ่มต้นประมาณ 3.4 ล้านบาท

Aston Martin DBX707 2025
มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ไม่เหมือนใคร หรูหราและเร้าใจ พร้อมสมรรถนะระดับซูเปอร์คาร์
ภาพรวม: Aston Martin DBX707 กลับมาในปี 2025 ในฐานะ SUV เรือธงของแบรนด์ ที่ผสานการขับขี่อันน่าตื่นเต้นเข้ากับงานฝีมืออันประณีตและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย สำหรับปี 2025 มีการอัปเดตที่สำคัญ โดยเฉพาะการปรับปรุงภายในห้องโดยสาร และเน้นเฉพาะรุ่น DBX707 ซึ่งเป็นรุ่นสมรรถนะสูงเท่านั้น เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ที่ได้รับการปรับแต่งให้มีกำลังถึง 697 แรงม้า และแรงบิด 900 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.1 วินาที ทำให้เป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในตลาด ระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดพร้อมคลัตช์เปียกช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็ว ห้องโดยสารได้รับการปรับปรุงด้วยแผงหน้าปัดใหม่ คอนโซลกลาง และพวงมาลัยใหม่ รวมถึงระบบอินโฟเทนเมนต์ใหม่พร้อมหน้าจอสัมผัส 10.2 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
จุดเด่นปี 2025 และราคาโดยประมาณ: เน้นรุ่น 707 เป็นหลัก การตกแต่งภายในใหม่หมดจด พร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์ที่ทันสมัยขึ้น ราคาเริ่มต้นประมาณ 9.2 ล้านบาท

Audi RS Q8 2025
มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: Urus ในร่างที่เซ็กซี่กว่า และคุ้มค่ากว่าอย่างมหาศาล
ภาพรวม: Audi RS Q8 คือเวอร์ชันที่เร็วที่สุดของ Q8 SUV และยังเป็น SUV ที่ติดป้าย RS เพียงรุ่นเดียวในตลาดอเมริกาเหนือ มันเป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในสนาม Nordschleife บ่งบอกถึงความคล่องตัวที่น่าทึ่งสำหรับ SUV ขนาดใหญ่ เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ให้กำลัง 591 แรงม้า (หรือ 631 แรงม้าในรุ่น Performance ใหม่) พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro และระบบช่วงล่างถุงลมแบบปรับได้ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 3.8 วินาที (3.6 วินาทีในรุ่น Performance) แม้จะมีราคาค่อนข้างสูง แต่สมรรถนะ สไตล์ และฟีเจอร์ต่างๆ ก็คุ้มค่ากับการลงทุน ภายในห้องโดยสารหรูหราด้วยวัสดุคุณภาพสูง และจอแสดงผลดิจิทัล MMI
จุดเด่นปี 2025 และราคาโดยประมาณ: ได้รับการปรับโฉมใหม่ให้สอดคล้องกับ Q8 และ SQ8 รวมถึงการเพิ่มรุ่น Performance 631 แรงม้า ราคาเริ่มต้นประมาณ 5.3 ล้านบาท

Bentley Bentayga 2025 (รุ่น S V8)
มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: ความประณีตที่คุณคาดหวังจาก Bentley พร้อมสมรรถนะที่น่าทึ่ง ปัจจุบันคือ SUV ที่ดีที่สุด
ภาพรวม: Bentley Bentayga ยังคงเป็นมาตรฐานของ SUV สุดหรู เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ให้กำลังเกือบ 550 แรงม้า พร้อมแรงบิดที่มหาศาลมอบอัตราเร่งที่รวดเร็วทันใจ แต่ยังคงความสบายและหรูหราในระดับเฟิร์สคลาส Bentayga V8 มีการควบคุมที่ยอดเยี่ยมและคล่องตัวอย่างไม่น่าเชื่อสำหรับรถขนาดนี้ Bentley ยังคงนำเสนอทางเลือก Hybrid ที่ประหยัดเชื้อเพลิง พร้อมทางเลือกในการตกแต่งมากมาย รุ่น S เป็นเวอร์ชันที่เน้นความสปอร์ตมากขึ้น ด้วยการปรับแต่งช่วงล่าง การออกแบบภายนอกที่ดุดันขึ้น และล้ออัลลอยด์ขนาด 22 นิ้ว
จุดเด่นปี 2025 และราคาโดยประมาณ: มีการอัปเดตเล็กน้อยในการออกแบบ ภายในยังคงความหรูหราเหนือระดับ ทางเลือก Hybrid มีให้เลือกในทุกระดับการตกแต่ง ราคาเริ่มต้นประมาณ 7.5 ล้านบาท (สำหรับรุ่น S V8)

BMW X5 M Competition 2025
มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: มาตรฐานใหม่ของ Super SUV: เร็ว กว้างขวาง และหรูหรา
ภาพรวม: BMW X5 M Competition ปี 2025 กลับมาในฐานะกำลังสำคัญในเวที SUV สมรรถนะสูง ด้วยขุมพลังและเทคโนโลยีที่น่าประทับใจ เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.4 ลิตร ที่คุ้นเคย ได้รับการเสริมด้วยเทคโนโลยี Mild-Hybrid 48V เพิ่มกำลังเป็น 617 แรงม้า แรงบิด 750 นิวตันเมตร ทำให้ X5 M พุ่งทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ใน 3.7 วินาที พร้อมเสียงเครื่องยนต์ที่ปลุกเร้าจิตวิญญาณนักขับ ระบบช่วงล่าง M Adaptive ระบบกันโคลง Active Roll Stabilization และพวงมาลัยเลี้ยวล้อหลัง ทำงานร่วมกันเพื่อมอบการควบคุมและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive พร้อม M Differential ช่วยเพิ่มการยึดเกาะและการควบคุมให้ดียิ่งขึ้น เบรก M Compound ขนาดใหญ่ให้พลังการหยุดที่มั่นใจได้ ภายในห้องโดยสารหรูหราและล้ำสมัยด้วย BMW Curved Display ที่ผสานหน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัล 12.3 นิ้ว และจอสัมผัสอินโฟเทนเมนต์ 14.9 นิ้ว
จุดเด่นปี 2025 และราคาโดยประมาณ: ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากรุ่นปี 2024 ยังคงเน้นแพ็คเกจ Competition เป็นมาตรฐานที่ให้สมรรถนะสูงสุด ราคาเริ่มต้นประมาณ 4.6 ล้านบาท

Ferrari Purosangue 2025
มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างสมรรถนะ การใช้งานจริง และความหรูหรา สำหรับครอบครัว (ที่ไม่ธรรมดา)
ภาพรวม: Ferrari Purosangue ไม่ใช่แค่ SUV คันแรกของ Ferrari แต่คือแถลงการณ์ที่ท้าทายขนบธรรมเนียมและนิยามใหม่ของความคาดหวัง นี่ไม่ใช่รถ SUV ยกสูงสำหรับครอบครัวทั่วไป แต่คือ Ferrari พันธุ์แท้ที่มีจิตวิญญาณของรถสปอร์ต และความหลากหลายในการใช้งานของ SUV การออกแบบที่เพรียวบางตามหลักอากาศพลศาสตร์ พร้อมฝากระโปรงหน้าที่ยาว บังโคลนที่แข็งแกร่ง และท่าทางที่ดุดัน เป็นเอกลักษณ์ของ Ferrari อย่างแท้จริง ขณะที่ความสูงจากพื้นถนนที่เพิ่มขึ้นและสี่ประตู มอบระดับการใช้งานจริงใหม่สำหรับม้าลำพองคันนี้ ภายใต้ฝากระโปรงคือเครื่องยนต์ V12 หายใจธรรมชาติ 6.5 ลิตร ที่ปลดปล่อยพละกำลัง 715 แรงม้า แรงบิด 716 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 310 กม./ชม. ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อขั้นสูง ระบบกันสะเทือนแบบ Active และพวงมาลัยเลี้ยวล้อหลัง มอบการควบคุมและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม
จุดเด่นปี 2025 และราคาโดยประมาณ: ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงสำหรับรุ่นปี 2025 ยังคงเป็นสุดยอด SUV หรูที่มี DNA ของ Ferrari เต็มเปี่ยม ราคาเริ่มต้นประมาณ 15.7 ล้านบาท

Lamborghini Urus S.E. Hybrid / Performante 2025
มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: ความลงตัวระหว่างความบ้าคลั่งของ Lamborghini และการใช้งานจริงของ SUV ในชีวิตประจำวัน
ภาพรวม: Lamborghini Urus S.E. (Super Elettrica) ในปี 2025 ก้าวเข้าสู่อนาคตด้วยระบบขับเคลื่อน Plug-in Hybrid อันทรงพลัง เป็นการเริ่มต้นยุคใหม่สำหรับ SUV สมรรถนะสูงรุ่นนี้ เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร อันเป็นเอกลักษณ์ ยังคงอยู่ แต่ตอนนี้ผนวกกับมอเตอร์ไฟฟ้า สร้างกำลังรวม 789 แรงม้า แรงบิด 950 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.1 วินาที ระบบไฮบริดยังให้ระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนประมาณ 48 กม. เพิ่มมิติใหม่ของประสิทธิภาพ รุ่น “พื้นฐาน” Urus S ก็ได้รับการอัปเดตสำหรับปี 2025 ด้วยการปรับปรุงส่วนหน้าพร้อมกันชนและดีไซน์ฝากระโปรงใหม่ รวมถึงไฟหน้าและไฟท้ายที่ทันสมัยขึ้น สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะสูงสุด รุ่น Performante ยังคงเป็นที่หนึ่ง ด้วยมาตรการลดน้ำหนัก การปรับปรุงอากาศพลศาสตร์ และการปรับแต่งที่เน้นสนามแข่ง มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจและเข้าถึงอารมณ์ยิ่งขึ้น
จุดเด่นปี 2025 และราคาโดยประมาณ: การเปิดตัวรุ่น S.E. Hybrid ที่ทรงพลังและประหยัดยิ่งขึ้น พร้อมการปรับโฉมภายนอกและภายใน ราคาเริ่มต้นประมาณ 9-10 ล้านบาท

Lotus Eletre R 2025
มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: ผู้เปลี่ยนเกมสำหรับ Lotus และวงการ EV SUV
ภาพรวม: Lotus Eletre คือรถยนต์ที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ และเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอังกฤษที่ขึ้นชื่อเรื่องรถสปอร์ตน้ำหนักเบา นี่คือการก้าวเข้าสู่ตลาด SUV ของ Lotus เป็นครั้งแรก และเป็นการประกาศจุดยืนที่โดดเด่นด้วยการออกแบบที่สะดุดตา เทคโนโลยีล้ำสมัย และสมรรถนะที่น่าประทับใจ Eletre มีมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ให้กำลังรวม 603 แรงม้า ในรุ่นพื้นฐานและ S ส่วนรุ่น Eletre R ซึ่งเป็นรุ่นท็อป ปลดปล่อยพละกำลังมหาศาลถึง 905 แรงม้า แรงบิด 985 นิวตันเมตร พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.95 วินาที พร้อมเกียร์สองสปีดที่เพลาหลัง ช่วยเพิ่มทั้งอัตราเร่งและประสิทธิภาพ ภายในห้องโดยสารหรูหราและล้ำสมัย ใช้วัสดุที่ยั่งยืน หน้าจอสัมผัส OLED ขนาด 15.1 นิ้ว ครองแผงหน้าปัด พร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง
จุดเด่นปี 2025 และราคาโดยประมาณ: เป็นรุ่นใหม่เอี่ยมสำหรับปี 2025 มาพร้อมสามรุ่นย่อย ราคาเริ่มต้นประมาณ 4-5 ล้านบาท (สำหรับ Eletre R)

Mercedes-AMG G63 2025
มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: สัญลักษณ์แห่งสถานะและความพิเศษ แต่ก็ยังหรูหราและสะดวกสบายอย่างแท้จริง
ภาพรวม: Mercedes-AMG G 63 หรือที่รู้จักกันในชื่อ “G-Wagon” ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความสามารถในการลุยทางออฟโรดและความหรูหราที่ไม่มีใครเหมือน สำหรับปี 2025 G 63 ได้รับการอัปเดตที่ครอบคลุม ทั้งด้านสมรรถนะ เทคโนโลยี และความประณีต ในขณะที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์อันเป็นสัญลักษณ์ไว้ เครื่องยนต์ V8 Biturbo ขนาด 4.0 ลิตรที่สร้างด้วยมือของ AMG ซึ่งตอนนี้มาพร้อมระบบ Mild-Hybrid 48 โวลต์ ให้กำลัง 577 แรงม้า แรงบิด 850 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ประมาณ 4.2 วินาที ระบบ Mild-Hybrid ไม่เพียงช่วยเพิ่มสมรรถนะ แต่ยังปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง ภายในห้องโดยสารเป็นแหล่งรวมความหรูหราและเทคโนโลยี หนังที่เย็บด้วยมือ การตกแต่งด้วยไม้ และอะลูมิเนียมขัดเงาสร้างบรรยากาศที่โอ่อ่าและประณีต จอแสดงผลดิจิทัล 12.3 นิ้ว และจอสัมผัส 12.3 นิ้ว ครองแผงหน้าปัด
จุดเด่นปี 2025 และราคาโดยประมาณ: การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเพื่อปรับปรุงอากาศพลศาสตร์ และระบบ Mild-Hybrid สำหรับเครื่องยนต์ V8 ราคาเริ่มต้นประมาณ 6.9 ล้านบาท

Porsche Cayenne Turbo E-Hybrid 2025
มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: ยังคงเป็น SUV ที่ดีที่สุดรอบด้านในปัจจุบัน
ภาพรวม: Porsche Cayenne Turbo E-Hybrid 2025 คือ SUV สมรรถนะสูงที่สร้างนิยามใหม่ของการเป็นทั้งรถที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพ Plug-in Hybrid คันนี้ผสานเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างลงตัว ทำให้มีกำลังรวมที่น่าทึ่งถึง 729 แรงม้า แรงบิด 950 นิวตันเมตร ส่งผลให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.5 วินาที ทำให้เป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในตลาด นอกจากนี้ Cayenne Turbo E-Hybrid ยังมีระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนที่น่าประทับใจถึง 59 กม. ระบบไฮบริดผสานการทำงานของเครื่องยนต์เบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างราบรื่น มอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลและประณีตไม่ว่าคุณจะขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า หรือปลดปล่อยพละกำลังเต็มที่ของ V8
จุดเด่นปี 2025 และราคาโดยประมาณ: มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มเติมสำหรับรุ่นปี 2025 ยังคงเป็นรถที่ติดตั้งอุปกรณ์มาอย่างดี เร็วฟ้าผ่า และใช้งานได้จริง ราคาเริ่มต้นประมาณ 5.8 ล้านบาท

Porsche Macan EV 2025
มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: ให้ความรู้สึกเป็น Porsche เต็มตัว คล่องตัว ตอบสนองได้ดี และขับสนุกอย่างไม่น่าเชื่อ
ภาพรวม: Porsche Macan EV เป็นรุ่นสำคัญสำหรับผู้ผลิตรถยนต์เยอรมันรายนี้ ซึ่งเป็นการเข้าสู่โลกของ SUV ไฟฟ้าสมรรถนะสูง โมเดลใหม่ทั้งหมดนี้ให้สัญญาว่าจะมอบไดนามิกการขับขี่และความหรูหราที่ Porsche มีชื่อเสียง แต่มาพร้อมความยั่งยืนและเทคโนโลยีขั้นสูง สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Premium Platform Electric (PPE) Macan EV มีดีไซน์ที่เพรียวบางตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมทั้งสมรรถนะและประสิทธิภาพ สำหรับรุ่น Turbo ซึ่งเป็นรุ่นท็อปไลน์ Macan EV Turbo สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.1 วินาที ทำให้เป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในตลาด ด้วยจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำจากการติดตั้งแบตเตอรี่ที่พื้นรถ ช่วยให้การควบคุมและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม
จุดเด่นปี 2025 และราคาโดยประมาณ: เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมทางเลือกตั้งแต่รุ่นพื้นฐานจนถึง Turbo ที่ทรงพลัง ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.8 ล้านบาท (สำหรับรุ่นพื้นฐาน) และประมาณ 4 ล้านบาท (สำหรับรุ่น Turbo)

Rolls-Royce Cullinan Series II 2025
มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: ถ้อยแถลงแห่งความสำเร็จและความพิเศษ เป็นสัญลักษณ์ที่แท้จริงของการมาถึงอย่างมีสไตล์
ภาพรวม: Rolls-Royce Cullinan Series II ปี 2025 ซึ่งเป็นการบุกเบิกตลาด SUV ระดับอัลตร้าลักซ์ชูรีของ Rolls-Royce ยังคงสร้างนิยามใหม่ของความโอ่อ่าหรูหราที่ไม่ธรรมดา รถคันนี้ซึ่งตั้งชื่อตามเพชรที่ใหญ่ที่สุดที่เคยค้นพบ ผสมผสานงานฝีมืออันเป็นเอกลักษณ์ของ Rolls-Royce และพละกำลังที่ไร้ความพยายามเข้ากับความสง่างามที่โดดเด่นและความสามารถที่น่าประหลาดใจ สำหรับปี 2025 Cullinan ได้รับการปรับปรุงเล็กน้อยแต่ทรงพลัง ยิ่งตอกย้ำตำแหน่งในฐานะสุดยอด SUV แห่งความหรูหรา การออกแบบภายนอกได้รับการปรับแต่งอย่างละเอียดด้วยกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมช่องรับอากาศแบบลาดเอียง สร้างรูปลักษณ์ที่ดูมีไดนามิกมากขึ้น กระจังหน้า Pantheon อันเป็นเอกลักษณ์ของ Rolls-Royce ตอนนี้มีไฟส่องสว่าง เพิ่มความหรูหราทันสมัย ล้อขนาด 23 นิ้วใหม่ ที่ขึ้นรูปจากอะลูมิเนียมชิ้นเดียว ช่วยเสริมให้ Cullinan มีท่าทางที่สง่างามยิ่งขึ้น ภายในห้องโดยสาร Cullinan ยังคงเป็นวิหารแห่งความหรูหราตามสั่ง ด้วยรายละเอียดที่ประดิษฐ์ด้วยมือ วัสดุที่ดีที่สุด และระดับการปรับแต่งเฉพาะบุคคลที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่พิถีพิถันที่สุด
จุดเด่นปี 2025 และราคาโดยประมาณ: ได้รับการปรับปรุงเล็กน้อย เน้นความสวยงามและอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่ดีขึ้น ราคาเริ่มต้นประมาณ 14.3 ล้านบาท

Range Rover SV 2025
มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: Range Rover จะพาคุณไปถึงจุดหมายอย่างสะดวกสบายและมีสไตล์
ภาพรวม: Range Rover ในเจนเนอเรชั่นที่ห้า ยังคงเป็นสุดยอดแห่งการผสมผสานความหรูหรา ความสามารถ และเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกัน เป็นรถยนต์ที่ล่องไปในป่าคอนกรีตได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่ยังคงมั่นใจอย่างยิ่งเมื่อต้องลุยเส้นทางออฟโรด การตกแต่งภายในคือวิหารแห่งความประณีต วัสดุระดับพรีเมียม เช่น หนังนุ่ม ไม้แท้ และโลหะที่ประดิษฐ์อย่างพิถีพิถัน ตกแต่งอยู่ทั่วห้องโดยสาร ภายในที่กว้างขวางมอบความสะดวกสบายที่เหนือชั้นสำหรับผู้โดยสารทุกคน พร้อมเบาะหลังแบบ Executive Class ที่สามารถปรับเอนและนวดได้ เทคโนโลยีล้ำสมัยถูกรวมเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ตั้งแต่ระบบอินโฟเทนเมนต์ Pivi Pro ที่ใช้งานง่ายพร้อมจอสัมผัสขนาดใหญ่ ไปจนถึงระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงที่เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบาย นอกจากความหรูหราแล้ว Range Rover ยังคงยึดมั่นในมรดกของตนในฐานะเครื่องจักรสำหรับลุยออฟโรดที่มีความสามารถสูง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อขั้นสูง เทคโนโลยี Terrain Response 2 และระบบกันสะเทือนแบบถุงลม ช่วยให้สามารถพิชิตเส้นทางที่ท้าทายได้อย่างง่ายดาย
จุดเด่นปี 2025 และราคาโดยประมาณ: ยังคงเป็นผู้นำด้านความหรูหราและขีดความสามารถออฟโรด รุ่น SV (Special Vehicle) นำเสนอความประณีตและประสิทธิภาพสูงสุด ราคาเริ่มต้นประมาณ 7.7 ล้านบาท (สำหรับรุ่น P530 Autobiography) และประมาณ 9.6 ล้านบาท (สำหรับรุ่น P615 SV)

สุดยอด SUV สมรรถนะสูงแห่งปี 2025: ทางเลือกจากประสบการณ์ของผม

หลังจากที่ได้สัมผัสและทดลองขับ SUV ระดับพรีเมียมมามากมาย ผมได้คัดเลือก “สุดยอด” ที่โดดเด่นในแต่ละด้าน เพื่อเป็นแนวทางให้กับคุณ:

ราชาแห่งคอมแพกต์ SUV สมรรถนะสูง: Porsche Macan GTS (และ Macan EV)
Macan GTS คือตัวแทนที่แท้จริงของจิตวิญญาณ Porsche มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจและประณีต เครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตร ให้กำลัง 434 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.3 วินาที การควบคุมที่คล่องตัวและแม่นยำเกินกว่าสัดส่วนของ SUV ทำให้รู้สึกเบาและพร้อมเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว หากคุณต้องการก้าวสู่อนาคต Macan EV ก็มอบความรู้สึก “Porsche” ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยความคล่องตัวและการตอบสนองของมอเตอร์ไฟฟ้าที่เหนือชั้น
SUV สำหรับครอบครัวนักซิ่งที่สมบูรณ์แบบ: Audi SQ7
Audi SQ7 ผสมผสานความหรูหรา การใช้งานจริง และสมรรถนะที่น่าตื่นเต้นในแพ็คเกจ SUV เจ็ดที่นั่งที่กว้างขวาง เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ให้กำลัง 500 แรงม้า ด้วยความสามารถในการเร่งความเร็วที่รุนแรงและเสียงเครื่องยนต์ที่ปลุกเร้าจิตวิญญาณ แม้จะเน้นสมรรถนะ แต่ SQ7 ก็ยังคงให้การควบคุมที่มั่นคงและคุณภาพการขับขี่ที่สะดวกสบาย เป็นรถที่เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการความแรงและความโอ่อ่า
นิยามใหม่ของ Super SUV: Lamborghini Urus Performante / Ferrari Purosangue
สำหรับผู้ที่ต้องการความเร้าใจในระดับสูงสุด Urus Performante หรือ Ferrari Purosangue คือคำตอบ พวกมันท้าทายทุกคำนิยามของ SUV ด้วยสมรรถนะระดับซูเปอร์คาร์ที่แท้จริง การขับขี่ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ และการออกแบบที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร หากคุณต้องการรถที่สามารถพาครอบครัวไปโรงเรียนได้อย่างรวดเร็วและโดดเด่นไม่เหมือนใคร รถคู่นี้คือที่สุดแห่งความบ้าคลั่งที่มีสไตล์
สุดยอดแห่งความหรูหราเหนือระดับ: Rolls-Royce Cullinan Series II / Bentley Bentayga EWB
เมื่อเงินไม่ใช่ปัญหา และความหรูหราคือสิ่งที่สำคัญที่สุด Rolls-Royce Cullinan Series II และ Bentley Bentayga EWB คือสุดยอด SUV ที่มอบประสบการณ์การเดินทางอันโอ่อ่าและสะดวกสบายที่สุดในโลก ทั้งสองรุ่นนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งสถานะ และการมาถึงอย่างมีสไตล์ พร้อมงานฝีมืออันประณีตและวัสดุที่ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้

ตลาด SUV สมรรถนะสูงและหรูหราในปี 2025 นำเสนอทางเลือกที่น่าตื่นเต้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าคุณจะมองหาสุดยอดสมรรถนะแบบรถสปอร์ต ความหรูหราโอ่อ่า หรือการผจญภัยแบบออฟโรด มี SUV ที่สมบูรณ์แบบรอคุณอยู่เสมอ และในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอยืนยันว่าการลงทุนใน SUV ระดับพรีเมียมเหล่านี้ ไม่ใช่แค่การซื้อรถยนต์ แต่เป็นการลงทุนในประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้นและไลฟ์สไตล์ที่คุณคู่ควร

อย่ารอช้าที่จะสัมผัสอนาคตแห่งยานยนต์!

หากคุณพร้อมที่จะยกระดับประสบการณ์การขับขี่ และค้นหาสุดยอด SUV สมรรถนะสูงและหรูหราที่ตอบโจทย์ชีวิตของคุณ ผมขอเชิญชวนให้คุณลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายทดลองขับกับผู้จำหน่ายใกล้บ้าน เพื่อสัมผัสพลังงานที่แท้จริง ความสะดวกสบายเหนือระดับ และเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเหล่านี้ด้วยตัวคุณเอง โปรดทราบว่าราคาและข้อมูลจำเพาะอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามแต่ละประเทศและตัวเลือกเพิ่มเติม การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญโดยตรงจะช่วยให้คุณได้ข้อมูลที่แม่นยำที่สุดสำหรับการตัดสินใจครั้งสำคัญนี้ โลกของ SUV พรีเมียมกำลังรอคุณอยู่!

Previous Post

N0411567 วาสนาผ วหมอ EP1 part 2

Next Post

N0411562 ผมชอบเพ อนแม คร EP3 part 2

Next Post
N0411562 ผมชอบเพ อนแม คร EP3 part 2

N0411562 ผมชอบเพ อนแม คร EP3 part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N0411563 หลอยผ วมาต วอ าย EP1 part 2
  • N0411126 จะได ณค าและความลำบากในการใช เง part 2
  • N0411120 การด แลต วเองหล งคลอด part 2
  • N0411125 องการคนร กเม อตอนท กคนไม องการ part 2
  • N0411124 ความค ดครอบคร วผ วเต าล านป part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.