ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
เผย 10 บริษัทจัดการกองทุนระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในปี 2025: ขุมพลังแห่งการลงทุนที่คุณควรรู้
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในแวดวงการลงทุนที่มีประสบการณ์มานานกว่าทศวรรษ ผมเฝ้าติดตามพลวัตของตลาดการเงินโลกอย่างใกล้ชิด และในปี 2025 นี้ สิ่งที่ยังคงโดดเด่นอย่างชัดเจนคืออิทธิพลและขนาดของบริษัทจัดการกองทุนระดับยักษ์ใหญ่ การทำความเข้าใจผู้เล่นเหล่านี้ ไม่ได้เป็นเพียงการรับรู้ชื่อเท่านั้น แต่ยังเป็นการทำความเข้าใจขุมพลังที่ขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจโลก วางรากฐานสำหรับอนาคตทางการเงิน และกำหนดทิศทางของพอร์ตการลงทุนนับล้านทั่วโลก
ตลาดการลงทุนในปี 2025 เผชิญกับความท้าทายและโอกาสที่หลากหลาย ตั้งแต่ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี เช่น AI และบล็อกเชน ไปจนถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการลงทุนอย่างยั่งยืนและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (ESG) บริษัทจัดการกองทุนชั้นนำเหล่านี้ไม่เพียงแต่ปรับตัว แต่ยังเป็นผู้บุกเบิกแนวทางใหม่ๆ ในการบริหารความมั่งคั่ง เพื่อตอบสนองความต้องการที่ซับซ้อนของนักลงทุนทั้งสถาบันและรายย่อย ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) รวมกันมูลค่ามหาศาล พวกเขาคือเสาหลักของภาคส่วนการเงิน ที่มีบทบาทสำคัญในการจัดสรรเงินทุน การสร้างนวัตกรรม และการรักษาสมดุลของระบบนิเวศการลงทุนทั่วโลก
จากการสำรวจและรายงานล่าสุดของปี 2025 บริษัทจัดการกองทุนยักษ์ใหญ่ 10 อันดับแรกของโลกยังคงแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความมั่นคงที่ไม่มีใครเทียบได้ โดยรวมแล้ว บริษัทเหล่านี้บริหารจัดการสินทรัพย์มูลค่ากว่า 48.39 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งและสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของตลาดในศักยภาพการสร้างผลตอบแทนและการบริหารความเสี่ยงของพวกเขา สิ่งที่น่าสนใจคือ เจ็ดในสิบอันดับแรกมาจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งตอกย้ำถึงการครอบงำของตลาดการเงินอเมริกัน แต่ก็มีผู้เล่นสำคัญจากยุโรป เช่น Amundi จากฝรั่งเศส และ Allianz Group จากเยอรมนี ที่เข้ามาเติมเต็มในรายชื่อนี้
การจัดอันดับนี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนักเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงความเหนือกว่าของผู้จัดการกองทุนขนาดใหญ่เหล่านี้ กล่าวคือ เกือบหนึ่งในสามของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารทั่วโลกอยู่ในมือของบริษัทจัดการกองทุนยักษ์ใหญ่ทั้งสิบนี้ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงข้อได้เปรียบด้านขนาด การเข้าถึงทรัพยากรที่เหนือกว่า และความสามารถในการดึงดูดบุคลากรระดับหัวกะทิ ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายและซับซ้อนแก่นักลงทุนทั่วโลก
ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกโปรไฟล์ของ 10 บริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกประจำปี 2025 โดยพิจารณาสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) และปรัชญาการลงทุนที่ทำให้พวกเขาก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ ผมจะนำเสนอข้อมูลเชิงลึกในฐานะผู้มีประสบการณ์ เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจถึงบทบาทและศักยภาพของแต่ละองค์กร และชี้ให้เห็นถึงแนวคิดสำคัญที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ในการวางแผนการลงทุนของคุณได้
การจัดอันดับบริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกประจำปี 2025 (เรียงจากอันดับต่ำสุดไปสูงสุด)
Allianz Group
ประเทศ: เยอรมนี
สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM): 1.91 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ข้อมูล ณ มิถุนายน 2025)
Allianz Group ยักษ์ใหญ่จากเยอรมนี ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะบริษัทประกันภัยระดับโลก ได้ขยายขีดความสามารถด้านการบริหารสินทรัพย์จนติดอันดับ 10 ของโลก บริษัทแห่งนี้โดดเด่นด้วยปรัชญาการลงทุนระยะยาวที่เน้นความยั่งยืนและการบริหารความเสี่ยงที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั่วโลก AUM ของ Allianz ไม่ได้มาจากธุรกิจประกันเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงสินทรัพย์ภายใต้การบริหารของบริษัทลูกด้านการจัดการสินทรัพย์อย่าง Allianz Global Investors (AllianzGI) และ PIMCO (Pacific Investment Management Company) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้จัดการกองทุนตราสารหนี้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก การผสานรวมความเชี่ยวชาญด้านการประกันภัยกับการจัดการสินทรัพย์ ทำให้ Allianz มีมุมมองที่รอบด้านในการประเมินและลดความเสี่ยง พร้อมทั้งแสวงหาโอกาสในการลงทุนที่มั่นคงและให้ผลตอบแทนที่สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวของลูกค้า
Invesco
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM): 1.94 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ข้อมูล ณ มิถุนายน 2025)
Invesco Ltd. คืออีกหนึ่งผู้จัดการสินทรัพย์ระดับโลกที่น่าจับตาในอันดับที่ 9 บริษัทแห่งนี้มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การลงทุนที่ช่วยให้ลูกค้าบรรลุผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในชีวิต โดยมีหลักการทำงานที่สำคัญคือ “One Team” ซึ่งหมายถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและความรับผิดชอบร่วมกัน “Culture matters” ที่เน้นการรักษาวัฒนธรรมที่เปิดกว้างและส่งเสริมการทำงานร่วมกัน และ “Focused execution” ที่เน้นการดำเนินการเชิงกลยุทธ์ด้วยความรวดเร็วและความรับผิดชอบ Invesco มีชื่อเสียงในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ทั้งกองทุนรวม, ETF, และโซลูชันการลงทุนแบบกำหนดเอง โดยให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์เชิงลึกและการบริหารจัดการที่กระตือรือร้น (active management) เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับพอร์ตการลงทุนของลูกค้า Invesco ตระหนักดีว่าในตลาดที่มีความผันผวน การตัดสินใจที่ชาญฉลาดและรวดเร็วคือกุญแจสู่ความสำเร็จ
Amundi
ประเทศ: ฝรั่งเศส
สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM): 2.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ข้อมูล ณ มีนาคม 2025)
Amundi ครองตำแหน่งผู้จัดการการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และเป็นบริษัทจัดการกองทุนอันดับ 8 ของโลกในปี 2025 บริษัทนี้ให้ความสำคัญกับค่านิยมหลักเช่น “One Team” ที่ส่งเสริมการทำงานร่วมกันและความรับผิดชอบร่วมกัน นวัตกรรม และวัฒนธรรมที่เปิดกว้าง นอกจากนี้ Amundi ยังโดดเด่นด้วยความมุ่งมั่นระยะยาวต่อการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Investment) และการนำเทคโนโลยีการวิจัยที่ล้ำสมัยมาใช้เพื่อสนับสนุนลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ด้วยฐานที่แข็งแกร่งในยุโรปและเครือข่ายทั่วโลก Amundi นำเสนอโซลูชันการลงทุนที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งหุ้น ตราสารหนี้ และสินทรัพย์ทางเลือก โดยให้ความสำคัญกับการบูรณาการปัจจัย ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) เข้าสู่กระบวนการตัดสินใจลงทุน ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการลงทุนที่ยั่งยืนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2025
Capital Group
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM): 2.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
Capital Group เป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จอย่างมากด้วยสไตล์การบริหารจัดการแบบแอคทีฟ (active management) ที่เข้มข้น และมีการเติบโตที่โดดเด่นจนก้าวขึ้นมาอยู่ในสิบอันดับแรกของผู้จัดการสินทรัพย์ที่ดีที่สุดในโลก บริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1931 ที่ลอสแอนเจลิส และมีประสบการณ์ยาวนานเกือบศตวรรษในอุตสาหกรรมการลงทุน นอกจากสำนักงานใหญ่ในสหรัฐอเมริกาแล้ว Capital Group ยังมีสำนักงานในหลายประเทศในเอเชีย เช่น ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ สิงคโปร์ และโตเกียว ค่านิยมที่ทำให้ Capital Group เป็นหนึ่งในผู้จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้แก่ ความรับผิดชอบ การมุ่งเน้นระยะยาว การทำงานร่วมกับลูกค้า และการวิเคราะห์ที่เข้มงวด พวกเขามีชื่อเสียงในเรื่องการวิจัยเชิงลึกและการบริหารจัดการพอร์ตโฟลิโอที่มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าระยะยาว ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในสภาวะตลาดที่หลากหลาย
Goldman Sachs Asset Management
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM): 3.17 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
Goldman Sachs Asset Management (GSAM) ได้ตอกย้ำสถานะของตนในฐานะหนึ่งในผู้จัดการสินทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมกว่า 3.17 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ประสบการณ์อันยาวนานในโลกของการลงทุน วิสัยทัศน์ระดับโลก และการให้ความสำคัญกับลูกค้าคือปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จนี้ GSAM โดดเด่นในด้านกระบวนการวิจัยและการคัดเลือกสินทรัพย์ที่เข้มงวดและมีระเบียบวินัย ผู้จัดการของ GSAM มุ่งมั่นที่จะแสวงหาความเป็นเลิศ นวัตกรรม และสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า โดยถือว่าการบริหารความเสี่ยงเป็นหนึ่งในลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์สูงสุด พวกเขานำเสนอโซลูชันการลงทุนที่หลากหลาย ตั้งแต่กองทุนแบบดั้งเดิมไปจนถึงผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่ซับซ้อน ตอบสนองความต้องการของนักลงทุนสถาบัน กองทุนบำนาญ และบุคคลที่มีความมั่งคั่งสูง ด้วยชื่อเสียงที่สั่งสมมายาวนานในฐานะผู้นำด้านการเงิน Goldman Sachs ยังคงเป็นผู้เล่นสำคัญในการกำหนดทิศทางของตลาดทุนโลก
J.P. Morgan Asset Management
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM): 3.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
J.P. Morgan Asset Management ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ JPMorgan Chase Group คือผู้นำระดับโลกด้านการบริหารสินทรัพย์ ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหารกว่า 3.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ บริษัทนี้ให้บริการการจัดการการลงทุนที่ครอบคลุม ทั้งในส่วนของหุ้น ตราสารหนี้ พอร์ตโฟลิโอแบบ Multi-Asset ตราสารทางเลือก และผลิตภัณฑ์ตลาดเงิน ด้วยสำนักงานใหญ่ในนิวยอร์กซิตี้ J.P. Morgan Asset Management นำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนแบบ Active Management ที่หลากหลาย เช่น กองทุนรวม ETF บัญชีการลงทุนแบบพิเศษ และโซลูชัน Multi-Asset ที่ปรับให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าแต่ละราย ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ปี 1871 บริษัทนี้อาศัยขนาดระดับโลก ทรัพยากรการวิจัยภายในที่แข็งแกร่ง และโครงสร้างพื้นฐานที่มั่นคงของกลุ่ม J.P. Morgan ปัจจุบันพวกเขามีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนกว่า 2,300 คนกระจายอยู่ทั่วโลก และให้บริการลูกค้าสถาบัน ตัวกลางทางการเงิน และนักลงทุนรายบุคคลอย่างมืออาชีพ แนวทางการบริหารจัดการของพวกเขาเน้นการวิจัยเชิงลึกและแนวคิดแบบ Active Management ในการบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างมืออาชีพและวัดผลได้
State Street Global Advisors
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM): 4.67 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
State Street Global Advisors ยืนอยู่แถวหน้าในฐานะผู้จัดการการลงทุนสถาบันที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารที่น่าประทับใจกว่า 4.67 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ บริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1978 และเป็นผู้นำด้านกองทุนดัชนี (Index Funds) รวมถึงเป็นผู้บุกเบิกในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ ETF (Exchange Traded Funds) ภายใต้แบรนด์ SPDR (Standard & Poor’s Depositary Receipts) พวกเขามุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและให้ความสำคัญกับการวิจัยเป็นแกนหลักของนโยบายการลงทุน ซึ่งทำให้ State Street สามารถนำเสนอโซลูชันที่ทันสมัยและตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็ว ในปี 2025 นี้ State Street ยังคงเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันการลงทุนแบบเชิงรับ (passive investing) และเทคโนโลยีที่สนับสนุนการจัดการพอร์ตโฟลิโอขนาดใหญ่ ด้วยความเชี่ยวชาญในการสร้างกองทุนที่สะท้อนดัชนีตลาด พวกเขาช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงตลาดที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพและต้นทุนต่ำ
Fidelity Investments
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM): 5.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
Fidelity Investments คือหนึ่งในบริษัทการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการสินทรัพย์มูลค่าสูงถึง 5.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ผู้จัดการการลงทุนแห่งนี้โดดเด่นด้วยตำนานนักลงทุนอย่าง Peter Lynch ที่สร้างชื่อเสียงด้วยกองทุน Magellan อันโด่งดัง Fidelity เป็นผู้จัดการการลงทุนระดับโลกที่ให้บริการและให้การสนับสนุนทั้งนักลงทุนรายบุคคลและลูกค้าสถาบัน โดยมุ่งมั่นที่จะค้นหาโซลูชันที่ดีที่สุดในระยะยาวเสมอ ด้วยกระบวนการกระจายการลงทุนแบบ Active Management ของกองทุนต่างๆ และการนำเสนอบริการให้คำปรึกษา ทำให้ Fidelity ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในผู้จัดการกองทุนที่ดีที่สุด ความมุ่งมั่นของพวกเขา ผนวกกับความสามารถในการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม และแพลตฟอร์มเทคโนโลยีระดับสูง ล้วนเป็นส่วนเติมเต็มที่สำคัญที่ทำให้ Fidelity ยังคงเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ สำหรับนักลงทุนที่ต้องการความเชี่ยวชาญและนวัตกรรมในพอร์ตโฟลิโอของตน
Vanguard Group
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM): 10.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
Vanguard Group คือบริษัทที่ไม่อาจมองข้ามได้ในรายชื่อ 10 บริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขายังคงครองอันดับสองด้วย AUM รวมกว่า 10.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ทิ้งห่างอันดับสามเกือบสองเท่าตัว Vanguard เป็นที่รู้จักในฐานะผู้บุกเบิกและผู้นำด้านกองทุนรวมดัชนี (Index Mutual Funds) และ ETF พวกเขามีแนวคิดทางธุรกิจที่ชัดเจนและแข็งแกร่งมาตั้งแต่ปี 1976 โดย John Bogle ผู้ก่อตั้ง Vanguard ในปี 1975 ได้เน้นย้ำถึงการบริหารจัดการแบบเชิงรับ (passive management) ที่มีต้นทุนต่ำ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับตลาดมากที่สุด สิ่งที่แตกต่างจากผู้จัดการกองทุนรายอื่นคือ Vanguard ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือเป็นเจ้าของโดยหุ้นส่วน แต่เป็นเจ้าของโดยผู้เข้าร่วมกองทุนเอง นั่นหมายความว่า กองทุนรวมและ ETF ของ Vanguard เป็นเจ้าของร่วมกันโดยนักลงทุน ซึ่งทำให้ผลประโยชน์ของผู้จัดการสอดคล้องกับผลประโยชน์ของลูกค้าอย่างแท้จริง แนวคิดนี้ได้ปฏิวัติอุตสาหกรรมการลงทุนและทำให้ Vanguard กลายเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับนักลงทุนที่มองหาประสิทธิภาพและค่าธรรมเนียมที่โปร่งใส
BlackRock
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM): 11.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
BlackRock ยังคงเป็นราชาผู้ครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในบรรดาบริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกประจำปี 2025 ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหารที่น่าทึ่งถึง 11.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พวกเขาเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีอิทธิพลมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ด้วยขนาดที่ใหญ่โตและความเชี่ยวชาญที่ครอบคลุม BlackRock มีอิทธิพลอย่างมากถึงขนาดที่แผนกให้คำปรึกษาของพวกเขาได้รับสัญญาให้บริหารจัดการโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ นอกจากนี้ BlackRock ยังเป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม iShares ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำสำหรับผลิตภัณฑ์ ETF แพลตฟอร์มนี้มีกองทุนที่ซื้อขายทั่วโลกมากกว่า 700 กองทุน และบริหารสินทรัพย์กว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ BlackRock ไม่เพียงแต่เป็นผู้จัดการกองทุน แต่ยังเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีการลงทุน โดยมีแพลตฟอร์ม Aladdin ที่เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ความเสี่ยงและพอร์ตโฟลิโอที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม สิ่งเหล่านี้ตอกย้ำถึงตำแหน่งผู้นำที่ไร้คู่แข่งของ BlackRock ในโลกของการลงทุนปี 2025
บทสรุปและอนาคตของการลงทุน
โดยสรุปแล้ว บริษัทจัดการกองทุนยักษ์ใหญ่เหล่านี้ได้เข้ามาครอบงำภูมิทัศน์ทางการเงินทั่วโลกในปี 2025 พวกเขาได้รวมสถานะของตนในตลาดไว้อย่างมั่นคง โดยมี BlackRock เป็นผู้นำสูงสุด รักษาบัลลังก์ในฐานะผู้จัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สถาบันเหล่านี้ร่วมกันบริหารจัดการความมั่งคั่งที่มีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งไม่เพียงแต่แสดงถึงจุดสูงสุดของการบริหารสินทรัพย์เท่านั้น แต่ยังเป็นข้อพิสูจน์ถึงวิวัฒนาการและความสามารถในการปรับตัวในโลกการเงินที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเห็นว่าผู้จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกเหล่านี้ไม่ได้นำเสนอแค่ผลิตภัณฑ์การลงทุนเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงแนวโน้ม นวัตกรรม และกลยุทธ์ที่ชี้นำนักลงทุน ท่ามกลางความซับซ้อนของตลาดโลกในปี 2025 การทำความเข้าใจปรัชญา กลยุทธ์ และขอบเขตการดำเนินงานของบริษัทเหล่านี้ จะช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น และวางแผนพอร์ตการลงทุนที่แข็งแกร่งและสอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาว
ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารไหลบ่า การเลือกผู้จัดการสินทรัพย์ที่เหมาะสมคือหัวใจสำคัญของการสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน ผมขอเชิญชวนให้คุณใช้ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นในการศึกษาและทำความเข้าใจโลกของการลงทุนให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น อย่าลังเลที่จะสำรวจโอกาสการลงทุนที่บริษัทเหล่านี้มอบให้ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเพื่อสร้างกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะกับคุณที่สุด เพราะอนาคตทางการเงินของคุณ เริ่มต้นจากการตัดสินใจที่รอบรู้ในวันนี้
10 บริษัทจัดการกองทุนระดับโลกผู้ทรงอิทธิพลที่สุดประจำปี 2025
ในโลกการเงินที่หมุนไปอย่างรวดเร็วและซับซ้อน การเลือกพันธมิตรที่เหมาะสมในการบริหารจัดการความมั่งคั่งคือหัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จระยะยาว ตลอดทศวรรษที่ผ่านมาในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ผมได้เห็นพลวัตของตลาดเปลี่ยนแปลงไปอย่างมหาศาล และในปี 2025 นี้ แรงขับเคลื่อนหลักยังคงอยู่ที่ยักษ์ใหญ่แห่งวงการบริหารสินทรัพย์ หรือที่เรารู้จักกันในนาม “บริษัทจัดการกองทุน” (Investment Fund Managers) หรือ “ผู้จัดการสินทรัพย์” (Asset Managers)
บริษัทเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นผู้ดูแลเงินทุนมหาศาลของนักลงทุนทั่วโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้กำหนดทิศทาง ตลอดจนสร้างนวัตกรรมและกลยุทธ์การลงทุนที่เปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางการเงิน การทำความเข้าใจขีดความสามารถ ปรัชญา และผลิตภัณฑ์ของบริษัทเหล่านี้จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนทุกระดับ ที่กำลังมองหาโอกาสและเสถียรภาพในการลงทุนในยุคที่เต็มไปด้วยความท้าทาย
ในบทความนี้ เราจะเจาะลึก 10 บริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกประจำปี 2025 โดยพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (Assets Under Management – AUM) ซึ่งเป็นเครื่องสะท้อนถึงขนาด ศักยภาพ และความไว้วางใจที่พวกเขาได้รับจากนักลงทุน เราจะมาดูกันว่าบริษัทใดบ้างที่ครองตำแหน่งผู้นำ และอะไรคือปัจจัยที่ทำให้พวกเขายืนหยัดอยู่บนจุดสูงสุดของอุตสาหกรรมนี้ได้ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของตลาดโลกที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ภาพรวมตลาดผู้จัดการสินทรัพย์ระดับโลกในปี 2025
ตามรายงานล่าสุดจาก Investing in The Web พบว่า BlackRock ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในฐานะบริษัทจัดการการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกประจำปี 2025 ตามมาด้วย Vanguard ที่ครองอันดับสองอย่างแข็งแกร่ง
บริษัทจัดการลงทุน 10 อันดับแรกของโลกนี้บริหารจัดการความมั่งคั่งรวมกันกว่า 48.39 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งและสะท้อนถึงการรวมศูนย์อำนาจในอุตสาหกรรมนี้ โดย 7 ใน 10 อันดับแรกมาจากสหรัฐอเมริกา ที่เหลือเป็นบริษัทจัดการกองทุนจากยุโรป ได้แก่ Amundi จากฝรั่งเศส และ Allianz Group จากเยอรมนี ซึ่งล้วนติดอันดับท็อป 10 เช่นกัน
รายการนี้แสดงให้เห็นว่ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในแง่ของผู้นำตลาด และเป็นหลักฐานที่ยืนยันถึงอำนาจอันยิ่งใหญ่ของผู้จัดการกองทุนยักษ์ใหญ่เหล่านี้ เมื่อเทียบกับผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาด เงินเกือบหนึ่งในสามของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการทั่วโลกอยู่ในมือของสิบบริษัทนี้
ผู้จัดการกองทุนเหล่านี้มีใครบ้าง และอะไรคือจุดเด่นที่ทำให้พวกเขาก้าวขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งในภูมิทัศน์การลงทุนของปี 2025? มาสำรวจผู้จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกตามมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ณ เดือนมิถุนายน 2568 กันครับ
อันดับบริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกประจำปี 2025 (เรียงจากน้อยไปหามากตาม AUM)
| บริษัทจัดการลงทุน | ประเทศ | สินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) |
|---|---|---|
| Allianz Group | เยอรมนี | US$ 1.91 ล้านล้าน |
| Invesco | สหรัฐฯ | US$ 1.94 ล้านล้าน |
| Amundi | ฝรั่งเศส | US$ 2.6 ล้านล้าน |
| Capital Group | สหรัฐฯ | US$ 2.8 ล้านล้าน |
| Goldman Sachs Group | สหรัฐฯ | US$ 3.17 ล้านล้าน |
| J.P. Morgan Asset Management | สหรัฐฯ | US$ 3.7 ล้านล้าน |
| State Street Global Advisors | สหรัฐฯ | US$ 4.67 ล้านล้าน |
| Fidelity Investments | สหรัฐฯ | US$ 5.9 ล้านล้าน |
| Vanguard Group | สหรัฐฯ | US$ 10.1 ล้านล้าน |
| BlackRock | สหรัฐฯ | US$ 11.6 ล้านล้าน |
(ข้อมูล ณ วันที่ 27 มิถุนายน 2568)
Allianz Group (เยอรมนี) – US$ 1.91 ล้านล้าน
Allianz Group ยักษ์ใหญ่จากเยอรมนีผู้นี้ไม่เพียงแต่เป็นบริษัทประกันภัยระดับโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้จัดการสินทรัพย์ที่มีความน่าเชื่อถือสูง ด้วย AUM รวมกว่า 1.91 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ เดือนมิถุนายน 2025 ซึ่งรวมถึงสินทรัพย์จากบริษัทประกันภัย Allianz และบริษัทย่อยด้านการบริหารสินทรัพย์อย่าง Allianz Global Investors (AllianzGI) และ PIMCO ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้จัดการกองทุนตราสารหนี้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ปรัชญาการลงทุนของ Allianz ยึดมั่นในแนวทางระยะยาว (long-term investment strategy) และให้ความสำคัญกับการลงทุนอย่างยั่งยืน (sustainable investment) ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการความเสี่ยงที่แข็งแกร่ง (risk management) สิ่งเหล่านี้ทำให้พวกเขาได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนทั่วโลก สำหรับปี 2025 Allianz ยังคงมุ่งเน้นการผสานปัจจัย ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล) เข้าไปในกระบวนการลงทุนอย่างลึกซึ้ง พร้อมนำเสนอนวัตกรรมกองทุนที่ตอบโจทย์ megatrends ใหม่ๆ
จุดเด่น: การบริหารจัดการความเสี่ยงที่เข้มงวด, การลงทุนที่ยั่งยืน, และความเชี่ยวชาญในตราสารหนี้ผ่าน PIMCO
ตัวอย่างกองทุนเด่น:
Allianz Global Sustainability Fund: มุ่งเน้นการลงทุนในบริษัทที่มีการดำเนินงานยั่งยืน
Allianz Global Artificial Intelligence Fund: กองทุนที่ลงทุนในบริษัทชั้นนำด้าน AI ซึ่งเป็นเทรนด์เทคโนโลยีสำคัญในปี 2025
Invesco (สหรัฐฯ) – US$ 1.94 ล้านล้าน
Invesco Ltd. เป็นหนึ่งในผู้จัดการสินทรัพย์ระดับโลกที่โดดเด่น ด้วย AUM รวม 1.94 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ วันที่ 28 มิถุนายน 2025 ภารกิจหลักของ Invesco คือการมอบประสบการณ์การลงทุนที่ช่วยให้ลูกค้าบรรลุผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในชีวิต โดยยึดหลักปรัชญา “One Team” (ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและความรับผิดชอบร่วมกัน), “Culture matters” (การรักษาวัฒนธรรมที่เปิดกว้างและร่วมมือ) และ “Focused execution” (การดำเนินกลยุทธ์อย่างรวดเร็วและมีความรับผิดชอบ)
ในปี 2025 Invesco ยังคงเน้นย้ำถึงความสำคัญของการวิจัยเชิงลึกและโซลูชั่นที่ปรับให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าเฉพาะบุคคล ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนสถาบันหรือรายย่อย พวกเขามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่กองทุนดัชนีไปจนถึงกลยุทธ์การลงทุนทางเลือก (alternative investments) ซึ่งเป็นที่ต้องการมากขึ้นในสภาวะตลาดปัจจุบัน
จุดเด่น: ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์, การทำงานเป็นทีมที่แข็งแกร่ง, และการนำเสนอโซลูชั่นที่ตอบโจทย์เฉพาะบุคคล
ตัวอย่างกองทุนเด่น:
Invesco S&P 500 Index Fund: กองทุนดัชนีที่ติดตามผลการดำเนินงานของดัชนี S&P 500
Invesco Value Opportunities Fund: มุ่งเน้นการค้นหาหุ้นที่มีมูลค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็นในตลาด
Amundi (ฝรั่งเศส) – US$ 2.6 ล้านล้าน
Amundi ผู้จัดการการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และครองอันดับ 8 ของโลก ด้วย AUM รวม 2.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ วันที่ 30 มีนาคม 2025 Amundi ให้ความสำคัญกับคุณค่าหลักเช่นเดียวกับ Invesco ในเรื่องความร่วมมือและความรับผิดชอบร่วมกัน (“One Team”), นวัตกรรมและวัฒนธรรมที่เปิดกว้าง รวมถึงการดำเนินกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นและมีประสิทธิภาพ
Amundi มีความมุ่งมั่นระยะยาวต่อการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ (responsible investment) และใช้เทคโนโลยีการวิจัยที่ล้ำสมัยเพื่อสนับสนุนลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด ในปี 2025 Amundi ยังคงเป็นผู้นำในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ESG และเป็นผู้บุกเบิกในการนำ AI และ Big Data มาใช้ในการวิเคราะห์ตลาด เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกที่แม่นยำยิ่งขึ้นสำหรับการวางแผนการเงินและกลยุทธ์การลงทุน
จุดเด่น: ผู้นำในยุโรป, ความมุ่งมั่นด้าน ESG, และการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการวิเคราะห์การลงทุน
ตัวอย่างกองทุนเด่น:
Amundi Funds US Equity Fundamental Growth: เน้นลงทุนในหุ้นเติบโตของสหรัฐฯ
Amundi Funds Global Aggregate Bond: กองทุนตราสารหนี้ระดับโลกที่กระจายความเสี่ยงได้ดี
Capital Group (สหรัฐฯ) – US$ 2.8 ล้านล้าน
Capital Group บริษัทจัดการกองทุนสไตล์ Active Management ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียง ก่อตั้งขึ้นในปี 1931 ที่ลอสแอนเจลิส และปัจจุบันมี AUM ประมาณ 2.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ บริษัทมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญและไต่อันดับขึ้นมาอยู่ในกลุ่ม 10 อันดับแรกของโลก
Capital Group มีสำนักงานในหลายประเทศในเอเชีย รวมถึงฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ สิงคโปร์ และโตเกียว คุณค่าที่ทำให้ Capital Group เป็นหนึ่งในผู้จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้แก่ ความรับผิดชอบ การมุ่งเน้นระยะยาว การทำงานร่วมกับลูกค้า และการวิเคราะห์ที่เข้มงวด ค่าตอบแทนของผู้จัดการกองทุนขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ ไม่ใช่มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ ซึ่งสะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของนักลงทุนอย่างแท้จริง
ในปี 2025 Capital Group ยังคงเป็นผู้เล่นสำคัญในการบริหารความมั่งคั่ง (wealth management) และการสร้างพอร์ตลงทุน (build investment portfolio) สำหรับนักลงทุนที่ต้องการการบริหารจัดการเชิงรุกที่เน้นการคัดเลือกหลักทรัพย์อย่างละเอียด
จุดเด่น: การบริหารจัดการเชิงรุกที่มีประวัติยาวนาน, การวิเคราะห์เชิงลึก, และการมุ่งเน้นผลลัพธ์ของนักลงทุน
ตัวอย่างกองทุนเด่น:
Capital Group Global Allocation: กองทุนที่กระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภททั่วโลก
Capital Group New Perspective: กองทุนที่ลงทุนในบริษัทระดับโลกที่มีศักยภาพการเติบโต
Goldman Sachs Asset Management (สหรัฐฯ) – US$ 3.17 ล้านล้าน
Goldman Sachs Asset Management (GSAM) ยืนหยัดในฐานะหนึ่งในผู้จัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วย AUM รวม 3.17 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ประสบการณ์อันยาวนานในโลกการลงทุน วิสัยทัศน์ระดับโลก และการให้ความสำคัญกับลูกค้า ได้ส่งผลให้ GSAM ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง
GSAM โดดเด่นด้วยกระบวนการวิจัยและการคัดเลือกสินทรัพย์ที่เข้มงวดและมีระเบียบวินัย ผู้จัดการของ GSAM มุ่งมั่นที่จะแสวงหาความเป็นเลิศ นวัตกรรม และสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า พวกเขายังให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงในฐานะกลยุทธ์สำคัญ ในปี 2025 GSAM ได้นำเทคโนโลยี AI ในการลงทุน (AI in investment) และการวิเคราะห์ข้อมูลมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจ และนำเสนอโซลูชั่นการลงทุนที่ซับซ้อนและปรับแต่งได้
จุดเด่น: ประสบการณ์ระดับโลก, การวิจัยเชิงลึก, และการบริหารความเสี่ยงที่ยอดเยี่ยม
ตัวอย่างกองทุนเด่น:
Goldman Sachs Global Environmental Impact Equity Portfolio: ลงทุนในบริษัทที่มีผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม
Goldman Sachs Global High Yield Portfolio: กองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ที่มีผลตอบแทนสูง
J.P. Morgan Asset Management (สหรัฐฯ) – US$ 3.7 ล้านล้าน
J.P. Morgan Asset Management เป็นส่วนงานบริหารสินทรัพย์ของ JPMorgan Chase ซึ่งบริหารจัดการเงินทุนกว่า 3.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั่วโลก บริษัทให้บริการจัดการการลงทุนที่ครอบคลุมทั้งหุ้น ตราสารหนี้ พอร์ตโฟลิโอแบบ Multi-Asset เครื่องมือลงทุนทางเลือก (alternatives) และผลิตภัณฑ์ตลาดเงิน (liquidity products)
J.P. Morgan Asset Management มีสำนักงานใหญ่ในนครนิวยอร์ก และนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนแบบ Active Management ที่หลากหลาย เช่น กองทุนรวมทั่วไป, ETF, บัญชีการลงทุนเฉพาะบุคคล, และโซลูชั่น Multi-Asset ที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้า ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ปี 1871 บริษัทอาศัยขนาดที่ใหญ่ระดับโลก แหล่งข้อมูลการวิจัยภายใน และโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งของกลุ่ม J.P. Morgan ปัจจุบันพวกเขามีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนกว่า 2,300 คนกระจายอยู่ทั่วโลก และให้บริการลูกค้าสถาบัน ผู้แนะนำทางการเงิน และนักลงทุนรายบุคคล
ในปี 2025 J.P. Morgan Asset Management ยังคงให้ความสำคัญกับการวิจัยเชิงลึกและการบริหารพอร์ตโฟลิโอเชิงรุกอย่างมืออาชีพและวัดผลได้ เพื่อให้การปรึกษาการลงทุนส่วนบุคคล (personal investment consultation) เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
จุดเด่น: ประวัติศาสตร์ยาวนาน, ขนาดระดับโลก, และความเชี่ยวชาญใน Active Management
ตัวอย่างกองทุนเด่น:
JPMorgan America Equity Fund: กองทุนหุ้นสหรัฐฯ ที่มีหลากหลายประเภทสินทรัพย์ย่อย
JPMorgan Global Dividend Fund: กองทุนที่เน้นลงทุนในบริษัทที่จ่ายเงินปันผลดีทั่วโลก
State Street Global Advisors (สหรัฐฯ) – US$ 4.67 ล้านล้าน
State Street Global Advisors (SSGA) รั้งอันดับ 4 ของบริษัทจัดการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกในแง่ของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ ด้วย AUM ที่สูงกว่า 4.67 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อตั้งขึ้นในปี 1978 SSGA เป็นผู้จัดการสินทรัพย์สถาบันชั้นนำและเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกตลาดกองทุนดัชนี (index funds) และ ETF
SSGA มุ่งเน้นนวัตกรรมและให้ความสำคัญกับการวิจัยเป็นแกนหลักของนโยบายการลงทุน บริษัทนี้เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้สร้าง SPDR S&P 500 ETF (SPY) ซึ่งเป็นหนึ่งใน ETF ที่ใหญ่และมีการซื้อขายมากที่สุดในโลก สำหรับปี 2025 SSGA ยังคงเป็นผู้นำในการนำเสนอโซลูชั่นการลงทุนแบบ Passive ที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งขยายขอบเขตการลงทุนไปยังสินทรัพย์ดิจิทัลและกลยุทธ์การลงทุนทางเลือกใหม่ๆ
จุดเด่น: ผู้นำด้านกองทุนดัชนีและ ETF, เน้นการวิจัยและนวัตกรรม, และให้บริการลูกค้าสถาบันเป็นหลัก
ตัวอย่างกองทุนเด่น:
SPDR Dow Jones Industrial Average ETF Trust (DIA): ETF ที่ติดตามดัชนี Dow Jones Industrial Average
SPDR S&P 500 ETF Trust (SPY): ETF ที่ติดตามดัชนี S&P 500 ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมาก
Fidelity Investments (สหรัฐฯ) – US$ 5.9 ล้านล้าน
Fidelity Investments เป็นหนึ่งในบริษัทการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ 5.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ Fidelity เป็นที่รู้จักในฐานะผู้จัดการการลงทุนระดับโลกที่ให้บริการและสนับสนุนทั้งลูกค้าบุคคลและสถาบัน โดยมุ่งมั่นที่จะนำเสนอโซลูชั่นที่ดีที่สุดในระยะยาว
Fidelity มีชื่อเสียงจากตำนานนักลงทุนอย่าง Peter Lynch และกองทุน Magellan ที่โด่งดัง ผ่านกระบวนการกระจายการลงทุนเชิงรุก (active distribution) และการนำเสนอบริการให้คำปรึกษา ทำให้ Fidelity ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในผู้จัดการกองทุนที่ดีที่สุดในตลาด ความมุ่งมั่นของพวกเขา ประกอบกับความสามารถในการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม และแพลตฟอร์มเทคโนโลยีระดับสูง ทำให้ Fidelity เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการการบริหารความมั่งคั่งครบวงจร รวมถึงการวางแผนเกษียณอายุ (retirement planning) และการลงทุนสำหรับคนรุ่นใหม่ (investment for new generation)
จุดเด่น: บริการครบวงจรสำหรับบุคคลและสถาบัน, การบริหารจัดการเชิงรุก, และแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ตัวอย่างกองทุนเด่น:
Fidelity Funds – US Dollar Bond Fund: กองทุนตราสารหนี้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
Fidelity Global Technology Fund: เน้นลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก
Vanguard Asset Management (สหรัฐฯ) – US$ 10.1 ล้านล้าน
Vanguard ไม่เคยพลาดที่จะติดอันดับ 10 บริษัทลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นผู้นำในด้านกองทุนรวมดัชนี (index mutual funds) โดยยังคงอยู่ในอันดับที่สองด้วย AUM รวม 10.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งห่างจากอันดับสามเกือบสองเท่า
นับตั้งแต่ปี 1976 จนถึงปัจจุบัน Vanguard มีแนวคิดทางธุรกิจที่ชัดเจน ผู้จัดการกองทุนนี้มีชื่อเสียงในด้านการบริหารจัดการแบบ Passive (passive management) ที่แข็งแกร่ง John Bogle ผู้ก่อตั้งบริษัทในปี 1975 ได้วางรากฐานแนวคิดนี้ ผู้สืบทอดตำแหน่งต่อมาได้ขยายผลิตภัณฑ์ไปสู่ ETF และกองทุน Active Management แต่หัวใจหลักของ Vanguard ยังคงอยู่ที่การลงทุนแบบ Passive ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ
Vanguard แตกต่างจากผู้จัดการรายอื่นตรงที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือเป็นเจ้าของโดยหุ้นส่วน แต่เป็นเจ้าของโดยผู้เข้าร่วมกองทุน นั่นหมายความว่าเป็นเจ้าของโดยกองทุนรวม (mutual funds) และ ETF ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของพวกเขา ด้วยวิธีนี้ ผลประโยชน์ของผู้จัดการจะสอดคล้องกับผลประโยชน์ของลูกค้า ทำให้ Vanguard เป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือสำหรับนักลงทุนที่มองหาความโปร่งใสและค่าใช้จ่ายที่ต่ำในการลงทุนระยะยาว
จุดเด่น: ผู้นำกองทุนดัชนีและ ETF, ค่าธรรมเนียมต่ำ, และโครงสร้างบริษัทที่โปร่งใสโดยมีลูกค้าเป็นเจ้าของ
ตัวอย่างกองทุนเด่น:
Vanguard Dividend Appreciation ETF: ETF ที่เน้นลงทุนในบริษัทที่เพิ่มเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง
Vanguard FTSE Developed Markets ETF: ETF ที่ลงทุนในตลาดพัฒนาแล้วทั่วโลก
BlackRock (สหรัฐฯ) – US$ 11.6 ล้านล้าน
BlackRock ยังคงเป็นราชาแห่งวงการการเงิน โดยรั้งตำแหน่งอันดับหนึ่งใน 10 อันดับบริษัทจัดการการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกประจำปี 2025 ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการที่สูงถึง 11.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พวกเขาเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีอิทธิพลมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาและยุโรป
อิทธิพลของ BlackRock มีมากถึงขนาดที่แผนกให้คำปรึกษาของพวกเขาได้รับสัญญาให้บริหารจัดการโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนเมษายน 2020 (ท่ามกลางวิกฤตการณ์โควิด-19) BlackRock เป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม iShares ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ ETF ชั้นนำระดับโลก แพลตฟอร์มนี้มีกองทุนกว่า 700 กองทุนที่ซื้อขายทั่วโลกและมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ในปี 2025 BlackRock ยังคงเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการลงทุน (investment innovation) ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีการวิเคราะห์เชิงลึกอย่าง Aladdin แพลตฟอร์มบริหารความเสี่ยงอันทรงพลัง หรือการเป็นผู้บุกเบิกในการนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนในตลาดเกิดใหม่และสินทรัพย์ทางเลือก รวมถึงการลงทุนใน ESG ที่เป็นหัวใจสำคัญของการสร้างพอร์ตโฟลิโอในปัจจุบันและอนาคต
จุดเด่น: ผู้จัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก, แพลตฟอร์ม ETF ที่แข็งแกร่ง (iShares), และเทคโนโลยีการวิเคราะห์ความเสี่ยงระดับโลก (Aladdin)
ตัวอย่างกองทุนเด่น:
iShares China Large-Cap ETF: ETF ที่ลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ของจีน
iShares Global Clean Energy ETF: ETF ที่ลงทุนในบริษัทพลังงานสะอาดทั่วโลก
สรุปและบทส่งท้าย
โดยสรุปแล้ว บริษัทจัดการกองทุนเหล่านี้ได้ครองภูมิทัศน์ทางการเงินทั่วโลกในปี 2025 และได้รวมตำแหน่งที่มั่นคงในตลาด โดยมี BlackRock เป็นผู้นำและยังคงรักษาบัลลังก์ในฐานะผู้จัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
สถาบันเหล่านี้ร่วมกันบริหารจัดการความมั่งคั่งมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งไม่เพียงแต่แสดงถึงจุดสูงสุดของการบริหารสินทรัพย์เท่านั้น แต่ยังเป็นข้อพิสูจน์ถึงวิวัฒนาการและความสามารถในการปรับตัวในโลกการเงินที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผู้จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกเหล่านี้ไม่เพียงแต่นำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้ม นวัตกรรม และกลยุทธ์ที่ชี้นำนักลงทุนไปสู่การตัดสินใจที่ชาญฉลาดในระยะยาว
ในฐานะนักลงทุน การทำความเข้าใจขีดความสามารถและปรัชญาของยักษ์ใหญ่เหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างมีกลยุทธ์และมั่นใจยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนรายย่อยที่ต้องการสร้างพอร์ตลงทุนเพื่อเป้าหมายทางการเงิน หรือนักลงทุนสถาบันที่กำลังมองหาผู้จัดการสินทรัพย์ที่เชื่อถือได้ ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการตัดสินใจ
หากคุณต้องการสำรวจตัวเลือกการลงทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายและความเสี่ยงที่คุณรับได้ หรือต้องการคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อบริหารความมั่งคั่งในโลกที่ซับซ้อนนี้ อย่าลังเลที่จะปรึกษาการลงทุนกับผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนการเงิน เพื่อค้นหาหนทางที่ดีที่สุดสู่ความสำเร็จทางการเงินของคุณในปี 2025 และต่อ ๆ ไป.
