• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N3110082 เม ยเป นน กเล นช างแสนประเสร ฐจร งๆ part 2

admin79 by admin79
October 29, 2025
in Uncategorized
0
N3110082 เม ยเป นน กเล นช างแสนประเสร ฐจร งๆ part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

แกะรอยยักษ์ใหญ่: เปิดโผ 10 บริษัทจัดการกองทุนระดับโลกผู้กุมบังเหียนสินทรัพย์นับล้านล้านดอลลาร์ในปี 2025

ในโลกการเงินที่หมุนไปอย่างรวดเร็วและซับซ้อน บริษัทจัดการสินทรัพย์ (Asset Management Companies) หรือผู้จัดการกองทุน (Fund Managers) มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกและสร้างความมั่งคั่งให้กับนักลงทุนรายย่อยไปจนถึงสถาบันขนาดใหญ่ พวกเขาเป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจให้บริหารจัดการเงินลงทุนจำนวนมหาศาล กำหนดทิศทางของตลาด และเป็นสะพานเชื่อมระหว่างแหล่งเงินทุนกับโอกาสในการเติบโต

ในฐานะผู้มีประสบการณ์ในวงการการลงทุนมานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นถึงพลวัตที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2025 ที่เทคโนโลยีและกลยุทธ์การลงทุนใหม่ๆ เข้ามามีอิทธิพลมากขึ้น การทำความเข้าใจบริษัทจัดการกองทุนชั้นนำเหล่านี้จึงไม่ใช่เพียงการรับรู้ชื่อ แต่เป็นการทำความเข้าใจถึงปรัชญา กลยุทธ์ และอิทธิพลที่พวกเขามีต่ออนาคตการเงินของเรา

บทความนี้จะพาคุณเจาะลึก 10 อันดับบริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกประจำปี 2025 ซึ่งยังคงแสดงให้เห็นถึงอำนาจและอิทธิพลอันไร้เทียมทานของยักษ์ใหญ่ไม่กี่รายในอุตสาหกรรมนี้ เราจะมาดูกันว่าบริษัทเหล่านี้มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (Assets Under Management หรือ AUM) เท่าไหร่ มีผลิตภัณฑ์และบริการอะไรที่โดดเด่น และอะไรคือปัจจัยที่ทำให้พวกเขายืนหยัดอยู่บนจุดสูงสุดได้ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายนี้

ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 27 มิถุนายน 2025 ชี้ให้เห็นว่าสิบอันดับแรกของบริษัทจัดการกองทุนเหล่านี้ควบคุมความมั่งคั่งรวมกันกว่า 48.39 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเจ็ดในสิบอันดับแรกมาจากสหรัฐอเมริกา ที่เหลือเป็นผู้เล่นสำคัญจากยุโรปอย่าง Amundi จากฝรั่งเศส และ Allianz Group จากเยอรมนี การจัดอันดับนี้ไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนักจากปีก่อนๆ ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมั่นคงและอิทธิพลที่ยากจะโค่นล้มของบริษัทเหล่านี้ โดยเกือบหนึ่งในสามของสินทรัพย์ทั้งหมดที่บริษัทจัดการกองทุนทั่วโลกดูแลนั้น อยู่ในมือของสิบอันดับแรกนี้

มาดูกันว่าผู้จัดการกองทุนระดับโลกเหล่านี้มีใครบ้าง และพวกเขามีอะไรน่าสนใจ

บริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประจำปี 2025 (เรียงจากอันดับ 10 ถึงอันดับ 1)

บริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก (จากอันดับเล็กสุด)ประเทศสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM)
Allianz GroupเยอรมนีUS$ 1.91 ล้านล้าน
InvescoสหรัฐอเมริกาUS$ 1.94 ล้านล้าน
Amundiฝรั่งเศสUS$ 2.6 ล้านล้าน
Capital GroupสหรัฐอเมริกาUS$ 2.8 ล้านล้าน
Goldman Sachs GroupสหรัฐอเมริกาUS$ 3.17 ล้านล้าน
J.P. Morgan Asset ManagementสหรัฐอเมริกาUS$ 3.7 ล้านล้าน
State Street Global AdvisorsสหรัฐอเมริกาUS$ 4.67 ล้านล้าน
Fidelity InvestmentsสหรัฐอเมริกาUS$ 5.9 ล้านล้าน
Vanguard GroupสหรัฐอเมริกาUS$ 10.1 ล้านล้าน
BlackRockสหรัฐอเมริกาUS$ 11.6 ล้านล้าน

ข้อมูล ณ วันที่ 27 มิถุนายน 2025

Allianz Group: พลังแห่งเสถียรภาพและการลงทุนที่ยั่งยืน

Allianz Group ยักษ์ใหญ่ด้านการประกันภัยและบริการทางการเงินจากเยอรมนี ยังคงรักษาตำแหน่งในกลุ่มผู้จัดการกองทุนระดับโลก ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ที่น่าประทับใจถึง 1.91 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ เดือนมิถุนายน 2025 สิ่งที่ทำให้ Allianz แตกต่างคือแนวทางการลงทุนระยะยาวที่ฝังรากลึกอยู่ในหลักการความยั่งยืนและการบริหารความเสี่ยงที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2025

AUM ของ Allianz ครอบคลุมสินทรัพย์จากบริษัทประกันภัย Allianz เอง และบริษัทจัดการสินทรัพย์ในเครืออย่าง Allianz Global Investors (AllianzGI) ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการลงทุนที่หลากหลาย และ PIMCO (Pacific Investment Management Company) หนึ่งในผู้จัดการพันธบัตรที่ใหญ่ที่สุดในโลก การรวมกันของความเชี่ยวชาญด้านประกันภัยและการบริหารสินทรัพย์ ทำให้ Allianz สามารถนำเสนอโซลูชั่นทางการเงินที่ครอบคลุม ตั้งแต่การลงทุนในตราสารหนี้ การลงทุนในหุ้น ไปจนถึงกลยุทธ์การลงทุนทางเลือก

จุดเด่นและปรัชญาการลงทุน: Allianz ให้ความสำคัญกับการลงทุนที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (ESG investing) โดยเชื่อว่าการบูรณาการปัจจัยด้านความยั่งยืนเข้ากับการวิเคราะห์การลงทุนจะนำไปสู่ผลตอบแทนที่ดีขึ้นในระยะยาว นอกจากนี้ ความแข็งแกร่งด้านการบริหารความเสี่ยงซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจประกันภัย ได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับการบริหารพอร์ตโฟลิโอการลงทุน เพื่อปกป้องเงินทุนของลูกค้าจากความผันผวนของตลาด นี่คือเหตุผลที่นักลงทุนจำนวนมากยังคงเชื่อมั่นใน Allianz ในฐานะผู้ดูแลความมั่งคั่งของพวกเขา

ตัวอย่างกองทุนเด่น:
Allianz Global Sustainability Fund: เน้นลงทุนในบริษัทที่มีแนวทางธุรกิจยั่งยืน
Allianz Global Artificial Intelligence Fund: ลงทุนในนวัตกรรมด้านปัญญาประดิษฐ์

Invesco: ประสบการณ์การลงทุนที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง

Invesco Ltd. ผู้จัดการสินทรัพย์ระดับโลกที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในสหรัฐอเมริกา ยืนอยู่ ณ อันดับที่ 9 ด้วย AUM รวม 1.94 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ วันที่ 28 มิถุนายน 2025 Invesco มีปรัชญาและค่านิยมที่ชัดเจนในการมอบประสบการณ์การลงทุนที่ช่วยให้ลูกค้าบรรลุผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในชีวิต โดยมีหลักการทำงานสำคัญคือ “One Team” (ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและความรับผิดชอบร่วมกัน), “Culture matters” (การรักษาวัฒนธรรมที่เปิดกว้างและส่งเสริมการร่วมมือ) และ “Focused execution” (การดำเนินกลยุทธ์อย่างมุ่งมั่น รวดเร็ว และรับผิดชอบ)

จุดเด่นและปรัชญาการลงทุน: Invesco โดดเด่นด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย ตั้งแต่กองทุนดัชนี (Index Funds) กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETFs) ไปจนถึงกองทุนรวมที่บริหารเชิงรุก (Actively Managed Funds) ทั่วโลก พวกเขามุ่งมั่นที่จะเข้าใจความต้องการเฉพาะของนักลงทุนแต่ละราย ไม่ว่าจะเป็นรายย่อย สถาบัน หรือที่ปรึกษาทางการเงิน และสร้างโซลูชั่นที่ปรับให้เหมาะสม Invesco ยังลงทุนอย่างมากในการวิจัยและพัฒนาเพื่อค้นหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ และปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป

ตัวอย่างกองทุนเด่น:
Invesco S&P 500 Index Fund: กองทุนที่เน้นการติดตามดัชนี S&P 500
Invesco Value Opportunities Fund: กองทุนที่มองหาหุ้นคุณค่าที่มีศักยภาพ

Amundi: ผู้นำการลงทุนแห่งยุโรปกับการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

Amundi คือผู้จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และครองอันดับ 8 ของโลก ด้วย AUM รวม 2.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ วันที่ 30 มีนาคม 2025 บริษัทสัญชาติฝรั่งเศสแห่งนี้เน้นย้ำค่านิยมของการทำงานร่วมกันและความรับผิดชอบ (“One Team”), นวัตกรรม และวัฒนธรรมที่เปิดกว้าง พวกเขามีความมุ่งมั่นในระยะยาวต่อการลงทุนอย่างรับผิดชอบ (Responsible Investment) และการใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์ขั้นสูงเพื่อสนับสนุนลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

จุดเด่นและปรัชญาการลงทุน: Amundi ให้ความสำคัญกับการเป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือสำหรับลูกค้า โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย รวมถึงกองทุนรวม ตราสารหนี้ หุ้น และผลิตภัณฑ์การลงทุนทางเลือก พวกเขามีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) และการลงทุนที่ยั่งยืน (ESG) ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของตลาดโลกปี 2025 นอกจากนี้ Amundi ยังโดดเด่นในด้านโซลูชั่นการลงทุนแบบพาสซีฟ (Passive Investment) และ ETF ซึ่งช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงตลาดได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำ

ตัวอย่างกองทุนเด่น:
Amundi Funds US Equity Fundamental Growth: เน้นลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ที่มีศักยภาพการเติบโต
Amundi Funds Global Aggregate Bond: ลงทุนในพันธบัตรทั่วโลก

Capital Group: ผู้บุกเบิกการบริหารเชิงรุกที่เน้นผลลัพธ์ระยะยาว

Capital Group บริษัทจัดการกองทุนผู้บุกเบิกที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1931 ในลอสแอนเจลิส ยังคงเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดในตลาดโลก ด้วย AUM ประมาณ 2.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ บริษัทนี้มีประสบการณ์ยาวนานและมีสำนักงานหลายแห่งในเอเชีย รวมถึงฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ สิงคโปร์ และโตเกียว สิ่งที่ทำให้ Capital Group โดดเด่นคือสไตล์การบริหารจัดการเชิงรุก (Active Management) ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมา

จุดเด่นและปรัชญาการลงทุน: ค่านิยมหลักของ Capital Group ได้แก่ ความรับผิดชอบ การมุ่งเน้นในระยะยาว การทำงานร่วมกับลูกค้า และการวิเคราะห์ที่เข้มงวด พวกเขาเชื่อมั่นในการลงทุนโดยอาศัยการวิจัยเชิงลึกและการคัดเลือกหลักทรัพย์อย่างพิถีพิถันเพื่อสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าตลาดในระยะยาว ทีมผู้จัดการกองทุนของ Capital Group ได้รับค่าตอบแทนตามผลงานการลงทุน ไม่ใช่ตามปริมาณสินทรัพย์ที่บริหาร ซึ่งเป็นการจัดแนวผลประโยชน์ให้สอดคล้องกับนักลงทุนอย่างแท้จริง แนวทางนี้ช่วยส่งเสริมให้ผู้จัดการกองทุนตัดสินใจโดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของลูกค้าเป็นหลัก

ตัวอย่างกองทุนเด่น:
Capital Group Global Allocation: กองทุนที่เน้นการจัดสรรสินทรัพย์ทั่วโลกอย่างมีกลยุทธ์
Capital Group New Perspective: กองทุนที่ลงทุนในบริษัทระดับโลกที่มีศักยภาพการเติบโต

Goldman Sachs Asset Management: นวัตกรรมและความเชี่ยวชาญระดับโลก

Goldman Sachs Asset Management (GSAM) คือส่วนหนึ่งของ Goldman Sachs Group วาณิชธนกิจระดับโลกที่ทรงอิทธิพล พวกเขาได้ตอกย้ำตำแหน่งในกลุ่มผู้จัดการกองทุนที่มีสินทรัพย์มากที่สุด ด้วย AUM รวม 3.17 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ประสบการณ์อันยาวนานในโลกการลงทุน วิสัยทัศน์ระดับโลก และการมุ่งเน้นที่ลูกค้าคือปัจจัยสำคัญที่นำมาซึ่งความสำเร็จของ GSAM

จุดเด่นและปรัชญาการลงทุน: GSAM โดดเด่นในกระบวนการวิจัยและการคัดเลือกสินทรัพย์ที่เข้มงวดและมีวินัย ผู้จัดการกองทุนของ Goldman Sachs มุ่งมั่นที่จะแสวงหาความเป็นเลิศ นวัตกรรม และสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า พวกเขาให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงเป็นอันดับแรกในเชิงกลยุทธ์ ด้วยความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกจากหน่วยงานวิจัยทั่วโลก ทำให้ GSAM สามารถนำเสนอโซลูชั่นการลงทุนที่หลากหลายและปรับแต่งให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า ทั้งในตลาดตราสารทุน ตราสารหนี้ สินทรัพย์ทางเลือก และผลิตภัณฑ์เชิงกลยุทธ์อื่นๆ

ตัวอย่างกองทุนเด่น:
Goldman Sachs Global Environmental Impact Equity Portfolio: ลงทุนในบริษัทที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม
Goldman Sachs Global High Yield Portfolio: กองทุนตราสารหนี้ผลตอบแทนสูงทั่วโลก

J.P. Morgan Asset Management: บริหารความมั่งคั่งด้วยทรัพยากรระดับโลก

J.P. Morgan Asset Management เป็นแผนกจัดการสินทรัพย์ของ JPMorgan Chase & Co. ธนาคารชั้นนำระดับโลก โดยบริหารจัดการสินทรัพย์กว่า 3.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั่วโลก บริษัทนี้นำเสนอบริการบริหารการลงทุนที่ครอบคลุม ทั้งหุ้น ตราสารหนี้ พอร์ตโฟลิโอแบบหลายสินทรัพย์ (multi-asset) ตราสารทางเลือก และผลิตภัณฑ์ในตลาดเงิน (liquidity products)

จุดเด่นและปรัชญาการลงทุน: ด้วยสำนักงานใหญ่ในนครนิวยอร์ก J.P. Morgan Asset Management มีผลิตภัณฑ์การลงทุนเชิงรุกที่หลากหลาย เช่น กองทุนรวมทั่วไป, ETF, บัญชีบริหารจัดการเฉพาะ, และโซลูชั่นหลายสินทรัพย์ที่ปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้า ผลิตภัณฑ์หลักบางส่วนรวมถึง JPMorgan Growth Advantage Fund สำหรับภาคส่วนหุ้น และ JPMorgan Core Bond Fund สำหรับกลุ่มตราสารหนี้

บริษัทนี้มีประวัติยาวนานตั้งแต่ปี 1871 และอาศัยขนาดระดับโลก ทรัพยากรการวิจัยภายในองค์กร และโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งของกลุ่ม J.P. Morgan ปัจจุบันพวกเขามีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนมากกว่า 2,300 คนกระจายอยู่ทั่วโลก และให้บริการลูกค้าสถาบัน ตัวกลางทางการเงิน รวมถึงนักลงทุนรายย่อย แนวทางการบริหารจัดการของพวกเขาย้ำถึงการวิจัยเชิงลึกและแนวทางเชิงรุกในการบริหารพอร์ตโฟลิโออย่างมืออาชีพและวัดผลได้

ตัวอย่างกองทุนเด่น:
JPMorgan America Equity Fund (มีสินทรัพย์ 9 ประเภท): กองทุนที่เน้นหุ้นอเมริกา
JPMorgan Global Dividend Fund: กองทุนที่เน้นหุ้นปันผลทั่วโลก

State Street Global Advisors: ผู้นำด้าน ETF และการลงทุนแบบ Index

State Street Global Advisors (SSGA) เป็นหนึ่งในบริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกในด้าน AUM ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 4.67 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ บริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1978 และเป็นผู้จัดการชั้นนำในสินทรัพย์สำหรับสถาบัน รวมถึงเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกและผู้ให้บริการ ETF รายใหญ่ที่สุดของโลกภายใต้แบรนด์ SPDR (Standard & Poor’s Depository Receipts)

จุดเด่นและปรัชญาการลงทุน: SSGA ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและการวิจัยเป็นหัวใจสำคัญของนโยบายการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการลงทุนแบบดัชนี (Index Investing) และ ETF ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงตลาดและสินทรัพย์หลากหลายประเภทได้อย่างมีประสิทธิภาพและต้นทุนต่ำ พวกเขาให้บริการแก่ลูกค้าสถาบันทั่วโลก เช่น กองทุนบำนาญ บริษัทประกัน และกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ ด้วยโซลูชั่นการลงทุนที่ครอบคลุม ตั้งแต่การบริหารพอร์ตโฟลิโอแบบดัชนี การจัดการกองทุนแบบสมาร์ทเบต้า (Smart Beta) ไปจนถึงการจัดการสินทรัพย์ทางเลือก

ตัวอย่างกองทุนเด่น:
SPDR Dow Jones Industrial Average ETF Trust: ETF ที่ติดตามดัชนี Dow Jones Industrial Average
SPDR S&P 500 ETF Trust: ETF ที่ติดตามดัชนี S&P 500 (สามารถซื้อขายในหลายตลาดทั่วโลก)

Fidelity Investments: แชมป์เก่าแห่งการบริหารเชิงรุกและนวัตกรรม

Fidelity Investments ยังคงเป็นหนึ่งในบริษัทการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมี AUM ที่บริหารจัดการสูงถึง 5.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ Fidelity เป็นผู้จัดการการลงทุนระดับโลกที่ให้บริการและสนับสนุนทั้งลูกค้าบุคคลและลูกค้าสถาบัน โดยมุ่งมั่นแสวงหาโซลูชั่นที่ดีที่สุดในระยะยาวเสมอมา

จุดเด่นและปรัชญาการลงทุน: ผู้จัดการกองทุนในตำนานอย่าง Peter Lynch ซึ่งสร้างชื่อเสียงโด่งดังจากกองทุน Magellan ของ Fidelity เป็นตัวอย่างที่สะท้อนถึงปรัชญาการบริหารเชิงรุกของบริษัท Fidelity โดดเด่นด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ที่แข็งแกร่ง แพลตฟอร์มเทคโนโลยีขั้นสูง และความมุ่งมั่นในการให้บริการลูกค้า การกระจายผลิตภัณฑ์กองทุนอย่างกระตือรือร้นและการเสนอบริการให้คำปรึกษา ทำให้ Fidelity ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในผู้จัดการกองทุนที่ดีที่สุดในปัจจุบัน พวกเขายังเป็นผู้นำในการนำเสนอบริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (Brokerage) และแพลตฟอร์มการลงทุนที่ใช้งานง่ายสำหรับนักลงทุนรายย่อย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันให้เกิดการเติบโตและเข้าถึงนักลงทุนจำนวนมาก

ตัวอย่างกองทุนเด่น:
Fidelity Funds – US Dollar Bond Fund: กองทุนตราสารหนี้ดอลลาร์สหรัฐฯ
Fidelity Global Technology Fund: กองทุนที่เน้นลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก

Vanguard Group: ผู้บุกเบิกการลงทุนแบบพาสซีฟที่เน้นต้นทุนต่ำ

The Vanguard Group คือบริษัทที่ไม่เคยหลุดจากรายชื่อ 10 อันดับแรกของบริษัทการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเป็นผู้จัดการชั้นนำในด้านกองทุนรวมดัชนีและ ETF ปัจจุบันพวกเขายังคงครองตำแหน่งที่สองด้วย AUM รวม 10.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ทิ้งห่างอันดับสามเกือบเท่าตัว

จุดเด่นและปรัชญาการลงทุน: นับตั้งแต่ปี 1976 Vanguard ได้สร้างโมเดลธุรกิจที่ชัดเจนและมีเอกลักษณ์ บริษัทนี้ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งในการบริหารจัดการแบบพาสซีฟ (Passive Management) โดย John Bogle ผู้ก่อตั้งในปี 1975 ได้ปฏิวัติอุตสาหกรรมการลงทุนด้วยการเสนอแนวคิดกองทุนดัชนีที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนอย่างมหาศาล

สิ่งที่แตกต่างจากผู้จัดการกองทุนรายอื่นคือ Vanguard ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือเป็นของกลุ่มพันธมิตร แต่เป็นเจ้าของโดยผู้เข้าร่วมกองทุนเอง ซึ่งหมายความว่ากองทุนรวมและ ETF ของ Vanguard เป็นเจ้าของร่วมกันโดยนักลงทุนเอง ด้วยวิธีนี้ ผลประโยชน์ของผู้จัดการจึงสอดคล้องกับผลประโยชน์ของลูกค้าอย่างสมบูรณ์ โมเดลนี้ช่วยให้ Vanguard สามารถรักษาค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการให้ต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนระยะยาวโดยมีต้นทุนน้อยที่สุด

ตัวอย่างกองทุนเด่น:
Vanguard Dividend Appreciation ETF: ETF ที่เน้นหุ้นปันผลที่มีการเติบโต
Vanguard FTSE Developed Markets ETF: ETF ที่ลงทุนในตลาดพัฒนาแล้วทั่วโลก

BlackRock: ราชันย์แห่งสินทรัพย์และการลงทุนระดับโลก

BlackRock ยังคงเป็นผู้นำอย่างต่อเนื่อง ครองอันดับหนึ่งในรายชื่อ 10 อันดับบริษัทการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกประจำปี 2025 ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหารที่น่าทึ่งถึง 11.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวเลขที่แสดงถึงอิทธิพลอันมหาศาลของบริษัทนี้ในสหรัฐอเมริกาและยุโรป

จุดเด่นและปรัชญาการลงทุน: BlackRock มีอิทธิพลอย่างมากถึงขนาดที่แผนกให้คำปรึกษาของพวกเขาได้รับสัญญาในการจัดการโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนเมษายน 2020 ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจจากโรคระบาดใหญ่ นี่เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของ BlackRock ในระบบการเงินโลก

แพลตฟอร์ม iShares ของ BlackRock เป็นผู้ให้บริการชั้นนำสำหรับผลิตภัณฑ์ ETF โดยมีกองทุนที่ซื้อขายทั่วโลกมากกว่า 700 กองทุน และมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมกันกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ BlackRock เป็นผู้บุกเบิกและเป็นผู้นำในตลาด ETF ซึ่งเป็นเครื่องมือการลงทุนที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่นักลงทุนทั้งรายย่อยและสถาบัน เพราะมีความยืดหยุ่น ซื้อขายง่าย และมีต้นทุนต่ำ นอกจากนี้ BlackRock ยังเป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีการลงทุน โดยมีแพลตฟอร์ม Aladdin ซึ่งเป็นระบบการบริหารความเสี่ยงและการลงทุนที่ทรงพลัง ใช้โดยลูกค้าสถาบันทั่วโลก

BlackRock ยังเป็นผู้ขับเคลื่อนสำคัญในการบูรณาการปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เข้ากับกลยุทธ์การลงทุน โดยผลักดันให้บริษัทต่างๆ ทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้นในฐานะส่วนหนึ่งของการสร้างมูลค่าระยะยาว

ตัวอย่างกองทุนเด่น:
iShares China Large-Cap ETF: ETF ที่ลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ของจีน
iShares Global Clean Energy ETF: ETF ที่ลงทุนในบริษัทพลังงานสะอาดทั่วโลก

บทสรุป

กล่าวโดยสรุป บริษัทจัดการกองทุนเหล่านี้ได้ครองภูมิทัศน์ทางการเงินทั่วโลกในปี 2025 พวกเขาได้รวมฐานะในตลาดให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยมี BlackRock เป็นผู้นำที่ยังคงรักษาบัลลังก์ผู้จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกไว้ได้

สถาบันเหล่านี้ร่วมกันบริหารจัดการความมั่งคั่งที่มีมูลค่านับล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งไม่เพียงแต่แสดงถึงจุดสูงสุดของการบริหารสินทรัพย์เท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงวิวัฒนาการและความสามารถในการปรับตัวในโลกการเงินที่ไม่หยุดนิ่ง ผู้จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกเหล่านี้ไม่เพียงแต่นำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงแนวโน้ม นวัตกรรม และกลยุทธ์ที่นำทางนักลงทุนผ่านความท้าทายและโอกาสต่างๆ ของตลาดโลกในปัจจุบัน

ในฐานะนักลงทุน การทำความเข้าใจเกี่ยวกับผู้เล่นหลักเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ การรู้จักปรัชญาการลงทุน จุดแข็ง และผลิตภัณฑ์ของพวกเขา จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น และสามารถวางแผน กลยุทธ์การลงทุน ของคุณให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงิน

เราขอเชิญชวนให้คุณศึกษาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับบริษัทจัดการกองทุนเหล่านี้เพิ่มเติม เพื่อค้นหาโอกาสในการสร้างความมั่งคั่ง และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางการลงทุนที่มั่นคงและยั่งยืนไปกับผู้นำระดับโลกเหล่านี้ เพราะการลงทุนที่ดีเริ่มต้นจากการมีความรู้ที่ถูกต้องและเลือกพันธมิตรที่เหมาะสม

เปิดโลกการลงทุน 2025: เจาะลึก 10 บริษัทจัดการกองทุนยักษ์ใหญ่ระดับโลก

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการตลาดทุนมากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของภูมิทัศน์การลงทุนทั่วโลก และในปี 2025 นี้ แรงขับเคลื่อนหลักยังคงอยู่ที่บริษัทจัดการสินทรัพย์ขนาดมหึมา ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงผู้รวบรวมเงินทุน แต่ยังเป็นสถาปนิกผู้วางแผนอนาคตทางการเงินให้กับนักลงทุนทั่วทุกมุมโลก บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกถึง 10 บริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก วิเคราะห์กลยุทธ์ นวัตกรรม และบทบาทสำคัญที่พวกเขามีต่อระบบเศรษฐกิจและการลงทุนในยุคปัจจุบัน

โลกของการลงทุนในปี 2025 นั้นเต็มไปด้วยความท้าทายและโอกาสที่ซับซ้อน ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ปัญญาประดิษฐ์ที่เข้ามามีบทบาทในทุกอุตสาหกรรม ไปจนถึงพลวัตทางการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่ผันผวน บริษัทจัดการกองทุนเหล่านี้ไม่ได้แค่บริหารจัดการเงิน แต่ยังต้องประเมินความเสี่ยง คาดการณ์แนวโน้ม และสร้างพอร์ตโฟลิโอที่ยืดหยุ่นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งนักลงทุนสถาบัน กองทุนบำเหน็จบำนาญ บริษัทประกัน และนักลงทุนรายย่อย การทำความเข้าใจผู้เล่นหลักเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคนที่สนใจในตลาดการเงิน

จากรายงานล่าสุดของ Investing in The Web ที่เผยแพร่ในปี 2025 พบว่า BlackRock ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำสูงสุดในฐานะบริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตามมาด้วย Vanguard Group ซึ่งตอกย้ำถึงการครอบงำตลาดของยักษ์ใหญ่เหล่านี้ กลุ่มบริษัทจัดการกองทุน 10 อันดับแรกของโลกบริหารจัดการสินทรัพย์รวมกันกว่า 48.39 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าทึ่ง และแสดงให้เห็นถึงความเข้มข้นของอำนาจในอุตสาหกรรมการเงิน โดยเจ็ดในสิบอันดับแรกมาจากสหรัฐอเมริกา ที่เหลือเป็นบริษัทจัดการกองทุนจากยุโรป ได้แก่ Amundi จากฝรั่งเศส และ Allianz Group จากเยอรมนี

การจัดอันดับนี้ไม่เพียงแค่สะท้อนถึงขนาดและความมั่งคั่งของบริษัทเหล่านี้ แต่ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความน่าเชื่อถือ ความเชี่ยวชาญ และความสามารถในการปรับตัวในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเกือบหนึ่งในสามของสินทรัพย์ที่ถูกบริหารจัดการทั่วโลกอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทจัดการกองทุนสิบแห่งนี้ ซึ่งหมายความว่าการตัดสินใจของพวกเขาสามารถส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อทิศทางของตลาดการเงินทั่วโลก มาดูกันว่าผู้จัดการกองทุนเหล่านี้คือใครและมีบทบาทอย่างไร

10 บริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกประจำปี 2025 (เรียงจากน้อยไปมากตามมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ – AUM ณ วันที่ 27 มิถุนายน 2025)

อันดับบริษัทจัดการกองทุนประเทศสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM)
10Allianz Groupเยอรมนี1.91 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
9Invescoสหรัฐฯ1.94 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
8Amundiฝรั่งเศส2.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
7Capital Groupสหรัฐฯ2.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
6Goldman Sachs Asset Managementสหรัฐฯ3.17 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
5J.P. Morgan Asset Managementสหรัฐฯ3.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
4State Street Global Advisorsสหรัฐฯ4.67 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
3Fidelity Investmentsสหรัฐฯ5.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
2Vanguard Groupสหรัฐฯ10.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
1BlackRockสหรัฐฯ11.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Allianz Group: ผู้บุกเบิกการลงทุนที่ยั่งยืนจากยุโรป

Allianz Group ยืนหยัดในฐานะบริษัทประกันและจัดการสินทรัพย์ชั้นนำระดับโลก โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ปรัชญาการลงทุนระยะยาวที่ฝังรากอยู่บนแนวคิดเรื่องความยั่งยืนและการบริหารความเสี่ยงที่แข็งแกร่ง ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้อย่างมหาศาล ณ เดือนมิถุนายน 2025 สินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ของ Allianz Group พุ่งทะยานแตะ 1.91 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตัวเลขนี้รวมสินทรัพย์จากทั้งธุรกิจประกันหลักของ Allianz และบริษัทย่อยด้านการจัดการสินทรัพย์อย่าง Allianz Global Investors (AllianzGI) และ PIMCO (Pacific Investment Management Company) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้จัดการกองทุนตราสารหนี้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

Allianz มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเทรนด์การลงทุนเพื่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น Allianz Global Sustainability Fund และ Allianz Global Artificial Intelligence Fund ที่สะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างการลงทุนที่มีความรับผิดชอบและการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย การชดเชยค่าตอบแทนของผู้จัดการกองทุนของ Allianz มักอิงตามผลการดำเนินงานการลงทุน ซึ่งกระตุ้นให้พวกเขามุ่งมั่นสร้างผลตอบแทนสูงสุดภายใต้กรอบความเสี่ยงที่เหมาะสม ในปี 2025 นี้ Allianz ยังคงเน้นย้ำถึงการผสานรวมปัจจัย ESG เข้ากับการวิเคราะห์การลงทุนหลัก เพื่อสร้างมูลค่าระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

Invesco: ประสบการณ์การลงทุนที่แตกต่างด้วยปรัชญา “One Team”

Invesco Ltd. เป็นผู้จัดการสินทรัพย์ระดับโลกที่มุ่งมั่นมอบประสบการณ์การลงทุนที่เหนือกว่าให้กับลูกค้า เพื่อช่วยให้พวกเขาบรรลุเป้าหมายทางการเงินในชีวิต ณ วันที่ 28 มิถุนายน 2025 Invesco บริหารจัดการสินทรัพย์รวม 1.94 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ปรัชญาการทำงานของ Invesco อยู่ภายใต้แนวคิด “One Team” ที่เน้นย้ำถึงความสามัคคีและความรับผิดชอบร่วมกัน “Culture matters” ที่ส่งเสริมการรวมเป็นหนึ่งและการทำงานร่วมกัน และ “Focused execution” ที่มุ่งเน้นการดำเนินกลยุทธ์อย่างรวดเร็วและมีความรับผิดชอบ

Invesco นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่กองทุนดัชนีอย่าง Invesco S&P 500 Index Fund ไปจนถึงกองทุนที่เน้นคุณค่าอย่าง Invesco Value Opportunities Fund พวกเขาให้ความสำคัญกับการวิจัยเชิงลึกและการบริหารพอร์ตโฟลิโอเชิงรุก เพื่อหาโอกาสในตลาดที่ซับซ้อน การชดเชยค่าตอบแทนของผู้จัดการกองทุนประกอบด้วยเงินเดือน โบนัสประจำปี และผลการดำเนินงานการลงทุน ซึ่งสอดคล้องกับผลประโยชน์ของลูกค้า ในปี 2025 Invesco กำลังมองหาโอกาสในการลงทุนในตลาดเกิดใหม่และสินทรัพย์ทางเลือก เพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจให้กับนักลงทุน

Amundi: ผู้นำการจัดการสินทรัพย์แห่งยุโรปกับการลงทุนอย่างรับผิดชอบ

Amundi คือผู้จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และครองอันดับ 8 ของโลก ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ที่สูงถึง 2.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ วันที่ 30 มีนาคม 2025 Amundi ยึดมั่นในค่านิยมหลักที่เน้นการทำงานร่วมกันและความรับผิดชอบร่วมกัน (One Team) นวัตกรรม และวัฒนธรรมการทำงานที่เปิดกว้าง พวกเขายังให้ความสำคัญกับการดำเนินกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นและมีประสิทธิภาพ พร้อมความมุ่งมั่นระยะยาวต่อการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Investing) และการใช้เทคโนโลยีการวิจัยเพื่อสนับสนุนลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

Amundi เป็นที่รู้จักกันดีในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย รวมถึง Amundi Funds US Equity Fundamental Growth ที่เน้นการเติบโตของตลาดหุ้นสหรัฐฯ และ Amundi Funds Global Aggregate Bond ที่ลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลก พวกเขามีความเชี่ยวชาญอย่างมากในการลงทุนแบบ Quantitative และ Smart Beta ที่ใช้โมเดลทางคณิตศาสตร์ในการสร้างพอร์ตโฟลิโอ ในปี 2025 Amundi กำลังขยายบทบาทในตลาดเอเชียและพัฒนาโซลูชันการลงทุนที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะของนักลงทุนในแต่ละภูมิภาค นอกจากนี้ ยังเป็นผู้บุกเบิกในการผสานรวมหลักการ ESG เข้ากับกระบวนการลงทุนอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน

Capital Group: ผู้บุกเบิกการจัดการเชิงรุกกับมุมมองระยะยาว

Capital Group ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1931 ที่ลอสแอนเจลิส เป็นบริษัทจัดการกองทุนที่มีประสบการณ์ยาวนานและเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาเป็นที่รู้จักในสไตล์การบริหารแบบ Active Management ที่พิถีพิถัน และมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ประมาณ 2.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ค่านิยมหลักที่ผลักดัน Capital Group สู่การเป็นหนึ่งในผู้จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้แก่ ความรับผิดชอบ การมุ่งเน้นระยะยาว การทำงานร่วมกับลูกค้า และการวิเคราะห์ที่เข้มงวดเป็นพิเศษ

Capital Group มีชื่อเสียงในด้านการลงทุนระยะยาวที่เน้นการคัดเลือกหุ้นรายตัวอย่างระมัดระวัง (Bottom-up Approach) ผู้จัดการกองทุนของ Capital Group ได้รับการชดเชยตามผลลัพธ์ของการลงทุน ไม่ใช่ปริมาณสินทรัพย์ที่บริหารจัดการ ซึ่งเป็นการสร้างแรงจูงใจที่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของลูกค้า ผลิตภัณฑ์ของพวกเขารวมถึง Capital Group Global Allocation ที่เน้นการจัดสรรสินทรัพย์ทั่วโลก และ Capital Group New Perspective ที่มองหาโอกาสการลงทุนจากเทรนด์ระดับโลก ในปี 2025 Capital Group ยังคงมุ่งเน้นการลงทุนในบริษัทที่มีคุณภาพสูงและมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว โดยให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค

Goldman Sachs Asset Management: นวัตกรรมและความแม่นยำในการจัดการความมั่งคั่ง

Goldman Sachs Asset Management (GSAM) ได้ตอกย้ำตำแหน่งในกลุ่มผู้จัดการสินทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การจัดการรวม 3.17 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ประสบการณ์อันยาวนานในโลกการลงทุน วิสัยทัศน์ระดับโลก และการมุ่งเน้นลูกค้าคือปัจจัยสำคัญที่นำมาซึ่งความสำเร็จของพวกเขา GSAM โดดเด่นด้วยกระบวนการวิจัยและการคัดเลือกสินทรัพย์ที่เข้มงวดและมีระเบียบวินัย พวกเขามุ่งมั่นที่จะแสวงหาความเป็นเลิศ นวัตกรรม และสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า โดยถือว่าการบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญเชิงกลยุทธ์อันดับแรก

GSAM นำเสนอโซลูชันการลงทุนที่หลากหลาย ครอบคลุมตั้งแต่กองทุนที่เน้นผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมอย่าง Goldman Sachs Global Environmental Impact Equity Portfolio ไปจนถึงกองทุนตราสารหนี้ที่มีผลตอบแทนสูงอย่าง Goldman Sachs Global High Yield Portfolio พวกเขาเป็นผู้นำในการใช้ข้อมูลเชิงลึกและการวิเคราะห์ขั้นสูงในการตัดสินใจลงทุน และมีชื่อเสียงในด้านการจัดการความมั่งคั่งสำหรับนักลงทุนสถาบันและบุคคลที่มีความมั่งคั่งสูง ในปี 2025 GSAM กำลังลงทุนอย่างมากในเทคโนโลยี AI และ Machine Learning เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ตลาดและการสร้างพอร์ตโฟลิโอให้ดียิ่งขึ้น ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีการเงิน (Fintech) ที่กำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้น

J.P. Morgan Asset Management: มรดกแห่งความน่าเชื่อถือและการบริหารระดับโลก

J.P. Morgan Asset Management คือหน่วยงานบริหารสินทรัพย์ของ JPMorgan Chase ซึ่งบริหารจัดการเงินทุนกว่า 3.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั่วโลก บริษัทนี้ให้บริการด้านการจัดการการลงทุนที่ครอบคลุม ทั้งหุ้น ตราสารหนี้ พอร์ตโฟลิโอสินทรัพย์หลากหลาย สินทรัพย์ทางเลือก และผลิตภัณฑ์ตลาดเงิน ด้วยสำนักงานใหญ่ในนครนิวยอร์ก J.P. Morgan Asset Management นำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนแบบ Active Management ที่หลากหลาย เช่น กองทุนรวมทั่วไป กองทุน ETF บัญชีที่มีการบริหารจัดการเฉพาะบุคคล รวมถึงโซลูชันสินทรัพย์หลากหลายที่ปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้า

ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 1871 บริษัทนี้อาศัยขนาดระดับโลก แหล่งข้อมูลวิจัยภายใน และโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งของกลุ่ม J.P. Morgan ในปัจจุบัน พวกเขามีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนกว่า 2,300 คนกระจายอยู่ทั่วโลก และให้บริการลูกค้าสถาบัน ตัวกลางทางการเงิน รวมถึงนักลงทุนรายย่อย สไตล์การบริหารจัดการของพวกเขาเน้นการวิจัยเชิงลึกและวิธีการเชิงรุกในการบริหารพอร์ตโฟลิโออย่างมืออาชีพและวัดผลได้ ผลิตภัณฑ์เด่น ได้แก่ JPMorgan America Equity Fund และ JPMorgan Global Dividend Fund ในปี 2025 J.P. Morgan Asset Management ยังคงมุ่งเน้นการสร้างนวัตกรรมในการจัดการกองทุนเพื่อตอบสนองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเพื่อรองรับการเติบโตของสินทรัพย์ยุคใหม่

State Street Global Advisors: ผู้บุกเบิกกองทุนดัชนีและการลงทุนสถาบัน

State Street Global Advisors (SSGA) รั้งอันดับ 4 ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ทะลุ 4.67 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พวกเขาเป็นผู้นำในการจัดการสินทรัพย์สำหรับสถาบัน และก่อตั้งขึ้นในปี 1978 SSGA เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกที่สำคัญในอุตสาหกรรมกองทุนดัชนีและ ETF โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผลิตภัณฑ์ SPDR® ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย พวกเขามุ่งมั่นแสวงหานวัตกรรมและวางการวิจัยเป็นหัวใจสำคัญของนโยบายการลงทุน

SSGA เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้ให้บริการ SPDR® Dow Jones Industrial Average ETF Trust และ SPDR® S&P 500 ETF Trust ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในดัชนีหลักของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ด้วยต้นทุนที่ต่ำ พวกเขาให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและประสิทธิภาพในการบริหารจัดการกองทุน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดนักลงทุนสถาบันจำนวนมาก ในปี 2025 State Street Global Advisors ยังคงเป็นผู้เล่นหลักในการพัฒนาโซลูชันการลงทุนแบบ Passive และ Smart Beta โดยมีการนำข้อมูลและเทคโนโลยีมาใช้ในการปรับปรุงกลยุทธ์การลงทุนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการขยายบทบาทในด้านการลงทุนอย่างยั่งยืนเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั่วโลก

Fidelity Investments: นวัตกรรมเพื่อนักลงทุนและการจัดการเชิงรุกที่โดดเด่น

Fidelity Investments หนึ่งในบริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประสบความสำเร็จในการบริหารสินทรัพย์รวม 5.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ผู้จัดการกองทุนระดับตำนานอย่าง Peter Lynch สร้างชื่อเสียงให้กับ Fidelity ด้วยกองทุน Magellan ที่โด่งดัง Fidelity เป็นผู้จัดการกองทุนระดับโลกที่นำเสนอผลิตภัณฑ์และการสนับสนุนทั้งสำหรับบุคคลทั่วไปและลูกค้าสถาบัน โดยมุ่งมั่นที่จะค้นหาทางออกที่ดีที่สุดในระยะยาวอยู่เสมอ

Fidelity ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในผู้จัดการกองทุนที่ดีที่สุด ด้วยกระบวนการกระจายกองทุนเชิงรุกและบริการให้คำปรึกษาที่ยอดเยี่ยม ความมุ่งมั่นของพวกเขา ประกอบกับความสามารถในการวิเคราะห์ที่แข็งแกร่งและแพลตฟอร์มเทคโนโลยีระดับสูง ทำให้ Fidelity มีความโดดเด่น ผลิตภัณฑ์ของพวกเขารวมถึง Fidelity Funds – US Dollar Bond Fund และ Fidelity Global Technology Fund ซึ่งสะท้อนถึงความหลากหลายและความเชี่ยวชาญในการลงทุนในตลาดต่างๆ ในปี 2025 Fidelity กำลังให้ความสำคัญกับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยมีการพัฒนาแพลตฟอร์มและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนในยุคดิจิทัลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

Vanguard Group: ผู้บุกเบิกการลงทุนแบบดัชนีและโครงสร้างองค์กรที่ไม่เหมือนใคร

Vanguard Group คือชื่อที่ไม่เคยหลุดจากรายชื่อ 10 บริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขาเป็นผู้นำด้านกองทุนรวมดัชนีและยังคงครองอันดับสองด้วยสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) รวม 10.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ห่างจากอันดับสามเกือบเท่าตัว นับตั้งแต่ปี 1976 เป็นต้นมา Vanguard มีแนวคิดทางธุรกิจที่ชัดเจน โดยเน้นการบริหารจัดการแบบ Passive Management หรือการลงทุนตามดัชนี ซึ่ง John Bogle ผู้ก่อตั้งบริษัทในปี 1975 เป็นผู้บุกเบิกแนวคิดนี้ ผู้สืบทอดตำแหน่งของ Bogle ได้ขยายการนำเสนอผลิตภัณฑ์โดยรวมถึง ETF และกองทุนที่บริหารจัดการเชิงรุกด้วย

สิ่งที่ทำให้ Vanguard แตกต่างจากผู้จัดการกองทุนรายอื่นคือ โครงสร้างการเป็นเจ้าของที่ไม่เหมือนใคร Vanguard ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือเป็นของกลุ่มหุ้นส่วน แต่เป็นของ “ผู้เข้าร่วม” ซึ่งหมายความว่าเป็นของกองทุนรวม (Mutual Funds) และ ETF ที่พวกเขามีอยู่ ซึ่งก็คือสินทรัพย์ร่วมของนักลงทุนนั่นเอง ด้วยวิธีนี้ ผลประโยชน์ของผู้จัดการกองทุนจึงสอดคล้องกับผลประโยชน์ของลูกค้าอย่างแท้จริง ผลิตภัณฑ์ยอดนิยม ได้แก่ Vanguard Dividend Appreciation ETF และ Vanguard FTSE Developed Markets ETF ในปี 2025 Vanguard ยังคงมุ่งเน้นการให้ทางเลือกการลงทุนที่มีต้นทุนต่ำและประสิทธิภาพสูงแก่นักลงทุน โดยมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมวินัยการลงทุนระยะยาวและกลยุทธ์การกระจายความเสี่ยงอย่างชาญฉลาด

BlackRock: มหาอำนาจทางการเงิน ผู้กำหนดทิศทางตลาดโลก

BlackRock ยังคงครองบัลลังก์ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2025 ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) มหาศาลถึง 11.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พวกเขากลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีอิทธิพลมากที่สุดทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรป อิทธิพลของ BlackRock แข็งแกร่งถึงขนาดที่หน่วยงานที่ปรึกษาของพวกเขาได้รับสัญญาให้บริหารจัดการโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนเมษายน 2020 ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจจากโรคระบาดโควิด-19

BlackRock เป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม iShares ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำสำหรับผลิตภัณฑ์ ETF แพลตฟอร์มนี้มีกองทุนกว่า 700 กองที่ซื้อขายทั่วโลกและมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการมากกว่าหนึ่งล้านล้านดอลลาร์ ผลิตภัณฑ์เด่นของ BlackRock ได้แก่ iShares China Large-Cap ETF และ iShares Global Clean Energy ETF ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการเข้าถึงตลาดที่หลากหลายและเทรนด์การลงทุนในอนาคต ในปี 2025 BlackRock กำลังมุ่งเน้นไปที่การลงทุนอย่างยั่งยืน (Sustainable Investing) และการใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อปรับปรุงกระบวนการตัดสินใจและสร้างพอร์ตโฟลิโอที่ทนทานต่อความผันผวนของตลาดโลก พวกเขามองว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือ แต่เป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดอนาคตของการจัดการความมั่งคั่งและการลงทุน การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการเงิน (Fintech Infrastructure) และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics) ยังคงเป็นแกนหลักในกลยุทธ์ของ BlackRock

สรุปและก้าวต่อไปสำหรับนักลงทุน

โดยสรุปแล้ว บริษัทจัดการกองทุนยักษ์ใหญ่เหล่านี้ได้เข้ามามีบทบาทครอบงำภูมิทัศน์ทางการเงินโลกในปี 2025 พวกเขาได้รวมฐานะของตนเองในตลาด โดยมี BlackRock เป็นหัวหอกรักษาตำแหน่งผู้จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างต่อเนื่อง

สถาบันเหล่านี้บริหารจัดการความมั่งคั่งที่มีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งไม่เพียงเป็นตัวแทนของจุดสูงสุดของการบริหารสินทรัพย์เท่านั้น แต่ยังเป็นข้อพิสูจน์ถึงวิวัฒนาการและความสามารถในการปรับตัวในโลกการเงินที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ผู้จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกไม่ได้แค่เสนอผลิตภัณฑ์การลงทุน แต่ยังสะท้อนถึงแนวโน้ม นวัตกรรม และกลยุทธ์ที่ชี้นำนักลงทุนไปสู่อนาคต

ในฐานะนักลงทุน ไม่ว่าคุณจะเป็นรายย่อยหรือสถาบัน การทำความเข้าใจผู้เล่นหลักเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง พวกเขาคือผู้ที่กำลังขับเคลื่อนทิศทางของตลาด การลงทุนในนวัตกรรม และการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ การเลือกพันธมิตรที่เหมาะสมในการบริหารจัดการความมั่งคั่งจึงเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จทางการเงินในระยะยาว

แล้วคุณพร้อมหรือยังที่จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางทางการเงินนี้? หากคุณกำลังมองหาโอกาสในการลงทุนที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และเป้าหมายของคุณ อย่าลังเลที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน เพื่อวางแผนอนาคตทางการเงินที่มั่นคงและยั่งยืนไปด้วยกัน

Previous Post

N3110080 แกต องทำตามกฎฉ เพราะฉะน นค อเจ าของบ าน part 2

Next Post

N3110089 เล ยงหลานตามเพศท เก part 2

Next Post
N3110089 เล ยงหลานตามเพศท เก part 2

N3110089 เล ยงหลานตามเพศท เก part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N0111331 เวลาของเราไม เท าก part 2
  • N0111323 วยต วเOงในมหาล part 2
  • N0111327 แฟนหน าตาแบบน เป นค ณจะอายไหม part 2
  • N0111328 แกล งขอทาน #สน กด part 2
  • N0111325 แอบก uสาม เพ oนว าซ าน part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.