• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N0211340 วชอบให ใส เส อร ดร #ว ดใจชาแนล part 2

admin79 by admin79
November 3, 2025
in Uncategorized
0
N0211340 วชอบให ใส เส อร ดร #ว ดใจชาแนล part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

สุดยอด SUV หรูและสมรรถนะสูงแห่งปี 2025: เจาะลึกตลาดจากมุมมองผู้เชี่ยวชาญ

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการของรถยนต์ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง และหากจะมีเซกเมนต์ใดที่น่าตื่นเต้นและเปลี่ยนแปลงเร็วที่สุดในปัจจุบัน คงหนีไม่พ้นตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ หรือ SUV (Sport Utility Vehicle) ที่พลิกโฉมจากรถครอบครัวพื้นฐาน สู่สุดยอดเครื่องจักรที่ผสานความหรูหรา สมรรถนะอันเร้าใจ และเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

ในอดีต SUV อาจถูกมองว่าเป็นแค่รถสำหรับ “คุณแม่บ้าน” หรือยานพาหนะที่เน้นประโยชน์ใช้สอย แต่ปัจจุบันแนวคิดนั้นได้ถูกลบเลือนไปโดยสิ้นเชิง ด้วยความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนไป ผู้บริโภคไม่ได้มองหาแค่ความกว้างขวางและความสะดวกสบายอีกต่อไป แต่ยังต้องการประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าความคาดหมาย ความตื่นเต้นหลังพวงมาลัย การเร่งแซงที่ฉับไว และการเข้าโค้งที่มั่นคง นั่นคือจุดกำเนิดของ “Enthusiast SUV” หรือ SUV สมรรถนะสูงที่เรากำลังจะพูดถึง

แบรนด์รถยนต์หรูและสปอร์ตระดับโลกต่างกระโดดเข้าสู่สมรภูมินี้อย่างเต็มตัว ไม่ว่าจะเป็น Lamborghini, Ferrari, Aston Martin, Porsche หรือแม้แต่ Rolls-Royce ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า SUV สมรรถนะสูงไม่ได้เป็นเพียงแค่กระแสชั่วคราว แต่คืออนาคตของอุตสาหกรรม การลงทุนมหาศาลในการวิจัยและพัฒนา ทำให้เราได้เห็นนวัตกรรมและเทคโนโลยีจากรถซูเปอร์คาร์ถูกถ่ายทอดลงมาสู่ SUV เพิ่มขีดความสามารถและขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน ผลกำไรจากตลาดนี้ยังเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถสานต่อโปรเจกต์รถสปอร์ตในฝันของพวกเขาต่อไปได้อีกด้วย

สำหรับปี 2025 นี้ แม้จะไม่ได้มีรุ่นใหม่ถอดด้ามแบบพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินมากนัก แต่สิ่งที่โดดเด่นคือการปรับปรุงและอัปเกรดรายละเอียดต่างๆ ทั้งด้านสมรรถนะ เทคโนโลยี และความหรูหรา รวมถึงการนำเสนอระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริดและไฟฟ้าเต็มรูปแบบในหลายๆ รุ่น ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ยานยนต์โลกได้อย่างชัดเจน ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมได้รวบรวมและวิเคราะห์สุดยอด SUV สมรรถนะสูงที่น่าจับตามองในตลาดปี 2025 นี้ เพื่อเป็นไกด์สำหรับผู้ที่ต้องการความเหนือระดับในทุกการเดินทาง

รีวิวเจาะลึกสุดยอด SUV แห่งปี 2025

Alfa Romeo Stelvio Quadrifoglio 2025: จิตวิญญาณแห่งอิตาลีที่เร้าใจที่สุด
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: นี่คือ SUV ที่ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานที่สุดในตลาดอย่างแท้จริง ด้วยหัวใจจาก Ferrari
ภาพรวม: Stelvio Quadrifoglio คือการหลอมรวมความหลงใหลแบบอิตาเลียนเข้ากับสมรรถนะระดับสูง เครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบขนาด 2.9 ลิตร พละกำลัง 505 แรงม้า พุ่งทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.6 วินาที เสียงคำรามจากท่อไอเสียคือบทเพลงสำหรับผู้รักความเร็ว ระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งมาอย่างละเอียด พวงมาลัยที่ตอบสนองเฉียบคม และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Performance-oriented ทำให้การเข้าโค้งเป็นเรื่องสนุก เบรก Brembo ให้ความมั่นใจสูงสุดแม้ในความเร็วสูง การออกแบบภายนอกผสมผสานความสง่างามและความดุดัน ห้องโดยสารเน้นผู้ขับขี่ด้วยเบาะนั่งสปอร์ตและวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ แม้เทคโนโลยีภายในอาจไม่ล้ำสมัยเท่าคู่แข่งบางราย แต่ทุกองค์ประกอบถูกสร้างขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยากจะลืมเลือน
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับปี 2025: แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นปี 2024 แต่ยังคงเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นในด้านไดนามิกการขับขี่ ราคาเริ่มต้นประมาณ 3.4 ล้านบาท

Aston Martin DBX707 2025: ความหรูหราที่มาพร้อมพละกำลังมหาศาล
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ไม่เหมือนใคร หรูหรา ตื่นเต้น และสมรรถนะแข็งแกร่ง
ภาพรวม: DBX707 คือเรือธง SUV ของ Aston Martin ที่ผสมผสานพลวัตการขับขี่ที่เร้าใจเข้ากับงานฝีมือประณีตและเทคโนโลยีล้ำสมัย สำหรับปี 2025 ได้มีการปรับปรุงภายในให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการยกเลิกรุ่น DBX มาตรฐาน เหลือเพียง DBX707 ที่เน้นสมรรถนะสูงสุด เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร พละกำลัง 697 แรงม้า และแรงบิด 899 นิวตันเมตร เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.1 วินาที ทำให้เป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในตลาด ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 9 สปีด พร้อมคลัตช์เปียก และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อพร้อมเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิปอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยให้การยึดเกาะและการควบคุมเป็นเลิศ ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุที่ดีที่สุด หนังระดับพรีเมียม งานเย็บด้วยมือ และคาร์บอนไฟเบอร์ ระบบอินโฟเทนเมนต์ใหม่พร้อม Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับปี 2025: ห้องโดยสารที่ออกแบบใหม่ แผงหน้าปัด คอนโซลกลาง และพวงมาลัยใหม่หมดจด หน้าจอสัมผัส 10.2 นิ้ว พร้อมซอฟต์แวร์อินโฟเทนเมนต์ล่าสุดของ Aston Martin ราคาเริ่มต้นประมาณ 9.2 ล้านบาท

Audi RS Q8 2025: Urus ในราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: สวยงามกว่า Lamborghini Urus และมาพร้อมสมรรถนะอันน่าทึ่งในราคาที่คุ้มค่ากว่ามาก
ภาพรวม: RS Q8 คือ Q8 เวอร์ชั่นที่เร็วที่สุด และเป็น SUV ตราสัญลักษณ์ RS เพียงรุ่นเดียวในตลาดอเมริกาเหนือ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในสนาม Nordschleife นั่นหมายความว่ามันคล่องตัวอย่างน่าประหลาดใจสำหรับ SUV ที่คุณสามารถพาลูกๆ ไปโรงเรียนได้ เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ที่ให้พละกำลัง 591 แรงม้า (และ 631 แรงม้าในรุ่น Performance) ระบบกันสะเทือนถุงลมแบบปรับได้มาตรฐาน ล้อ 22 นิ้ว และระบบเสียง Bang & Olufsen 17 ลำโพง
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับปี 2025: การปรับดีไซน์ภายนอกให้เข้ากับ Q8 และ SQ8 ที่ปรับโฉมไปเมื่อปีที่แล้ว จุดเด่นคือรุ่น Performance ใหม่ 631 แรงม้า ที่มาพร้อมเฟืองท้ายกลางแบบล็อกตัวเอง ท่อไอเสียที่ปรับแต่งเป็นพิเศษ และระบบกันสะเทือนที่ไม่เหมือนใคร ราคาเริ่มต้นประมาณ 5.3 ล้านบาท

Bentley Bentayga 2025: นิยามของความหรูหราและสมรรถนะที่เหนือชั้น
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: ความประณีตที่คุณคาดหวัง พร้อมสมรรถนะที่ทัดเทียม SUV ที่ดีที่สุดในตอนนี้
ภาพรวม: Bentayga คือสุดยอด SUV ที่ผสมผสานความหรูหราโอ่อ่าเข้ากับพละกำลังที่น่าเกรงขาม เครื่องยนต์ V8 ให้กำลังเกือบ 550 แรงม้า ด้วยแรงบิดที่สูงทำให้การเร่งความเร็วเป็นไปอย่างราบรื่นและทรงพลัง Bentayga V8 มีการควบคุมที่ดีเยี่ยมและคล่องตัวเกินกว่าที่คาดไว้ นอกจากนี้ยังมีรุ่น Hybrid ที่ใช้เครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 443 แรงม้า ที่เน้นประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงโดยไม่ลดทอนความหรูหรา รุ่นย่อยต่างๆ เช่น Bentayga S เน้นความสปอร์ตยิ่งขึ้น และ Bentayga Azure ที่มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับปี 2025: มีการปรับปรุงเล็กน้อยในรายละเอียดการออกแบบ ส่วนใหญ่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจากปี 2024 ราคาเริ่มต้นประมาณ 7.5 ล้านบาท (สำหรับรุ่น V8 หรือ Hybrid)

BMW X5 M Competition 2025: มาตรฐานใหม่ของ Super SUV
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: Super SUV ที่เป็นมาตรฐานในด้านความเร็ว ความกว้างขวาง และความหรูหรา
ภาพรวม: BMW X5 M Competition คือขุมพลังที่โดดเด่นในสังเวียน SUV สมรรถนะสูง เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.4 ลิตร มาพร้อมเทคโนโลยี Mild-Hybrid 48V เพิ่มพละกำลังเป็น 617 แรงม้า และแรงบิด 750 นิวตันเมตร ทำให้ X5 M พุ่งทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.7 วินาที ระบบช่วงล่าง M Adaptive, ระบบกันโคลง Active Roll Stabilization และระบบเลี้ยวล้อหลัง ช่วยให้การควบคุมและความคล่องตัวเป็นเลิศ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive พร้อมเฟืองท้าย M Active เพิ่มการยึดเกาะและการควบคุมที่ดีเยี่ยม ภายในห้องโดยสารหรูหราและล้ำสมัยด้วย BMW Curved Display ที่รวมแผงหน้าปัดดิจิทัล 12.3 นิ้ว และหน้าจออินโฟเทนเมนต์ 14.9 นิ้ว
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับปี 2025: ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากรุ่นปี 2024 ราคาเริ่มต้นประมาณ 4.6 ล้านบาท (สำหรับรุ่น Competition)

Cadillac Escalade V-Series 2025: ความหรูหราแบบอเมริกันที่มาพร้อมความแรง
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: รถที่คล่องตัวอย่างน่าประหลาดใจและมีความสามารถที่เกินตัวเมื่อเทียบกับขนาดและน้ำหนัก
ภาพรวม: Escalade V-Series ยกระดับความหรูหราของ SUV ระดับตำนานไปอีกขั้น เครื่องยนต์ V8 ซูเปอร์ชาร์จ 6.2 ลิตร พละกำลัง 682 แรงม้า และแรงบิด 885 นิวตันเมตร ทำให้เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 4.4 วินาที ซึ่งเป็นเรื่องน่าทึ่งสำหรับ SUV ขนาดใหญ่เช่นนี้ ไม่ได้มีดีแค่พละกำลังดิบ แต่ยังมาพร้อมระบบช่วงล่าง Performance-tuned พร้อม Magnetic Ride Control 4.0 และเบรก Brembo ขนาดใหญ่ ภายในห้องโดยสารหรูหราด้วยหนัง Semi-aniline จอแสดงผล OLED แบบโค้งที่ครอบคลุมแผงหน้าปัด
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับปี 2025: การปรับปรุงภายนอกเล็กน้อย รวมถึงกระจังหน้าใหม่ ไฟหน้า LED และไฟวิ่งกลางวันแบบหรี่แสง มีสีและตัวเลือกภายในใหม่ๆ มากมาย ราคาเริ่มต้นประมาณ 5.9 ล้านบาท

Dodge Durango SRT Hellcat 2025: SUV ครอบครัวที่มาพร้อมหัวใจ Hellcat
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ใช้งานได้จริง พร้อมสมรรถนะอันน่าเหลือเชื่อในเวลาเดียวกัน
ภาพรวม: Durango SRT Hellcat คือการท้าทายตรรกะ ด้วยการยัดเครื่องยนต์ V8 Hellcat ซูเปอร์ชาร์จ 6.2 ลิตร เข้าไปใน SUV สำหรับครอบครัว เครื่องยนต์มหึมานี้ให้กำลัง 710 แรงม้า และแรงบิด 875 นิวตันเมตร ทำให้ Durango กลายเป็นสัตว์ร้ายแห่งสมรรถนะ พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.5 วินาที พร้อมลากจูงได้อย่างสบาย ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ปรับแต่งมาเพื่อสมรรถนะ ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดพร้อม Paddle Shifters และระบบช่วงล่างแบบสปอร์ต ทำให้เข้าโค้งได้คล่องตัวอย่างน่าประหลาดใจ เบรก Brembo ขนาดใหญ่ช่วยหยุดยั้งพลังมหาศาลนี้ ภายในห้องโดยสารกว้างขวางนั่งได้ 7 ที่นั่ง
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับปี 2025: มีรุ่นพิเศษ Silver Bullet ที่มาพร้อมสี Triple Nickel (เงิน) และรายละเอียดพิเศษเช่น ฝากระโปรงหน้าสีดำ Satin และการเย็บสองสีภายใน ราคาเริ่มต้นประมาณ 3.8 ล้านบาท

Ferrari Purosangue 2025: การผสมผสานที่ลงตัวของสมรรถนะ การใช้งานจริง และความหรูหรา
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: นี่ไม่ใช่แค่ SUV คันแรกของ Ferrari แต่มันคือการประกาศนิยามใหม่ของ Ferrari
ภาพรวม: Purosangue ไม่ใช่ SUV ทั่วไป แต่เป็น Ferrari สายเลือดแท้ที่มีจิตวิญญาณของรถสปอร์ตและความอเนกประสงค์ของ SUV การออกแบบที่เพรียวบางตามหลักอากาศพลศาสตร์ เครื่องยนต์ V12 หายใจตามธรรมชาติ 6.5 ลิตร ปลดปล่อยพละกำลัง 715 แรงม้า และแรงบิด 716 นิวตันเมตร พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 3.3 วินาที และความเร็วสูงสุด 310 กม./ชม. ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อขั้นสูง ระบบกันสะเทือน Active Suspension และระบบเลี้ยวล้อหลัง ให้การควบคุมและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม ภายในห้องโดยสารหรูหราและกว้างขวางสำหรับ 4 ที่นั่ง พร้อมจอแสดงผลคู่สำหรับผู้โดยสารด้านหน้า
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับปี 2025: ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่สำหรับ Purosangue สำหรับรุ่นปี 2025 ราคาเริ่มต้นเกือบ 15.7 ล้านบาท

Ford Bronco Raptor 2025: สัตว์ร้ายออฟโรดตัวจริง
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: สุดยอดรถออฟโรดตัวจริง ที่สามารถพิชิตทุกสภาพเส้นทางที่ท้าทายได้อย่างง่ายดาย
ภาพรวม: Bronco Raptor ไม่ใช่ SUV ทั่วไป แต่เป็นสัตว์ร้ายออฟโรดสมรรถนะสูงที่สร้างขึ้นเพื่อพิชิตภูมิประเทศที่ท้าทายที่สุด เครื่องยนต์ V6 EcoBoost ทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร ให้กำลัง 418 แรงม้า และแรงบิด 597 นิวตันเมตร ระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อขั้นสูง พร้อมเพลาหลัง Dana 50 Heavy-Duty AdvanTEK และเพลาหน้า Dana 44 AdvanTEK ที่แข็งแกร่ง ระบบกันสะเทือน HOSS 4.0 พร้อมโช้คอัพ Fox 3.1 Internal Bypass Semi-Active และยาง All-Terrain ขนาด 37 นิ้ว ทำให้สามารถซับแรงกระแทกจากการกระโดดและพื้นผิวขรุขระได้อย่างง่ายดาย ภายนอกดุดันด้วยซุ้มล้อที่กว้างขึ้น กระจังหน้าเฉพาะ และแผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถ
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับปี 2025: ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ราคาเริ่มต้นประมาณ 3.3 ล้านบาท

Lamborghini Urus S.E. 2025: ความสมดุลที่ลงตัวระหว่างความบ้าคลั่งของ Lamborghini และการใช้งานประจำวัน
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: Urus S.E. สู่ยุคใหม่ด้วยขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดที่ทรงพลังและประสิทธิภาพอันน่าทึ่ง
ภาพรวม: Urus S.E. คือการก้าวสู่ยุคใหม่ด้วยขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดที่ทรงพลัง เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 789 แรงม้า และแรงบิด 950 นิวตันเมตร พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.1 วินาที ระบบไฮบริดยังให้ระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวประมาณ 50 กม. เพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง ภายนอกได้รับการปรับโฉมใหม่ด้วยกันชนและฝากระโปรงหน้าที่ออกแบบใหม่ พร้อมไฟหน้าและไฟท้ายที่อัปเดต ภายในห้องโดยสารได้รับการอัปเกรดระบบอินโฟเทนเมนต์และตัวเลือกการปรับแต่งที่กว้างขึ้น
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับปี 2025: การเปิดตัว Urus S.E. พร้อมขุมพลังไฮบริด 789 แรงม้า และการปรับโฉมช่วงกลางอายุการใช้งาน รวมถึงไฟหน้า Matrix LED และหน้าจอสัมผัส 12.3 นิ้วที่ได้รับการอัปเกรด ราคาเริ่มต้นประมาณ 9.6 ล้านบาท (สำหรับรุ่น S.E. Hybrid)

Lotus Eletre R 2025: เกมเปลี่ยนสำหรับ Lotus
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: Eletre R เร็วอย่างน่าตกใจ มอบอัตราเร่งระดับซูเปอร์คาร์ในแพ็คเกจ SUV
ภาพรวม: Lotus Eletre คือรถยนต์แหวกแนวที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ Lotus นี่คือการบุกตลาด SUV ครั้งแรกของแบรนด์ ด้วยการออกแบบที่โดดเด่น เทคโนโลยีล้ำสมัย และสมรรถนะที่น่าประทับใจ Eletre R คือรุ่นท็อปสุดที่ให้พละกำลัง 905 แรงม้า และแรงบิด 984 นิวตันเมตร พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 2.95 วินาที พร้อมเกียร์ 2 สปีดที่เพลาหลังเพื่อเพิ่มอัตราเร่งและประสิทธิภาพ ภายในห้องโดยสารหรูหราและล้ำสมัยด้วยวัสดุที่ยั่งยืน หน้าจอสัมผัส OLED ขนาด 15.1 นิ้ว
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับปี 2025: Eletre เป็นรุ่นใหม่ทั้งหมดสำหรับปี 2025 มี 3 รุ่นย่อยให้เลือก ราคาเริ่มต้นประมาณ 5.4 ล้านบาท (สำหรับรุ่น R)

Maserati Grecale Trofeo 2025: สไตล์อิตาเลียนพร้อมสมรรถนะที่เหนือชั้น
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ดูดี แต่ต้องดิ้นรนกับคู่แข่งที่ดีที่สุดในเซกเมนต์
ภาพรวม: Grecale Trofeo คือสุดยอดสมรรถนะของ Grecale ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร ที่ได้มาจากซูเปอร์คาร์ MC20 ให้กำลัง 523 แรงม้า และแรงบิด 620 นิวตันเมตร พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที ภายในห้องโดยสารหรูหราและตกแต่งอย่างดีด้วยวัสดุคุณภาพสูง และเทคโนโลยีขั้นสูง หน้าจอแผงหน้าปัดดิจิทัล 12.3 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสอินโฟเทนเมนต์ 12.3 นิ้ว
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับปี 2025: ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ราคาเริ่มต้นประมาณ 4 ล้านบาท

Mercedes-AMG G63 2025: สัญลักษณ์แห่งสถานะและความสามารถ
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: ไม่ใช่แค่สัญลักษณ์แห่งสถานะ แต่ยังเป็นรถที่หรูหราและสะดวกสบายอย่างแท้จริง
ภาพรวม: Mercedes-AMG G 63 หรือที่รู้จักกันในชื่อ “G-Wagon” คือสัญลักษณ์ของความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดและความหรูหราที่ไม่มีใครทักท้วง ด้วยดีไซน์ทรงกล่องและได้รับแรงบันดาลใจจากรถทหาร G 63 รุ่นปี 2025 ได้รับการอัปเดตที่ครอบคลุม เพิ่มประสิทธิภาพ เทคโนโลยี และความประณีต ในขณะที่ยังคงเอกลักษณ์อันเป็นตำนานไว้ เครื่องยนต์ V8 Biturbo AMG 4.0 ลิตร แบบ Hand-built พร้อมระบบ Mild-Hybrid 48V ให้กำลัง 577 แรงม้า และแรงบิด 850 นิวตันเมตร เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 4.2 วินาที ระบบช่วงล่างได้รับการปรับปรุงเพื่อเพิ่มความสบายในการขับขี่บนพื้นผิวที่ขรุขระ ภายในห้องโดยสารหรูหราด้วยหนังเย็บมือ ไม้แกะสลัก และอลูมิเนียมขัดเงา
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับปี 2025: การเปลี่ยนแปลงการออกแบบเล็กน้อยเพื่อปรับปรุงหลักอากาศพลศาสตร์ กระจังหน้าและกันชนหน้าใหม่ พร้อมระบบไฮบริด 48V ราคาเริ่มต้นประมาณ 6.9 ล้านบาท

Porsche Cayenne Turbo E-Hybrid 2025: สุดยอด SUV อเนกประสงค์ที่ดีที่สุดในวันนี้
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: ยังคงเป็น SUV ที่ดีที่สุดในทุกด้านที่วางขายในปัจจุบัน
ภาพรวม: Cayenne Turbo E-Hybrid คือ SUV สมรรถนะสูงที่นิยามใหม่ของความทรงพลังและประสิทธิภาพ รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดคันนี้ผสานเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างลงตัว ให้กำลังรวม 729 แรงม้า และแรงบิด 949 นิวตันเมตร พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.5 วินาที พร้อมระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวที่น่าประทับใจถึง 60 กม. ระบบไฮบริดผสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างราบรื่น ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวล ระบบช่วงล่างแบบสปอร์ต ระบบกันสะเทือนถุงลมแบบปรับได้ และระบบ Porsche Active Suspension Management (PASM) ช่วยให้การควบคุมดีเยี่ยมและขับขี่สบาย ภายในห้องโดยสารหรูหราและล้ำสมัยด้วยวัสดุระดับพรีเมียม จอแสดงผลดิจิทัลแบบโค้ง 12.6 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสกลาง 12.3 นิ้ว
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับปี 2025: ไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางกลไก แต่มีการเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานให้กับทุกรุ่นของ Cayenne สำหรับรุ่นปี 2025 ราคาเริ่มต้นประมาณ 5.8 ล้านบาท

Porsche Macan GTS 2025: ราชาแห่งป่า SUV ขนาดกะทัดรัด
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: นี่คือ SUV ขนาดกะทัดรัดที่สมบูรณ์แบบ หากคุณต้องการรถที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานประจำวันและการผจญภัยช่วงสุดสัปดาห์
ภาพรวม: Macan GTS คือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่มองหา SUV ขนาดกะทัดรัดที่เน้นสมรรถนะและความสนุกในการขับขี่ เครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตร ให้กำลัง 434 แรงม้า และแรงบิด 550 นิวตันเมตร พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.3 วินาที พร้อมเสียงท่อไอเสียที่เร้าใจ Macan GTS มีการควบคุมที่คล่องตัวและแม่นยำเกินกว่าสัดส่วนของ SUV พวงมาลัยที่แม่นยำ ช่วงล่างแบบสปอร์ต และแชสซีที่ปรับแต่งมาอย่างดี ทำให้การขับขี่รู้สึกเหมือนรถสปอร์ต
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับปี 2025: ยังคงความเป็นเลิศในด้านสมรรถนะและไดนามิกการขับขี่ ก่อนที่ Macan จะเปลี่ยนไปใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้ ราคาเริ่มต้นประมาณ 3.3 ล้านบาท

Rolls-Royce Cullinan II 2025: สัญลักษณ์แห่งความสำเร็จและความพิเศษ
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: Cullinan คือสัญลักษณ์ของความสำเร็จและความพิเศษ สัญลักษณ์ที่แท้จริงของการมาถึงอย่างมีสไตล์
ภาพรวม: Rolls-Royce Cullinan คือการเข้าสู่โลกของ SUV หรูหราพิเศษ ที่ยังคงนิยามใหม่ของความโอ่อ่าแบบออฟโรด รถยนต์ที่สง่างามคันนี้ผสมผสานงานฝีมืออันเป็นเอกลักษณ์ของ Rolls-Royce และพละกำลังอันไร้ที่ติเข้ากับรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและความสามารถที่น่าประหลาดใจ สำหรับปี 2025 Cullinan ได้รับการปรับปรุงที่ละเอียดอ่อนแต่มีผลกระทบ เพื่อเสริมสร้างตำแหน่งในฐานะสุดยอด SUV หรูหรา ภายนอกได้รับการปรับปรุงด้วยกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ กระจังหน้า Pantheon อันเป็นเอกลักษณ์ที่ส่องสว่าง และล้อ 23 นิ้วที่ผลิตจากอะลูมิเนียมชิ้นเดียว ภายในห้องโดยสารยังคงเป็นวิหารแห่งความหรูหราที่สั่งทำพิเศษ ด้วยรายละเอียดงานฝีมือ วัสดุที่ดีที่สุด และระดับการปรับแต่งที่ตอบสนองลูกค้าที่พิถีพิถันที่สุด เครื่องยนต์ V12 ทวินเทอร์โบ 6.75 ลิตร ให้พละกำลังที่ราบรื่นไร้รอยต่อ
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับปี 2025: การปรับปรุงเล็กน้อย โดยเพิ่มคำต่อท้าย “II” เพื่อบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่เป็นด้านความสวยงามและส่วนต่อประสานผู้ใช้ ราคาเริ่มต้นประมาณ 14.3 ล้านบาท (สำหรับรุ่นมาตรฐาน)

Range Rover 2025: ความสบายและมีสไตล์ในทุกเส้นทาง
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: Range Rover จะพาคุณไปถึงจุดหมายอย่างสบายและมีสไตล์
ภาพรวม: Range Rover เจเนอเรชันที่ห้าคือการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างความหรูหรา ความสามารถ และเทคโนโลยี รถคันนี้เดินทางในเมืองได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่ยังคงมั่นใจอย่างยิ่งเมื่อออกนอกเส้นทาง การออกแบบที่ทันสมัยและเรียบง่ายยังคงรักษารูปลักษณ์คลาสสิกของ Range Rover ด้วยท่าทางที่ตั้งตรงอันเป็นเอกลักษณ์และหลังคาแบบลอยตัว ภายในห้องโดยสารเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งความประณีต ใช้วัสดุระดับพรีเมียม หนังนุ่ม แผ่นไม้วีเนียร์แท้ และโลหะที่สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน เทคโนโลยีที่ทันสมัยถูกรวมเข้าด้วยกันอย่างราบรื่น ตั้งแต่ระบบอินโฟเทนเมนต์ Pivi Pro ไปจนถึงคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง นอกจากนี้ Range Rover ยังคงสืบทอดมรดกในฐานะรถออฟโรดที่มีความสามารถสูง ด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อขั้นสูง เทคโนโลยี Terrain Response 2 และระบบกันสะเทือนถุงลม ทำให้สามารถพิชิตภูมิประเทศที่ท้าทายได้อย่างง่ายดาย
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับปี 2025: มีตัวเลือกเครื่องยนต์หลากหลาย รวมถึง Mild Hybrid, Plug-in Hybrid และ V8 ที่ทรงพลัง ราคาเริ่มต้นประมาณ 4 ล้านบาท

บทสรุปและคำเชิญ

ตลาด SUV สมรรถนะสูงในปี 2025 กำลังเฟื่องฟูด้วยนวัตกรรมและตัวเลือกที่หลากหลาย ไม่ว่าคุณจะมองหาความเร็วที่บ้าคลั่ง ความหรูหราที่ไม่มีใครเทียบ หรือความสามารถในการตะลุยเส้นทางออฟโรด ทุกวันนี้มี SUV ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ จากประสบการณ์ 10 ปีในวงการ ผมยืนยันได้ว่ารถยนต์เหล่านี้ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเป็นมากกว่าแค่การเดินทาง แต่คือการลงทุนในประสบการณ์ชีวิตที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

หากคุณพร้อมที่จะสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับและเป็นเจ้าของสุดยอดยานยนต์ที่ผสมผสานความแรงและความหรูหราได้อย่างลงตัว ผมขอเชิญชวนให้คุณได้สัมผัสและทดลองขับ SUV สมรรถนะสูงเหล่านี้ด้วยตัวคุณเอง การตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นการเปิดประตูสู่โลกแห่งความพึงพอใจที่ไม่เหมือนใคร อย่ารอช้า! ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายเพื่อทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านคุณวันนี้ แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไม SUV สมรรถนะสูงเหล่านี้ถึงเป็นมากกว่าแค่รถยนต์ แต่เป็นนิยามใหม่ของอิสระและความเร้าใจบนท้องถนน.

สุดยอด SUV หรูและสมรรถนะสูงแห่งปี 2025

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของตลาดรถยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มรถอเนกประสงค์ (SUV) ที่เคยถูกมองว่าเป็นเพียงรถยนต์ครอบครัว แต่ปัจจุบันได้ก้าวข้ามขีดจำกัดไปสู่มิติใหม่แห่งความเร้าใจและความหรูหรา นี่คือยุคทองของ SUV สมรรถนะสูง (Performance SUV) และ SUV สุดหรู (Luxury SUV) ที่ผสมผสานการใช้งานจริงเข้ากับพละกำลังอันน่าทึ่ง สร้างประสบการณ์ขับขี่ที่เหนือกว่า รถเหล่านี้ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อพาคุณไปซูเปอร์มาร์เก็ตเท่านั้น แต่ยังพร้อมจะทะยานไปข้างหน้า เลี้ยวโค้งได้อย่างมั่นใจ และดึงดูดทุกสายตาบนท้องถนน ในปี 2025 นี้ ตลาดรถยนต์ยังคงคึกคักด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทำให้กลุ่ม SUV ระดับพรีเมียมเหล่านี้เข้าถึงขีดสุดของทั้งความเร็วและความสง่างาม

ตลาด รถ SUV หรู และ SUV สมรรถนะสูง มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา ตอบสนองความต้องการของครอบครัวยุคใหม่และสังคมโดยรวม ปัจจุบัน SUV กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันและสะท้อนถึงสภาพเศรษฐกิจ การใช้งานที่หลากหลายยังคงเป็นจุดเด่นที่สุดของ SUV แต่ภาพลักษณ์ของ “รถแม่บ้าน” ได้ถูกลบเลือนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อ SUV และฐานลูกค้าได้พัฒนาขึ้น ความต้องการรถยนต์สมรรถนะสูงก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

นี่เป็นแรงผลักดันให้แบรนด์หรูและผู้ผลิตรถยนต์สมรรถนะสูงระดับโลกหันมาให้ความสนใจและตอบสนองความต้องการรถ SUV ที่รวดเร็ว ดีขึ้น และมีเสน่ห์มากขึ้น ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ทุกรายต่างตระหนักดีว่าความสำเร็จในตลาดนี้สร้างผลกำไรมหาศาล ยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา แม้แต่แบรนด์เฉพาะทางและรถยนต์สุดหรูอย่าง Lamborghini และ Ferrari ก็ยังต้องการเข้ามามีส่วนแบ่งในตลาดนี้ ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะกล่าวว่ายอดขาย SUV ได้กลายเป็นกระดูกสันหลังของบริษัทเหล่านี้ การที่แบรนด์เหล่านี้สามารถทำกำไรจาก SUV ได้อย่างมหาศาล ทำให้พวกเขามีเงินทุนในการพัฒนาและผลิตรถสปอร์ตที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ต่อไปได้ และในทางกลับกัน เทคโนโลยีจากรถซูเปอร์คาร์และรถสมรรถนะสูงก็ถูกถ่ายทอดลงมาสู่ SUV ทำให้ตลาดขยายวงกว้างขึ้นและดึงดูดผู้ซื้อได้หลากหลายยิ่งขึ้น กระบวนการนี้จะยังคงขับเคลื่อนยอดขายและรักษาพลวัตของอุตสาหกรรมไว้ ทำให้เราได้เห็น SUV ที่น่าทึ่งมากมายในปัจจุบัน และอีกหลายรุ่นที่กำลังจะตามมา

ในคู่มือฉบับสมบูรณ์นี้ ผมจะพาคุณเจาะลึกทุกรายละเอียดที่จำเป็น เพื่อค้นหา รถ SUV ตัวแรง 2025 ที่สมบูรณ์แบบ ตอบสนองความต้องการความเร็วและสไตล์ของคุณ ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหาสัตว์ร้ายในสนามแข่ง ยานอวกาศสุดหรู หรือนักรบออฟโรดที่มีด้านป่าเถื่อน มี SUV ที่ใช่สำหรับคุณอย่างแน่นอน

มีอะไรใหม่สำหรับปี 2025?
สำหรับรุ่นปี 2025 การเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่เป็นเพียงการอัปเดตเล็กน้อยสำหรับ SUV หลายรุ่นในรายการนี้ ซึ่งเปิดตัวมาแล้วหลายปี อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดตัวรุ่นใหม่ที่น่าตื่นเต้นหรือข่าวใหญ่ๆ ที่พลิกโฉมตลาดมากนัก

รถ SUV สมรรถนะสูงและหรูหราประจำปี 2025: รายชื่อรุ่นและตัวเลือกที่น่าสนใจ

2025 Alfa Romeo Stelvio Quadrifoglio
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ขับสนุกที่สุดในตลาดด้วยพลวัตที่ยอดเยี่ยม
ภาพรวม: Alfa Romeo Stelvio Quadrifoglio เป็น SUV สมรรถนะสูง ที่หลอมรวมความหลงใหลและประสบการณ์การขับขี่สไตล์อิตาลีเข้าสู่ตลาดที่มักถูกครอบงำด้วยรถยนต์สไตล์เยอรมัน จุดเด่นคือเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตร ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Ferrari ให้พละกำลัง 505 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.6 วินาที มาพร้อมกับเสียงคำรามของท่อไอเสียที่เร้าใจ แต่ Stelvio Quadrifoglio ไม่ใช่แค่รถที่เร่งตรงได้เร็วเท่านั้น แชสซีที่ปรับแต่งมาอย่างละเอียด พวงมาลัยที่ตอบสนองดี และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่เน้นสมรรถนะ ให้การควบคุมและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม ทำให้ขับสนุกบนถนนที่คดเคี้ยว ระบบเบรก Brembo ให้พลังการหยุดที่มั่นใจได้ การออกแบบภายนอกผสมผสานความสง่างามและความดุดัน ด้วยการปรับแต่งตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ละเอียดอ่อนและปลายท่อไอเสียสี่ท่อที่บ่งบอกถึงสมรรถนะภายใน ภายในห้องโดยสารเน้นความสปอร์ตและความหรูหราด้วยเบาะนั่งสปอร์ต พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ขนาดใหญ่ และการตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ ทำให้เป็นรถที่เน้นผู้ขับขี่เป็นหลัก แม้ภายในอาจไม่ล้ำสมัยเท่าคู่แข่งบางราย แต่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์การขับขี่เหนือสิ่งอื่นใด ด้วยสมรรถนะที่เร้าใจ สไตล์อิตาลี และการใช้งานในชีวิตประจำวัน Stelvio Quadrifoglio โดดเด่นในฐานะตัวเลือกที่ไม่เหมือนใครและน่าดึงดูดในกลุ่ม SUV สมรรถนะสูง
ราคาและมีอะไรใหม่: 2025 Alfa Romeo Stelvio Quadrifoglio ไม่ใช่ รถ SUV ราคาถูก โดยเริ่มต้นที่ประมาณ 3.4 ล้านบาท (ประมาณ $94,965) และสูงสุด 3.5 ล้านบาท (ประมาณ $96,625) ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและอุปกรณ์เสริม โดยรวมแล้วรุ่นพื้นฐานพร้อม Carbon package ที่ตกแต่งกระจกมองข้างและกระจังหน้าเป็นรูปตัว V ก็เพียงพอแล้ว รุ่น 100th Anniversario เป็นเพียงการปรับแต่งสไตล์ ไม่คุ้มค่าเท่าไหร่
คำกล่าวจากวงการ: “Stelvio Quadrifoglio เป็นรถที่ขับสนุกอย่างบ้าคลั่ง มันเป็น SUV สมรรถนะสูงที่แท้จริงที่สามารถเข้าโค้งด้วยความคล่องตัวของรถสปอร์ต แต่ยังใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน เครื่องยนต์เป็นผลงานชิ้นเอก ให้อัตราเร่งที่เร้าใจและเสียงเพลงที่ทำให้คุณอยากหาข้ออ้างในการขับขี่” – Car and Driver

2025 Aston Martin DBX
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: SUV สุดหรู ที่ไม่เหมือนใคร ให้ความหรูหราและเร้าใจพร้อมสมรรถนะอันทรงพลัง
ภาพรวม: สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรมใหม่ทั้งหมด DBX ได้รับการออกแบบมาเพื่อการเดินทางสไตล์ Aston Martin อย่างแท้จริง อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล่าสุดเพื่อความปลอดภัย DBX ให้ความสะดวกสบาย หรูหราอย่างยิ่ง และจะทำให้คุณตื่นเต้นตั้งแต่วินาทีแรกที่อยู่หลังพวงมาลัย ด้วยโครงสร้างอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาและการพัฒนาโดยวิศวกรที่เก่งที่สุด DBX จึงขับเคลื่อนได้ไม่เหมือน SUV อื่นๆ ยานยนต์ระดับสูงนี้ขับเคลื่อนเหมือนรถสปอร์ต การผลิต DBX เริ่มขึ้นเมื่อกลางปี 2020 และยังคงเป็นรถที่ขายดี สำหรับปี 2025 Aston Martin DBX กลับมาในฐานะ SUV เรือธง ของแบรนด์ เป็นรถยนต์ที่หรูหราและมีสมรรถนะสูงที่ผสมผสานพลวัตการขับขี่ที่น่าตื่นเต้นเข้ากับงานฝีมือที่ประณีตและเทคโนโลยีล้ำสมัย สำหรับปี 2025 Aston Martin ได้ทำการอัปเดตที่สำคัญ โดยเน้นการปรับปรุงภายในและปรับปรุงกลุ่มผลิตภัณฑ์ การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดคือการยกเลิกรุ่น DBX มาตรฐาน เหลือเพียงรุ่น DBX707 สมรรถนะสูงเท่านั้น การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Aston Martin ในการมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริงในกลุ่ม SUV ของพวกเขา ใต้ฝากระโปรง DBX707 มีเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ที่สร้างด้วยมือจาก Mercedes-AMG แต่ได้รับการปรับแต่งให้มีพละกำลังมหาศาลถึง 697 แรงม้า แรงบิด 900 นิวตันเมตร เครื่องยนต์อันทรงพลังนี้จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด พร้อมคลัตช์เปียกแทนทอร์กคอนเวอร์เตอร์แบบเดิม ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วปานสายฟ้าและมีส่วนช่วยให้ DBX707 มีสมรรถนะที่น่าประทับใจ สามารถเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.1 วินาที ทำให้เป็น SUV ที่เร็วที่สุด รุ่นหนึ่งในตลาด DBX707 ยังมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อพร้อมเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิปอิเล็กทรอนิกส์ด้านหลัง ทำให้มั่นใจได้ถึงการยึดเกาะและการควบคุมที่ยอดเยี่ยมในทุกสภาพการขับขี่ ระบบสาระบันเทิงใหม่มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายขึ้นและฟังก์ชันการทำงานที่ได้รับการปรับปรุง รวมถึง Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ภายในห้องโดยสารได้รับการตกแต่งด้วยวัสดุที่ดีที่สุด รวมถึงหนังอ่อนนุ่ม การเย็บมือ และการตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ สร้างบรรยากาศที่หรูหราและประณีต Aston Martin ได้ปรับปรุงกลุ่มผลิตภัณฑ์ DBX สำหรับปี 2025 โดยเสนอเฉพาะรุ่น DBX707 สมรรถนะสูงเท่านั้น สำหรับปี 2025 SUV 697 แรงม้าคันนี้มีห้องโดยสารที่ออกแบบใหม่พร้อมแผงหน้าปัด คอนโซลกลาง และพวงมาลัยใหม่ ระบบสาระบันเทิงใหม่ล่าสุดของ Aston Martin ทำงานบนหน้าจอสัมผัสขนาด 10.2 นิ้ว และทุกรุ่นมีระบบเสียง 14 ลำโพงเป็นมาตรฐาน (พร้อมระบบ Bowers & Wilkins 23 ลำโพงเป็นอุปกรณ์เสริม)
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Aston Martin DBX 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 9.3 ล้านบาท (ประมาณ $253,000) และสูงสุดประมาณ 9.4 ล้านบาท (ประมาณ $256,086) ขึ้นอยู่กับว่าคุณเลือกรุ่นพื้นฐานหรือ 707 คุณสามารถเลือกปรับแต่งได้มากมายสำหรับ DBX โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านบริการ Q customization ของ Aston Martin
คำกล่าวจากวงการ: “มันยากนะ… DBX ให้บางสิ่งบางอย่างที่แตกต่าง… มันดูน่าสนใจ ขับดีมาก และตอบโจทย์ทุกอย่าง… รุ่น 707 น่าสนใจจริงๆ ใช่ มันเร็วขึ้นและดุดันขึ้นถ้าคุณดันเต็มที่ แต่เมื่อคุณผ่อนคันเร่ง มันก็ยังคงความสบายและขับง่ายเหมือนรถธรรมดา” – Top Gear

2025 Audi SQ5
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ขับสบาย และเร็ว
ภาพรวม: SQ5 รุ่นก่อนหน้ามีมาตั้งแต่ปี 2018 และไม่เปลี่ยนแปลงมากนักสำหรับปี 2024 สำหรับปี 2025 เราจะได้พบกับสิ่งใหม่ๆ เพราะ SQ5 ใหม่ทั้งหมด 2025 Audi SQ5 เป็น SUV คอมแพกต์สุดหรู ที่ผสมผสานสมรรถนะ เทคโนโลยี และสไตล์เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ด้วยดีไซน์ที่สดใหม่ SQ5 มีภายนอกที่คมชัดขึ้น โดดเด่นด้วยไฟหน้า Matrix LED ใหม่ กระจังหน้าแบบปรับปรุง และกันชนหน้า-หลังที่ได้รับการปรับปรุง ใต้ฝากระโปรง เครื่องยนต์ V6 เทอร์โบชาร์จ 3.0 ลิตร ให้กำลัง 349 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งที่เร้าใจและประสบการณ์การขับขี่ที่สปอร์ต ภายในห้องโดยสาร SQ5 มอบสภาพแวดล้อมระดับพรีเมียมด้วยวัสดุคุณภาพสูงและเทคโนโลยีขั้นสูง ระบบสาระบันเทิงหน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมอินเทอร์เฟซ MMI touch ของ Audi ครองคอนโซลกลาง ขณะที่หน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ให้ข้อมูลที่ปรับแต่งได้แก่ผู้ขับขี่ SQ5 ยังมาพร้อมกับชุดคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่เป็นมาตรฐาน รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ (Adaptive Cruise Control) ระบบเตือนการออกนอกเลน (Lane Departure Warning) และระบบเตือนจุดบอด (Blind-Spot Monitoring) สำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่ที่ dynamic ยิ่งขึ้น SQ5 มีแพ็คเกจ Sport ที่เป็นอุปกรณ์เสริม ซึ่งรวมถึงแดมเปอร์ปรับได้ ช่วงล่างแบบสปอร์ต และเฟืองท้ายหลังแบบสปอร์ต ด้วยการผสมผสานสมรรถนะ ความหรูหรา และเทคโนโลยี 2025 Audi SQ5 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ขับขี่ที่มองหา SUV คอมแพกต์ระดับพรีเมียม ที่สามารถรองรับทั้งการเดินทางในชีวิตประจำวันและการขับขี่ที่เร้าใจ Audi ได้ตัดสินใจที่จะขาย SQ5 รุ่นปัจจุบันพร้อมกับ SQ5 รุ่นใหม่ควบคู่กันไป รุ่นใหม่ SQ5 มีสไตล์ภายในและภายนอกใหม่ทั้งหมด และเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบ 3.0 ลิตร เพิ่มกำลังเป็น 362 แรงม้า ซึ่งมากกว่า SQ5 รุ่นก่อน 13 แรงม้า และมากกว่าเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบสี่สูบของ Q5 รุ่นใหม่ 94 แรงม้า นอกจากนี้ SQ5 ที่สปอร์ตยังคงมีการอัปเดตอื่นๆ ของ Q5 สำหรับปี 2025 รวมถึงสไตล์ภายนอกและภายในที่สดใหม่ โดยเน้นการผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ากับความหรูหราแบบดั้งเดิมของ Audi รวมถึงตัวเลือกเบาะและวัสดุตกแต่งที่หลากหลาย
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Audi SQ5 2025 (รุ่นใหม่) เริ่มต้นที่ประมาณ 2.18 ล้านบาท (ประมาณ $59,695) ซึ่งสูงกว่ารุ่นปี 2024 เล็กน้อย Premium Plus เป็นการรวมกันของราคาและตัวเลือกที่ดีที่สุดเสมอ และยังคงเป็นเช่นนั้นสำหรับปี 2025 โปรดทราบว่าการออกแบบใหม่จะขายควบคู่ไปกับการออกแบบเดิมเป็นส่วนใหญ่ของปี 2025
คำกล่าวจากวงการ: “SQ5 เป็น SUV สมรรถนะสูงที่สมดุล ให้ความสบายและพละกำลัง แต่ไม่ได้มอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าตื่นเต้นที่สุด” – Motor Trend

2025 Audi SQ7
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: SUV ครอบครัว ที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความแรง
ภาพรวม: 2025 Audi SQ7 เป็น SUV หรู ที่ผสมผสานสมรรถนะ การใช้งานจริง และสไตล์ได้อย่างลงตัว ใต้ฝากระโปรง คุณจะพบเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบชาร์จ 4.0 ลิตร อันทรงพลัง ให้กำลังมหาศาล 500 แรงม้า แรงบิด 770 นิวตันเมตร ซึ่งหมายถึงอัตราเร่งที่เร้าใจ โดยมีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro อันเป็นเอกลักษณ์ของ Audi ทำให้ SQ7 มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ Dynamic เหมาะสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวันและการขับขี่ที่เร้าใจในช่วงสุดสัปดาห์ นอกเหนือจากความสามารถด้านสมรรถนะแล้ว SQ7 ยังมีห้องโดยสารที่ประณีตและกว้างขวาง ด้วยเบาะนั่งสามแถว สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดเจ็ดคน ห้องโดยสารได้รับการรังสรรค์อย่างพิถีพิถันด้วยวัสดุระดับพรีเมียมและมีเทคโนโลยีมากมาย รวมถึงระบบสาระบันเทิงหน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว หน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบเสียง Bang & Olufsen 3D SQ7 ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยด้วยคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ระบบเตือนการออกนอกเลน และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ในด้านรูปลักษณ์ SQ7 โดดเด่นจาก Q7 มาตรฐานด้วยการออกแบบที่ละเอียดอ่อนแต่สปอร์ต รวมถึงกันชนหน้าแบบปรับปรุงพร้อมช่องดักอากาศขนาดใหญ่ขึ้น การออกแบบกระจังหน้าที่มีเอกลักษณ์ ปลายท่อไอเสียสี่ท่อ และตัวเลือกการออกแบบล้อที่โดดเด่น ด้วยเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง ภายในที่หรูหรา และเทคโนโลยีขั้นสูง 2025 Audi SQ7 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในกลุ่ม SUV สุดหรู Audi ได้เผยโฉม Q7 และ SQ7 รุ่นปรับโฉมสำหรับรุ่นปี 2025 โดยได้รับการออกแบบด้านหน้าและด้านหลังใหม่ พร้อมกระจังหน้าที่มีรูปทรงใหม่ ไฟหน้าติดตั้งสูงขึ้น และไฟ DRL ใหม่ สปอยเลอร์หน้าใหม่และช่องดักอากาศที่มีกรอบสี ขณะที่ด้านหลังได้รับการปรับปรุงดิฟฟิวเซอร์และไฟท้ายที่ได้รับการปรับปรุง ตัวเลือกสีตัวถังใหม่ ได้แก่ Sakhir Gold, Ascari Blue และ Chili Red รวมถึงตัวเลือกเบาะและลายไม้/โลหะใหม่ นอกจากนี้ยังมีการออกแบบล้อใหม่และการอัปเกรดระบบสาระบันเทิง รวมถึงการรวมแอปใหม่ๆ
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Audi SQ7 2025 ที่อัปเดตใหม่ยังไม่กำหนด แต่คาดว่าจะเริ่มต้นที่ประมาณ 3.4 ล้านบาท (ประมาณ $93,000) และสูงสุดประมาณ 3.6 ล้านบาท (ประมาณ $98,000) ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย ด้วยความแตกต่างเล็กน้อยระหว่าง Premium Plus และ Prestige การเลือกรุ่น Prestige จึงสมเหตุสมผลกว่า โดยจะเพิ่ม Head-up Display, ประตูแบบ Soft-close, และแพ็คเกจ Executive (กระจกหน้าต่างคู่, เบาะหลังปรับอุ่น, เบาะหน้าปรับอากาศ, และอื่นๆ)
คำกล่าวจากวงการ: “SQ7 ผสมผสานสมรรถนะระดับสูงและประโยชน์ใช้สอยของ SUV เข้าไว้ในแพ็คเกจที่ได้รับการตกแต่งอย่างดีและอเนกประสงค์ เหมาะสำหรับครอบครัว” – Car and Driver

2025 Audi SQ8
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: สวยงามน่าจับตา เป็นตัวเลือกที่มั่นคงและปลอดภัย
ภาพรวม: Audi SQ8 ห้าที่นั่ง ผสมผสานการออกแบบสไตล์คูเป้ที่เพรียวบางเข้ากับความอเนกประสงค์ของ SUV ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร ส่งกำลัง 500 แรงม้าไปยังล้อทั้งสี่ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นมาตรฐาน และคู่แข่งได้แก่ BMW X6 และ Land Rover Range Rover Velar มันใกล้เคียงกับสมรรถนะของ RSQ8 และมีราคาที่ถูกกว่ามาก ทำให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดในกลุ่ม SUV สมรรถนะสูง ของ Audi เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับ SQ7 ยังคงได้รับการยกย่องในเรื่อง “พลังระเบิด” และ “เสียงเครื่องยนต์ที่เร้าใจ” Car and Driver ตั้งข้อสังเกตว่า 503 แรงม้า และแรงบิด 770 นิวตันเมตร ให้ “อัตราเร่งที่รุนแรง” ขณะที่ Top Gear ชื่นชม “สมรรถนะที่ง่ายดาย” นักวิจารณ์พบว่าห้องโดยสาร “สะดวกสบายและเงียบสงบ” ด้วย “วัสดุคุณภาพสูง” และ “ความรู้สึกนุ่มนวล” Kelley Blue Book กล่าวถึง “เบาะนั่งที่รองรับได้ดี” และ “พื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวาง” ขณะที่ Auto Express เน้นย้ำถึงคุณสมบัติ “ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยี” สำหรับปี 2025 Audi SQ8 มาพร้อมกับไฟส่องสว่างภายใน LED และระบบจดจำป้ายจราจรเป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย รุ่น Prestige เพิ่มเบาะนั่งคนขับนวดพร้อมฟังก์ชันหน่วยความจำเป็นมาตรฐาน นอกจากนี้ยังมีสองแพ็คเกจใหม่ให้เลือก: แพ็คเกจ Carbon เพิ่มการตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ที่ฝาครอบกระจกมองข้าง แผงประตู และฝาครอบไฟท้าย ขณะที่แพ็คเกจ Audi Sport นำการเย็บเน้นสีแดงมาสู่เบาะนั่ง คอนโซลกลาง และที่พักแขนประตู พร้อมกับเข็มขัดนิรภัยสีแดงที่โดดเด่น
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Audi SQ8 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 3.6 ล้านบาท (ประมาณ $98,895) และสูงสุดประมาณ 3.9 ล้านบาท (ประมาณ $106,195) ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยที่คุณเลือก เช่นเดียวกับรถยนต์ Audi รุ่นอื่นๆ การเลือกรุ่น Prestige ที่มีราคาแพงกว่านั้นคุ้มค่า มันไม่ได้แพงกว่ามากนักและมีคุณสมบัติพิเศษที่น่าสนใจบางอย่างมาให้ รวมถึงคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่และคุณสมบัติหรูหรามากมาย เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้, ระบบช่วยรักษาเลน, Head-up Display, ประตูแบบ Soft-close, เบาะหลังปรับอุ่น และม่านบังแดดหลังแบบไฟฟ้า
คำกล่าวจากวงการ: “SQ8 เป็นรถยนต์สมรรถนะสูงที่น่าตื่นเต้นพร้อมห้องโดยสารที่หรูหรา แต่ราคาที่สูงและเครื่องยนต์ที่กินน้ำมันทำให้มันไม่เป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้จริงสำหรับคนส่วนใหญ่” – Car and Driver

2025 Audi RS Q8
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: Lamborghini Urus ที่ดูเซ็กซี่กว่าและเจ๋งไม่แพ้กันในราคาที่ถูกกว่ามาก
ภาพรวม: Audi RS Q8 เป็น Q8 SUV รุ่นที่เร็วที่สุด และเป็น SUV ของ Audi ที่ติดป้าย RS เพียงรุ่นเดียวในตลาดอเมริกาเหนือ นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในสนาม Nordschleife ซึ่งหมายความว่ามีความคล่องตัวสูงสำหรับ SUV ที่คุณสามารถพาลูกๆ ไปโรงเรียนได้ RS Q8 มาพร้อมกับราคาหลักแสนดอลลาร์สหรัฐฯ แต่สมรรถนะ สไตล์ และคุณสมบัติของมันคุ้มค่ากับการลงทุน หากคุณให้ความสำคัญกับ SUV สมรรถนะสูง ที่ร้อนแรงแน่นอน ทุกรุ่นของ RS Q8 มาพร้อมกับระบบช่วงล่างถุงลมปรับได้มาตรฐาน ล้อ 22 นิ้ว เบาะหน้าปรับอุ่นและปรับอากาศ และระบบเสียง Bang & Olufsen 17 ลำโพง เราจะเลือกรุ่น Performance ระดับสูงสุดเพื่อปลดล็อกพละกำลัง 631 แรงม้าที่สูงกว่า เมื่อคุณใช้จ่ายเงินจำนวนนี้ ทำไมไม่ไปให้สุด? RS Q8 ได้รับการปรับโฉมใหม่สำหรับปี 2025 เพื่อให้สอดคล้องกับรุ่น Q8 และ SQ8 ที่ได้รับการปรับโฉมเมื่อปีที่แล้ว แต่สิ่งที่น่าสนใจจริงๆ คือรุ่น Performance ใหม่ 631 แรงม้า รุ่น Performance ไม่เพียงแต่มอบพละกำลังที่มากขึ้น แต่ยังมาพร้อมกับเฟืองท้ายกลางแบบล็อกตัวเองได้ ระบบไอเสียที่ปรับแต่งเป็นพิเศษ และช่วงล่างที่มีเอกลักษณ์ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยให้ RS Q8 มีเสถียรภาพในการเข้าโค้ง
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Audi RS Q8 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 5.3 ล้านบาท (ประมาณ $145,000) นี่ไม่ใช่ SUV ราคาถูก แต่ถ้าคุณคิดว่ามันคือ Lamborghini Urus ในราคาไม่ถึงครึ่งหนึ่ง มันก็เริ่มสมเหตุสมผล คุณสามารถเพิ่มตัวเลือกต่างๆ ให้กับ RS Q8 ได้ แต่แม้ในรูปแบบพื้นฐาน มันก็เป็นเครื่องจักรที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง
คำกล่าวจากวงการ: “ดูดีกว่า Lambo Urus สมรรถนะและการควบคุมที่ยอดเยี่ยม แพงมาก… เหมาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการซูเปอร์คาร์และ SUV รวมอยู่ในคันเดียว” – Top Gear

2025 Bentley Bentayga
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: ความประณีตที่คุณคาดหวังพร้อมสมรรถนะที่เข้ากัน SUV ที่ดีที่สุด ในตอนนี้
ภาพรวม: เครื่องยนต์ V8 ที่ล้ำสมัยให้กำลังเกือบ 550 แรงม้า ในขณะที่แรงบิดสูงส่งผลให้อัตราเร่งเกือบจะทันที ให้ความรู้สึกเหมือนถูกดึงด้วยรถไฟด้วยความสบายสูงสุดและความหรูหราระดับเฟิร์สคลาส Bentayga V8 มีการควบคุมที่ดีเยี่ยมและคล่องตัวกว่าที่คุณคาดไว้ Bentley ยังนำเสนอ Bentayga ในรุ่น Plug-in Hybrid ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้เครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3.0 ลิตร 335 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้า 162 แรงม้า จับคู่กับแบตเตอรี่ Li-ion 17.3 kWh ด้วยรุ่นนี้ Bentley ได้เสียสละพละกำลังและความเร็วเพื่อประหยัดเชื้อเพลิง แต่ด้วยกำลัง 443 แรงม้า Bentayga Hybrid ก็ไม่ได้เชื่องช้า Bentley ไม่ได้ลดทอนความหรูหรา ดังนั้น 2024 Bentayga Hybrid ยังคงมอบประสบการณ์ความหรูหราเช่นเดียวกันให้กับผู้โดยสาร ในส่วนของรุ่นย่อย มี Bentayga A ซึ่งให้พละกำลังและสมรรถนะเช่นเดียวกับรุ่น BV8 มาตรฐาน แต่คุณจะได้รับล้อ 21 นิ้ว ความหรูหราภายในเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และสิ่งอำนวยความสะดวกที่มุ่งเน้นการขับขี่ทางไกล Bentayga S เป็นรุ่น V8 ที่กลั่นกรองและสปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยการอัปเกรดรูปลักษณ์จากรถพื้นฐาน รวมถึง Blackline trim เป็นมาตรฐานและกันชน Bentayga Speed รวมถึงล้อ 22 นิ้วห้าก้านแบบพิเศษเป็นมาตรฐาน Bentayga Azure มีการกำหนดค่าภายในที่หลากหลาย และยังมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ สิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างที่ Bentley สร้างขึ้นสำหรับ SUV ของพวกเขา สำหรับปี 2024 Bentayga ได้รับตัวเลือกไฮบริดในทุกระดับ และเครื่องยนต์ W12 ไม่สามารถใช้ได้กับรุ่นนี้อีกต่อไป ส่วนที่เหลือของกลุ่มผลิตภัณฑ์ได้รับการอัปเดตพื้นฐานจากแผนกออกแบบ สิ่งต่างๆ ส่วนใหญ่ยังคงเหมือนเดิมสำหรับปี 2025
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Bentley Bentayga 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 7.5 ล้านบาท (ประมาณ $205,925) สำหรับรุ่น V8 หรือ Hybrid พื้นฐาน และสูงสุดถึง 9.1 ล้านบาท (ประมาณ $249,125) สำหรับ Azure V8 และนี่ยังไม่รวมตัวเลือกเสริม แนะนำให้เลือกรุ่น Bentayga S มีเครื่องยนต์ V8 เดียวกัน แต่ได้รับการปรับแต่งสำหรับการควบคุมที่เฉียบคมและอัตราเร่งที่รวดเร็วขึ้น ให้พลวัตการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมโดยไม่ลดทอนความสบายและความหรูหรา ได้รับองค์ประกอบภายนอกสีดำ ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ขึ้น และกันชนหน้าที่ดุดันขึ้น ได้รับโหมดสปอร์ตที่ดีขึ้น เบรกที่ดีขึ้น และคาร์บอนไฟเบอร์เป็นอุปกรณ์เสริม
คำกล่าวจากวงการ: “Bentayga ใหม่เป็นการพัฒนาที่ละเอียดอ่อน แต่ชัดเจนว่า Bentley ได้รับฟังความคิดเห็นและทำการปรับปรุงที่สำคัญบางอย่าง” – Autocar

2025 Bentley Bentayga EWB
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: SUV ครอบครัว ที่ใช้งานได้จริงยิ่งขึ้นด้วยพื้นที่เพิ่มขึ้นและความหรูหราเท่าเดิม
ภาพรวม: Bentley Bentayga EWB คือรุ่นฐานล้อยาวของ SUV สุดหรู เปลี่ยนให้กลายเป็นลิมูซีนขนาดใหญ่ ตัวรถโดยรวมเพิ่มระยะห่างระหว่างล้อ 180 มม. ซึ่งให้พื้นที่วางขาด้านหลังกว้างขวางมาก สามารถเลือกติดตั้งเบาะนั่งเอนได้สองที่นั่งแยกกันที่ด้านหลัง หรือรุ่นสามที่นั่งที่ไม่สามารถเอนได้ แต่เพลิดเพลินกับพื้นที่วางขาที่เพิ่มขึ้น นอกจากห้องโดยสารที่กว้างขึ้นแล้ว EWB ยังมาพร้อมกับล้อ 21 นิ้วเป็นมาตรฐานแม้ในรุ่นพื้นฐาน และเพลิดเพลินกับสมรรถนะเช่นเดียวกับ Bentayga พื้นฐานโดยไม่เสียเวลา 0-100 กม./ชม. หรือความเร็วสูงสุด นอกจากนี้ยังเพิ่มรุ่น Mulliner (ตามภาพด้านบน) พร้อมการตกแต่งสีสามสีสุดพิเศษ มีให้เลือกแปดชุดสีที่ไม่เหมือนใคร Bentayga ยังคงมีรุ่น Mulliner ระดับสูงสุดสำหรับปี 2025 รุ่นนี้มีการออกแบบภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์และสามารถระบุได้ในการผสมผสานสีภายในที่แตกต่างกันเกือบ 4000 แบบ Mulliner สามารถเลือกได้เฉพาะกับตัวถังฐานล้อยาวของ Bentayga และเครื่องยนต์ V8
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Bentley Bentayga EWB 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 8.6 ล้านบาท (ประมาณ $236,850) สำหรับ V8 พื้นฐาน และสูงสุดถึง 12.4 ล้านบาท (ประมาณ $339,150) สำหรับ EWB Mulliner รุ่นฐานล้อยาวมอบพื้นที่วางขาและความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง EWB พื้นฐานคือตัวเลือกของเรา
คำกล่าวจากวงการ: “ยังคงต้องรอดูว่า Mulliner EWB จะนำเสนอการปรับแต่งที่เพียงพอเมื่อเทียบกับรุ่น Mulliner แบบสแตนด์อโลนหรือไม่” – Evo

2025 BMW X3 M
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่มอบความเร้าใจ พร้อมประโยชน์ใช้สอยที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
ภาพรวม: BMW X3 M เป็น SUV คอมแพกต์สมรรถนะสูง ที่ผสมผสานการใช้งานจริงเข้ากับพลวัตการขับขี่ที่น่าตื่นเต้นได้อย่างลงตัว ใต้ฝากระโปรงมีเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร ให้กำลัง 473 แรงม้า แรงบิด 600 นิวตันเมตร กำลังนี้ถูกส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ของ BMW ทำให้ X3 M สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.9 วินาที นอกเหนือจากความเร็วที่น่าประทับใจแล้ว X3 M ยังโดดเด่นในด้านการควบคุมและความคล่องตัว ช่วงล่างแบบสปอร์ต แดมเปอร์ปรับได้ และการปรับแต่งเฉพาะของ M เปลี่ยน SUV คันนี้ให้กลายเป็นเครื่องจักรที่เข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ พวงมาลัยแม่นยำและตอบสนองได้ดี ให้การตอบสนองที่ยอดเยี่ยมแก่ผู้ขับขี่ ระบบเบรกขนาดใหญ่ช่วยให้หยุดรถได้อย่างมั่นใจ แม้ในระหว่างการขับขี่ที่เร้าใจ การออกแบบภายนอกของ X3 M สะท้อนถึงความสามารถด้านสมรรถนะ ด้วยสไตล์ที่ดุดัน เช่น ช่องดักอากาศขนาดใหญ่ กระจังหน้าที่มีเอกลักษณ์ ปลายท่อไอเสียสี่ท่อ และตัวเลือกการออกแบบล้อที่โดดเด่น ภายในห้องโดยสาร X3 M นำเสนอการผสมผสานระหว่างความหรูหราและความสปอร์ต เบาะนั่งสปอร์ตที่รองรับได้ดี พวงมาลัยขอบหนา และจอแสดงผลเฉพาะของ M สร้างสภาพแวดล้อมที่เน้นผู้ขับขี่เป็นหลัก ห้องโดยสารยังใช้วัสดุคุณภาพสูงและเทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงระบบสาระบันเทิงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ตามสไตล์ของ BMW X3 M มีการปรับขึ้นราคาสำหรับรุ่นปี 2025 และสำหรับสิ่งนั้น คุณจะได้รับ… BMW X3 M เหมือนกับรุ่นปี 2024 ทุกประการ เนื่องจาก X3 M มาถึงสำหรับรุ่นปีใหม่โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา BMW X3 M 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 2.8 ล้านบาท (ประมาณ $76,495) และสูงสุดประมาณ 3.05 ล้านบาท (ประมาณ $83,495) หากคุณเลือกรุ่น Competition นอกจากพละกำลังที่เพิ่มขึ้นและอุปกรณ์ที่อัปเกรดแล้ว รุ่น Competition ยังได้รับกระจังหน้าและฝาครอบกระจกมองข้างสีดำเงาที่ดูน่าทึ่ง และระบบไอเสียแบบสปอร์ตที่ให้เสียงที่น่าทึ่งเป็นมาตรฐาน เพิ่มล้อสีดำ 21 นิ้วเป็นมาตรฐาน (เทียบกับ 20 นิ้วในรุ่น M ปกติ) และภายในหนัง Merino ที่อัปเกรดแล้ว ก็เห็นได้ชัดว่าทำไมรุ่นนี้จึงเป็นตัวเลือกของเรา มีตัวเลือกมากมาย แต่เราจะเลือกแบบเรียบง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะเรากำลังพูดถึงราคามากกว่า 3 ล้านบาทสำหรับ SUV ตรา M ที่ถูกที่สุดของ BMW
คำกล่าวจากวงการ: “X3 M เร็วอย่างจริงจัง มันพุ่งออกจากโค้งและควบคุมได้อย่างสวยงาม” – Car and Driver

2025 BMW X4 M
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: พละกำลังมหาศาล อัตราเร่งที่รวดเร็ว การควบคุมที่เชี่ยวชาญ
ภาพรวม: BMW X4 M นำเอาประโยชน์ใช้สอยและสมรรถนะของ X3 M มาห่อหุ้มในแพ็คเกจสไตล์คูเป้ที่ทันสมัยยิ่งขึ้น Sports Activity Coupe คันนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร อันดุดัน ให้กำลัง 473 แรงม้า แรงบิด 600 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ทำให้ X4 M พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.9 วินาที มอบอัตราเร่งที่เร้าใจและการยึดเกาะที่มั่นใจ แต่ X4 M ไม่ใช่แค่รถมิสไซล์ที่วิ่งตรงได้เร็วเท่านั้น ช่วงล่างแบบสปอร์ต แดมเปอร์ปรับได้ และพวงมาลัยที่แม่นยำ ทำให้ขับสนุกในทุกโค้ง X4 M แสดงให้เห็นถึงความคล่องตัวที่น่าทึ่งสำหรับ SUV ด้วยแชสซีที่ตอบสนองได้ดีซึ่งส่งเสริมการขับขี่ที่เร้าใจ องค์ประกอบการออกแบบที่โดดเด่น เช่น หลังคาที่ลาดเอียง ท้ายรถที่ดูมีมิติ และกันชนหน้าที่ดุดัน ทำให้แตกต่างจาก X3 M ที่ดูเป็นแบบดั้งเดิมมากกว่า ภายใน X4 M นำเสนอสภาพแวดล้อมที่หรูหราและเน้นผู้ขับขี่เป็นหลัก เบาะนั่งสปอร์ตให้การรองรับที่ดีเยี่ยมในระหว่างการขับขี่ที่เร้าใจ ขณะที่พวงมาลัยขอบหนาและจอแสดงผลเฉพาะของ M ช่วยเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ ห้องโดยสารยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยี รวมถึงระบบสาระบันเทิงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ด้วยการผสมผสานสมรรถนะ สไตล์ และการใช้งานจริง BMW X4 M เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใครและน่าตื่นเต้น ตามสไตล์ของ BMW X4 M มีการปรับขึ้นราคาสำหรับรุ่นปี 2025 และสำหรับสิ่งนั้น คุณจะได้รับ… BMW X4 M เหมือนกับรุ่นปี 2024 ทุกประการ เนื่องจาก X4 M มาถึงสำหรับรุ่นปีใหม่โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา BMW X4 M 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 2.94 ล้านบาท (ประมาณ $80,275) และสูงสุดประมาณ 3.2 ล้านบาท (ประมาณ $87,275) หากคุณเลือกรุ่น Competition เช่นเดียวกับ X3 M Competition รุ่น Competition มาพร้อมกับกระจังหน้าและฝาครอบกระจกมองข้างสีดำเงา และระบบไอเสียแบบสปอร์ตที่ให้เสียงที่น่าทึ่งเป็นมาตรฐาน รวมถึงล้อสีดำ 21 นิ้วเป็นมาตรฐาน และภายในหนัง Merino ที่อัปเกรดแล้ว
คำกล่าวจากวงการ: “ถ้าคุณเป็นนักแข่ง Formula 1 ที่มีครอบครัว คุณจะขับอะไร? BMW X4 M Competition อาจเป็นสิ่งที่ใช่เลย” – Carwow

2025 BMW X5 M
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: Super SUV มาตรฐาน: เร็ว กว้างขวาง และหรูหรา
ภาพรวม: 2025 BMW X5 M กลับมาในฐานะกองกำลังที่โดดเด่นในเวที SUV สมรรถนะสูง ด้วยพละกำลังและเทคโนโลยีที่น่าประทับใจ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าตื่นเต้น ใต้ฝากระโปรง เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.4 ลิตร ที่คุ้นเคยได้รับการอัปเกรดด้วยเทคโนโลยี Mild-Hybrid 48V เพิ่มกำลังเป็น 617 แรงม้า แรงบิด 750 นิวตันเมตร ทำให้ X5 M พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.7 วินาที มาพร้อมกับเสียงเครื่องยนต์ที่รับรองว่าจะกระตุ้นความตื่นเต้นให้กับผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ทุกคน แต่ความสามารถของ X5 M ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ความเร็วในทางตรง แชสซีที่ซับซ้อนประกอบด้วยระบบช่วงล่าง M แบบปรับได้ ระบบลดการโคลงตัวแบบแอคทีฟ และระบบบังคับเลี้ยวล้อหลัง ทำงานร่วมกันเพื่อมอบการควบคุมและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive พร้อมเฟืองท้าย M แบบแอคทีฟช่วยเพิ่มการยึดเกาะและการควบคุม ทำให้ X5 M สามารถเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจด้วยความสงบนิ่งที่น่าทึ่ง ระบบเบรก M Compound ขนาดใหญ่ให้พลังการหยุดที่มั่นใจได้ หยุด SUV ที่ทรงพลังนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายในห้องโดยสาร X5 M มอบสภาพแวดล้อมที่หรูหราและเต็มไปด้วยเทคโนโลยี จอแสดงผล BMW Curved Display โดดเด่นบนแผงหน้าปัด โดยรวมเอาหน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสสาระบันเทิงขนาด 14.9 นิ้ว เบาะนั่ง M Sport ให้การรองรับที่ดีเยี่ยมในระหว่างการขับขี่ที่เร้าใจ ขณะที่วัสดุระดับพรีเมียมและการตกแต่งที่ประณีตสร้างบรรยากาศแห่งความซับซ้อน ด้วยการผสมผสานสมรรถนะที่ระเบิด เทคโนโลยีล้ำสมัย และการตกแต่งที่หรูหรา 2025 BMW X5 M ยังคงสร้างมาตรฐานที่สูงสำหรับ SUV สมรรถนะสูง รุ่นใหม่สำหรับปี 2024, 2025 X5M ไม่มีการอัปเดตและยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา BMW X5 M 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 4.6 ล้านบาท (ประมาณ $125,975) ข่าวดีคือปีนี้มีตัวเลือกเดียวสำหรับ X5 M ซึ่งเป็นรุ่น Competition ที่ยอดเยี่ยม รุ่น Competition โดยพื้นฐานแล้วให้คุณสมบัติเสริมสมรรถนะที่ดีที่สุดทั้งหมดเป็นมาตรฐาน สำหรับผู้ที่สนใจ นั่นหมายความว่าคุณจะได้รับระบบช่วงล่างปรับได้ ระบบไอเสียแบบสปอร์ต และล้อ 21 นิ้ว/22 นิ้ว แบบ staggered พร้อมยางสำหรับฤดูร้อน สำหรับผู้ที่ต้องการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น แพ็คเกจ Executive ที่เป็นอุปกรณ์เสริมจะเพิ่มคุณสมบัติหรูหรา เช่น ที่วางแก้วแบบปรับอุ่นและเย็น เบาะนั่งหน้าและหลังปรับอุ่น เบาะนั่งนวดสำหรับคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า ประตูแบบ Soft-close และอื่นๆ
คำกล่าวจากวงการ: “X5 M เป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถด้านวิศวกรรมของ BMW อย่างแท้จริง มันเป็นทั้ง SUV หรูหราที่สะดวกสบายและเครื่องจักรสมรรถนะสูงที่พร้อมลงสนามแข่ง” – US News Cars

2025 BMW X6 M
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: เครื่องยนต์ที่น่าทึ่งพร้อมอัตราเร่งที่บ้าคลั่ง ความสนุกสุดเหวี่ยงบนถนนรอง
ภาพรวม: 2025 BMW X6 M ต่อยอดชื่อเสียงในฐานะ SUV สไตล์คูเป้สมรรถนะสูง มอบการผสมผสานที่น่าตื่นเต้นของพละกำลัง สไตล์ และเทคโนโลยี มีเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.4 ลิตร อันทรงพลังเช่นเดียวกับ X5 M แต่ได้รับการปรับปรุงด้วยเทคโนโลยี Mild-Hybrid 48V ให้กำลังรวม 617 แรงม้า แรงบิด 750 นิวตันเมตร ซึ่งหมายถึงอัตราเร่งที่เร้าใจ โดย X6 M สามารถพุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.7 วินาที สมรรถนะของ X6 M ไม่ได้จำกัดอยู่แค่พละกำลังดิบ แต่ยังมาพร้อมกับแชสซีที่ซับซ้อนซึ่งประกอบด้วยระบบช่วงล่าง M แบบปรับได้ ระบบลดการโคลงตัวแบบแอคทีฟ และระบบบังคับเลี้ยวล้อหลัง เทคโนโลยีเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อมอบการควบคุมและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม ทำให้ SUV ขนาดใหญ่คันนี้สามารถเข้าโค้งได้อย่างแม่นยำอย่างน่าประหลาดใจ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive พร้อมเฟืองท้าย M แบบแอคทีฟช่วยเพิ่มการยึดเกาะและการควบคุม ขณะที่ระบบเบรก M Compound อันทรงพลังให้พลังการหยุดที่มั่นใจได้ ภายในห้องโดยสาร X6 M มอบสภาพแวดล้อมที่หรูหราและเน้นผู้ขับขี่เป็นหลัก BMW Curved Display เป็นจุดศูนย์กลาง โดยรวมเอาหน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสสาระบันเทิงขนาด 14.9 นิ้ว เบาะนั่ง M Sport ให้การรองรับที่ดีเยี่ยมในระหว่างการขับขี่ที่เร้าใจ ขณะที่วัสดุระดับพรีเมียมและการตกแต่งที่ประณีตสร้างบรรยากาศแห่งความซับซ้อน ด้วยการผสมผสานการออกแบบที่โดดเด่น สมรรถนะที่เร้าใจ และเทคโนโลยีขั้นสูง 2025 BMW X6 M โดดเด่นในฐานะตัวเลือกที่ไม่เหมือนใครและน่าดึงดูดใจในกลุ่ม SUV สมรรถนะสูง เช่นเดียวกับ X5 M, X6 M ได้รับการปรับโฉมสำหรับรุ่นปี 2024 ดังนั้นปี 2025 จึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เลย
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา BMW X6 M 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 4.78 ล้านบาท (ประมาณ $130,875) ข่าวดีคือปีนี้มีตัวเลือกเดียวสำหรับ X6 M ซึ่งเป็นรุ่น Competition ที่ยอดเยี่ยม และข่าวดีอีกอย่างคือ X6 M มีราคาถูกกว่า X5 M รุ่นพี่ จริงอยู่ที่ X6 M ใช้งานได้จริงน้อยกว่า แต่ก็มีสไตล์ที่โดดเด่นกว่า แนะนำให้เพลิดเพลินกับระบบช่วงล่างปรับได้ ระบบไอเสียแบบสปอร์ต และล้อ 21 นิ้ว/22 นิ้ว แบบ staggered พร้อมยางสำหรับฤดูร้อน ซึ่งทั้งหมดนี้รวมอยู่ในรุ่น Competition เป็นมาตรฐาน
คำกล่าวจากวงการ: “ถ้าคุณให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ที่สะดุดตาและอัตราเร่งที่รุนแรง X6 M จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง” – Kelly Blue Book

2025 Cadillac Escalade V-Series
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: เครื่องจักรที่คล่องตัวและมีความสามารถอย่างน่าประหลาดใจ ท้าทายขนาดและน้ำหนักของมัน
ภาพรวม: 2025 Cadillac Escalade V-Series ยกระดับ SUV หรู อันเป็นเอกลักษณ์ไปสู่จุดสูงสุดใหม่ของสมรรถนะและความพิเศษเฉพาะตัว ใต้ฝากระโปรงคำรามด้วยเครื่องยนต์ V8 ซูเปอร์ชาร์จ 6.2 ลิตร ที่สร้างด้วยมือ ปลดปล่อยกำลังมหาศาล 682 แรงม้า แรงบิด 885 นิวตันเมตร ซึ่งหมายถึงการเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.4 วินาที ซึ่งเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งสำหรับ SUV ที่มีขนาดและศักดิ์ศรีขนาดนี้ Escalade V-Series ไม่ได้อาศัยเพียงแค่พละกำลังดิบเท่านั้น แต่ยังมีช่วงล่างที่ปรับแต่งสมรรถนะพร้อม Magnetic Ride Control 4.0 เฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิป และระบบเบรก Brembo ขนาดใหญ่ ทำให้มั่นใจได้ถึงการควบคุมและการหยุดรถที่ยอดเยี่ยม Escalade V-Series โดดเด่นด้วยองค์ประกอบการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงศักยภาพด้านสมรรถนะ กันชนหน้าที่มีเอกลักษณ์พร้อมช่องดักอากาศขนาดใหญ่ขึ้น กระจังหน้าแบบตาข่าย และตรา V-Series ทำให้แตกต่างจาก Escalade มาตรฐาน ล้อ 24 นิ้วสุดพิเศษ คาลิปเปอร์เบรก Edge Red ที่เป็นอุปกรณ์เสริม และปลายท่อไอเสียสี่ท่อ ตอกย้ำถึงความสปอร์ต ภายในห้องโดยสารเป็นสวรรค์แห่งความหรูหราและเทคโนโลยี เบาะนั่งหนัง Semi-aniline พร้อมการเย็บที่ไม่เหมือนใครและโลโก้ V-Series มอบความสะดวกสบายและการรองรับที่ยอดเยี่ยม หน้าจอ OLED แบบโค้งครอบคลุมแผงหน้าปัด โดยรวมเอาหน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลขนาด 14.2 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสสาระบันเทิงขนาด 16.9 นิ้ว ด้วยการผสมผสานสมรรถนะที่ระเบิด การออกแบบที่สะดุดตา และสิ่งอำนวยความสะดวกอันหรูหรา 2025 Cadillac Escalade V-Series นิยามใหม่ของกลุ่ม SUV สุดหรู เป็นรถยนต์ที่สามารถขนส่งครอบครัวได้อย่างสะดวกสบายและมีสไตล์ ในขณะเดียวกันก็มอบสมรรถนะที่เร้าใจตามต้องการ สำหรับผู้ที่แสวงหาที่สุดแห่งความหรูหราและสมรรถนะใน SUV Escalade V-Series โดดเดี่ยวอย่างแท้จริง การอัปเดตภายนอกของ Escalade รวมถึงด้านหน้าที่ได้รับการปรับปรุง โดยมีกระจังหน้าขนาดใหญ่ขึ้นพร้อมลวดลายใหม่ ไฟ DRL ที่แคบลงใต้รอยพับของฝากระโปรง ไฟหน้า LED แนวนอน และกรอบกระจังหน้าแบบเรืองแสงเป็นอุปกรณ์เสริม ด้านหลังมีไฟท้ายที่ปรับปรุงใหม่ ฝาครอบกันชนล่างใหม่ และการปรับแต่งเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมีสีและตัวเลือกภายในใหม่ๆ และการอัปเกรดอีกมากมาย
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Cadillac Escalade V-Series 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 5.9 ล้านบาท (ประมาณ $161,990) มีตัวเลือกมากมายที่คุณสามารถเลือกได้ แต่ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและความหรูหรา ดังนั้นขึ้นอยู่กับคุณ แค่เลือกรุ่น V-Series ก็พร้อมใช้งานแล้ว
คำกล่าวจากวงการ: “เครื่องยนต์ V8 ซูเปอร์ชาร์จมอบพละกำลังที่เร้าใจ มาพร้อมกับเสียงไอเสียที่ไพเราะ” – Motor Trend

2025 Dodge Durango SRT 392
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: SUV อเนกประสงค์ ที่มาพร้อมสมรรถนะที่เหลือเชื่อในเวลาเดียวกัน
ภาพรวม: Dodge Durango SRT 392 คือรถ Muscle Car ที่ปลอมตัวเป็น SUV ครอบครัว เป็นรถยนต์ที่ท้าทายความคาดหมาย มอบสมรรถนะที่เร้าใจและเสียงเครื่องยนต์ V8 ที่ดุดัน ในขณะที่ยังคงให้ประโยชน์ใช้สอยและความอเนกประสงค์ของ SUV แบบสามแถว ใต้ฝากระโปรงมีเครื่องยนต์ HEMI V8 ขนาด 6.4 ลิตร ที่ให้กำลัง 475 แรงม้า แรงบิด 637 นิวตันเมตร ซึ่งหมายถึงอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.7 วินาที ทำให้เป็น SUV ที่เร็วที่สุด รุ่นหนึ่งในกลุ่ม แต่ Durango SRT 392 ไม่ได้เป็นเพียงรถที่วิ่งตรงได้เร็วเท่านั้น Dodge ได้ติดตั้ง SUV สมรรถนะสูงคันนี้ด้วยช่วงล่างแบบสปอร์ต ระบบเบรก Brembo และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ช่วยให้เข้าโค้งได้อย่างคล่องตัวอย่างน่าประหลาดใจ เป็นรถยนต์ที่สามารถขับบนถนนที่คดเคี้ยวได้อย่างสบาย หรือแม้กระทั่งลงสนามแข่งได้อย่างมั่นใจ การออกแบบภายนอกที่ดุดันของ Durango SRT 392 ด้วยตัวถังที่กว้างขึ้น สกู๊ปบนฝากระโปรง และล้อ 20 นิ้ว ยิ่งบ่งบอกถึงศักยภาพด้านสมรรถนะ ภายใน Durango SRT 392 มีห้องโดยสารที่สะดวกสบายและติดตั้งอุปกรณ์ครบครัน พร้อมเบาะนั่งสำหรับผู้โดยสารสูงสุดเจ็ดคน เบาะหน้าปรับอุ่นและปรับอากาศ พวงมาลัยปรับอุ่น และระบบสาระบันเทิงหน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคุณสมบัติที่ทำให้เป็นสถานที่ที่น่าใช้เวลา ด้วยการผสมผสานสมรรถนะแบบ Muscle Car ประโยชน์ใช้สอยของ SUV และภายในที่สะดวกสบาย Dodge Durango SRT 392 เป็นตัวเลือกที่ไม่เหมือนใครและน่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการทุกสิ่ง
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Dodge Durango SRT 392 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 2.8 ล้านบาท (ประมาณ $76,590) 2025 Dodge Durango SRT 392 มีให้เลือกสามรุ่นย่อยพร้อมตัวเลือกไม่กี่อย่างในแต่ละรุ่น
คำกล่าวจากวงการ: “Durango SRT 392 เป็นรถ Hot Rod ที่สนุกสุดเหวี่ยง เหมาะสำหรับครอบครัว ที่สามารถลากเรือไปทะเลสาบ และแซง Mustang ที่ไฟแดงได้ในนาทีถัดไป” – Car and Driver

2025 Dodge Durango SRT Hellcat
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: SUV อเนกประสงค์ ที่มาพร้อมสมรรถนะที่เหลือเชื่อในเวลาเดียวกัน
ภาพรวม: 2025 Dodge Durango SRT Hellcat กลับมาอีกครั้ง ท้าทายความคาดหวังและตรรกะด้วยการยัดเครื่องยนต์ Hellcat V8 ซูเปอร์ชาร์จ 6.2 ลิตร เข้าไปใน SUV ครอบครัว เครื่องยนต์ขนาดมหึมานี้สร้างกำลังมหาศาลถึง 710 แรงม้า แรงบิด 875 นิวตันเมตร เปลี่ยน Durango ให้กลายเป็นสัตว์ร้ายด้านสมรรถนะอย่างแท้จริง ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.5 วินาที และเวลา 1/4 ไมล์ 11.5 วินาที Durango SRT Hellcat สามารถทำให้รถสปอร์ตหลายคันอับอาย ในขณะที่ยังคงรองรับผู้โดยสารเจ็ดคนและสัมภาระได้อย่างสะดวกสบาย แต่ Durango SRT Hellcat ไม่ได้เป็นเพียงแค่พละกำลังดิบๆ เท่านั้น มันมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ปรับแต่งสมรรถนะ เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดพร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ และช่วงล่างแบบสปอร์ตที่ช่วยให้เข้าโค้งได้อย่างคล่องตัวอย่างน่าประหลาดใจสำหรับขนาดของมัน ระบบเบรก Brembo ขนาดใหญ่ให้พลังการหยุดที่จำเป็นในการควบคุมสัตว์ร้ายตัวนี้ ขณะที่ระบบ Launch Control ช่วยให้คุณเร่งความเร็วได้อย่างรวดเร็ว การออกแบบภายนอกที่ดุดันของ Durango SRT Hellcat ด้วยตัวถังที่กว้างขึ้น สกู๊ปบนฝากระโปรง และล้อ 20 นิ้ว ไม่ทิ้งข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับความตั้งใจด้านสมรรถนะ ภายใน Durango SRT Hellcat มีห้องโดยสารที่สะดวกสบายและติดตั้งอุปกรณ์ครบครัน พร้อมเบาะนั่งสำหรับผู้โดยสารสูงสุดเจ็ดคน เบาะหน้าปรับอุ่นและปรับอากาศ พวงมาลัยปรับอุ่น และระบบสาระบันเทิงหน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคุณสมบัติที่ทำให้เป็นสถานที่ที่น่าใช้เวลา ด้วยการผสมผสานสมรรถนะระดับซูเปอร์คาร์ ประโยชน์ใช้สอยของ SUV และภายในที่สะดวกสบาย 2025 Dodge Durango SRT Hellcat เป็นรถยนต์ที่ไม่เหมือนใครและเร้าใจอย่างแท้จริงที่ท้าทายการจัดหมวดหมู่ รุ่นพิเศษ Silver Bullet มาถึงในปี 2025 มันมาพร้อมอุปกรณ์ครบครัน ตัวถังสี Triple Nickel (เงิน) และเพิ่มรายละเอียดพิเศษ เช่น ฝากระโปรงสีดำซาติน และการเย็บสองสีทั่วห้องโดยสาร
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Dodge Durango SRT Hellcat 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 3.65 ล้านบาท (ประมาณ $100,000) 2025 Dodge Durango SRT Hellcat มีให้เลือกสามรุ่นย่อยพร้อมตัวเลือกไม่กี่อย่างในแต่ละรุ่น
คำกล่าวจากวงการ: “Durango Hellcat เป็น SUV ที่เร็วเหลือเชื่อ ที่สามารถพาสมาชิกในครอบครัวไปฝึกซ้อมฟุตบอลในนาทีเดียว และวิ่ง 1/4 ไมล์ใน 11.5 วินาทีในนาทีถัดไป” – Motor Trend

2025 Ferrari Purosangue
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: การผสมผสานที่สมบูรณ์แบบของสมรรถนะ การใช้งานจริง และความหรูหรา สำหรับครอบครัว
ภาพรวม: Ferrari Purosangue ไม่ใช่แค่ SUV คันแรกของ Ferrari แต่ยังเป็นการประกาศที่ท้าทายธรรมเนียมและนิยามใหม่ของความคาดหวัง นี่ไม่ใช่ รถครอบครัวยกสูง ทั่วไปของคุณ แต่เป็น Ferrari สายเลือดแท้ที่มีจิตวิญญาณของรถสปอร์ตและความอเนกประสงค์ของ SUV การออกแบบที่เพรียวบางตามหลักอากาศพลศาสตร์ ด้วยฝากระโปรงที่ยาว บังโคลนที่แข็งแกร่ง และท่าทางที่ดุดัน เป็นเอกลักษณ์ของ Ferrari อย่างไม่มีผิดเพี้ยน ในขณะที่ความสูงที่เพิ่มขึ้นและประตูสี่บานมอบระดับการใช้งานจริงใหม่สำหรับม้าพยศ ใต้ฝากระโปรง Purosangue มีเครื่องยนต์ V12 Naturally Aspirated 6.5 ลิตร ที่ปลดปล่อยพลังเสียงอันไพเราะ ให้กำลัง 715 แรงม้า แรงบิด 716 นิวตันเมตร ซึ่งหมายถึงสมรรถนะที่น่าทึ่ง โดยมีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.3 วินาที และความเร็วสูงสุด 310 กม./ชม. แต่ Purosangue เป็นมากกว่าแค่รถมิสไซล์ที่วิ่งตรงได้เร็ว ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อขั้นสูง ช่วงล่างแบบแอคทีฟ และระบบบังคับเลี้ยวล้อหลัง ให้การควบคุมและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม ทำให้ขับสนุกบนถนนที่คดเคี้ยว ภายในห้องโดยสาร Purosangue มีห้องโดยสารที่หรูหราและกว้างขวาง พร้อมเบาะนั่งสำหรับสี่คน ห้องโดยสารที่เน้นผู้ขับขี่เป็นหลักประกอบด้วยหน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัล ระบบสาระบันเทิงหน้าจอสัมผัสขนาด 10.2 นิ้ว และการออกแบบ Dual-Cockpit ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งทำให้ผู้โดยสารด้านหน้ามีจอแสดงผลและระบบควบคุมเป็นของตัวเอง เบาะหลังมีพื้นที่วางขาและพื้นที่เหนือศีรษะกว้างขวาง ทำให้ Purosangue เป็นรถที่สะดวกสบายและใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ด้วยการผสมผสานสมรรถนะที่เร้าใจ การออกแบบที่สวยงาม และประโยชน์ใช้สอยที่น่าประหลาดใจ Ferrari Purosangue เป็นรถยนต์ที่ก้าวข้ามขีดจำกัดที่นิยามใหม่ว่า Ferrari จะเป็นอะไรได้บ้าง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงสำหรับ Purosangue สำหรับรุ่นปี 2025
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Ferrari Purosangue 2025 มีให้เลือกหนึ่งรุ่นย่อย ไม่ถูกเลย โดยมีราคาเริ่มต้นเกือบ 15.6 ล้านบาท (ประมาณ $428,686) Purosangue เป็นเรื่องของตัวเลือกสำหรับผู้ซื้อ และใช่ นี่คือ Ferrari คุณสามารถเลือกตัวเลือกต่างๆ ได้อย่างเต็มที่
คำกล่าวจากวงการ: “Purosangue ขับเคลื่อนได้เหมือน Ferrari แท้ๆ ด้วยความคล่องตัวและการตอบสนองที่น่าทึ่งซึ่งท้าทายขนาดและรูปร่างของมัน” – Car and Driver

2025 Ford F-150 Raptor / Raptor R
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: รถกระบะออฟโรดที่มีความสามารถอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งผลักดันขีดจำกัดของสิ่งที่เป็นไปได้ในรถกระบะ
ภาพรวม: 2025 Ford F-150 Raptor และ Raptor R ยังคงครองตำแหน่งสูงสุดในโลกของ รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง สัตว์ร้ายที่วิ่งลุยทะเลทรายและปีนป่ายหินเหล่านี้ถูกสร้างมาสำหรับผู้ที่ต้องการการผจญภัยที่เร้าใจและต้องการความสามารถสูงสุดจากรถของพวกเขา รถกระบะทั้งสองรุ่นใช้แพลตฟอร์มร่วมกันและการออกแบบที่ดุดัน แต่ตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ออฟโรดในระดับที่แตกต่างกัน F-150 Raptor ซึ่งเป็นรุ่น “พื้นฐาน” ก็ไม่ธรรมดา มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V6 EcoBoost ทวินเทอร์โบ 3.5 ลิตร อันทรงพลังที่ให้กำลัง 450 แรงม้า แรงบิด 690 นิวตันเมตร กำลังนี้ถูกส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ซับซ้อนพร้อมระบบถ่ายทอดกำลังแบบ Torque-on-demand หัวใจสำคัญของ Raptor อยู่ที่ช่วงล่าง ด้วยโช้ค Fox 3.1 Live Valve Internal Bypass ที่ให้การควบคุมและการหน่วงที่ยอดเยี่ยมแม้บนพื้นผิวที่ท้าทายที่สุด ด้วยระยะยุบตัวของช่วงล่างหน้า 13.1 นิ้ว และหลัง 14.1 นิ้ว Raptor สามารถรองรับการกระแทกและการกระโดดได้อย่างง่ายดาย สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะที่รุนแรงยิ่งขึ้น F-150 Raptor R ยกระดับไปอีกขั้น ใต้ฝากระโปรงมีเครื่องยนต์ Predator V8 ซูเปอร์ชาร์จ 5.2 ลิตร ซึ่งยืมมาจาก Mustang Shelby GT500 ปลดปล่อยกำลังมหาศาล 700 แรงม้า แรงบิด 868 นิวตันเมตร ทำให้ Raptor R เป็น รถกระบะออฟโรดที่ทรงพลังที่สุด ในตลาด นอกจากนี้ยังมีช่วงล่างที่ปรับแต่งเป็นพิเศษ ระยะฐานล้อที่กว้างขึ้น และยาง All-Terrain 37 นิ้ว ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่ออฟโรด ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่น Raptor หรือ Raptor R คุณรับประกันได้ว่าจะได้รถกระบะที่สามารถพิชิตทุกสภาพภูมิประเทศและมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ หลังจากปี 2024 ที่ยุ่งเหยิง โดยที่ Raptor ได้รับการอัปเดตเครื่องสำอาง โช้ค Fox Dual Live Valve ที่มีให้เลือก ตะขอพ่วงหน้ากว้างขึ้น และไฟหน้าใหม่ รุ่นปี 2025 ยังคงเหมือนเดิมโดยพื้นฐาน
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Ford F-150 Raptor 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 2.95 ล้านบาท (ประมาณ $80,900) สำหรับรุ่นพื้นฐาน และเริ่มต้นที่ประมาณ 4.1 ล้านบาท (ประมาณ $112,725) สำหรับรุ่น R ที่บ้าคลั่ง
คำกล่าวจากวงการ: “Raptor R เป็นรถบรรทุกสัตว์ประหลาดที่ใช้สเตียรอยด์ ด้วยเครื่องยนต์ V8 ที่ดุร้าย ให้พละกำลังที่น่าทึ่งและเสียงเพลงที่เข้ากัน” – Top Gear

2025 Ford Bronco Raptor
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: สัตว์ร้ายออฟโรดตัวจริง สามารถลุยภูมิประเทศที่ท้าทายที่สุดได้อย่างง่ายดาย
ภาพรวม: Ford Bronco Raptor ไม่ใช่ SUV ทั่วไปของคุณ แต่เป็นสัตว์ร้ายออฟโรดสมรรถนะสูงที่สร้างมาเพื่อพิชิตภูมิประเทศที่ท้าทายที่สุด ลองนึกภาพรถบรรทุกมอนสเตอร์ที่วิ่งลุยทะเลทราย ปีนป่ายหิน และกระโดดได้พร้อมป้ายทะเบียน Ford นำ Bronco ที่มีความสามารถอยู่แล้วมาเติม DNA ของ Raptor เข้าไป ทำให้ได้รถยนต์ที่ผลักดันขีดจำกัดของสมรรถนะออฟโรด ใต้ฝากระโปรง Bronco Raptor บรรจุเครื่องยนต์ V6 EcoBoost ทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร ที่ให้กำลัง 418 แรงม้า แรงบิด 597 นิวตันเมตร กำลังนี้ถูกส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ซับซ้อนพร้อมเพลาท้าย Dana 50 Heavy-Duty AdvanTEK ที่แข็งแรง และเพลาหน้า Dana 44 AdvanTEK หัวใจสำคัญของ Bronco Raptor อยู่ที่ช่วงล่างอย่างแท้จริง มีระบบช่วงล่างออฟโรดสมรรถนะสูง (HOSS 4.0) พร้อมแดมเปอร์ Fox 3.1 Internal Bypass Semi-Active ระยะยุบตัวของช่วงล่างที่ยาว และยาง All-Terrain 37 นิ้วขนาดใหญ่ การตั้งค่านี้ช่วยให้ Bronco Raptor สามารถรองรับการกระแทกและการกระโดดได้อย่างง่ายดาย ให้การควบคุมและความเสถียรที่ยอดเยี่ยมแม้ในสภาพแวดล้อมออฟโรดที่ต้องการมากที่สุด การออกแบบภายนอกของ Bronco Raptor ดุดันไม่แพ้สมรรถนะ บังโคลนที่กว้างขึ้น กระจังหน้าที่มีเอกลักษณ์ และตัวอักษร “FORD” ที่โดดเด่น ไม่ทิ้งข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับความตั้งใจ คุณสมบัติการใช้งาน เช่น แผ่นกันกระแทกเหล็ก แผ่นกันกระแทกสำหรับงานหนัก และตะขอพ่วง ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่ออฟโรด ภายในห้องโดยสารเป็นการผสมผสานระหว่างความแข็งแกร่งและความประณีต ด้วยเบาะหนังไวนิลเกรดเรือ ระบบสาระบันเทิงหน้าจอสัมผัสความละเอียดสูง และคุณสมบัติที่เน้นการขับขี่ออฟโรดมากมาย Bronco Raptor เป็นเครื่องจักรที่ไม่เหมือนใครและมีความสามารถอย่างแท้จริงที่นิยามใหม่ว่า SUV ออฟโรดจะเป็นอะไรได้บ้าง
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Ford Bronco Raptor 2025 อยู่ที่ประมาณ 3.35 ล้านบาท (ประมาณ $91,930) ซึ่งสูงสำหรับ Ford Bronco Raptor มีให้เลือกเฉพาะรุ่นตัวถัง 4 ประตูและรุ่นย่อยเดียว ตัวเลือกหลักมาพร้อมกับสิ่งดีๆ มากมาย ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องเพิ่มตัวเลือกต่างๆ มากนัก ระบบเสียงยอดเยี่ยมและมีอุปกรณ์ออฟโรดทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับภารกิจหลักในการเป็น Bronco ที่สุดขีด
คำกล่าวจากวงการ: “รถกระบะคันนี้สามารถปีนป่ายหิน ลุยแม่น้ำ และกระโดดเนินทรายได้อย่างคล่องตัวและสง่างามอย่างไม่น่าเชื่อ” – Motor Trend

2025 Lamborghini Urus
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: ความสมดุลที่ลงตัวระหว่างความบ้าคลั่งของ Lamborghini และประโยชน์ใช้สอยในชีวิตประจำวันของ SUV
ภาพรวม: 2025 Lamborghini Urus พุ่งทะยานเข้าสู่อนาคตด้วยระบบขับเคลื่อน Plug-in Hybrid อันทรงพลัง ถือเป็นยุคใหม่สำหรับ SUV สมรรถนะสูง คันนี้ แม้ว่าเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร อันเป็นเอกลักษณ์จะยังคงอยู่ แต่ตอนนี้ได้ถูกรวมเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อสร้าง Urus S.E. (Super Elettrica) ใหม่ การผสมผสานนี้ปลดปล่อยกำลังมหาศาล 789 แรงม้า แรงบิด 950 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน Urus S.E. จาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.1 วินาที นอกเหนือจากพละกำลังดิบๆ ระบบไฮบริดยังให้ระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนประมาณ 48 กิโลเมตร เพิ่มมิติของประสิทธิภาพให้กับ Super SUV คันนี้ แต่กลุ่มผลิตภัณฑ์ Urus ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น Urus S “พื้นฐาน” ก็ได้รับการอัปเดตสำหรับปี 2025 โดยมีการออกแบบด้านหน้าที่ได้รับการปรับปรุงด้วยกันชนและฝากระโปรงหน้าใหม่ พร้อมไฟหน้าและไฟท้ายที่ได้รับการอัปเดต ภายในทั้ง Urus S และ S.E. ได้รับประโยชน์จากระบบสาระบันเทิงที่ได้รับการอัปเกรดและตัวเลือกการปรับแต่งที่หลากหลายยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่ต้องการสุดยอดสมรรถนะของ Urus รุ่น Performante ยังคงครองตำแหน่งสูงสุด ด้วยการลดน้ำหนัก การปรับปรุงอากาศพลศาสตร์ และการปรับแต่งที่เน้นสนามแข่ง Urus Performante มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจและน่าหลงใหลยิ่งขึ้น ตัวเลือกใหม่ที่เพิ่มเข้ามาคือล้อ Galanthus ขนาด 23 นิ้วที่โดดเด่น ห่อหุ้มด้วยยาง Pirelli P Zero ขนาด 285/35 ที่ด้านหน้าและ 325/30 ที่ด้านหลัง ภายใน Urus S.E. มีหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วที่ใหญ่ขึ้น พร้อมการตอบสนองที่ดีขึ้นและระบบควบคุมด้วยเสียงที่ได้รับการปรับปรุง ในขณะที่ยังคงรักษาระบบควบคุมแบบกายภาพที่น่าพอใจ รวมถึงสวิตช์แบบสลับและปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์แบบกรงที่น่าดึงดูดใจ การอัปเดตเหล่านี้รวมกันเพื่อยกระดับรูปลักษณ์และเทคโนโลยีที่ซับซ้อนของ Urus ทำให้มั่นใจได้ว่ายังคงเป็นรถที่สะดุดตาทั้งภายในและภายนอก 2025 Lamborghini Urus S.E. เปิดตัวด้วยระบบขับเคลื่อนไฮบริด 789 แรงม้า ทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ใน 3.1 วินาที และมีระยะทางไฟฟ้า 48 กม. นอกจากนี้ยังเป็นผู้นำการปรับโฉมกลางวงจรด้วยการออกแบบใหม่รวมถึงไฟหน้า Matrix LED, ฝากระโปรงท้ายและกันชนที่ออกแบบใหม่ และตัวเลือกสีตัวถังกว่า 100 แบบ ล้อ 23 นิ้วใหม่และหน้าจอสัมผัส 12.3 นิ้วที่ได้รับการอัปเกรดช่วยเพิ่มประสบการณ์ ในขณะที่การควบคุมแบบกายภาพ เช่น สวิตช์สลับและปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์แบบกรงยังคงอยู่ Urus S ยังได้รับการปรับโฉม ในขณะที่ Performante ยังคงเป็นรุ่นที่เน้นสนามแข่ง
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Lamborghini Urus 2025 “รุ่นเริ่มต้น” เริ่มต้นที่ประมาณ 8.8 ล้านบาท (ประมาณ $241,843) สำหรับปี 2025 และสูงสุดถึง 10 ล้านบาท (ประมาณ $273,880) หากคุณเลือกรุ่น Performante ที่เน้นสมรรถนะ
คำกล่าวจากวงการ: “Urus S คือบทเรียนสำคัญในการทำให้รถที่ยอดเยี่ยมดียิ่งขึ้นไปอีก” – Top Gear

2025 Lotus Eletre
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: นี่คือเกมเปลี่ยนของ Lotus
ภาพรวม: Lotus Eletre เป็นรถยนต์ที่ก้าวข้ามขีดจำกัด แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอังกฤษ ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านรถสปอร์ตน้ำหนักเบา SUV ไฟฟ้าล้วน คันนี้เป็นก้าวแรกของ Lotus ในตลาด SUV และเป็นการประกาศที่โดดเด่นด้วยการออกแบบที่สะดุดตา เทคโนโลยีล้ำสมัย และความสามารถด้านสมรรถนะที่น่าประทับใจ รูปทรงตามหลักอากาศพลศาสตร์และเส้นสายที่ประณีตของ Eletre ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสวยงาม แต่ยังมีส่วนช่วยให้มีประสิทธิภาพและระยะทางที่น่าประทับใจ ใต้ผิว Eletre มีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าอันทรงพลังพร้อมมอเตอร์คู่ที่ให้กำลังรวม 603 แรงม้า แรงบิด 710 นิวตันเมตร ในรุ่นพื้นฐานและรุ่น S ซึ่งหมายถึงอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.5 วินาที สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะที่เร้าใจยิ่งขึ้น Eletre R รุ่นท็อปสุดปลดปล่อยกำลังมหาศาลถึง 905 แรงม้า แรงบิด 985 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.95 วินาที Eletre R ยังมีเกียร์สองสปีดที่เป็นเอกลักษณ์บนเพลาหลัง ช่วยเพิ่มทั้งอัตราเร่งและประสิทธิภาพ ภายในห้องโดยสาร Eletre มอบสภาพแวดล้อมที่หรูหราและเต็มไปด้วยเทคโนโลยี ใช้วัสดุที่ยั่งยืนทั่วทั้งคัน สะท้อนความมุ่งมั่นของ Lotus ในการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ระบบสาระบันเทิงหน้าจอสัมผัส OLED ขนาด 15.1 นิ้ว โดดเด่นบนแผงหน้าปัด ให้การเข้าถึงระบบนำทาง ความบันเทิง และการตั้งค่ารถยนต์ Eletre ยังมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงมากมาย รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ระบบช่วยรักษาเลน และระบบกล้อง 360 องศา Eletre เป็นรุ่นใหม่ทั้งหมดสำหรับปี 2025 มีสามรุ่นย่อยในการเปิดตัว
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Lotus Eletre 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 4 ล้านบาท (ประมาณ $110,000) ซึ่งสูงกว่ารุ่นปี 2024 เล็กน้อย
คำกล่าวจากวงการ: “Eletre R เร็วอย่างน่าตกใจ ให้ความเร่งระดับซูเปอร์คาร์ในแพ็คเกจ SUV” – Car and Driver

2025 Maserati Grecale
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ดูดี แต่ยังคงต้องต่อสู้กับคู่แข่งที่ดีที่สุดในกลุ่ม
ภาพรวม: 2025 Maserati Grecale เข้าสู่ตลาดในฐานะ SUV หรูคอมแพกต์ ที่แสดงออกถึงสไตล์อิตาลีและสมรรถนะ SUV ที่มีสไตล์คันนี้นำเสนอการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความอเนกประสงค์ เทคโนโลยี และความตื่นเต้นในการขับขี่ ทำให้เป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งในกลุ่มของมัน Maserati เสนอ Grecale ในสามรุ่นย่อยที่แตกต่างกัน โดยแต่ละรุ่นตอบสนองความต้องการและความชอบที่แตกต่างกัน Grecale GT ระดับเริ่มต้นขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ Mild-Hybrid 2.0 ลิตร ที่ให้กำลัง 296 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร ซึ่งให้พละกำลังที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ขณะที่ระบบ Mild-Hybrid ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ รุ่นถัดไปคือ Grecale Modena ซึ่งมีเครื่องยนต์ Mild-Hybrid เดียวกันแต่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้กำลัง 325 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร ซึ่งหมายถึงประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจยิ่งขึ้น ด้วยอัตราเร่งและการตอบสนองที่ดีขึ้น สำหรับผู้ที่ต้องการสุดยอดสมรรถนะของ Grecale รุ่น Grecale Trofeo อยู่บนสุดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยละทิ้งเครื่องยนต์ 4 สูบเพื่อใช้เครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร ประสิทธิภาพสูงที่มาจากซูเปอร์คาร์ MC20 เครื่องยนต์อันทรงพลังนี้ปลดปล่อยกำลังที่น่าตื่นเต้น 523 แรงม้า แรงบิด 620 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน Grecale Trofeo จาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นย่อยใด Grecale ก็มีห้องโดยสารที่หรูหราและติดตั้งอุปกรณ์ครบครันด้วยวัสดุคุณภาพสูงและคุณสมบัติเทคโนโลยีขั้นสูง หน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบสาระบันเทิงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว โดดเด่นบนแผงหน้าปัด ในขณะที่มี Head-up Display เป็นอุปกรณ์เสริมเพื่อความสะดวกสบาย ด้วยการผสมผสานสไตล์อิตาลี สมรรถนะที่น่าดึงดูด และสิ่งอำนวยความสะดวกอันหรูหรา 2025 Maserati Grecale เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา SUV คอมแพกต์ระดับพรีเมียม ที่โดดเด่นจากฝูงชน
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Maserati Grecale 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 2.55 ล้านบาท (ประมาณ $69,995) ซึ่งสูงกว่ารุ่นปี 2024 เล็กน้อย ด้วยแดมเปอร์ปรับได้ ล้อ 20 นิ้ว ซันรูฟไฟฟ้า เบาะหน้าปรับไฟฟ้า 14 ทิศทาง Adaptive Cruise Control การตกแต่งภายในด้วยไม้ และสิ่งดีๆ อื่นๆ ทำให้ Modena คุ้มค่ากับราคาที่เพิ่มขึ้นเกือบ 3.5 แสนบาท (ประมาณ $10,000)
คำกล่าวจากวงการ: “Grecale เป็น SUV อเนกประสงค์ที่สามารถปรับให้เข้ากับสถานการณ์การขับขี่ที่หลากหลาย ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปทำงานหรือสำรวจชนบท” – Road & Track

2025 Maserati Grecale Folgore
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: การผสมผสานสไตล์อิตาลี สมรรถนะ และความยั่งยืนที่ไม่เหมือนใคร
ภาพรวม: 2025 Maserati Grecale Folgore นำความเร้าใจทางไฟฟ้ามาสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์ Grecale นำเสนอสมรรถนะที่ยั่งยืนให้กับ SUV อิตาลี รุ่นไฟฟ้าล้วนคันนี้มีพลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังรวม 542 แรงม้า แรงบิด 800 นิวตันเมตร ซึ่งหมายถึงอัตราเร่งที่เร้าใจ โดยมีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.1 วินาที แต่ Folgore ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความเร็วในทางตรงเท่านั้น แต่ยังมีชุดแบตเตอรี่ 105 kWh ที่ให้ระยะทางประมาณ 500 กิโลเมตร ทำให้เป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้จริงสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการเดินทางที่ยาวนาน Folgore แตกต่างจากพี่น้องที่ใช้น้ำมันด้วยการออกแบบที่ละเอียดอ่อนแต่โดดเด่น ล้ออากาศพลศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ขณะที่การตกแต่งด้วยสีทองแดงบนตราสัญลักษณ์ภายนอกและคาลิปเปอร์เบรกบ่งบอกถึงลักษณะไฟฟ้า ภายในห้องโดยสาร Folgore มีเบาะหุ้มด้วย Econyl ไนลอนรีไซเคิล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Maserati ในการรักษาสิ่งแวดล้อม แผงหน้าปัดโดดเด่นด้วยหน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบสาระบันเทิงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ให้การเข้าถึงระบบนำทาง ความบันเทิง และการตั้งค่ารถยนต์ ด้วยการผสมผสานสไตล์อิตาลี สมรรถนะที่เร้าใจ และเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 2025 Maserati Grecale Folgore เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา SUV ไฟฟ้าพรีเมียม ที่ไม่ลดทอนความสนุกในการขับขี่ Grecale Folgore เป็นรุ่นใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Maserati สำหรับรุ่นปี 2025 และถือเป็นรุ่นไฟฟ้าลำดับที่สองในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของผู้ผลิตรถยนต์
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Maserati Grecale Folgore 2025 อยู่ที่ประมาณ 4 ล้านบาท (ประมาณ $110,495) ขึ้นอยู่กับตัวเลือก ด้วยรุ่นย่อยเดียวและสิ่งที่ดีพอสมควรที่รวมอยู่ในรุ่นดังกล่าว คุณจะได้รับ Grecale Folgore ในราคาใกล้เคียงกับราคาที่ขอ
คำกล่าวจากวงการ: “ควบคุมได้คล่องตัวอย่างไม่น่าเชื่อสำหรับสัดส่วนของ SUV ให้ความรู้สึกเหมือนรถ Hot Hatch มากกว่ารถออฟโรดขนาดใหญ่” – Top Gear

2025 Maserati Levante
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ใหญ่ สวยงาม และหรูหรา ทำตามสไตล์ของ Maserati
ภาพรวม: 2025 Maserati Levante ซึ่งเป็น SUV เรือธง ของแบรนด์ ยังคงสร้างความประทับใจด้วยการผสมผสานสไตล์อิตาลี การตกแต่งที่หรูหรา และสมรรถนะที่เร้าใจ ปีนี้กลุ่มผลิตภัณฑ์ Levante ได้รับการปรับโฉมด้วยการออกแบบที่อัปเดต เทคโนโลยีที่ได้รับการปรับปรุง และระบบส่งกำลังที่ได้รับการปรับปรุง การออกแบบภายนอกได้รับการปรับปรุงอย่างละเอียดด้วยการออกแบบกระจังหน้าใหม่ ไฟหน้าและไฟท้ายที่ได้รับการปรับปรุง ภายในห้องโดยสารมีระบบสาระบันเทิงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วใหม่พร้อมซอฟต์แวร์ล่าสุดของ Maserati ซึ่งให้ฟังก์ชันการทำงานและการเชื่อมต่อที่ดีขึ้น กลุ่มผลิตภัณฑ์ Levante มีตัวเลือกระบบส่งกำลังที่หลากหลายเพื่อให้เหมาะกับความต้องการและความชอบที่แตกต่างกัน Levante GT ระดับเริ่มต้นมีเครื่องยนต์ 4 สูบ Mild-Hybrid 2.0 ลิตร ที่ให้ความสมดุลระหว่างสมรรถนะและประสิทธิภาพ ให้กำลัง 325 แรงม้า Levante Modena ยกระดับสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร ให้กำลัง 424 แรงม้าที่ทรงพลังยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่ต้องการสุดยอดสมรรถนะของ Levante รุ่น Levante Trofeo ครองตำแหน่งสูงสุดด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 3.8 ลิตร อันดุดัน ปลดปล่อยกำลังที่น่าตื่นเต้น 572 แรงม้า และอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่น Levante ใด คุณจะได้รับการขับขี่ที่หรูหราและประณีต ห้องโดยสารได้รับการรังสรรค์ด้วยวัสดุระดับพรีเมียม เช่น หนังและไม้ ในขณะที่คุณสมบัติต่างๆ เช่น เบาะนั่งปรับอุ่นและปรับอากาศ ระบบเสียงระดับพรีเมียม และซันรูฟแบบพาโนรามา ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ด้วยการผสมผสานการออกแบบสไตล์อิตาลี เครื่องยนต์ทรงพลัง และสิ่งอำนวยความสะดวกอันหรูหรา 2025 Maserati Levante ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในกลุ่ม SUV สุดหรู
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Maserati Levante 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 3.79 ล้านบาท (ประมาณ $103,495) และสูงสุดถึง 6.9 ล้านบาท (ประมาณ $189,495) ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยที่คุณเลือก ตามที่ระบุด้วยตรา Trofeo รุ่น Trofeo เป็นรุ่นที่ทรงพลังที่สุดของกลุ่ม Levante และเป็นตัวเลือกของเรา เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบให้กำลัง 580 แรงม้า เพียงพอสำหรับการเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.6 วินาที นั่นคือระดับรถสปอร์ตอย่างแท้จริง Levante Trofeo ยังได้รับรายการอุปกรณ์ที่ครบครันอีกด้วย
คำกล่าวจากวงการ: “Levante Trofeo เป็นสัตว์ร้าย เครื่องยนต์ V8 ที่มาจาก Ferrari สร้างเสียงที่ไพเราะและให้แรงผลักดันที่ทำให้คุณหัวเราะคิกคัก” – Top Gear

2025 Mercedes-AMG G63
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: สัญลักษณ์แห่งสถานะ แต่ยังเป็น SUV ที่หรูหราและสะดวกสบาย อย่างแท้จริง
ภาพรวม: Mercedes-AMG G 63 หรือที่รู้จักกันในชื่อ “G-Wagon” เป็นสัญลักษณ์ของความสามารถในการขับขี่ออฟโรดและความหรูหราที่ไม่ลดทอน SUV ในตำนาน คันนี้ ด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมและการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกองทัพ เป็นสัญลักษณ์ของสถานะและความสามารถมานานหลายทศวรรษ สำหรับปี 2025 G 63 ได้รับการอัปเดตที่ครอบคลุมซึ่งช่วยเพิ่มสมรรถนะ เทคโนโลยี และความประณีต ในขณะที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์อันเป็นสัญลักษณ์ ใต้ฝากระโปรง G 63 บรรจุเครื่องยนต์ V8 Biturbo AMG 4.0 ลิตร ที่สร้างด้วยมือ ซึ่งตอนนี้ติดตั้งระบบ Mild-Hybrid 48V อันทรงพลังนี้ให้กำลัง 577 แรงม้า แรงบิด 850 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน G 63 จาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาประมาณ 4.2 วินาที ระบบ Mild-Hybrid ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มสมรรถนะ แต่ยังช่วยประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษ ความสามารถในการขับขี่ออฟโรดของ G 63 ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมด้วยระบบช่วงล่างที่ได้รับการปรับปรุง ซึ่งให้การยืดหยุ่นที่ดีขึ้นและการขับขี่ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นบนพื้นผิวที่ขรุขระ ภายในห้องโดยสาร G 63 เป็นสวรรค์แห่งความหรูหราและเทคโนโลยี หนังที่เย็บด้วยมือ การตกแต่งด้วยไม้ที่สร้างด้วยมือ และการตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมขัดเงาสร้างบรรยากาศแห่งความหรูหราและความประณีต หน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบสาระบันเทิงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว โดดเด่นบนแผงหน้าปัด ให้การเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงมากมาย สำหรับปี 2025 G 63 ได้นำเสนอคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ใหม่ รวมถึง Active Steering Assist และ Active Emergency Stop Assist ซึ่งช่วยเพิ่มทั้งความปลอดภัยและความสะดวกสบาย ด้วยการผสมผสานการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ สมรรถนะที่ทรงพลัง การตกแต่งที่หรูหรา และเทคโนโลยีที่ได้รับการปรับปรุง 2025 Mercedes-AMG G 63 ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่แสวงหาที่สุดแห่งความหรูหราและความสามารถในการขับขี่ออฟโรด G63 มีการเปลี่ยนแปลงการออกแบบเล็กน้อยสำหรับปี 2025 ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อปรับปรุงอากาศพลศาสตร์ของ SUV ทรงลูกบาศก์ กระจังหน้าและกันชนหน้าแบบปรับปรุง ผสมผสานกับเสา A ที่ปรับรูปทรงใหม่และสปอยเลอร์หลังคาที่ละเอียดอ่อนเหนือกระจกบังลมเพื่อช่วยให้ G63 แหวกอากาศได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบยังได้รับระบบไฮบริด 48 โวลต์ ระบบช่วงล่างแบบปรับได้ด้วยไฮดรอลิกใหม่เป็นอุปกรณ์เสริม
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Mercedes-AMG G63 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 6.9 ล้านบาท (ประมาณ $190,000) และสูงสุดถึง 7.6 ล้านบาท (ประมาณ $210,000) ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและตัวเลือก Mercedes-AMG G63 มาพร้อมอุปกรณ์ครบครันในรุ่นพื้นฐาน ดังนั้นเราจะเลือกรุ่นนั้น
คำกล่าวจากวงการ: “รถคันนี้เหมือนรถถัง มันให้ความรู้สึกไม่บุบสลาย และให้ความมั่นใจในการจัดการกับอุปสรรคใดๆ” – Car and Driver

2025 Mercedes-AMG GLC-Class
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: การผสมผสานที่ลงตัวของเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จและมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้พละกำลังอย่างต่อเนื่อง
ภาพรวม: Mercedes-AMG GLC-Class ทั้งในรูปแบบ SUV แบบดั้งเดิมและ Coupe ที่เพรียวบาง มอบสมรรถนะที่ทรงพลังให้กับกลุ่ม Luxury Compact รถยนต์ Dynamic เหล่านี้ใช้แพลตฟอร์ม GLC ที่ประณีตและอเนกประสงค์ และฉีด DNA มอเตอร์สปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ของ AMG เข้าไป ทำให้ได้ SUV ที่สามารถขับได้ดีบนถนนคดเคี้ยวพอๆ กับการขับในเมือง สำหรับปี 2025 กลุ่มผลิตภัณฑ์ AMG GLC-Class ได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเน้นที่สมรรถนะแบบไฟฟ้า AMG GLC 43 4MATIC ตอนนี้มีระบบ Mild-Hybrid จับคู่กับเครื่องยนต์ 4 สูบเทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตร ให้กำลัง 416 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร การตั้งค่านี้ให้อัตราเร่งที่รวดเร็วและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ขณะที่ช่วงล่างที่ปรับแต่งโดย AMG และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อช่วยให้การควบคุมที่คล่องตัวและการยึดเกาะที่มั่นใจ ที่ด้านบนสุดของลำดับชั้นสมรรถนะคือ AMG GLC 63 S E PERFORMANCE รุ่นสมรรถนะสูงคันนี้มีระบบขับเคลื่อน Plug-in Hybrid ที่ก้าวข้ามขีดจำกัด ซึ่งผสมผสานเครื่องยนต์ 4 สูบเทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตร เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าอันทรงพลัง ให้กำลังรวม 671 แรงม้า แรงบิด 1020 นิวตันเมตร ซึ่งหมายถึงอัตราเร่งที่น่าทึ่ง โดยมีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.4 วินาที GLC 63 S E PERFORMANCE ยังมีคุณสมบัติอัปเกรดสมรรถนะมากมาย รวมถึงระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเฉพาะของ AMG ระบบแดมเปอร์ปรับได้ และระบบลดการโคลงตัวแบบแอคทีฟ ทำให้มั่นใจได้ถึงการควบคุมที่ยอดเยี่ยมและประสบการณ์การขับขี่ที่ Dynamic ทั้ง GLC 43 และ GLC 63 S E PERFORMANCE มีให้เลือกทั้งในรูปแบบ SUV และ Coupe ซึ่งมีตัวเลือกระหว่าง SUV ที่ใช้งานได้จริงและอเนกประสงค์มากขึ้น หรือ Coupe ที่เพรียวบางและสปอร์ตยิ่งขึ้นพร้อมหลังคาลาดเอียง ด้วยการผสมผสานสมรรถนะที่ทรงพลัง เทคโนโลยีขั้นสูง และการตกแต่งที่หรูหรา 2025 Mercedes-AMG GLC-Class และ GLC-Class Coupe เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา SUV Luxury Compact ที่มีขอบเขตที่เร้าใจ GLC63 กลับมาสำหรับปี 2025 คราวนี้มาในรูปแบบ S E Performance แม้ว่าคุณจะพบเครื่องยนต์ 4 สูบเทอร์โบชาร์จขนาดเล็กใต้ฝากระโปรง แต่ GLC63 ให้กำลัง 671 แรงม้า ต้องขอบคุณมอเตอร์ไฟฟ้าและชุดแบตเตอรี่
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Mercedes-AMG GLC-Class 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 2.4 ล้านบาท (ประมาณ $66,000) สำหรับรุ่นพื้นฐานในตัวถังปกติ และ 2.6 ล้านบาท (ประมาณ $71,750) สำหรับตัวถัง Coupe รุ่น GLC63 S E Performance เป็นสัตว์ร้ายอย่างแท้จริง ดังนั้นไปซื้อเลย 671 แรงม้าคุ้มค่ากับราคาที่ขอมากกว่า 3.3 ล้านบาท (ประมาณ $90,000)
คำกล่าวจากวงการ: “GLC 63 S E PERFORMANCE เร็วอย่างน่าตกใจ แรงดันไฟฟ้าให้แรงบิดทันที ทำให้รู้สึกเหมือนยานอวกาศที่พุ่งออกจากเส้นสตาร์ท” – Top Gear

2025 Mercedes-AMG GLE-Class
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: ควบคุมได้ดีอย่างน่าประหลาดใจสำหรับขนาดของมัน และมีพละกำลังที่ยอดเยี่ยมด้วย
ภาพรวม: Mercedes-AMG GLE-Class สำหรับปี 2025 ยังคงครองตำแหน่งในฐานะ SUV Luxury สมรรถนะสูง ที่ผสมผสานพละกำลังอันเร้าใจเข้ากับความสะดวกสบายที่ประณีตและเทคโนโลยีขั้นสูงได้อย่างลงตัว SUV ขนาดกลาง คันนี้ ซึ่งอิงจาก Mercedes-Benz GLE ได้รับการปรับแต่งแบบ AMG โดยเน้นที่พลวัตการขับขี่ที่ได้รับการปรับปรุง การออกแบบที่ดุดัน และระบบส่งกำลังไฟฟ้าอันทรงพลัง กลุ่มผลิตภัณฑ์ GLE-Class AMG สำหรับปี 2025 ได้รับการปรับปรุงให้เรียบง่าย โดยมี GLE 53 สมรรถนะสูงและ GLE 63 GLE 53 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงเทอร์โบชาร์จ 3.0 ลิตร ที่ได้รับการปรับปรุงด้วยระบบ Mild-Hybrid การตั้งค่านี้สร้างกำลัง 429 แรงม้า แรงบิด 520 นิวตันเมตร ซึ่งให้พละกำลังที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการเร่งความเร็ว เครื่องยนต์จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT TCT 9 สปีด ที่ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วและราบรื่น ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC+ ช่วยให้การควบคุมที่มั่นใจและการยึดเกาะในสภาพต่างๆ ซึ่งมีส่วนช่วยให้ GLE 53 มีลักษณะสปอร์ต Mercedes-AMG GLE 63 S E อยู่บนสุดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ GLE-Class แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ต่อเทคโนโลยีไฮบริดสมรรถนะสูง SUV คันนี้มีพละกำลังที่น่าเกรงขาม โดยผสมผสานเครื่องยนต์ V8 Biturbo AMG 4.0 ลิตร ที่สร้างด้วยมือเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าอันทรงพลัง ให้กำลังรวม 603 แรงม้า แรงบิด 850 นิวตันเมตร การตั้งค่านี้ช่วยให้ GLE 63 S E พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.7 วินาที ทำให้เป็น SUV ที่เร็วที่สุด รุ่นหนึ่งในตลาด แต่ GLE 63 S E PERFORMANCE ไม่ได้เป็นเพียงแค่พละกำลังดิบๆ เท่านั้น แต่ยังมีประสิทธิภาพที่น่าประทับใจด้วยระบบไฮบริด ซึ่งสามารถให้ระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนสั้นๆ สำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวันและธุระต่างๆ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AMG Performance 4MATIC+ ช่วยให้การยึดเกาะและการควบคุมที่เหมาะสม ขณะที่ช่วงล่างถุงลม AMG RIDE CONTROL+ พร้อมแดมเปอร์ปรับได้ให้การขับขี่ที่สะดวกสบายและการควบคุมที่เฉียบคม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักในปี 2025 นอกจากการเพิ่มสีตัวถังใหม่สี่สีและสีเบาะหนังใหม่สามสี: ทุกรุ่นตอนนี้มาพร้อมกับตรา AMG ที่ปักบนพนักพิงศีรษะและเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือไบโอเมตริกซ์เพื่อความปลอดภัย (ซึ่งเจ๋งมาก)
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Mercedes-AMG GLE53 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 3.3 ล้านบาท (ประมาณ $90,350) และ GLE63 เริ่มต้นที่ประมาณ 4.8 ล้านบาท (ประมาณ $131,950) เราชอบ GLE63 แต่มันมีราคาแพงเกินไปที่จะเป็นตัวเลือกที่ถูกต้อง เลือก GLE53 แล้วเพิ่มตัวเลือกดีๆ บางอย่าง คุณจะยังคงอยู่ภายใต้ 3.65 ล้านบาท (ประมาณ $100,000) แพ็คเกจ Winter นั้นยอดเยี่ยมมากสำหรับผู้ที่อยู่ในสภาพอากาศหนาวเย็น โดยให้พวงมาลัยปรับอุ่นและที่ปัดน้ำฝนปรับอุ่น
คำกล่าวจากวงการ: “GLE 63 S E เป็นความสำเร็จทางเทคโนโลยีที่แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของ AMG ทั้งในด้านสมรรถนะและระบบไฟฟ้า” – Car and Driver

2025 Mercedes-AMG GLS-Class
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ใหญ่ ใช้งานได้จริง และเร็วมาก สำหรับคุณและครอบครัว
ภาพรวม: Mercedes-AMG GLS 63 คือที่สุดแห่งความหรูหราและสมรรถนะของ SUV เป็นรถยนต์ที่สามารถพิชิตทุกเส้นทางในขณะที่ยังคงให้ความสะดวกสบายที่เหนือชั้นแก่ผู้โดยสาร SUV ขนาดเต็ม คันนี้ ซึ่งอิงจาก Mercedes-Benz GLS ที่หรูหราอยู่แล้ว ได้รับการปรับแต่งแบบ AMG เต็มรูปแบบ โดยมีเครื่องยนต์ V8 ที่สร้างด้วยมือ ช่วงล่างแบบสปอร์ต และสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหรามากมาย ใต้ฝากระโปรง GLS 63 บรรจุเครื่องยนต์ V8 Biturbo AMG 4.0 ลิตร ที่สร้างด้วยมือ และได้รับการปรับปรุงด้วยระบบ Mild-Hybrid 48V อันทรงพลังนี้ให้กำลัง 603 แรงม้า แรงบิด 850 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน GLS 63 จาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาประมาณ 4.1 วินาที ระบบ Mild-Hybrid ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มสมรรถนะ แต่ยังช่วยประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษ เกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT TCT 9 สปีด ของ GLS 63 ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วและราบรื่น ขณะที่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AMG Performance 4MATIC+ ช่วยให้การควบคุมที่มั่นใจและการยึดเกาะในสภาพต่างๆ ภายในห้องโดยสาร GLS 63 เป็นสวรรค์แห่งความหรูหราและเทคโนโลยี เบาะหนัง Nappa ระดับพรีเมียม การตกแต่งด้วยไม้ที่สร้างด้วยมือ และการตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมขัดเงาสร้างบรรยากาศแห่งความหรูหราและความประณีต หน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบสาระบันเทิงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว โดดเด่นบนแผงหน้าปัด ให้การเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงมากมาย ผู้โดยสารในแถวที่สองและสามเพลิดเพลินกับพื้นที่และความสะดวกสบายที่กว้างขวาง ด้วยคุณสมบัติต่างๆ เช่น เบาะนั่งปรับอุ่นและปรับอากาศ ระบบควบคุมอุณหภูมิแยกส่วน และระบบความบันเทิงสำหรับเบาะหลัง ด้วยการผสมผสานสมรรถนะที่เร้าใจ ความหรูหราที่กว้างขวาง และเทคโนโลยีขั้นสูง Mercedes-AMG GLS 63 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่แสวงหาที่สุดแห่งความประณีตและความสามารถของ SUV
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Mercedes-AMG GLS63 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 5.3 ล้านบาท (ประมาณ $147,000) และมีให้เลือกเพียงรุ่นย่อยเดียว นี่คือ SUV ราคาแพง และมาพร้อมอุปกรณ์ครบครันอย่างน่าขอบคุณ มีแพ็คเกจ Warmth and Comfort ที่น่ารักที่เราแนะนำ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วจะปรับอุณหภูมิหลายๆ อย่างให้เหมาะสม
คำกล่าวจากวงการ: “GLS 63 สามารถทำให้รถสปอร์ตหลายคันอับอายในทางตรง ในขณะที่ยังคงบรรทุกผู้โดยสารเจ็ดคนได้อย่างสะดวกสบายที่สุด” – Motor Trend

2025 Porsche Cayenne
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ขับสบายและเร็ว และยังคงเป็นรถที่ดีที่สุดในวงการ Dynamic
ภาพรวม: 2025 Porsche Cayenne ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา SUV หรู ที่ไม่ลดทอนสมรรถนะ ปีนี้กลุ่มผลิตภัณฑ์ Cayenne มีตัวเลือกระบบส่งกำลังที่หลากหลาย ตั้งแต่เครื่องยนต์ V6 ที่ทรงพลังไปจนถึง Plug-in Hybrid ที่ให้ระยะทางไฟฟ้าที่น่าประทับใจ แต่เป็นรุ่นที่เน้นสมรรถนะที่จับแก่นแท้ของลักษณะสปอร์ตของ Cayenne อย่างแท้จริง Cayenne S ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตร ให้กำลัง 434 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร ซึ่งหมายถึงอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.7 วินาที มาพร้อมกับเสียงไอเสียที่สปอร์ตน่าพอใจ รุ่น S ยังได้รับประโยชน์จากช่วงล่างแบบสปอร์ตและระบบเบรกที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มความคล่องตัวและการควบคุม สำหรับผู้ที่ต้องการความตื่นเต้นยิ่งขึ้น Cayenne GTS ยกระดับสมรรถนะไปอีกขั้น เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ให้กำลัง 493 แรงม้า แรงบิด 620 นิวตันเมตร ทำให้สามารถทำความเร็ว 100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 4.2 วินาที GTS ยังมีช่วงล่างที่ลดระดับลง ระบบไอเสียแบบสปอร์ต และการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ที่เน้นลักษณะสปอร์ต รุ่นที่เน้นสมรรถนะเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ Cayenne ในการผสมผสานประโยชน์ใช้สอยเข้ากับสมรรถนะที่เร้าใจ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งประณีตและน่าดึงดูดใจ ไม่ว่าคุณจะขับในเมืองหรือบนถนนที่คดเคี้ยว 2025 Porsche Cayenne มอบการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของความหรูหราและสปอร์ตที่รับรองว่าจะตอบสนองแม้กระทั่งผู้ขับขี่ที่พิถีพิถันที่สุด
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Porsche Cayenne 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 3.16 ล้านบาท (ประมาณ $86,695) และสูงสุดถึง 4.6 ล้านบาท (ประมาณ $126,895) สำหรับรุ่น GTS เลือกรุ่น Cayenne พื้นฐานแล้วเพิ่มแพ็คเกจ Premium และ Sport Chrono รุ่น GTS 493 แรงม้าเข้าร่วมกลุ่มผลิตภัณฑ์ Cayenne สำหรับปี 2025 เป็นรุ่นที่ยอดเยี่ยมและใช้เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร เช่นเดียวกับ Cayenne S แต่ได้รับการเพิ่มกำลัง 25 แรงม้า ได้รับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อระบายความร้อนด้วยน้ำและส่วนประกอบช่วงล่างบางส่วนที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงการตอบสนองของพวงมาลัย GTS มาพร้อมกับแพ็คเกจ Sport Design เป็นมาตรฐาน ซึ่งเพิ่มการตกแต่งภายนอกสีดำทั่วไปและองค์ประกอบการออกแบบเฉพาะของ GTS อื่นๆ
คำกล่าวจากวงการ: “ยังคงเป็น SUV ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบ… อย่างมาก”

2025 Porsche Cayenne Coupe Turbo E-Hybrid
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: ยังคงเป็น SUV ที่ดีที่สุดรอบด้าน ที่ขายอยู่ในปัจจุบัน
ภาพรวม: 2025 Porsche Cayenne Turbo E-Hybrid เป็น SUV สมรรถนะสูง ที่นิยามใหม่ของความหมายของการมีทั้งพลังและประสิทธิภาพ Plug-in Hybrid คันนี้ผสมผสานเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างเชี่ยวชาญ ส่งผลให้มีกำลังรวมมหาศาล 729 แรงม้า แรงบิด 950 นิวตันเมตร ซึ่งหมายถึงอัตราเร่งที่น่าทึ่ง โดยมีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.5 วินาที ทำให้เป็น SUV ที่เร็วที่สุด รุ่นหนึ่งในตลาด แต่ Cayenne Turbo E-Hybrid ไม่ได้เป็นเพียงแค่พละกำลังดิบๆ เท่านั้น ยังมีระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนที่น่าประทับใจถึง 60 กิโลเมตร ช่วยให้สามารถเดินทางโดยปราศจากการปล่อยมลพิษ ระบบไฮบริดผสานรวมเครื่องยนต์เบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างราบรื่น มอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลและประณีตไม่ว่าคุณจะขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าหรือปลดปล่อยพละกำลังเต็มที่ของ V8 Cayenne Turbo E-Hybrid ยังมีช่วงล่างแบบสปอร์ต ช่วงล่างถุงลมปรับได้ และระบบ Porsche Active Suspension Management (PASM) ซึ่งช่วยให้การควบคุมที่ยอดเยี่ยมและการขับขี่ที่สะดวกสบาย ภายในห้องโดยสาร Cayenne Turbo E-Hybrid มอบสภาพแวดล้อมที่หรูหราและเต็มไปด้วยเทคโนโลยี วัสดุระดับพรีเมียม เช่น หนังและคาร์บอนไฟเบอร์ตกแต่งภายใน ขณะที่หน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลแบบโค้งขนาด 12.6 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสกลางขนาด 12.3 นิ้ว ให้การเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงมากมาย
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Porsche Cayenne Turbo 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 5.8 ล้านบาท (ประมาณ $158,995) รถคันนี้มีอุปกรณ์ครบครัน รวดเร็วปานสายฟ้า และใช้งานได้จริงตั้งแต่แกะกล่อง แม้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางกลไกสำหรับปี 2025 แต่ Cayenne Turbo E-Hybrid เช่นเดียวกับ Cayenne ทุกรุ่น ได้รับอุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มเติมสำหรับรุ่นปีใหม่
คำกล่าวจากวงการ: “Cayenne เป็นมาตรฐานในกลุ่ม SUV สุดหรู นำเสนอการผสมผสานที่น่าสนใจระหว่างสมรรถนะ ความหรูหรา และประโยชน์ใช้สอย” – Motor Trend

2025 Porsche Macan
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: สมบูรณ์แบบหากคุณต้องการ SUV ที่สามารถรองรับการผจญภัยในชีวิตประจำวันและช่วงสุดสัปดาห์ได้
ภาพรวม: 2025 Porsche Macan ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา SUV Luxury Compact ที่ให้ความสำคัญกับสมรรถนะและความสนุกในการขับขี่ ในขณะที่รุ่นไฟฟ้ากำลังเป็นที่จับตามอง Macan ที่ใช้น้ำมันยังคงเป็นตัวเลือกที่เกี่ยวข้องและน่าตื่นเต้น โดยมีรุ่นย่อยที่ตอบสนองความต้องการและความชอบที่แตกต่างกัน Macan พื้นฐานเริ่มต้นด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบเทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตร ให้กำลัง 261 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร ซึ่งให้พละกำลังที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการเร่งความเร็ว ในขณะที่ยังคงประหยัดเชื้อเพลิงได้ดี สำหรับผู้ที่ต้องการความกระตือรือร้นยิ่งขึ้น Macan T เพิ่มความสปอร์ตด้วยช่วงล่างแบบสปอร์ต การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ และคันเร่งที่ตอบสนองได้ดีขึ้น Macan S ยกระดับสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตร ให้กำลัง 375 แรงม้า แรงบิด 520 นิวตันเมตร ซึ่งหมายถึงอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.6 วินาที มาพร้อมกับเสียงไอเสียที่สปอร์ตน่าพอใจ รุ่น S ยังได้รับประโยชน์จากระบบเบรกที่ใหญ่ขึ้นและช่วงล่างถุงลมแบบปรับได้ ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริม ช่วยเพิ่มความสามารถในการควบคุม ที่ด้านบนสุดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Macan ที่ใช้น้ำมันคือ Macan GTS รุ่นที่เน้นสมรรถนะนี้มีเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตร ที่ให้กำลัง 434 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.3 วินาที GTS มอบสมรรถนะที่เร้าใจที่เทียบเท่ารถสปอร์ตบางคัน นอกจากนี้ยังมีระบบไอเสียแบบสปอร์ต ช่วงล่างที่ลดระดับลง และองค์ประกอบการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ที่เน้นลักษณะสปอร์ต ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นย่อยใด 2025 Porsche Macan มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งประณีตและน่าดึงดูดใจ พวงมาลัยที่แม่นยำ แชสซีที่สมดุล และเครื่องยนต์ทรงพลัง ทำให้ขับสนุกบนถนนที่คดเคี้ยว ในขณะที่ภายในที่หรูหราและเทคโนโลยีขั้นสูงมอบความสะดวกสบายสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Porsche Macan 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 2.37 ล้านบาท (ประมาณ $64,895) สำหรับรุ่นพื้นฐาน และเพิ่มขึ้นเป็น 3.32 ล้านบาท (ประมาณ $90,995) สำหรับรุ่น GTS แนะนำให้ตรงไปที่ GTS เนื่องจากอีกไม่นานเราจะไม่สามารถหา Macan ที่มีเครื่องยนต์สันดาปภายในได้อีกแล้ว ก็ควรจะเลือกรุ่นที่ดีที่สุดไปเลย
คำกล่าวจากวงการ: “Macan GTS เป็น SUV ที่เร็วอย่างจริงจัง มันรู้สึกเร็วกว่าตัวเลขที่บ่งบอกมาก ต้องขอบคุณเครื่องยนต์ที่ตอบสนองได้ดีและการควบคุมที่เฉียบคม” – Car and Driver

2025 Porsche Macan EV
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: ให้ความรู้สึกเหมือน Porsche อย่างแท้จริง คล่องตัว ตอบสนองได้ดี และขับสนุกอย่างไม่น่าเชื่อ
ภาพรวม: Porsche Macan EV เป็นรุ่นสำคัญสำหรับผู้ผลิตรถยนต์เยอรมัน ถือเป็นการก้าวเข้าสู่โลกของ SUV ไฟฟ้าสมรรถนะสูง โมเดลใหม่ทั้งหมดนี้สัญญาว่าจะมอบพลวัตการขับขี่และความหรูหราที่ Porsche มีชื่อเสียง แต่มาพร้อมกับความยั่งยืนและเทคโนโลยีขั้นสูง สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม Premium Platform Electric (PPE) Macan EV มีการออกแบบที่เพรียวบางตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมทั้งสมรรถนะและประสิทธิภาพ เส้นโค้งที่เรียบเนียนและเส้นสายที่ประณีตไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสวยงาม แต่ยังมีส่วนช่วยให้มีระยะทางที่น่าประทับใจถึง 500 กิโลเมตร กลุ่มผลิตภัณฑ์ Macan EV มีรุ่นย่อยที่หลากหลายเพื่อให้เหมาะกับความต้องการและความชอบที่แตกต่างกัน รุ่นพื้นฐานมีมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวที่ขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลัง 355 แรงม้า แรงบิด 560 นิวตันเมตร ซึ่งให้พละกำลังที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการเร่งความเร็ว ในขณะที่ยังคงมีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น รุ่น 4S และ Turbo เพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าตัวที่สองที่เพลาหน้า สร้างระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีพละกำลังและการยึดเกาะที่มากยิ่งขึ้น รุ่น 4S มีกำลังรวม 509 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตันเมตร ขณะที่ Turbo ปลดปล่อยกำลังมหาศาล 603 แรงม้า แรงบิด 1,000 นิวตันเมตร ด้วยการกำหนดค่าระดับสูงสุดนี้ Macan EV Turbo สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.1 วินาที ทำให้เป็น SUV ที่เร็วที่สุด รุ่นหนึ่งในตลาด ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นย่อยใด Macan EV สัญญาว่าจะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ Dynamic และน่าดึงดูดใจ จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำต้องขอบคุณชุดแบตเตอรี่ที่ติดตั้งบนพื้น ช่วยให้การควบคุมและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม ระบบ Porsche Active Suspension Management (PASM) และระบบบังคับเลี้ยวเพลาหลังที่เป็นอุปกรณ์เสริม ช่วยเพิ่มความสามารถในการเข้าโค้ง ภายในห้องโดยสาร Macan EV มอบสภาพแวดล้อมที่หรูหราและเต็มไปด้วยเทคโนโลยี วัสดุระดับพรีเมียม หน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลแบบโค้ง และระบบสาระบันเทิงหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ สร้างห้องโดยสารที่ซับซ้อนและเน้นผู้ขับขี่เป็นหลัก ด้วยการผสมผสานสมรรถนะ เทคโนโลยี และความยั่งยืน Porsche Macan EV พร้อมที่จะนิยามใหม่ของกลุ่ม SUV ไฟฟ้า
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Porsche Macan EV 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 2.82 ล้านบาท (ประมาณ $77,295) สำหรับรุ่นพื้นฐาน และเพิ่มขึ้นเป็น 3.92 ล้านบาท (ประมาณ $107,295) สำหรับรุ่น Turbo รุ่น Turbo จะเป็นตัวเลือกส่วนตัวของผม แต่ราคาค่อนข้างสูงเกือบ 4 ล้านบาท ดังนั้นเราจะเลือก 4S ที่มี 442 แรงม้าแทน
คำกล่าวจากวงการ: “จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำและแชสซีที่สมดุลของ Macan EV ทำให้มีความสามารถในการควบคุมที่น่าประทับใจ” – Road & Track

2025 Rolls-Royce Cullinan
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: สัญลักษณ์แห่งความสำเร็จและความพิเศษเฉพาะตัว เป็นสัญลักษณ์ที่แท้จริงของการมาถึงอย่างมีสไตล์
ภาพรวม: 2025 Rolls-Royce Cullinan ซึ่งเป็นก้าวแรกของแบรนด์เข้าสู่โลกของ SUV หรูหราพิเศษ ยังคงนิยามใหม่ของความหรูหราแบบออฟโรด รถยนต์ที่สง่างามคันนี้ ซึ่งตั้งชื่อตามเพชรที่ใหญ่ที่สุดที่เคยค้นพบ ผสมผสานงานฝีมืออันเป็นเอกลักษณ์ของ Rolls-Royce และพละกำลังที่ง่ายดายเข้ากับการแสดงตนที่โดดเด่นและความสามารถที่น่าประหลาดใจ สำหรับปี 2025 Cullinan ได้รับการปรับปรุงที่ละเอียดอ่อนแต่มีผลกระทบ ซึ่งตอกย้ำตำแหน่งในฐานะสุดยอดแห่ง SUV Luxury การออกแบบภายนอกของ Cullinan ได้รับการปรับปรุงอย่างละเอียดด้วยกันชนหน้าที่ออกแบบใหม่พร้อมช่องดักอากาศแบบเอียง สร้างรูปลักษณ์ที่ Dynamic และมีวัตถุประสงค์มากขึ้น กระจังหน้า Pantheon อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ Rolls-Royce ตอนนี้มีการส่องสว่าง เพิ่มความสง่างามแบบสมัยใหม่ ล้อ 23 นิ้วใหม่ที่ผลิตจากอะลูมิเนียมชิ้นเดียว ช่วยเพิ่มท่าทางที่สง่างามของ Cullinan ภายในห้องโดยสาร Cullinan ยังคงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งความหรูหราแบบสั่งทำพิเศษ ด้วยรายละเอียดที่สร้างด้วยมือ วัสดุที่ดีที่สุด และระดับการปรับแต่งที่ตอบสนองลูกค้าที่พิถีพิถันที่สุด ระบบสาระบันเทิงหน้าจอสัมผัสความละเอียดสูงใหม่พร้อมฟังก์ชันการทำงานและการเชื่อมต่อที่ได้รับการปรับปรุง ผสานรวมเข้ากับแผงหน้าปัดที่สร้างด้วยมือของ Cullinan ได้อย่างราบรื่น ใต้ฝากระโปรง Cullinan ยังคงรักษาเครื่องยนต์ V12 ทวินเทอร์โบ 6.75 ลิตร อันทรงพลังไว้ มอบพละกำลังที่ราบรื่นที่ขับเคลื่อน SUV สุดหรูคันนี้ไปข้างหน้าได้อย่างง่ายดาย ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและเทคโนโลยีช่วงล่างขั้นสูงช่วยให้การขับขี่ที่ราบรื่นและควบคุมได้ แม้บนพื้นผิวที่ท้าทาย ไม่ว่าคุณจะขับในเมืองหรือออกนอกเส้นทาง 2025 Rolls-Royce Cullinan มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้นที่ผสมผสานพละกำลังที่ง่ายดาย ความสะดวกสบายที่เงียบสงบ และความหรูหราแบบสั่งทำพิเศษ
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Rolls-Royce Cullinan 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 14.3 ล้านบาท (ประมาณ $392,000) สำหรับรุ่นพื้นฐาน ขณะที่ Black Badge อยู่ที่ 16.6 ล้านบาท (ประมาณ $454,000) จัดเต็มกับตัวเลือกต่างๆ ได้เลย นี่คือ Rolls-Royce! Rolls-Royce ระบุการอัปเดตเล็กน้อยสำหรับ 2025 Cullinan โดยเพิ่มคำต่อท้าย “II” เข้าไปในชื่อ แต่การเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่เป็นเรื่องของเครื่องสำอางและเกี่ยวข้องกับอินเทอร์เฟซผู้ใช้
คำกล่าวจากวงการ: “Cullinan เป็นรถยนต์สำหรับผู้ที่ต้องการสุดยอดแห่งความหรูหราและความสามารถ” – CNET Roadshow

2025 Range Rover
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: Range Rover จะพาคุณไปถึงจุดหมายอย่างสะดวกสบายและมีสไตล์
ภาพรวม: Range Rover ปัจจุบัน ในรุ่นที่ห้า เป็นการผสมผสานอย่างเชี่ยวชาญระหว่างความหรูหรา ความสามารถ และเทคโนโลยี เป็นรถยนต์ที่สามารถเดินทางในเมืองได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่ยังคงมั่นใจอย่างยิ่งเมื่อออกนอกเส้นทาง รุ่นล่าสุดนี้ เปิดตัวสำหรับรุ่นปี 2022 ยังคงรักษารูปทรงคลาสสิกของ Range Rover ด้วยท่าทางตั้งตรงอันเป็นเอกลักษณ์และหลังคาแบบลอยตัว แต่แนะนำภาษาการออกแบบที่ทันสมัยและเรียบง่ายที่บ่งบอกถึงความซับซ้อน ภายใน Range Rover เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งความประณีต วัสดุระดับพรีเมียม เช่น หนังนุ่ม แผ่นไม้อัดแท้ และการตกแต่งด้วยโลหะที่ประณีต ตกแต่งภายใน ห้องโดยสารที่กว้างขวางมอบความสะดวกสบายที่เหนือชั้นสำหรับผู้โดยสารทุกคน พร้อมเบาะหลังแบบ Executive Class ที่ปรับเอนได้เหมือนเครื่องบินและฟังก์ชันนวด เทคโนโลยีล้ำสมัยถูกรวมเข้าไว้อย่างราบรื่น ตั้งแต่ระบบสาระบันเทิง Pivi Pro ที่ใช้งานง่ายพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ ไปจนถึงคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบาย นอกเหนือจากการตกแต่งที่หรูหรา Range Rover ยังคงรักษาชื่อเสียงในฐานะเครื่องจักรออฟโรดที่มีความสามารถอย่างยอดเยี่ยม ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อขั้นสูง เทคโนโลยี Terrain Response 2 และระบบช่วงล่างถุงลมที่มีให้เลือก ช่วยให้สามารถพิชิตภูมิประเทศที่ท้าทายได้อย่างง่ายดาย ตัวเลือกระบบส่งกำลังที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพหลากหลาย รวมถึง Mild-Hybrid, Plug-in Hybrid และเครื่องยนต์ V8 ที่ทรงพลัง ช่วยให้สมรรถนะที่ง่ายดายในทุกสถานการณ์ Range Rover เป็นตัวแทนของสุดยอด SUV สุดหรูอย่างแท้จริง นำเสนอการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของความสง่างามที่ประณีตและความสามารถที่แข็งแกร่ง
ราคาและมีอะไรใหม่: ราคา Land Rover Range Rover 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 4 ล้านบาท (ประมาณ $109,525) และสูงสุดถึง 7.6 ล้านบาท (ประมาณ $210,625) ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและตัวเลือก เราขอแนะนำให้เลือกรุ่น Autobiography ระดับกลาง ซึ่งเพิ่มรายการที่ต้องการหลายรายการที่ผู้ซื้อรถหรูจะชื่นชอบ
คำกล่าวจากวงการ: “ความสะดวกสบายระดับสูง ตัวเลือกเครื่องยนต์และการปรับแต่งมากมาย ภายในที่หรูหรา” – Car and Driver

สุดยอด SUV สปอร์ตใหม่: SUV Luxury & Performance ที่เราชื่นชอบในวันนี้

2025 Porsche Macan GTS
ราชาแห่ง SUV คอมแพกต์
ทำไมจึงเป็น SUV สปอร์ตใหม่ที่ดีที่สุด? Macan GTS คือตัวตนที่แท้จริงของจิตวิญญาณ Porsche มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งเร้าใจและประณีต ใต้ฝากระโปรงของ Macan GTS มีเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตร ให้กำลัง 434 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร ซึ่งหมายถึงอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.3 วินาที มาพร้อมกับเสียงไอเสียที่สปอร์ตน่าพอใจที่จะทำให้หัวใจคุณเต้นรัว Macan GTS ควบคุมได้อย่างคล่องตัวและแม่นยำอย่างไม่น่าเชื่อสำหรับสัดส่วนของ SUV ให้ความรู้สึกเบา คล่องตัวในการเปลี่ยนทิศทาง และยึดเกาะถนนได้อย่างไม่น่าเชื่อในทุกโค้ง ช่วงล่างแบบสปอร์ต ช่วงล่างถุงลมที่เป็นอุปกรณ์เสริม และพวงมาลัยที่แม่นยำ สร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ชวนให้นึกถึง Hot Hatch ไม่ใช่ SUV ที่ยกสูง อย่างที่ Edmunds กล่าวไว้ว่า “Macan GTS ควบคุมได้เหมือนรถสปอร์ต ด้วยพวงมาลัยที่แม่นยำ การโคลงตัวของตัวรถน้อยที่สุด และแชสซีที่สนุกสนาน” Car and Driver กล่าวว่า “เบาะนั่งแบบสปอร์ตของ GTS ให้การรองรับและสะดวกสบาย แม้ในระหว่างการขับขี่ที่เร้าใจ” โดยรวมแล้ว Macan GTS เป็นแพ็คเกจที่สมดุลอย่างดีเยี่ยม นำเสนอการผสมผสานที่น่าสนใจระหว่างสมรรถนะ ความหรูหรา และประโยชน์ใช้สอย

2025 Audi SQ7
รถครอบครัวที่สมบูรณ์แบบรอบด้าน: หรูหรา รวดเร็ว มีสไตล์
ทำไมจึงเป็น SUV สปอร์ตใหม่ที่ดีที่สุด? Audi SQ7 ผสมผสานความหรูหรา ประโยชน์ใช้สอย และสมรรถนะที่เร้าใจเข้าไว้ในแพ็คเกจ SUV เจ็ดที่นั่งที่กว้างขวาง เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ให้กำลัง 503 แรงม้า แรงบิด 770 นิวตันเมตร ได้รับการยกย่องในเรื่อง “พลังระเบิด” และ “เสียงเครื่องยนต์ที่เร้าใจ” นักวิจารณ์อย่าง Edmunds และ Top Gear ชื่นชม “อัตราเร่งที่รุนแรง” และ “สมรรถนะที่ง่ายดาย” แม้จะเน้นสมรรถนะ แต่ SQ7 ก็มอบ “การควบคุมที่มั่นคง” และ “คุณภาพการขับขี่ที่สะดวกสบาย”
Car and Driver: “SQ7 ผสมผสานสมรรถนะระดับสูงและประโยชน์ใช้สอยของ SUV เข้าไว้ในแพ็คเกจที่ได้รับการตกแต่งอย่างดีและอเนกประสงค์ เหมาะสำหรับครอบครัว”

บทสรุป

จากข้อมูลเชิงลึกที่เราได้สำรวจกันมา จะเห็นได้ว่าตลาด SUV สมรรถนะสูง และ SUV สุดหรู ในปี 2025 นี้เต็มไปด้วยตัวเลือกที่น่าตื่นเต้นและก้าวข้ามขีดจำกัด ไม่ว่าคุณจะให้ความสำคัญกับความเร็วที่เร้าใจ ความหรูหราที่ประณีต การใช้งานที่หลากหลาย หรือการผจญภัยแบบออฟโรด ก็มีรถยนต์ที่ถูกสร้างมาเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของคุณอย่างแน่นอน

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อว่าการลงทุนใน รถยนต์ SUV พรีเมียม เหล่านี้ไม่ใช่แค่การซื้อยานพาหนะ แต่เป็นการลงทุนในประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ ที่ผสมผสานวิศวกรรมขั้นสูง การออกแบบที่โดดเด่น และเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

หากคุณพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่โลกแห่ง SUV หรูและแรง และค้นพบรถยนต์ที่จะยกระดับการเดินทางของคุณ ผมขอเชิญชวนให้คุณติดต่อผู้เชี่ยวชาญของเราเพื่อขอคำปรึกษา เราพร้อมจะช่วยคุณสำรวจตัวเลือกต่างๆ และค้นหา SUV ในฝันปี 2025 ที่จะทำให้ทุกการขับขี่เต็มไปด้วยความเร้าใจและความภาคภูมิใจ.

Previous Post

N0211334 คำพ ดคำจาเหม นขนาดน เม อเช าไม ได แปรงฟ นหร อไง part 2

Next Post

N0211337 ทำของสำค ญหล นหาย part 2

Next Post
N0211337 ทำของสำค ญหล นหาย part 2

N0211337 ทำของสำค ญหล นหาย part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N0411563 หลอยผ วมาต วอ าย EP1 part 2
  • N0411126 จะได ณค าและความลำบากในการใช เง part 2
  • N0411120 การด แลต วเองหล งคลอด part 2
  • N0411125 องการคนร กเม อตอนท กคนไม องการ part 2
  • N0411124 ความค ดครอบคร วผ วเต าล านป part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.