ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
จัดอันดับ 5 Hypercar รถที่เร็วที่สุดในโลก ปี 2025
Last updated: 23 ก.พ. 2568 | 63321 จำนวนผู้เข้าชม |

หากพูดถึง Hypercar แล้ว หลายคนคงนึกถึงรถยนต์ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของสมรรถนะ ดีไซน์และราคาขั้นสุด แต่คุณรู้หรือไม่ว่า Hypercar คันไหนที่ทำความเร็วได้มากที่สุด วันนี้เราจึงขอจัดอันดับ 5 รถที่เร็วที่สุดในโลกมาให้เพื่อน ๆ ทุกคนได้อ่านกันครับ โดยจะมีรถรุ่นไหนแบรนด์อะไรที่น่าสนใจบ้างนั้น ไปดูกันเลย!
จัดอันดับ 5 รถที่เร็วที่สุดในโลกประจำปี 2025
1. SSC Tuatara
SSC Tuatara เป็นไฮเปอร์คาร์ที่ผลิตโดยบริษัท SSC North America เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 มีราคาเริ่มต้นที่ 1.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และผลิตออกมาเพียง 125 คันเท่านั้น ตัวรถมีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นด้วยการออกแบบที่เน้นความเรียบง่ายแต่ดูเรียบหรูและทรงประสิทธิภาพ ด้านหน้ามีไฟหน้า LED ทรงสามเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ กระจังหน้าขนาดใหญ่ และช่องดักอากาศ ด้านหลังมีไฟท้าย LED เรียวยาวและสปอยเลอร์หลังสุดเท่ SSC Tuatara ถือเป็นรถไฮเปอร์คาร์ที่มีครบทั้งความเท่ ความสวยงาม และสมรรถนะภายในที่ยอดเยี่ยมไม่เป็นสองรองใคร
สเปคของ SSC Tuatara
SSC Tuatara ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบคู่ V8 ความจุ 5.9 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 1,750 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,617 นิวตัน-เมตร เครื่องยนต์นี้จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดแบบคลัตช์คู่ พร้อมขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง SSC Tuatara มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรในเวลา 2.5 วินาที และทำความเร็วได้สูงสุดถึง 532.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถือเป็นรถที่เร็วที่สุดในโลก ณ ตอนนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
2. Bugatti Chiron Super Sport 300+
Bugatti Chiron Super Sport 300+ เป็น Hypercar ที่ผลิตโดย Bugatti เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 3.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และผลิตเพียง 30 คันเท่านั้น ตัวรถมีรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดุดัน โฉบเฉี่ยว และมีความสปอร์ต ส่วนภายในห้องโดยสารนั้นตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง เช่น หนังแท้และคาร์บอนไฟเบอร์ เบาะนั่งได้รับการออกแบบมาอย่างดีเพื่อรองรับการขับขี่ที่รวดเร็วและความสะดวกสบาย ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นรถยนต์ทรงพลังที่ติดอันดับ 1 ใน 5 รถที่เร็วที่สุดในโลกมาจนถึงปัจจุบัน
สเปคของ Bugatti Chiron Super Sport 300+
Chiron Super Sport 300+ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ W16 ขนาด 8.0 ลิตร สี่เทอร์โบชาร์จที่ให้กำลัง 1,600 แรงม้าและแรงบิด 1,600 นิวตัน-เมตร เครื่องยนต์ทำงานร่วมกับเกียร์คลัตช์คู่ 7 สปีด ทำให้สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ใน 2.4 วินาที และทำความเร็วได้สูงสุดถึง 509.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

3. Hennessey Venom F5

Hennessey Venom F5 เป็น Hypercar ที่พัฒนาและผลิตโดย Hennessey Special Vehicles เปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐและผลิตเพียง 24 คันเท่านั้น Venom F5 มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูหรูหรา ไหลลื่น และทันสมัย ส่วนการตกแต่งภายในเน้นความเรียบง่ายและเน้นการใช้งานเป็นหลัก เบาะนั่งเป็น bucket seat ที่ทำจากหนัง Alcantara รองรับสรีระผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี พวงมาลัยเป็นแบบทรงสปอร์ต 3 ก้าน ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ มีปุ่มควบคุมต่าง ๆ อยู่บริเวณแป้นหมุน แผงหน้าปัดเป็นแบบดิจิตอลและมาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว
สเปคของ Hennessey Venom F5
Hennessey Venom F5 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ V8 ขนาด 6.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 1,817 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 1,617 นิวตัน-เมตร ตัวรถสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ใน 2.6 วินาที พร้อมทำความเร็วได้สูงสุด 484 กิโลเมตรต่อชั่วโมง Hennessey Venom F5 ถือเป็นรถที่เร็วที่สุดในโลกอันดับสามที่มีสเปคน่าสนใจและไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง
4. Bugatti Bolide
Bugatti Bolide เป็น Hypercar ที่พัฒนาโดย Bugatti Engineering GmbH จากประเทศเยอรมัน เปิดตัวครั้งแรกในปี 2020 ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 4.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐและผลิตเพียง 40 คัน Bugatti Bolide โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูโฉบเฉี่ยวและดุดัน การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่งฟอร์มูล่าวัน โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมความเร็วสูงได้ง่าย ด้านหน้ามีไฟหน้าทรงกลมแบบ LED ที่เป็นเอกลักษณ์ กันชนหน้ามีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเพื่อลดแรงดันอากาศและเพิ่มแรงกดลงบนพื้น ส่วนด้านข้างมีช่องระบายอากาศที่ออกแบบมาเพื่อระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์และระบบเบรก หลังคารถทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา ซึ่งช่วยลดน้ำหนักของรถและปรับปรุงประสิทธิภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์ ถือเป็น Hypercar ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเน้นประสิทธิภาพการขับขี่เป็นหลัก ใครที่ชื่นชอบรถแข่งหรือรถทรงสปอร์ตจะต้องหลงรักรถคันนี้อย่างแน่นอน
สเปคของ Bugatti Bolide
Bugatti Bolide ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ W16 ขนาด 8 ลิตร ที่ให้กำลัง 1,850 แรงม้าและแรงบิด 1,850 นิวตันเมตร ตัวรถมีน้ำหนักเบาเพียง 1,240 กิโลกรัมเท่านั้น สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ที่ 2.17 วินาที และมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 490.4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
5. Devel Sixteen

Devel Sixteen เป็นรถ Hypercar ที่ออกแบบและผลิตโดย Devel Motors จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ Devel Sixteen มีรูปลักษณ์ที่ดูดุดัน โฉบเฉี่ยว และทรงสปอร์ต ด้านหน้าของตัวรถโดดเด่นด้วยไฟหน้ากลมดีไซน์สวย ซึ่งมาพร้อมกับกระจังหน้าและช่องดักอากาศขนาดใหญ่ ด้านหลังมีไฟท้ายทรงเรียวยาวและสปอยเลอร์สุดเท่ ส่วนภายในตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพระดับพรีเมียม เช่น หนัง คาร์บอนไฟเบอร์ และโลหะ เบาะนั่งเป็นแบบสปอร์ตสามารถรองรับสรีระผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี ถือเป็นรถที่เร็วที่สุดในโลกอีกหนึ่งคัน ที่มีดีทั้งสมรรถนะและความสวยงามแบบจัดเต็ม
สเปคของ Devel Sixteen
Devel Sixteen (รุ่นสำหรับสนามแข่ง) ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V16 สี่เทอร์โบ 12.3 ลิตร มีกำลังสูงสุด 5,000 แรงม้า แรงบิด 5,094 นิวตันเมตร ตัวรถมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ขับเคลื่อนล้อหลัง ซึ่งมีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอยู่ที่ 1.8 วินาที และทำความเร็วได้สูงสุด 483.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Supercar จอดนานระวังแบตเสื่อม! ป้องกันง่าย ๆ ด้วย CTEK จากสวีเดน
ไม่ว่ารถ Hypercar จะแพงแค่ไหน แต่ถ้าจอดทิ้งนานเมื่อไหร่ แบตเตอรี่ก็หมด และเสื่อมสภาพได้เหมือนกัน เพราะปัญหาแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสามารถเกิดขึ้นได้กับรถทุกคันทุกประเภท โดยเฉพาะรถสายจอดอย่าง รถสปอร์ต บิ๊กไบค์ หรือซุปเปอร์คาร์ ที่ไม่ได้ถูกนำออกไปขับทุกวัน ดังนั้นเพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้ยาวนาน เราก็ควรนำรถออกไปขับบ้างอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง หรือเลือกใช้ที่ชาร์จแบตรถยนต์คอยชาร์จไฟให้เต็มอยู่ตลอด เพราะแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานที่สุดก็คือแบตเตอรี่ที่มีไฟเต็มอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
เครื่องชาร์จแบตรถยนต์ CTEK จากสวีเดนจะช่วยดูแลแบตเตอรี่รถให้มีไฟเต็มอยู่ตลอดโดยไม่ต้องเอารถไปวนขับ หรือคอยสตาร์ทรถให้เสียเวลา ซึ่ง CTEK เป็นเจ้าของเทคโนโลยีลิขสิทธิ์การชาร์จที่ปลอดภัยต่อแบตเตอรี่ ระบบไฟภายในรถ และตัวผู้ใช้งาน เพียงแค่เสียบปลั๊กไฟบ้านแล้วคีบขั้วแบตเตอรี่หรือแบตเตอรี่ Terminal โดยไม่ต้องถอดขั้วแบตเตอรี่ หรือ ยกแบตเตอรี่ออกจากรถ CTEK ก็จะชาร์จแบตเตอรี่รถของคุณให้เต็มโดยอัตโนมัติเหมือนชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือโดยที่คุณไม่ต้องเฝ้า คุณสามารถชาร์จทิ้งไว้ได้เป็นเดือนโดยไม่ทำให้แบตเตอรี่เสีย ไม่ต้องคอยสตาร์ทหรือเอารถไปวนขับให้สิ้นเปลืองน้ำมันอีกต่อไป
เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ CTEK ที่อยากแนะนำให้คุณได้ลองใช้เพราะเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดคือ CTEK MXS 5.0 เป็นเครื่องชาร์จแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ มีกระแสชาร์จสูงสุด 5A สำหรับแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด 12V ขนาด 1.2 – 110Ah รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุด ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก ไม่มีความรู้เรื่องช่างก็สามารถใช้งานได้ ทำงานด้วยระบบอัตโนมัติแทบทั้งหมด ตัวเครื่องนั้นมีขนาดเล็ก กะทัดรัด น้ำหนักเบา แต่ทนทานรับประกันถึง 5 ปี หากคุณกำลังมองหาเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ที่ครอบคลุมตั้งแต่รถยนต์ไปจนถึงมอเตอร์ไซค์หรือบิ๊กไบค์ CTEK MXS 5.0 ตอบโจทย์ความต้องการของคุณอย่างแน่นอน ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก CTEK MXS 5.0
7 อันดับซุปเปอร์คาร์มาแรง 2025 มีคันไหนน่าสนใจบ้าง
Last updated: 23 ก.พ. 2568 | 139646 จำนวนผู้เข้าชม |

อุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 2025 ถูกพัฒนาและยกระดับขึ้นต่อเนื่อง ด้วยเทคโนโลยีมากมายที่ถูกนำมาใช้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะตลาดซุปเปอร์คาร์ที่มีการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ออกมาตลอดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งจะมีคันไหนที่น่าสนใจบ้างนั้น APRTECH ได้รวบรวมซุปเปอร์คาร์ที่สนใจมาฝากทุกคนแล้วครับ
7 รถซุปเปอร์คาร์ มาแรงปี 2025
1. Ferrari 296 GTB

ขอบคุณภาพจาก ferrari.com
296 GTB เป็นรถยนต์สปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางขับเคลื่อนล้อหลังที่ผลิตโดย Ferrari เปิดตัวครั้งแรกในปี 2022 เป็นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดคันแรกที่ใช้เครื่องยนต์ V6 ของ Ferrari และเป็นรุ่นแรกในตระกูล GTB ใหม่ 296 GTB แทนที่ 488 GTB ซุปเปอร์คาร์คันนี้ ใช้เครื่องยนต์ V6 เทอร์โบชาร์จเจอร์ขนาด 2.9 ลิตร 653 แรงม้า (488 กิโลวัตต์) จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 167 แรงม้า (123 กิโลวัตต์) กำลังรวมสูงสุด 830 แรงม้า (619 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 740 นิวตันเมตร (546 ฟุต-ปอนด์) มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลังโดยตรงในขณะที่เครื่องยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าและล้อหลังผ่านเกียร์ 8 สปีด สามารถทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 2.9 วินาที และความเร็วสูงสุด 330 กม./ชม. ระยะทางขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวอยู่ที่ 25 กม. (15 ไมล์)
ตัวรถมีการออกแบบภายนอกที่คล้ายกับรุ่นก่อนอย่าง 488 GTB แต่มีไฟหน้าและไฟท้ายใหม่ กันชนหน้า/หลังใหม่ และช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ที่ด้านข้างของรถ ส่วนภายในมีการออกแบบที่เรียบง่ายและทันสมัย มาพร้อมจอแสดงผลดิจิทัลขนาด 16 นิ้วอยู่ตรงกลางแดชบอร์ด และจอแสดงผลขนาดเล็กตั้งอยู่ด้านหลังพวงมาลัย เบาะนั่งเป็นแบบสปอร์ต กระชับ และรองรับสัดส่วนผู้ขับได้ดี ถือเป็นรถซุปเปอร์คาร์ที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพสูงคันหนึ่งเลยในปี 2025 นี้ครับ
2. Porsche 911 GT3 RS

ขอบคุณภาพจาก porsche.com
Porsche 911 GT3 RS เปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 เป็นรุ่นที่ทรงพลังที่สุดของตระกูล 911 GT3 และเป็นหนึ่งในซุปเปอร์ที่ทรงพลังที่สุดในโลก ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบนอน 4.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ที่ให้กำลังสูงสุด 520 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 3.2 วินาที มีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 312 กิโลเมตร/ชั่วโมง 911 รถคันนี้ได้รับการปรับแต่งเพื่อเพิ่มสมรรถนะโดยเฉพาะ มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต เบรกคาลิปเปอร์แบบคาร์บอนเซรามิก และปีกหลังขนาดใหญ่ การตกแต่งภายในถูกลดทอนลงเพื่อลดน้ำหนัก เบาะนั่งมาแบบสปอร์ตและพวงมาลัยแบบแบนเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
911 GT3 RS เป็นรถสปอร์ตที่ทรงพลังและดุดัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่ที่ท้าทายและน่าตื่นเต้น ด้วยสเปคเหนือชั้นขั้นสุดขนาดนี้ก็ทำให้มันกลายเป็นรถซุปเปอร์คาร์ในฝันของใครหลายคน
อ่านข้อมูล porsche 911
3. Lamborghini Huracan Tecnica

ขอบคุณภาพจาก lamborghini.com
Lamborghini Huracan Tecnica เปิดตัวครั้งแรกในเดือนเมษายน 2022 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V10 ขนาด 5.2 ลิตร 640 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ขับเคลื่อนล้อหลัง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.2 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 325 กม./ชม. ตัวรถจะมีดีไซน์ที่ดุดันและสปอร์ตกว่ารุ่นก่อน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ ช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ กันชนหน้า/หลังดีไซน์ใหม่ ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง เบาะนั่งแบบสปอร์ต จอแสดงผลขนาด 10.25 นิ้วสำหรับมาตรวัดความเร็ว และจอแสดงผลขนาด 8.4 ที่รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto

4. McLaren Artura

ขอบคุณภาพจาก mclaren.com
McLaren Artura เป็นซูเปอร์คาร์ไฮบริดรุ่นแรกจาก McLaren ที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2021 รถคันนี้สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มใหม่ที่เรียกว่า MCLA (McLaren Carbon Lightweight Architecture) และขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังแบบไฮบริด V6 3.0 ลิตรเทอร์โบคู่ที่ให้กำลัง 680 แรงม้า McLaren Artura จึงสามารถทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 2.9 วินาทีและทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 330 กม./ชม. นอกจากนี้มันยังเป็นซูเปอร์คาร์ไฮบริดคันแรกที่มาพร้อมกับระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) และระบบเบรกแบบ Regenerative จึงถือซุปเปอร์คาร์ที่เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ที่ถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่มีประสิทธิภาพสูง ประหยัดน้ำมัน และสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ขับขี่ได้ตลอดเวลา
5. Maserati MC20

ขอบคุณภาพจาก maserati.com
Maserati MC20 เป็นรถซูเปอร์คาร์เครื่องยนต์วางกลาง 2 ที่นั่ง เปิดตัวครั้งแรกในปี 2020 และวางจำหน่ายในปี 2021 MC20 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบชาร์จ 3.0 ลิตรที่พัฒนาโดย Maserati เอง เครื่องยนต์นี้ให้กำลัง 630 แรงม้าและแรงบิด 730 นิวตันเมตร จึงสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 325 กม./ชม. และเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 2.9 วินาที ตัวรถสร้างขึ้นจากโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งคัน ทำให้มีน้ำหนักเบาเพียง 1,500 กิโลกรัม อีกทั้งยังมาพร้อมระบบกันสะเทือนแบบอิสระทั้งสี่ล้อและระบบเบรกคาร์บอนเซรามิก
Maserati MC20 มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ MC20 Coupe เป็นรุ่นพื้นฐานของรถ มีหลังคาแข็ง, MC20 Spider เป็นรุ่นเปิดประทุน มีหลังคาผ้า และ MC20 Trofeo เป็นรุ่นสมรรถนะสูง มีเครื่องยนต์ที่ทรงพลังกว่าและระบบกันสะเทือนที่แข็งกว่า
6. Chevrolet Corvette C8

ขอบคุณภาพจาก Chevrolet
Chevrolet Corvette C8 เป็นรุ่นที่แปดของรถยนต์สปอร์ตคูเป้จาก Chevrolet เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2019 ตัวรถใช้เครื่องยนต์ LT2 V8 ขนาด 6.2 ลิตรที่ผลิตได้ 495 แรงม้า เครื่องยนต์ส่งกำลังไปยังล้อหลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด สามารถเร่งความเร็วจาก 0-96.5 กม./ชม. ได้ใน 2.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 312 กม./ชม. ซึ่งดีไซน์ภายนอกของตัวรถนั้นมีไฟหน้าสวยทรงเรียบง่าย และกลมกลืนไปกับไฟโปรเจคเตอร์ กระจกหลังของรถมีขนาดใหญ่และถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถมองเห็นเครื่องยนต์ได้อย่างชัดเจน ตัวรถมีร่องระบายอากาศ 7 ช่อง มีท่อไอเสียจำนวน 4 ชุดติดตั้งอยู่ที่ด้านริมทั้งสองฝั่ง มีไฟท้ายแบบคู่ LED ไฟเลี้ยวแบบวิ่งตามทิศทางการเลี้ยว ถือเป็นซุปเปอร์คาร์ที่มีดีไซน์สวยเรียบหรู มีสมรรถนะสูง และทรงประสิทธิภาพเป็นอย่างยิ่ง
7. Aston Martin DBS Superleggera

ขอบคุณภาพจาก Aston Martin
Aston Martin DBS Superleggera เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V12 ขนาด 5.2 ลิตร ทวินเทอร์โบชาร์จที่ให้กำลัง 715 แรงม้า มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.4 วินาที และมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 340 กม./ชม. โดยตัวรถนั้นมีให้เลือกทั้งรุ่นคูเป้และโรดสเตอร์ Aston Martin DBS Superleggera ได้รับการออกแบบโดย Marek Reichman หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Aston Martin ตัวรถจึงมีความโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่ดุดันและสง่างาม ด้านหน้ามีกระจังหน้าขนาดใหญ่และไฟหน้า LED รูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ด้านหลังมีไฟท้าย LED รูปทรงเรียวยาว DBS Superleggera ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์ด้านประสิทธิภาพและความหรูหรา รวมถึงได้รับรางวัล “Car of the Year” จากนิตยสาร Top Gear และ “Best Supercar” จากนิตยสาร Autocar อีกด้วยครับ

