• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N3010515 กฉ นเป นผ ชาย EP3 part 2

admin79 by admin79
October 29, 2025
in Uncategorized
0
N3010515 กฉ นเป นผ ชาย EP3 part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

10 บริษัทจัดการกองทุนระดับโลก: ผู้นำที่กำหนดภูมิทัศน์การลงทุนปี 2025

ในโลกแห่งการลงทุนปี 2025 ที่เต็มไปด้วยพลวัตและความท้าทาย บริษัทจัดการกองทุน (Investment Fund Managers) ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกยังคงเป็นเสาหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและกำหนดทิศทางการลงทุน ด้วยความเชี่ยวชาญเชิงลึก ประสบการณ์ยาวนาน และการบริหารสินทรัพย์มูลค่ามหาศาล พวกเขาไม่เพียงแต่เป็นผู้ดูแลความมั่งคั่งของนักลงทุนหลายล้านคนทั่วโลก แต่ยังเป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรมและกลยุทธ์ที่ตอบสนองต่อแนวโน้มตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

ในฐานะผู้มีประสบการณ์กว่าทศวรรษในวงการการเงิน ผมได้เฝ้าสังเกตการณ์วิวัฒนาการของอุตสาหกรรมนี้อย่างใกล้ชิด และในปี 2025 นี้ สิ่งที่เราเห็นคือการรวมศูนย์อำนาจของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่สามารถปรับตัวและสร้างมูลค่าได้อย่างต่อเนื่อง บทความนี้จะเจาะลึกถึง 10 บริษัทจัดการกองทุนชั้นนำของโลก พร้อมเปิดเผยกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้พวกเขายืนหยัดเป็นผู้นำ และสิ่งที่นักลงทุนไทยควรรู้เกี่ยวกับยักษ์ใหญ่เหล่านี้ เพื่อวางแผนการลงทุนต่างประเทศอย่างชาญฉลาดและบรรลุเป้าหมายทางการเงินในระยะยาว

ภูมิทัศน์การลงทุนปี 2025: ความท้าทายและโอกาสสำหรับบริษัทจัดการกองทุน

ปี 2025 เป็นปีที่อุตสาหกรรมการบริหารความมั่งคั่งต้องเผชิญกับปัจจัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงเป็นข้อถกเถียง อัตราดอกเบี้ยที่ผันผวน ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งทั้งหมดล้วนส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินโลก อย่างไรก็ตาม นี่คือโอกาสสำหรับบริษัทจัดการกองทุนที่มีความสามารถในการวิเคราะห์เชิงลึก การจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ และการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าให้กับลูกค้า

เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ที่ช่วยในการตัดสินใจลงทุน การสร้างพอร์ตการลงทุนที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล (Personalized Portfolio) รวมถึงการลงทุนอย่างยั่งยืน (ESG Investing) ที่ไม่ใช่แค่กระแส แต่เป็นหลักการสำคัญที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจ การผสานรวมหลักการ ESG เข้ากับกลยุทธ์การลงทุนกลายเป็นมาตรฐานใหม่ที่บริษัทจัดการกองทุนชั้นนำไม่อาจมองข้าม

บริษัทจัดการกองทุนเหล่านี้ดูแลสินทรัพย์รวมกันกว่า 48.39 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อความสามารถในการบริหารจัดการและการสร้างผลตอบแทน ยิ่งไปกว่านั้น ความเป็นผู้นำของบริษัทอเมริกันยังคงโดดเด่น โดยมีถึง 7 ใน 10 บริษัทมาจากสหรัฐอเมริกา สะท้อนถึงบทบาทสำคัญของตลาดการเงินสหรัฐฯ ในฐานะศูนย์กลางการลงทุนของโลก

มาทำความรู้จักกับ 10 บริษัทจัดการกองทุนที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกประจำปี 2025 กัน เพื่อที่เราจะได้เห็นถึงพลังและอิทธิพลที่พวกเขามีต่ออนาคตของการลงทุน

Allianz Group (ประเทศเยอรมนี)
สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM): 1.91 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Allianz Group ไม่ได้เป็นเพียงบริษัทประกันภัยระดับโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในผู้จัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุด ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมกว่า 1.91 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ เดือนมิถุนายน 2025 Allianz ได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและแนวทางการลงทุนระยะยาวที่เน้นความยั่งยืนและการบริหารความเสี่ยงอย่างเข้มแข็ง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน

หน่วยงานจัดการสินทรัพย์หลักของ Allianz คือ Allianz Global Investors (AllianzGI) และ PIMCO (Pacific Investment Management Company) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารตราสารหนี้ระดับโลก ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอ ตั้งแต่กองทุนหุ้น กองทุนตราสารหนี้ ไปจนถึงกองทุนรวมที่มีการลงทุนแบบยั่งยืน เช่น Allianz Global Sustainability Fund และ Allianz Global Artificial Intelligence Fund ทำให้ Allianz เป็นผู้เล่นที่สำคัญในตลาด การให้ความสำคัญกับเทรนด์การลงทุนในอนาคตอย่าง AI สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ที่ก้าวหน้าและกลยุทธ์ที่มุ่งสร้างผลตอบแทนในระยะยาว

Invesco (สหรัฐอเมริกา)
สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM): 1.94 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Invesco Ltd. ก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 9 ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหารสูงถึง 1.94 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ วันที่ 28 มิถุนายน 2025 Invesco มีปรัชญาที่มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์การลงทุนที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า โดยยึดหลักการทำงานแบบ “One Team” ที่ส่งเสริมความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและความรับผิดชอบร่วมกัน รวมถึงการให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างและส่งเสริมการทำงานร่วมกัน Invesco ยังโดดเด่นด้วยการผสมผสานกลยุทธ์การลงทุนที่หลากหลาย ทั้งแบบ Active และ Passive Management เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนทุกรูปแบบ

ผลิตภัณฑ์ของ Invesco ครอบคลุมตั้งแต่กองทุนรวมแบบดั้งเดิม, กองทุน ETF (Exchange Traded Funds) ไปจนถึงการลงทุนทางเลือก Invesco S&P 500 Index Fund แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการดัชนี ในขณะที่ Invesco Value Opportunities Fund สะท้อนถึงความสามารถในการค้นหาโอกาสการลงทุนในหุ้นที่มีมูลค่าต่ำกว่าราคาที่แท้จริง

Amundi (ประเทศฝรั่งเศส)
สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM): 2.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Amundi เป็นผู้จัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และเป็นบริษัทเดียวจากฝรั่งเศสที่ติด 1 ใน 10 อันดับแรก ด้วย AUM ที่น่าประทับใจถึง 2.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2025 Amundi ได้รับการยอมรับในเรื่องของความมุ่งมั่นต่อการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Investing) และการใช้เทคโนโลยีการวิจัยที่ล้ำสมัยเพื่อสนับสนุนลูกค้า

Amundi ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและวัฒนธรรมการทำงานแบบ “One Team” ที่ส่งเสริมความร่วมมือและความรับผิดชอบร่วมกัน กองทุนเช่น Amundi Funds US Equity Fundamental Growth และ Amundi Funds Global Aggregate Bond แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเข้าถึงตลาดที่หลากหลายและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่มองหาโอกาสในการเติบโตและการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลก Amundi ยังคงเป็นผู้นำในการผลักดันการลงทุนแบบ ESG ในยุโรป ซึ่งเป็นเทรนด์สำคัญที่กำลังขยายไปทั่วโลก

Capital Group (สหรัฐอเมริกา)
สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM): 2.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Capital Group เป็นบริษัทจัดการกองทุนที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่ปี 1931 และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจนมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารกว่า 2.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สิ่งที่ทำให้ Capital Group โดดเด่นคือปรัชญาการลงทุนแบบ Active Management ที่เข้มข้น โดยเน้นการวิเคราะห์เชิงลึกและการคัดเลือกหลักทรัพย์อย่างพิถีพิถันเพื่อสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าตลาดในระยะยาว

บริษัทมีแนวทางการบริหารแบบ “Capital System” ที่เปิดโอกาสให้ผู้จัดการกองทุนหลายคนบริหารจัดการส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาบุคคลคนเดียว และส่งเสริมมุมมองที่หลากหลาย Capital Group ยังให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบ การมองการณ์ไกล และความร่วมมือกับลูกค้า กองทุนเช่น Capital Group Global Allocation และ Capital Group New Perspective สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญในการกระจายความเสี่ยงทั่วโลกและการลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพการเติบโตสูง

Goldman Sachs Asset Management (สหรัฐอเมริกา)
สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM): 3.17 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Goldman Sachs Asset Management (GSAM) เป็นส่วนหนึ่งของ Goldman Sachs Group สถาบันการเงินระดับโลกที่มีชื่อเสียง ด้วย AUM กว่า 3.17 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ GSAM ได้ตอกย้ำตำแหน่งในฐานะผู้จัดการสินทรัพย์ชั้นนำที่นำเสนอโซลูชันการลงทุนที่หลากหลายและซับซ้อนให้กับลูกค้าสถาบันและลูกค้ารายย่อยที่มีความมั่งคั่งสูง

GSAM โดดเด่นด้วยกระบวนการวิจัยและการคัดเลือกสินทรัพย์ที่เข้มงวดและมีวินัย พวกเขาแสวงหาความเป็นเลิศ นวัตกรรม และมุ่งมั่นสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า โดยถือว่าการบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญเชิงกลยุทธ์ ผลิตภัณฑ์ของ GSAM ครอบคลุมตั้งแต่กองทุนหุ้น กองทุนตราสารหนี้ กองทุนรวม ไปจนถึงการลงทุนทางเลือก เช่น กองทุนส่วนบุคคล กองทุนเฮดจ์ฟันด์ และอสังหาริมทรัพย์ กองทุนอย่าง Goldman Sachs Global Environmental Impact Equity Portfolio แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการลงทุนที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดรับกับเทรนด์ ESG ในปี 2025

J.P. Morgan Asset Management (สหรัฐอเมริกา)
สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM): 3.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

J.P. Morgan Asset Management เป็นหนึ่งในส่วนงานบริหารสินทรัพย์ของ JPMorgan Chase ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหารที่สูงถึง 3.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ J.P. Morgan Asset Management ได้พิสูจน์ถึงความสามารถในการให้บริการบริหารจัดการการลงทุนแบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งหุ้น ตราสารหนี้ พอร์ตการลงทุนแบบ Multi-Asset การลงทุนทางเลือก และผลิตภัณฑ์ตลาดเงิน

ด้วยประวัติอันยาวนานตั้งแต่ปี 1871 บริษัทนี้อาศัยขนาดที่ใหญ่ระดับโลก ทรัพยากรด้านการวิจัยภายในที่แข็งแกร่ง และโครงสร้างพื้นฐานที่มั่นคงของกลุ่ม J.P. Morgan พวกเขามีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนกว่า 2,300 คนทั่วโลก ที่ให้บริการลูกค้าสถาบัน ตัวกลางทางการเงิน และนักลงทุนรายบุคคล กลยุทธ์การบริหารจัดการเน้นการวิจัยเชิงลึกและแนวทางการจัดการพอร์ตการลงทุนแบบ Active Management อย่างมืออาชีพและวัดผลได้ กองทุนอย่าง JPMorgan America Equity Fund และ JPMorgan Global Dividend Fund เป็นตัวอย่างที่แสดงถึงความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอ

State Street Global Advisors (สหรัฐอเมริกา)
สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM): 4.67 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (มีการเปลี่ยนแปลงจากข้อมูลเดิม 5.9T เป็น 4.67T ตามตารางแรก)

State Street Global Advisors (SSGA) เป็นผู้บุกเบิกและเป็นผู้นำในด้านการบริหารสินทรัพย์สถาบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มกองทุนดัชนีและ ETF ด้วย AUM กว่า 4.67 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ SSGA ถือเป็นหนึ่งในผู้จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขามีชื่อเสียงจากการเป็นผู้คิดค้น SPDR S&P 500 ETF Trust (SPY) ซึ่งเป็น ETF ตัวแรกของสหรัฐฯ และยังคงเป็นหนึ่งใน ETF ที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลก

SSGA ก่อตั้งขึ้นในปี 1978 โดยมุ่งเน้นนวัตกรรมและการใช้ข้อมูลงานวิจัยเป็นแกนหลักในการกำหนดนโยบายการลงทุน พวกเขาให้บริการโซลูชันแก่กองทุนบำนาญ กองทุน Endowment และสถาบันการเงินทั่วโลก นอกจากกองทุนดัชนีแล้ว SSGA ยังมีความเชี่ยวชาญด้าน Smart Beta และ Factor Investing ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงผลตอบแทนในรูปแบบเฉพาะได้ การให้ความสำคัญกับข้อมูลและเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ทำให้ SSGA ยังคงเป็นผู้นำในตลาดการลงทุนแบบ Passive

Fidelity Investments (สหรัฐอเมริกา)
สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM): 5.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Fidelity Investments เป็นอีกหนึ่งบริษัทจัดการกองทุนที่มีชื่อเสียงระดับโลก ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหารที่น่าประทับใจถึง 5.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ Fidelity มีประวัติศาสตร์อันยาวนานในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ทั้งสำหรับนักลงทุนรายบุคคลและลูกค้าสถาบัน ผู้จัดการกองทุนในตำนานอย่าง Peter Lynch ซึ่งบริหารกองทุน Magellan อันโด่งดัง ก็มาจาก Fidelity

Fidelity เป็นที่รู้จักในด้านความสามารถในการบริหารจัดการกองทุนแบบ Active Management และการนำเสนอบริการให้คำปรึกษาด้านการลงทุนที่ครอบคลุม พวกเขาให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์เชิงลึกและแพลตฟอร์มเทคโนโลยีระดับสูง เพื่อช่วยให้นักลงทุนบรรลุเป้าหมายระยะยาว กองทุนอย่าง Fidelity Funds – US Dollar Bond Fund และ Fidelity Global Technology Fund แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายและความเชี่ยวชาญในการลงทุนในตลาดเฉพาะทาง

Vanguard Group (สหรัฐอเมริกา)
สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM): 10.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Vanguard Group ยังคงเป็นผู้เล่นที่ขาดไม่ได้ในอันดับต้นๆ ของบริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยรั้งตำแหน่งที่สองด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหารที่สูงถึง 10.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งห่างจากอันดับสามเกือบสองเท่า Vanguard เป็นผู้นำที่ไม่มีใครเทียบได้ในด้านกองทุนรวมดัชนี (Index Mutual Funds) และ ETF ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ

สิ่งที่ทำให้ Vanguard แตกต่างคือรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่เป็นเอกลักษณ์: บริษัทนี้ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือเป็นเจ้าของโดยหุ้นส่วน แต่เป็นเจ้าของโดยกองทุนรวมและ ETF ที่บริหารจัดการอยู่ ซึ่งหมายความว่านักลงทุนของ Vanguard คือเจ้าของบริษัทโดยทางอ้อม แนวทางนี้ช่วยให้ผลประโยชน์ของผู้จัดการสอดคล้องกับผลประโยชน์ของลูกค้าอย่างแท้จริง John Bogle ผู้ก่อตั้ง Vanguard ในปี 1975 มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการมุ่งเน้นการลงทุนแบบ Passive Management และค่าธรรมเนียมที่ต่ำ ซึ่งได้ปฏิวัติวงการการลงทุนและสร้าง “Vanguard Effect” ที่ผลักดันให้ค่าธรรมเนียมในอุตสาหกรรมลดลง

BlackRock (สหรัฐอเมริกา)
สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM): 11.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

BlackRock ยังคงครองบัลลังก์บริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกประจำปี 2025 ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหารที่น่าทึ่งถึง 11.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนถึงอิทธิพลและขนาดที่แท้จริงของบริษัทนี้ BlackRock ไม่ได้เป็นเพียงผู้จัดการสินทรัพย์ แต่ยังเป็นผู้ทรงอิทธิพลในการกำหนดทิศทางนโยบายเศรษฐกิจและการเงินทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกาและยุโรป

หนึ่งในจุดแข็งที่สำคัญของ BlackRock คือแพลตฟอร์มเทคโนโลยีการจัดการความเสี่ยง “Aladdin” ซึ่งเป็นระบบที่ใช้โดยสถาบันการเงินและบริษัทจัดการกองทุนชั้นนำทั่วโลก นอกจากนี้ BlackRock ยังเป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม iShares ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ ETF ชั้นนำที่มีกองทุนกว่า 700 กองทุนและสินทรัพย์ภายใต้การบริหารกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การเป็นผู้นำด้านการลงทุนอย่างยั่งยืน (ESG) การผลักดันให้บริษัทต่างๆ เปิดเผยข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม รวมถึงการนำเสนอกองทุนที่เน้นการลงทุนในพลังงานสะอาด (iShares Global Clean Energy ETF) แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและความมุ่งมั่นในการสร้างโลกที่ดีขึ้นผ่านการลงทุน

อนาคตของการบริหารสินทรัพย์: สิ่งที่คาดหวังในอีกหลายปีข้างหน้า

การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมการบริหารสินทรัพย์จะยังคงดำเนินต่อไปอย่างรวดเร็วในปี 2025 และปีต่อๆ ไป เราคาดการณ์ว่า AI และ Machine Learning จะถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์ตลาดและการสร้างพอร์ตการลงทุนที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ความต้องการโซลูชันทางการเงินที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล (Personalized Financial Planning) จะเพิ่มสูงขึ้น และการลงทุนอย่างยั่งยืน (ESG Investing) จะกลายเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์การลงทุน ไม่ใช่แค่เพียงทางเลือกเสริม

บริษัทจัดการกองทุนยักษ์ใหญ่เหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์การลงทุนเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้บุกเบิกเทรนด์ นวัตกรรม และกลยุทธ์ที่นำทางนักลงทุนไปสู่ความสำเร็จทางการเงินในโลกที่ไม่หยุดนิ่ง การทำความเข้าใจบทบาทของพวกเขาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนทุกคน โดยเฉพาะนักลงทุนไทยที่ต้องการกระจายความเสี่ยงและเข้าถึงโอกาสการลงทุนในตลาดโลก

สรุปและคำเชิญชวน

บริษัทจัดการกองทุนชั้นนำทั้ง 10 แห่งนี้ ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและความเป็นผู้นำในภูมิทัศน์ทางการเงินโลกที่ซับซ้อนในปี 2025 พวกเขาไม่เพียงแต่บริหารความมั่งคั่งมหาศาล แต่ยังเป็นผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมและขับเคลื่อนมาตรฐานใหม่ๆ ของอุตสาหกรรม การลงทุนในโลกที่เชื่อมโยงถึงกันนี้ จำเป็นต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจในตลาดโลกและการเลือกพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญ

การรู้จักบริษัทเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีมุมมองที่กว้างขึ้นในการพิจารณาการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศผ่านตัวแทนในประเทศไทย หรือการศึกษาโอกาสโดยตรงในตลาดโลก ด้วยข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ คุณจะสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีเหตุผลและมั่นใจยิ่งขึ้น

เริ่มต้นเส้นทางการลงทุนระดับโลกของคุณวันนี้! ศึกษาโอกาสจากผู้จัดการกองทุนชั้นนำเหล่านี้ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเพื่อวางแผนการลงทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายและความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ อย่ารอช้าที่จะเป็นส่วนหนึ่งของโลกแห่งการลงทุนที่ไร้ขีดจำกัด!

10 บริษัทจัดการกองทุนระดับโลกผู้กำหนดทิศทางการลงทุนในปี 2025: เจาะลึกผู้นำและกลยุทธ์บริหารความมั่งคั่ง

ในฐานะผู้มีประสบการณ์ในแวดวงการลงทุนกว่าทศวรรษ ผมเฝ้าสังเกตการณ์พลวัตของตลาดทุนโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2025 ที่เทคโนโลยีและปัจจัยด้านความยั่งยืนเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นกว่าที่เคย บริษัทจัดการกองทุนคือฟันเฟืองสำคัญที่ขับเคลื่อนจักรวาลการเงินนี้ พวกเขาไม่เพียงแค่เป็นผู้ดูแลเงินทุนมหาศาล แต่ยังเป็นผู้บุกเบิกกลยุทธ์การลงทุนใหม่ๆ สร้างสรรค์นวัตกรรม และปรับตัวเพื่อตอบรับความต้องการที่ซับซ้อนของผู้ลงทุนทั่วโลก บทความนี้จะพาคุณเจาะลึก 10 บริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นผู้กุมอำนาจในการบริหารสินทรัพย์และกำหนดทิศทางการลงทุนในปีปัจจุบัน พร้อมเปิดเผยถึงปรัชญา กลยุทธ์ และสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ที่ทำให้พวกเขาก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำอย่างแท้จริง

ภูมิทัศน์ของการบริหารความมั่งคั่งในปี 2025 เผยให้เห็นถึงการรวมศูนย์ของอำนาจที่ชัดเจน โดยผู้เล่นรายใหญ่เหล่านี้ยังคงรักษาฐานะที่แข็งแกร่ง และพิสูจน์ให้เห็นถึงความได้เปรียบจากขนาด ความเชี่ยวชาญ และความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาวะตลาดที่ท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นความผันผวนทางเศรษฐกิจโลก ความก้าวหน้าของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการวิเคราะห์ข้อมูล หรือการให้ความสำคัญกับการลงทุนเพื่อความยั่งยืน (ESG) ที่กลายเป็นมาตรฐานใหม่ รายชื่อบริษัทเหล่านี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงขนาดของสินทรัพย์ที่พวกเขาบริหารจัดการ แต่ยังเป็นดัชนีชี้วัดถึงแนวโน้มและนวัตกรรมที่จะขับเคลื่อนตลาดทุนในอนาคต

ต่อไปนี้คือรายชื่อ 10 บริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประจำปี 2025 โดยเรียงลำดับจากขนาดสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจากน้อยไปมาก:

Allianz Group (ประเทศเยอรมนี) – สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) US$ 1.91 ล้านล้าน

Allianz Group ยักษ์ใหญ่จากเยอรมนีไม่ได้เป็นเพียงบริษัทประกันภัยระดับโลก แต่ยังเป็นหนึ่งในผู้บริหารสินทรัพย์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งหนึ่ง ด้วย AUM ทะลุ 1.91 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ เดือนมิถุนายน 2025 พวกเขาโดดเด่นด้วยปรัชญาการลงทุนระยะยาวที่ฝังรากฐานอยู่บนหลักการของความยั่งยืน (Sustainability) และการบริหารความเสี่ยงอย่างเข้มงวด แนวทางนี้สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและสอดคล้องกับกระแสโลกที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ Allianz Group บริหารจัดการสินทรัพย์ผ่านบริษัทย่อยด้านการบริหารความมั่งคั่งหลายแห่ง รวมถึง Allianz Global Investors (AllianzGI) ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการลงทุนเชิงรุก และ PIMCO (Pacific Investment Management Company) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้จัดการกองทุนตราสารหนี้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

สิ่งที่ทำให้ Allianz แตกต่างคือการผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านการประกันภัยเข้ากับการบริหารสินทรัพย์ ทำให้พวกเขามีมุมมองที่ครอบคลุมในการประเมินความเสี่ยงและโอกาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มการลงทุนทางเลือก (Alternative Investments) และโซลูชันเพื่อการเกษียณอายุ ผลิตภัณฑ์ของพวกเขามีความหลากหลาย ตั้งแต่กองทุนหุ้นที่เน้นความยั่งยืนอย่าง Allianz Global Sustainability Fund ไปจนถึงกองทุนที่ลงทุนในธีมเทคโนโลยีแห่งอนาคต เช่น Allianz Global Artificial Intelligence Fund ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการปรับตัวเข้ากับนวัตกรรมและเทรนด์ของตลาดปี 2025 ได้อย่างยอดเยี่ยม การบริหารพอร์ตโฟลิโอแบบองค์รวมและการวิเคราะห์เชิงลึก คือหัวใจสำคัญของกลยุทธ์ที่ทำให้ Allianz ยังคงเป็นที่ไว้วางใจของนักลงทุนสถาบันและรายย่อยทั่วโลก

Invesco (ประเทศสหรัฐอเมริกา) – สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) US$ 1.94 ล้านล้าน

Invesco Ltd. ก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการบริหารสินทรัพย์ระดับโลก ด้วย AUM กว่า 1.94 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ วันที่ 28 มิถุนายน 2025 บริษัทสัญชาติอเมริกันแห่งนี้มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การลงทุนที่ช่วยให้ลูกค้าบรรลุผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในชีวิต โดยมีปรัชญาการทำงานที่แข็งแกร่งภายใต้แนวคิด “One Team” (ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและความรับผิดชอบร่วมกัน), “Culture Matters” (การรักษาวัฒนธรรมที่เปิดกว้างและส่งเสริมความร่วมมือ) และ “Focused Execution” (การดำเนินการตามกลยุทธ์อย่างรวดเร็วและมีความรับผิดชอบ)

Invesco โดดเด่นในด้านผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ซึ่งครอบคลุมทั้งกองทุนรวมแบบดั้งเดิม กองทุน ETF (Exchange Traded Funds) ที่เป็นที่นิยม และโซลูชันการลงทุนที่ปรับแต่งตามความต้องการเฉพาะของลูกค้า จุดแข็งของ Invesco อยู่ที่ความสามารถในการผสมผสานการลงทุนเชิงรุก (Active Management) เข้ากับการลงทุนเชิงรับ (Passive Management) ได้อย่างลงตัว ตอบโจทย์นักลงทุนทุกประเภท ตัวอย่างเช่น Invesco S&P 500 Index Fund ที่เน้นการลงทุนเชิงรับตามดัชนี และ Invesco Value Opportunities Fund ที่ใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบเน้นคุณค่า การให้ความสำคัญกับนวัตกรรม การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก และการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ๆ ในตลาด ทำให้ Invesco ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำและเป็นผู้จัดการกองทุนที่มองเห็นโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงของโลกในปี 2025

Amundi (ประเทศฝรั่งเศส) – สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) US$ 2.6 ล้านล้าน

Amundi คือบริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และติดอันดับ 8 ของโลก ด้วย AUM ที่น่าประทับใจถึง 2.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ วันที่ 30 มีนาคม 2025 บริษัทสัญชาติฝรั่งเศสแห่งนี้เน้นย้ำถึงค่านิยมหลักเช่น “One Team” ที่สะท้อนถึงการทำงานร่วมกันและความรับผิดชอบร่วมกัน นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับนวัตกรรม การสร้างวัฒนธรรมที่ครอบคลุม และการดำเนินการตามกลยุทธ์อย่างมีประสิทธิภาพและมุ่งเน้น

จุดเด่นของ Amundi คือความมุ่งมั่นระยะยาวต่อการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Investment) และการใช้เทคโนโลยีการวิจัยที่ล้ำสมัยเพื่อสนับสนุนลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด พวกเขาเป็นผู้นำในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับเกณฑ์ ESG โดยเชื่อว่าการลงทุนที่ดีควรสร้างผลตอบแทนควบคู่ไปกับการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างกองทุนที่น่าสนใจได้แก่ Amundi Funds US Equity Fundamental Growth ที่เน้นการลงทุนในหุ้นเติบโตของสหรัฐฯ และ Amundi Funds Global Aggregate Bond ที่เน้นการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลก ความเป็นผู้นำด้าน ESG และการเข้าถึงตลาดระดับโลก ทำให้ Amundi เป็นผู้เล่นที่สำคัญในการขับเคลื่อนแนวโน้มการลงทุนที่ยั่งยืนในยุคปัจจุบัน

Capital Group (ประเทศสหรัฐอเมริกา) – สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) US$ 2.8 ล้านล้าน

Capital Group เป็นบริษัทจัดการกองทุนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและแข็งแกร่ง ก่อตั้งขึ้นในปี 1931 ที่ลอสแอนเจลิส และปัจจุบันมี AUM แตะ 2.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในกลุ่มผู้จัดการกองทุนที่เน้นการบริหารเชิงรุก บริษัทแห่งนี้มีสำนักงานกระจายอยู่ในหลายประเทศทั่วเอเชีย รวมถึงฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ สิงคโปร์ และโตเกียว ซึ่งสะท้อนถึงการเข้าถึงตลาดโลกอย่างกว้างขวาง

ค่านิยมที่ทำให้ Capital Group เป็นหนึ่งในผู้จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้แก่ ความรับผิดชอบ การมุ่งเน้นผลลัพธ์ระยะยาว การร่วมมือกับลูกค้า และการวิเคราะห์ที่เข้มงวด พวกเขาเชื่อมั่นในการลงทุนแบบ “Fundamental Research” หรือการวิจัยปัจจัยพื้นฐานอย่างละเอียด ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างพอร์ตโฟลิโอที่มีคุณภาพสูงและยั่งยืน นักลงทุนของ Capital Group มักชื่นชมในความสม่ำเสมอและวิสัยทัศน์ระยะยาวที่ช่วยให้ผ่านพ้นความผันผวนของตลาดได้ ตัวอย่างกองทุนที่สะท้อนปรัชญาของ Capital Group ได้แก่ Capital Group Global Allocation ที่เน้นการจัดสรรสินทรัพย์ทั่วโลกอย่างรอบคอบ และ Capital Group New Perspective ที่มองหาโอกาสการเติบโตจากเทรนด์ระดับโลก การลงทุนเชิงรุกที่ขับเคลื่อนด้วยการวิจัยที่ลึกซึ้ง ทำให้ Capital Group ยังคงเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่มองหาการบริหารความมั่งคั่งอย่างมืออาชีพในปี 2025

Goldman Sachs Asset Management (ประเทศสหรัฐอเมริกา) – สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) US$ 3.17 ล้านล้าน

Goldman Sachs Asset Management (GSAM) คือส่วนหนึ่งของ Goldman Sachs Group ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจระดับโลกที่ทรงอิทธิพล ด้วย AUM สูงถึง 3.17 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พวกเขาได้ตอกย้ำตำแหน่งในกลุ่มผู้จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประสบการณ์อันยาวนานในโลกของการลงทุน วิสัยทัศน์ระดับโลก และการให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้า คือปัจจัยสำคัญที่นำมาซึ่งความสำเร็จอันโดดเด่นนี้

GSAM มีชื่อเสียงในกระบวนการวิจัยและการคัดเลือกสินทรัพย์ที่เข้มงวดและมีระเบียบวินัย พวกเขามุ่งมั่นในการแสวงหาความเป็นเลิศ นวัตกรรม และการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า การบริหารความเสี่ยงถือเป็นสิ่งสำคัญเชิงกลยุทธ์ที่ GSAM ให้ความสำคัญสูงสุด ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้รับการบริหารจัดการพอร์ตโฟลิโออย่างระมัดระวังและรอบคอบ ในปี 2025 GSAM ยังคงเดินหน้าลงทุนในเทคโนโลยี AI เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ตลาดและสร้างกลยุทธ์การลงทุนที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น ตัวอย่างกองทุนที่น่าสนใจคือ Goldman Sachs Global Environmental Impact Equity Portfolio ที่เน้นลงทุนในบริษัทที่มีผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม และ Goldman Sachs Global High Yield Portfolio ที่มองหาโอกาสในตราสารหนี้ผลตอบแทนสูง การผสมผสานระหว่างความเชี่ยวชาญดั้งเดิมเข้ากับนวัตกรรมสมัยใหม่ ทำให้ GSAM เป็นผู้เล่นที่น่าจับตามองในตลาดการบริหารความมั่งคั่ง

J.P. Morgan Asset Management (ประเทศสหรัฐอเมริกา) – สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) US$ 3.7 ล้านล้าน

J.P. Morgan Asset Management คือส่วนงานการบริหารสินทรัพย์ของ JPMorgan Chase & Co. สถาบันการเงินที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยมี AUM ทั่วโลกกว่า 3.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ บริษัทแห่งนี้ให้บริการจัดการการลงทุนที่ครอบคลุม ทั้งหุ้น ตราสารหนี้ พอร์ตโฟลิโอแบบ Multi-asset เครื่องมือการลงทุนทางเลือก (Alternative Instruments) และผลิตภัณฑ์ในตลาดเงิน (Liquidity Products)

J.P. Morgan Asset Management ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในนครนิวยอร์ก นำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนเชิงรุกที่หลากหลาย ตั้งแต่กองทุนรวมทั่วไป กองทุน ETF บัญชีการลงทุนแบบจัดการพิเศษ ไปจนถึงโซลูชัน Multi-asset ที่ปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้า ผลิตภัณฑ์เด่นๆ ได้แก่ JPMorgan Growth Advantage Fund ในภาคส่วนหุ้น และ JPMorgan Core Bond Fund สำหรับกลุ่มตราสารหนี้ ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ปี 1871 บริษัทพึ่งพิงขนาดองค์กรที่ใหญ่ระดับโลก ทรัพยากรด้านการวิจัยภายในองค์กรที่แข็งแกร่ง และโครงสร้างพื้นฐานอันมั่นคงของกลุ่ม J.P. Morgan ปัจจุบันพวกเขามีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนกว่า 2,300 คนกระจายอยู่ทั่วโลก ให้บริการแก่ลูกค้ารายสถาบัน ตัวกลางทางการเงิน และนักลงทุนรายบุคคล สไตล์การบริหารจัดการของพวกเขาเน้นการวิจัยเชิงลึกและการบริหารพอร์ตโฟลิโออย่างมืออาชีพและวัดผลได้ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดที่ซับซ้อนในปี 2025

State Street Global Advisors (ประเทศสหรัฐอเมริกา) – สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) US$ 4.67 ล้านล้าน

State Street Global Advisors ยืนหยัดในฐานะผู้จัดการกองทุนอันดับ 4 ของโลก โดยมี AUM ทะลุ 4.67 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ บริษัทแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1978 และเป็นผู้นำด้านสินทรัพย์สถาบัน State Street เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกและผู้จัดการรายใหญ่ของกองทุนดัชนี (Index Funds) และ ETF โดยเป็นผู้สร้าง SPDR S&P 500 ETF Trust (SPY) ซึ่งเป็น ETF ที่เก่าแก่ที่สุดและเป็นหนึ่งใน ETF ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

หัวใจสำคัญของกลยุทธ์ State Street Global Advisors คือการแสวงหานวัตกรรมและการนำการวิจัยมาเป็นแกนหลักของนโยบายการลงทุน พวกเขาให้ความสำคัญกับการลงทุนเชิงรับผ่านผลิตภัณฑ์ดัชนีและ ETF ที่มีต้นทุนต่ำ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงจากนักลงทุนที่ต้องการเข้าถึงตลาดในวงกว้างด้วยความโปร่งใสและประสิทธิภาพ ในปี 2025 State Street ยังคงพัฒนาโซลูชันการลงทุนที่ล้ำสมัย โดยเฉพาะในด้าน Smart Beta ETF และการลงทุนแบบ ESG ที่ผสมผสานเข้ากับการลงทุนเชิงรับได้อย่างลงตัว ความเชี่ยวชาญในการสร้างและบริหารจัดการ ETF ขนาดใหญ่ทำให้ State Street เป็นเสาหลักสำคัญในโลกของการลงทุน และเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความเรียบง่ายแต่ทรงพลัง

Fidelity Investments (ประเทศสหรัฐอเมริกา) – สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) US$ 5.9 ล้านล้าน

Fidelity Investments เป็นหนึ่งในบริษัทลงทุนที่มีชื่อเสียงระดับโลก ด้วย AUM มหาศาลถึง 5.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พวกเขาเป็นผู้จัดการกองทุนที่ Peter Lynch นักลงทุนระดับตำนานเคยสร้างชื่อเสียงไว้กับกองทุน Magellan อันโด่งดัง Fidelity เป็นผู้จัดการการลงทุนระดับโลกที่ให้บริการและให้การสนับสนุนทั้งนักลงทุนรายบุคคลและลูกค้าสถาบัน โดยมุ่งมั่นที่จะค้นหาโซลูชันที่ดีที่สุดในระยะยาว

Fidelity โดดเด่นด้วยกระบวนการคัดเลือกกองทุนเชิงรุก (Active Management) และการให้บริการที่ปรึกษาการลงทุนที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในผู้จัดการกองทุนที่ดีที่สุด ความมุ่งมั่นของพวกเขา ประกอบกับขีดความสามารถในการวิเคราะห์ที่ล้ำลึก และแพลตฟอร์มเทคโนโลยีระดับสูง ทำให้ Fidelity สามารถมอบบริการที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ในปี 2025 Fidelity ยังคงลงทุนอย่างหนักในเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ของลูกค้า และขยายขอบเขตผลิตภัณฑ์ไปสู่สินทรัพย์ดิจิทัลบางประเภท ตัวอย่างกองทุนที่น่าสนใจ ได้แก่ Fidelity Funds – US Dollar Bond Fund และ Fidelity Global Technology Fund ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการบริหารจัดการในหลากหลายสินทรัพย์และธีมการลงทุน ความแข็งแกร่งด้านการวิจัยและการเข้าถึงเทคโนโลยีทำให้ Fidelity เป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือสำหรับนักลงทุนที่ต้องการการเติบโตและความมั่นคงในพอร์ตโฟลิโอ

Vanguard Group (ประเทศสหรัฐอเมริกา) – สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) US$ 10.1 ล้านล้าน

Vanguard Group คือชื่อที่ไม่มีวันหลุดจากรายชื่อ 10 บริษัทลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขายังคงครองตำแหน่งอันดับสองอย่างมั่นคง ด้วย AUM ที่น่าตกตะลึงถึง 10.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งห่างจากอันดับสามเกือบเท่าตัว นี่คือผู้นำระดับโลกในด้านกองทุนรวมดัชนี (Index Mutual Funds) และ ETF บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 1975 โดย John Bogle ผู้บุกเบิกแนวคิดการลงทุนแบบต้นทุนต่ำและเน้นการบริหารจัดการแบบเชิงรับ (Passive Management)

ปรัชญาธุรกิจของ Vanguard ชัดเจนมาตั้งแต่ปี 1976 นั่นคือการให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของนักลงทุนเป็นอันดับแรก ด้วยโครงสร้างองค์กรที่ไม่เหมือนใคร โดย Vanguard ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือเป็นของกลุ่มหุ้นส่วน แต่เป็นของกองทุนรวมและ ETF ของตนเอง ซึ่งหมายความว่านักลงทุนคือเจ้าของร่วมของ Vanguard โดยทางอ้อม โครงสร้างนี้ทำให้ผลประโยชน์ของผู้จัดการสอดคล้องกับผลประโยชน์ของลูกค้าอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้พวกเขาสามารถเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำอย่างต่อเนื่อง ในยุคของ Bogle เน้นกองทุนดัชนี แต่ผู้สืบทอดได้ขยายผลิตภัณฑ์ไปสู่ ETF และกองทุนบริหารเชิงรุกบางประเภท เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของตลาดในปี 2025 ตัวอย่างกองทุนที่โดดเด่นคือ Vanguard Dividend Appreciation ETF และ Vanguard FTSE Developed Markets ETF ซึ่งเน้นการเติบโตของเงินปันผลและการลงทุนในตลาดพัฒนาแล้ว ความเรียบง่าย โปร่งใส และค่าธรรมเนียมที่แข่งขันได้ ทำให้ Vanguard เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามสำหรับนักลงทุนทุกระดับ

BlackRock (ประเทศสหรัฐอเมริกา) – สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) US$ 11.6 ล้านล้าน

BlackRock ยังคงเป็น “ราชา” แห่งโลกการบริหารสินทรัพย์ โดยรักษาตำแหน่งอันดับหนึ่งใน 10 อันดับแรกของบริษัทลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกประจำปี 2025 ด้วย AUM ที่น่าทึ่งถึง 11.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ บริษัทแห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในสถาบันที่มีอิทธิพลมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาและยุโรป

อิทธิพลของ BlackRock มีมากจนกระทั่งแผนกที่ปรึกษาของพวกเขาได้รับสัญญาให้บริหารจัดการโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนเมษายน 2020 ซึ่งเป็นช่วงวิกฤตสุขภาพจากการระบาดของไวรัสโคโรนา BlackRock เป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม iShares ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำสำหรับผลิตภัณฑ์ ETF โดยมีกองทุนกว่า 700 กองทุนที่ซื้อขายทั่วโลกและมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ในแพลตฟอร์มนี้เพียงอย่างเดียว

ในปี 2025 BlackRock ยังคงเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการลงทุน ESG และการใช้เทคโนโลยี AI ขั้นสูงเพื่อขับเคลื่อนการวิเคราะห์ตลาดและการสร้างกลยุทธ์การลงทุนที่ชาญฉลาด พวกเขาได้พัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีอย่าง Aladdin ซึ่งเป็นระบบการจัดการความเสี่ยงและการลงทุนที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม การให้ความสำคัญกับข้อมูล การวิเคราะห์ และความยั่งยืน ทำให้ BlackRock เป็นผู้กำหนดเทรนด์และเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญในตลาดการลงทุน ตัวอย่างกองทุนที่ BlackRock บริหารจัดการได้แก่ iShares China Large-Cap ETF และ iShares Global Clean Energy ETF ซึ่งสะท้อนถึงการเข้าถึงตลาดเกิดใหม่และการลงทุนในพลังงานสะอาดที่เป็นเมกะเทรนด์ การผสมผสานระหว่างขนาด นวัตกรรม และอิทธิพล ทำให้ BlackRock ยังคงเป็นผู้เล่นที่ไม่มีใครเทียบได้ในภูมิทัศน์การเงินโลก

บทสรุปและก้าวต่อไปของคุณ

โดยสรุปแล้ว บริษัทจัดการกองทุนเหล่านี้ได้ครองภูมิทัศน์ทางการเงินทั่วโลกในปี 2025 พวกเขาได้รวมฐานะในตลาดอย่างมั่นคง โดยมี BlackRock เป็นผู้นำที่ยังคงรักษาบัลลังก์ในฐานะผู้จัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สถาบันเหล่านี้ร่วมกันบริหารจัดการความมั่งคั่งมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่เพียงแต่แสดงถึงจุดสูงสุดของการบริหารสินทรัพย์ แต่ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงวิวัฒนาการและความสามารถในการปรับตัวในโลกการเงินที่ไม่หยุดนิ่ง ผู้จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกไม่เพียงนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงแนวโน้ม นวัตกรรม และกลยุทธ์ที่ชี้นำนักลงทุนไปสู่อนาคตทางการเงิน

ในฐานะนักลงทุน การทำความเข้าใจผู้เล่นรายใหญ่เหล่านี้คือการเริ่มต้นที่ดีเยี่ยมในการสร้างความมั่งคั่งและวางแผนอนาคตทางการเงินของคุณ พวกเขาเป็นผู้กำหนดมาตรฐานและสร้างโอกาสใหม่ๆ ในตลาดโลก ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนรายย่อยหรือสถาบัน การเรียนรู้จากยักษ์ใหญ่เหล่านี้จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมของตลาดและตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีข้อมูลและชาญฉลาดมากขึ้น

อย่ารอช้าที่จะสำรวจโอกาสและกำหนดอนาคตทางการเงินของคุณเองวันนี้! การลงทุนในความรู้คือการลงทุนที่ดีที่สุด และการทำความเข้าใจผู้เล่นระดับโลกเหล่านี้คือก้าวสำคัญสู่ความสำเร็จของคุณ หากคุณพร้อมที่จะเริ่มต้นหรือพัฒนาพอร์ตโฟลิโอของคุณให้ก้าวทันโลก โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินเพื่อวางแผนกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายและความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ อย่าพลาดโอกาสในการสร้างความมั่งคั่งในภูมิทัศน์การลงทุนปี 2025 ที่เต็มไปด้วยโอกาสและความท้าทาย!

Previous Post

N3010518 เด กก าวร าว EP2 part 2

Next Post

N3010517 กฉ นเป นผ ชาย EP1 part 2

Next Post
N3010517 กฉ นเป นผ ชาย EP1 part 2

N3010517 กฉ นเป นผ ชาย EP1 part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N0111331 เวลาของเราไม เท าก part 2
  • N0111323 วยต วเOงในมหาล part 2
  • N0111327 แฟนหน าตาแบบน เป นค ณจะอายไหม part 2
  • N0111328 แกล งขอทาน #สน กด part 2
  • N0111325 แอบก uสาม เพ oนว าซ าน part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.