• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N2810054 โรคภ ยไข เจ บม นไม ได เข าใครออกใครหรอก part 2

admin79 by admin79
October 27, 2025
in Uncategorized
0
N2810054 โรคภ ยไข เจ บม นไม ได เข าใครออกใครหรอก part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

Volvo ES90 2025: ยกระดับประสบการณ์ยานยนต์ไฟฟ้าหรู สู่ยุคใหม่แห่งความยั่งยืนและความเหนือระดับ

ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า ผมขอบอกเลยว่าปี 2025 นี้เป็นช่วงเวลาที่น่าจับตาอย่างยิ่ง ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกกำลังเข้าสู่เฟสใหม่ที่ความหรูหรา ประสิทธิภาพ และนวัตกรรมไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นมาตรฐาน และท่ามกลางคลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ Volvo ES90 2025 ได้ถือกำเนิดขึ้นอย่างสง่างาม ไม่ใช่เพียงแค่รถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่ แต่คือสัญลักษณ์ของวิสัยทัศน์ที่ก้าวล้ำ การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความงดงามตามแบบฉบับสแกนดิเนเวียนเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดที่มนุษย์สร้างสรรค์ได้ นี่คือรถยนต์ไฟฟ้าซีดานพรีเมียมที่พร้อมจะกำหนดนิยามใหม่ของคำว่า “ยานยนต์หรู” สำหรับทศวรรษหน้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งานในประเทศไทยที่กำลังมองหาสุดยอดของประสบการณ์การขับขี่และการเดินทางด้วยรถ EV

Volvo ES90 ไม่ได้เป็นเพียงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่คือการประกาศจุดยืนของวอลโว่ในการเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า ที่ไม่เพียงแค่ให้ความสำคัญกับสมรรถนะและเทคโนโลยี แต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ด้านความปลอดภัยและปรัชญาการออกแบบที่เรียบหรูเหนือกาลเวลาได้อย่างน่าทึ่ง การเปิดตัวครั้งแรกในเอเชียของรุ่นนี้ ตอกย้ำถึงความสำคัญของตลาดในภูมิภาคนี้ และประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางของยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าหรูที่ตอบโจทย์ทั้งด้านการใช้งานในชีวิตประจำวัน ความสะดวกสบายระดับเฟิร์สคลาส และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม จะพบว่า ES90 คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบสำหรับปี 2025 และปีต่อ ๆ ไป

การตีความใหม่ของความสง่างาม: ดีไซน์ที่ผสานเส้นสายแห่งอนาคต

จากประสบการณ์อันยาวนานในการประเมินรถยนต์หลากหลายรุ่น ผมกล้าพูดได้เลยว่าการออกแบบของ Volvo ES90 เป็นผลงานชิ้นเอกที่โดดเด่นอย่างแท้จริง วอลโว่ประสบความสำเร็จในการสร้างสรรค์ยานยนต์ที่รวมเอาความเรียบหรูของรถซีดาน ความโฉบเฉี่ยวแบบฟาสต์แบ็ก และความอเนกประสงค์ของรถ SUV เข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความต้องการของตลาด 2025 ที่ผู้บริโภคไม่ต้องการเพียงแค่รถในประเภทใดประเภทหนึ่ง แต่ต้องการ “สิ่งที่ดีที่สุด” จากทุกมิติ

เริ่มจากรูปลักษณ์ภายนอก ES90 โดดเด่นด้วยเส้นสายที่เพรียวบาง สง่างาม ผิวสัมผัสภายนอกตกแต่งด้วยสีดำเงาที่ช่วยเสริมความลึกลับและพรีเมียมให้ตัวรถ เส้นนูนคู่ขนานที่ลากยาวจากหน้าจรดท้าย ตามแนวฐานล้อที่ยาวเป็นพิเศษถึง 3.1 เมตร ไม่เพียงแค่เพิ่มมิติให้กับตัวรถ แต่ยังบ่งบอกถึงความมั่นคงและความโอ่อ่า ไฟหน้า “Thor’s Hammer” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของวอลโว่ ได้รับการยกระดับด้วยเทคโนโลยี HD pixel จำนวนมากถึง 20,000 ดวง ที่สามารถปรับความสว่างแยกกันได้อย่างอิสระ ทำให้การขับขี่ในเวลากลางคืนเป็นไปอย่างปลอดภัยสูงสุด โดยไม่รบกวนผู้ขับขี่ที่สวนทางมา นี่คือตัวอย่างของการผสานสุนทรียภาพเข้ากับฟังก์ชันการใช้งานด้านความปลอดภัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เส้นหลังคาที่ลาดลงอย่างนุ่มนวลคล้ายรถคูเป้ บรรจบกับฝากระโปรงท้ายสไตล์แฮทช์แบ็กที่ออกแบบมาอย่างชาญฉลาด ไม่เพียงแค่สวยงาม แต่ยังเพิ่มความสะดวกในการขนถ่ายสัมภาระ ขณะที่ไฟท้าย LED รูปตัว C ที่โอบล้อมด้านหลังของรถ ไม่เพียงแค่สร้างมุมมองที่โดดเด่น แต่ยังเพิ่มทัศนวิสัยที่ดีในทุกสภาพอากาศ นอกจากนี้ ไฟท้ายแนวตั้งบริเวณกระจกหลังใกล้เสา D ยังเป็นอีกหนึ่งลูกเล่นที่ช่วยเสริมความทันสมัยและมุมมองด้านหลังที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้ขับ

สิ่งที่น่าประทับใจยิ่งกว่าคือความใส่ใจในรายละเอียดด้านอากาศพลศาสตร์ ด้วยการออกแบบสไตล์ “Flush” หรือการจัดวางองค์ประกอบต่างๆ ให้เรียบเนียนไปกับตัวรถ เพื่อลดแรงเสียดทาน ส่งผลให้ Volvo ES90 มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (Cd) เพียง 0.25 ซึ่งเป็นค่าที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาในรถยนต์ซีดานของวอลโว่ ตัวเลขนี้ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่หมายถึงประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีขึ้น และระยะทางขับขี่ที่ไกลขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในยุค 2025

สุนทรียภาพแห่งการเดินทาง: ห้องโดยสารระดับ First Class ที่เชื่อมต่อทุกโลก

ก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารของ Volvo ES90 แล้วคุณจะเข้าใจทันทีว่าทำไมผมถึงกล้ากล่าวว่ามันคือ “สุนทรียภาพแห่งการเดินทาง” วอลโว่ได้สร้างสรรค์พื้นที่ภายในที่ให้ความรู้สึกเหมือนห้องรับรองส่วนตัวบนเครื่องบินชั้นธุรกิจ ที่ซึ่งความหรูหรา ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีล้ำสมัยหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว สิ่งที่สัมผัสได้ในทันทีคือความเงียบสงบ ด้วยการออกแบบที่ลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นเสียงลม เสียงถนน หรือแม้แต่เสียงมอเตอร์ไฟฟ้า ด้วยระดับเสียงที่ต่ำเพียง 68 dB(A) ที่นั่งคู่หน้า และ 70 dB(A) ที่เบาะหลัง ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับการสนทนา หรือเสียงเพลงได้อย่างเต็มอรรถรส

เบาะที่นั่งหุ้มด้วยวัสดุหนัง Nappa คุณภาพสูง ให้สัมผัสที่นุ่มนวลและระบายอากาศได้ดี โดยเฉพาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อมอบความโอ่อ่าและความสบายสูงสุด พร้อมฟังก์ชันที่วางมือ ที่วางแก้ว และที่วางโทรศัพท์บริเวณกึ่งกลางเบาะ นอกจากนี้ เบาะผู้โดยสารด้านหน้ายังมาพร้อมระบบนวดไฟฟ้าที่มีจุดนวดถึง 10 จุด พร้อมโปรแกรมนวด 5 รูปแบบ และระดับความเร็ว/แรง 3 ระดับ ให้คุณผ่อนคลายในระหว่างการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นระยะใกล้หรือไกล

สิ่งที่ผมประทับใจเป็นพิเศษคือความใส่ใจในสุขภาพของผู้โดยสาร ด้วยระบบฟอกอากาศที่ได้รับการรับรองจาก Allergy Standards Limited ว่าสามารถกรองฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ห้องโดยสารเป็นพื้นที่ที่สะอาดและปลอดภัยต่อสุขภาพ ระบบปรับอากาศแบบ 4 โซนอิสระ ช่วยให้ผู้โดยสารแต่ละคนสามารถตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเองได้ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่สะท้อนถึงความเข้าใจในความต้องการของครอบครัวหรือผู้เดินทางที่แตกต่างกัน

นอกจากความสบายกายแล้ว ES90 ยังมอบความสุนทรีย์ทางอารมณ์ ด้วยการตกแต่งภายในที่สะท้อนความเรียบหรูสไตล์สแกนดิเนเวียน แผงแดชบอร์ด ประตู และด้านหลังที่นั่ง ประดับด้วยวัสดุไม้จริงที่ได้รับการรับรองจาก FSC-certified พร้อมแผงไฟ LED ที่สร้างแสง Ambient Light อบอุ่น ผ่อนคลาย และที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือลวดลายรหัสมอร์สที่ซ่อนอยู่บนแผงตกแต่ง ซึ่งเมื่อถอดรหัสออกมาจะพบคำว่า “Volvo” นับเป็นลูกเล่นที่บ่งบอกถึงความพิถีพิถันและเรื่องราวเบื้องหลัง

เทคโนโลยีที่ผนวกเข้ามาในห้องโดยสารก็เป็นไปอย่างราบรื่นและใช้งานง่าย หน้าจอผู้ขับขนาด 9 นิ้ว และหน้าจอกลางขนาด 14.5 นิ้ว พร้อม Head-Up Display ความคมชัดสูง มอบข้อมูลที่จำเป็นและควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างสะดวก ฟังก์ชัน Google built-in ที่มาพร้อม Google Maps, Google Assistant และแอปพลิเคชันจาก Google Play Store รวมถึงการรองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย, Android Auto และ Android Automotive OS ทำให้ ES90 กลายเป็นศูนย์กลางความบันเทิงและการเชื่อมต่อที่สมบูรณ์แบบ รองรับสัญญาณ 5G เพื่อการเชื่อมต่อข้อมูลที่รวดเร็วไร้สะดุด

และที่ขาดไม่ได้คือประสบการณ์ด้านเสียงที่เหนือระดับ ด้วยเครื่องเสียง Bowers & Wilkins พร้อมลำโพง 25 ตัว กำลังขับรวม 1,610 วัตต์ พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos® และโหมดเสียง Abbey Road Studios ซึ่งมอบมิติเสียงที่สมจริงและดื่มด่ำ ราวกับอยู่ในคอนเสิร์ตฮอลล์ส่วนตัว ยิ่งไปกว่านั้น หลังคาพาโนรามิกระบบอิเล็กโทรโครมิก ที่สามารถปรับความโปร่งแสงได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ยกระดับประสบการณ์การเดินทางให้พิเศษยิ่งขึ้น

ด้านการใช้งานจริง ES90 ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่จุได้ถึง 446 ลิตร และสามารถขยายได้ถึง 904 ลิตร เมื่อพับเบาะแถวสองแบบ 40/20/40 พร้อมช่องเก็บของใต้พื้นอีก 16 ลิตร และช่องเก็บสัมภาระด้านหน้า (Frunk) ขนาด 27 ลิตร สำหรับเก็บสายชาร์จหรือของใช้ที่ไม่บ่อยนัก ประตูปิดแบบ Soft Close ทุกบาน ก็เป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เสริมความหรูหราและสะดวกสบายได้อย่างสมบูรณ์

หัวใจแห่งนวัตกรรม: สมรรถนะและขุมพลังขับเคลื่อนแห่งอนาคต

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ไฟฟ้า ผมทราบดีว่าหัวใจสำคัญของรถ EV ไม่ได้อยู่ที่ความหรูหราเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงสมรรถนะและประสิทธิภาพของขุมพลังขับเคลื่อน Volvo ES90 2025 มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ที่ให้กำลังสูงสุด 338 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง มอบอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.6 วินาที และความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. ตัวเลขเหล่านี้อาจดูไม่หวือหวาเท่ารถสปอร์ต EV บางรุ่น แต่เป็นการปรับจูนที่เน้นความนุ่มนวล พรีเมียม และการตอบสนองที่ฉับไวในทุกช่วงความเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าหรูคาดหวัง

สิ่งที่ทำให้ ES90 ก้าวล้ำกว่าคู่แข่งคือเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ 800V ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่พบได้ในรถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์เท่านั้น แบตเตอรี่ความจุ 92 kWh นี้ ไม่เพียงมอบระยะทางขับขี่ที่น่าประทับใจถึง 755 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC) ซึ่งเพียงพอสำหรับการเดินทางไกลข้ามจังหวัดได้อย่างสบายๆ แต่เทคโนโลยี 800V ยังช่วยให้การชาร์จแบตเตอรี่เป็นไปอย่างรวดเร็วเป็นพิเศษ ลดเวลาการรอคอย และเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างมหาศาล

นอกจากขุมพลังที่แข็งแกร่งแล้ว ES90 ยังให้ความสำคัญกับประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเจนเนอเรชั่นที่ 3 ของวอลโว่ ที่ทำงานร่วมกับระบบกันสะเทือนแบบถุงลม Dual-Chamber Air Suspension และช่วงล่าง Four-C Active Chassis ที่สามารถปรับสภาพการขับขี่ได้ถึง 500 ครั้งต่อวินาที เพื่อการดูดซับแรงกระแทกที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าถนนจะเป็นอย่างไร คุณจะสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลและมั่นคงในทุกเส้นทาง

และเพื่อเสริมประสิทธิภาพการขับขี่ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ระบบ Frequency Selective Damping (FSD) จะช่วยปรับความหนึบของโช้คอัพตามสภาพพื้นผิวถนนโดยอัตโนมัติ ทำให้การควบคุมรถเป็นไปอย่างมั่นใจและแม่นยำยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองที่การจราจรหนาแน่น หรือการออกเดินทางไกลบนถนนหลวง ES90 จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ราบรื่นและควบคุมได้ดั่งใจ

ป้อมปราการแห่งความปลอดภัยและอัจฉริยภาพ: เทคโนโลยีที่ปกป้องคุณทุกเส้นทาง

วอลโว่คือชื่อที่มาคู่กับคำว่า “ความปลอดภัย” มาโดยตลอด และ Volvo ES90 2025 ก็ตอกย้ำปรัชญานี้ได้อย่างไร้ที่ติ ด้วยชุดเทคโนโลยีความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ล้ำสมัยที่สุดที่วอลโว่เคยสร้างมา ผมมองว่านี่คือ “ป้อมปราการเคลื่อนที่” ที่ปกป้องผู้โดยสารและผู้ใช้ถนนคนอื่นๆ ได้อย่างครอบคลุม

หัวใจสำคัญของระบบความปลอดภัยเชิงรุกคือชุดเซ็นเซอร์อันทรงพลังที่ประกอบด้วยเรดาร์ 5 ตัว, กล้อง 7 ตัว, เซ็นเซอร์อัลตราโซนิก 12 ตัว และ Lidar ซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อสร้างมุมมอง 360 องศาแบบเรียลไทม์รอบตัวรถ ระบบเหล่านี้สามารถตรวจจับวัตถุ คนเดินเท้า และยานพาหนะอื่นๆ ได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดความเสี่ยงของการชนและเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่

สิ่งที่ผมเห็นว่าเป็นนวัตกรรมที่โดดเด่นและเป็นก้าวสำคัญด้านความปลอดภัยคือ “ระบบรับรู้สภาวะของคนขับ” หรือ Driver Understanding System ที่ใช้เซ็นเซอร์อินฟราเรด (IR Sensor) 2 ตัว และพวงมาลัยสัมผัสแบบ Capacitive คอยมอนิเตอร์ดวงตา หนังตา ศีรษะ รวมถึงท่าทางของผู้ขับ เพื่อประเมินความพร้อมในการขับขี่ หากระบบตรวจพบว่าผู้ขับเผลอหลับ หมดสติ หรือไม่พร้อมที่จะควบคุมรถ ระบบจะทำงานโดยอัตโนมัติเพื่อช่วยควบคุมตัวรถและนำรถเข้าสู่สภาวะปลอดภัย นับเป็นเทคโนโลยีที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบเดิมๆ

นอกจากนี้ ยังมี “ระบบแจ้งเตือนการเปิดประตู” หรือ Door Opening Alert ที่ใช้เรดาร์ตรวจจับวัตถุที่เคลื่อนที่มาจากด้านหลัง เช่น รถจักรยานยนต์หรือจักรยาน โดยรถจะส่งเสียงเตือนหากคนในรถจะเปิดประตู เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น นี่คือความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจมองข้ามไป แต่กลับมีผลอย่างมากต่อความปลอดภัยในชีวิตจริง

ES90 สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม SPA2 ที่ล้ำสมัย ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ออกแบบมาสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคตโดยเฉพาะ ตัวรถยังเป็นรุ่นที่สองของวอลโว่ที่นิยามว่าเป็น “Software-Defined” โดยใช้เทคโนโลยี Superset ของ Volvo Cars ซึ่งประกอบด้วยชุดฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่เหมือนกันกับ Volvo EX90 แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของวอลโว่ในการสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าที่เชื่อมโยงถึงกัน

พลังประมวลผลของ ES90 ก็ไม่ธรรมดา ด้วยชิปประมวลผล Core Computing แบบคู่ NVIDIA DRIVE AGX Orin ที่สามารถประมวลผลได้มากกว่า 500 ล้านล้านคำสั่งต่อวินาที (TOPS) ทำให้ระบบอัจฉริยะทั้งหมดของรถทำงานได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และมีประสิทธิภาพสูง รองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ Over-the-Air (OTA) ทำให้ฟังก์ชันการทำงานของรถดีขึ้นได้อย่างต่อเนื่องตลอดอายุการใช้งาน ไม่ต้องนำรถเข้าศูนย์บริการบ่อยๆ และระบบ Infotainment ภายในห้องโดยสารก็ควบคุมด้วยชิป Snapdragon® Cockpit Platforms ที่มอบประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลและตอบสนองได้ทันใจ

ความยั่งยืนเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของวอลโว่ ES90 สะท้อนแนวคิดนี้ด้วยการใช้วัสดุรีไซเคิลเป็นส่วนประกอบสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นอะลูมิเนียมรีไซเคิล 29%, เหล็กรีไซเคิล 18% และโพลิเมอร์รีไซเคิล 16% รวมถึงการใช้วัสดุชีวภาพอื่นๆ สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นการแสดงความรับผิดชอบของผู้ผลิตต่อโลกยุคใหม่

Volvo ES90 2025: ยานยนต์ไฟฟ้าสำหรับผู้ที่มองไปข้างหน้า

จากมุมมองของผู้ที่เฝ้าติดตามวิวัฒนาการของยานยนต์มาอย่างใกล้ชิด ผมมั่นใจว่า Volvo ES90 2025 ไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์ไฟฟ้าอีกคันหนึ่งที่เข้ามาในตลาด แต่คือผู้บุกเบิกและผู้กำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าซีดานหรูในทศวรรษหน้า ด้วยราคาเริ่มต้น 2,990,000 บาท วอลโว่ได้วางตำแหน่ง ES90 ไว้ในกลุ่มพรีเมียมที่เข้าถึงได้ ซึ่งมอบมูลค่าที่คุ้มค่ากับสิ่งที่ได้รับอย่างแท้จริง

ES90 ผสมผสานความงามเหนือกาลเวลาของสแกนดิเนเวียเข้ากับสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ความสะดวกสบายในระดับเฟิร์สคลาส ความปลอดภัยที่ไร้ที่ติ และเทคโนโลยีอัจฉริยะที่เชื่อมโยงคุณเข้ากับโลกดิจิทัลได้อย่างราบรื่น เป็นรถที่ตอบโจทย์ทุกมิติของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในเมือง การออกทริปกับครอบครัว หรือการใช้เป็นพาหนะคู่ใจในการติดต่อธุรกิจ

สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมที่มาพร้อมกับวิสัยทัศน์แห่งอนาคต ผสานความหรูหรา ความยั่งยืน และความปลอดภัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ Volvo ES90 2025 คือทางเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม นี่คือการลงทุนในประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า และการเดินทางที่สะท้อนถึงรสนิยมอันโดดเด่นของคุณ

ก้าวสู่โลกใหม่ไปกับ Volvo ES90 2025

หากคุณพร้อมแล้วที่จะสัมผัสประสบการณ์ยานยนต์ไฟฟ้าที่ก้าวล้ำกว่าใครในยุค 2025 และปรารถนาที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางสู่โลกที่ยั่งยืนและมีสไตล์ ผมขอเชิญชวนให้คุณมาสัมผัส Volvo ES90 2025 ด้วยตัวคุณเอง อย่ารอช้าที่จะเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าที่ผสานความเรียบหรู สมรรถนะ และความปลอดภัยระดับโลกเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

เยี่ยมชมโชว์รูมวอลโว่ใกล้บ้านคุณวันนี้ เพื่อสัมผัสดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ห้องโดยสารที่กว้างขวางและสะดวกสบายเกินคาด และทดลองขับเพื่อสัมผัสสมรรถนะอันทรงพลัง พร้อมค้นพบว่าทำไม Volvo ES90 2025 จึงเป็นมากกว่ายานพาหนะ แต่คือสัญลักษณ์แห่งอนาคตที่คุณคู่ควร

Volvo ES90 2025: ปฏิวัติวงการรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม ด้วยที่สุดแห่งนวัตกรรมและความหรูหรา

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เฝ้าสังเกตการณ์การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่กำลังก้าวเข้ามาเป็นแกนหลักของการเดินทางในอนาคต ปี 2025 นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญที่น่าจับตา เมื่อแบรนด์ผู้บุกเบิกด้านความปลอดภัยและนวัตกรรมอย่าง Volvo ได้เผยโฉม Volvo ES90 2025 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ยานพาหนะ แต่คือนิยามใหม่ของ รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม ที่ผสานความหรูหรา ความอเนกประสงค์ และ เทคโนโลยีล้ำสมัย เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมแล้วที่จะพลิกโฉม ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 2025 ในเอเชียและทั่วโลก

สำหรับ Volvo ES90 ไม่ใช่แค่การต่อยอดความสำเร็จ แต่เป็นการก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ด้วยการออกแบบที่ฉีกกฎ ผสานจุดเด่นของรถซีดานที่สง่างามเข้ากับความคล่องตัวของรถ Fastback และเพิ่มความสูงใต้ท้องรถแบบ SUV เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย นี่คือวิสัยทัศน์ของ Volvo ในการสร้างสรรค์ ประสบการณ์ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า ที่เหนือระดับ พร้อมกับคงไว้ซึ่งปรัชญาความปลอดภัยอันเป็นเอกลักษณ์

นิยามใหม่แห่งดีไซน์: เมื่อซีดาน Fastback และ SUV หลอมรวมเป็นหนึ่ง

จากประสบการณ์ที่ได้สัมผัสรถยนต์มากมายในตลาด ผมกล้ายืนยันว่า Volvo ES90 ไม่เหมือนใคร ด้วยแนวคิดการออกแบบที่ท้าทายขนบธรรมเนียมเดิมๆ โดยนำเสนอรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและใช้งานได้จริง การผสมผสานความเรียบหรูของรถซีดานเข้ากับเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวของรถ Fastback และยกสูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยและการใช้งานแบบรถ SUV คือหัวใจสำคัญของ ดีไซน์รถยนต์ไฟฟ้าหรู คันนี้

การออกแบบภายนอกของ ES90 สะท้อนถึงปรัชญา Scandinavian Minimalism ที่เน้นความสะอาดตา แต่แฝงไว้ด้วยรายละเอียดที่ประณีต เส้นสายด้านข้างรถที่ลากยาวต่อเนื่องจากด้านหน้าจรดท้ายรถตามความยาวฐานล้อขนาด 3.1 เมตร ช่วยเน้นความรู้สึกโอ่อ่าและมั่นคง ในขณะที่การออกแบบพื้นผิวแบบเรียบ (flush design) ไม่เพียงแต่สร้างความสวยงามที่กลมกลืน แต่ยังช่วยลดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (Cd) ลงเหลือเพียง 0.25 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่ Volvo เคยทำมาในรถยนต์ซีดานไฟฟ้า ถือเป็นความสำเร็จด้านวิศวกรรมที่ส่งผลต่อ สมรรถนะรถยนต์ไฟฟ้า โดยตรง ทั้งในด้านระยะทางขับขี่และความเงียบภายในห้องโดยสาร

เอกลักษณ์ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงคือไฟหน้า Thor’s Hammer ที่ได้รับการยกระดับด้วยเทคโนโลยี HD Pixel จำนวนกว่า 20,000 ดวง ที่สามารถปรับการทำงานแยกกันได้อย่างอิสระ มอบทัศนวิสัยที่สมบูรณ์แบบแก่ผู้ขับขขี่โดยไม่รบกวนรถที่สวนทางมา นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนของ นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ที่ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังเพิ่มความปลอดภัยได้อย่างมีนัยสำคัญ เส้นหลังคาที่ลาดลงอย่างมีสไตล์แบบรถคูเป้เชื่อมต่อกับฝาท้ายสไตล์แฮทช์แบ็กที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการขนสัมภาระ ผสมผสานความสวยงามกับการใช้งานได้อย่างไร้ที่ติ ไฟท้าย LED รูปทรงตัว C โอบล้อมส่วนท้ายรถ เพิ่มความโดดเด่นและมองเห็นได้ชัดเจนในทุกสภาพแสง และไฟท้ายแนวตั้งบริเวณเสา D ยังเพิ่มความทันสมัยและมุมมองด้านหลังที่ดีเยี่ยมแก่ผู้ขับขี่อีกด้วย

ขุมพลังแห่งอนาคต: สมรรถนะที่เหนือกว่าด้วยเทคโนโลยี 800V

ภายใต้รูปลักษณ์ที่งดงาม Volvo ES90 ซ่อนขุมพลังที่น่าประทับใจ ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง 1 ตัว ขับเคลื่อนล้อหลัง มอบกำลังสูงสุด 338 แรงม้า (HP) และแรงบิด 480 นิวตันเมตร (Nm) ตัวเลขเหล่านี้บ่งบอกถึงพละกำลังที่เพียงพอต่อการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมือง ให้การออกตัวที่นุ่มนวลแต่ทรงพลัง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.6 วินาที และความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. ซึ่งถือว่าเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่เน้นความหรูหราและประหยัดพลังงาน

หัวใจสำคัญที่ทำให้ ES90 โดดเด่นคือแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดความจุ 92 kWh ที่มาพร้อม เทคโนโลยีแบตเตอรี่ 800V ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุดในปัจจุบัน ข้อดีของระบบ 800V คือความสามารถในการ ชาร์จเร็วรถยนต์ไฟฟ้า ได้อย่างมหาศาล ลดระยะเวลาในการรอคอย และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการพลังงานโดยรวม ระยะทางขับขี่สูงสุดถึง 755 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจและช่วยคลายความกังวลเรื่อง ระยะทางขับขี่รถไฟฟ้า (Range Anxiety) ได้อย่างสิ้นเชิง ทำให้ Volvo ES90 เป็นรถที่พร้อมสำหรับการเดินทางไกลได้อย่างมั่นใจ

นอกจากนี้ ES90 ยังติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ารุ่นที่ 3 ของวอลโว่ ที่ทำงานร่วมกับระบบกันสะเทือนแบบถุงลม Dual-Chamber Air Suspension และช่วงล่าง Four-C Active Chassis ที่สามารถปรับสภาพการขับขี่ได้ถึง 500 ครั้งต่อวินาที เพื่อการดูดซับแรงกระแทกที่ดีเยี่ยม มอบความนุ่มนวลและเสถียรภาพในการขับขี่ที่เหนือชั้นไม่ว่าถนนจะอยู่ในสภาพใด เทคโนโลยี Frequency Selective Damping (FSD) ยังช่วยปรับความนุ่มหนึบของโช้คอัพตามสภาพถนนโดยอัตโนมัติ ทำให้การควบคุมรถเป็นไปอย่างมั่นใจและแม่นยำยิ่งขึ้น นี่คือการผสานกันอย่างลงตัวระหว่าง สมรรถนะรถยนต์ไฟฟ้า กับความสบายในการเดินทาง

สุนทรียภาพในทุกสัมผัส: ห้องโดยสารที่รังสรรค์อย่างพิถีพิถัน

ก้าวเข้ามาในห้องโดยสารของ Volvo ES90 คุณจะพบกับอาณาจักรแห่งความหรูหราและความเงียบสงบที่ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบภายใน ผมเห็นว่า Volvo ไม่ได้มองข้ามรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพื่อสร้าง ภายในรถยนต์หรู ที่สมบูรณ์แบบที่สุด

สิ่งที่ประทับใจเป็นอันดับแรกคือการเก็บเสียงภายในห้องโดยสารที่ยอดเยี่ยม โดยมีระดับเสียงที่ดังเพียง 68 dB(A) บริเวณที่นั่งคู่หน้า และ 70 dB(A) สำหรับที่นั่งแถวสอง แม้ในขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง เสียงรบกวนจากภายนอก เช่น เสียงลม เสียงถนน หรือเสียงมอเตอร์ ก็แทบไม่เล็ดลอดเข้ามา ช่วยสร้างบรรยากาศที่เงียบสงบสำหรับการสนทนาหรือการพักผ่อน

เบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุหนัง Nappa คุณภาพสูง ให้สัมผัสที่นุ่มนวลและระบายอากาศได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังได้รับการออกแบบให้มีขนาดใหญ่ โอ่อ่า ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งในห้องโดยสารชั้นธุรกิจ พร้อมที่วางแขนและช่องวางแก้ว/โทรศัพท์บริเวณกึ่งกลางเบาะ เบาะนั่งผู้โดยสารแถวหน้ามาพร้อมระบบนวดไฟฟ้า 10 จุด 5 รูปแบบการนวด และปรับความเร็ว/แรงได้ 3 ระดับ มอบประสบการณ์การผ่อนคลายในระหว่างการเดินทาง นอกจากนี้ เบาะนั่งด้านหลังยังสามารถปรับเอนนอนได้ถึง 28-33 องศา พร้อมระบบระบายอากาศเพื่อความสบายสูงสุด

ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสารได้รับการรับรองโดย Allergy Standards Limited ว่าสามารถช่วยกรองฝุ่นละอองที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้และหอบหืดได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับ รถยนต์ไฟฟ้าสำหรับครอบครัว ที่ใส่ใจในสุขภาพของผู้โดยสารทุกคน ระบบปรับอากาศแบบแยกควบคุม 4 โซน ทำให้ผู้โดยสารแต่ละคนสามารถตั้งอุณหภูมิได้ตามต้องการ

เทคโนโลยีห้องโดยสาร ของ ES90 ยังเหนือระดับด้วยระบบเครื่องเสียงจาก Bowers & Wilkins พร้อมลำโพง 25 ตัว กำลังขับรวม 1,610 วัตต์ พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos® และโหมดเสียง Abbey Road Studios ที่จะมอบ ระบบเสียงพรีเมียม ประสบการณ์คอนเสิร์ตส่วนตัวบนรถ ระบบอินโฟเทนเมนต์ควบคุมผ่านหน้าจอสัมผัสกลางขนาด 14.5 นิ้ว และหน้าจอแสดงผลสำหรับผู้ขับขี่ขนาด 9 นิ้ว พร้อม Head-Up Display ความคมชัดสูง ทำให้เข้าถึงข้อมูลและการควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ของรถได้อย่างง่ายดาย

สำหรับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล ES90 มาพร้อมฟังก์ชัน Google built-in ซึ่งรวมถึง Google Maps, Google Assistant และแอปพลิเคชันอื่นๆ จาก Google Play นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย, Android Auto และ Android Automotive OS พร้อมสัญญาณเครือข่าย 5G เพื่อการเชื่อมต่อข้อมูลที่รวดเร็วทันใจ Digital Key Plus ช่วยให้คุณใช้ iPhone, Apple Watch หรืออุปกรณ์ Android ที่รองรับ เป็นกุญแจดิจิทัลได้โดยไม่ต้องพกกุญแจจริงอีกต่อไป

ในด้านการใช้งานจริง ฝากระโปรงท้ายควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าที่เปิดได้สูงถึงระดับหลังคารถ เบาะหลังสามารถพับแยกแบบ 40/20/40 เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระจาก 446 ลิตร เป็น 904 ลิตร พร้อมช่องเก็บของใต้พื้นที่เก็บสัมภาระอีก 16 ลิตร และ Frunk ด้านหน้าขนาด 27 ลิตร สำหรับเก็บสายชาร์จหรือของที่ไม่ค่อยได้ใช้ ปิดท้ายด้วยประตูปิดแบบ Soft Close ทุกบาน สะท้อนถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียดของ รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม อย่างแท้จริง

บุกเบิกความปลอดภัยและระบบขับขี่อัจฉริยะ: มรดกของ Volvo สู่ยุค EV

Volvo เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้บุกเบิกด้านความปลอดภัย และ ES90 ก็ตอกย้ำมรดกนี้ด้วย ระบบความปลอดภัยรถยนต์ไฟฟ้า และ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ที่ล้ำสมัยที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ES90 มาพร้อมชุดเซ็นเซอร์ที่ครอบคลุม ประกอบด้วยเรดาร์ 5 ตัว, กล้อง 7 ตัว, เซ็นเซอร์อัลตราโซนิก 12 ตัว และเทคโนโลยี LiDAR ที่มอบมุมมองรอบคัน 360 องศาแบบเรียลไทม์เพื่อป้องกันการชน นี่คือพื้นฐานสำคัญของ การขับขี่อัจฉริยะ ที่ช่วยลดความเสี่ยงบนท้องถนนได้อย่างมหาศาล

หนึ่งในนวัตกรรมที่โดดเด่นคือ Driver Understanding System ซึ่งทำงานด้วยชุดเซ็นเซอร์อินฟราเรด (IR Sensor) 2 ตัว และพวงมาลัยสัมผัสแบบ Capacitive ระบบนี้จะคอยเฝ้าตรวจสอบดวงตา หนังตา ศีรษะ และท่าทางของผู้ขับขี่ เพื่อประเมินความพร้อมในการขับขี่ หากตรวจพบว่าผู้ขับมีอาการหลับใน หรือหมดสติ ระบบจะทำงานโดยอัตโนมัติเพื่อช่วยควบคุมรถ นี่คือความก้าวหน้าครั้งสำคัญใน นวัตกรรมความปลอดภัย ที่ช่วยยกระดับการป้องกันอุบัติเหตุในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน

นอกจากนี้ ยังมีระบบ Door Opening Alert ที่ใช้เรดาร์ตรวจจับวัตถุที่เคลื่อนที่มาจากด้านหลัง เช่น รถจักรยานยนต์ หรือจักรยาน หากมีคนในรถกำลังจะเปิดประตู ระบบจะส่งเสียงเตือนเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในสภาพแวดล้อมเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น

Volvo ES90 ถูกพัฒนาขึ้นบนสถาปัตยกรรม แพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้า SPA2 ที่มีความล้ำสมัย และเป็นรถรุ่นที่สองของ Volvo ที่เป็นแบบ software-defined ซึ่งหมายความว่าตัวรถทำงานด้วยระบบซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์เป็นหลัก โดยใช้เทคโนโลยี Superset ของ Volvo Cars ซึ่งประกอบด้วยชุดฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่เป็นพื้นฐานสำหรับรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ทั้งหมดในอนาคต ทำให้รถสามารถ อัปเดต Over-the-Air เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและเพิ่มฟังก์ชันการทำงานได้อย่างต่อเนื่อง

ES90 เป็นรถรุ่นแรกที่สั่งงานผ่านชิปประมวลผล Core Computing แบบคู่ NVIDIA DRIVE AGX Orin ที่สามารถประมวลผลได้มากกว่า 500 ล้านล้านคำสั่งต่อวินาที (TOPS) และระบบอินโฟเทนเมนต์ภายในห้องโดยสารควบคุมด้วยชิปความเร็วสูง Snapdragon® Cockpit Platforms เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลและตอบสนองได้ทันใจ นี่คือการลงทุนใน เทคโนโลยีล้ำสมัย ที่แท้จริง เพื่อให้มั่นใจว่า ES90 จะยังคงทันสมัยและเปี่ยมประสิทธิภาพไปอีกนาน

และที่สำคัญ Volvo ยังคงมุ่งมั่นสู่ ความยั่งยืนยานยนต์ ด้วยการใช้วัสดุรีไซเคิลเป็นส่วนประกอบสำคัญของรถ เช่น อะลูมิเนียมรีไซเคิล 29%, เหล็กรีไซเคิล 18% และโพลิเมอร์รีไซเคิล 16% รวมถึงวัสดุชีวภาพอื่นๆ นี่ไม่ใช่แค่การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์

สรุป: อนาคตแห่งการเดินทางที่พร้อมให้คุณสัมผัส

Volvo ES90 2025 เป็นมากกว่าแค่รถยนต์ไฟฟ้า มันคือการประกาศความพร้อมของ Volvo ในการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่แห่งการเดินทางที่ยั่งยืน หรูหรา และปลอดภัย ด้วยการผสมผสานดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ สมรรถนะที่น่าประทับใจ เทคโนโลยีล้ำสมัย และห้องโดยสารที่รังสรรค์อย่างพิถีพิถัน ทำให้ ES90 กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของ รถยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต ในตลาด รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม ปี 2025

สำหรับผู้ที่มองหานิยามใหม่ของการเดินทางที่เหนือกว่า และพร้อมที่จะสัมผัสกับ ประสบการณ์ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า ที่ไม่เคยมีมาก่อน Volvo ES90 คือคำตอบที่ไม่ควรมองข้าม

อย่าพลาดโอกาสในการเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตแห่งยานยนต์! หากคุณพร้อมที่จะสัมผัสกับความหรูหรา นวัตกรรม และความปลอดภัยที่ก้าวล้ำในแบบฉบับของ Volvo ES90 2025 ผมขอเชิญชวนให้คุณลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม หรือเยี่ยมชมโชว์รูม Volvo ใกล้บ้านคุณ เพื่อสัมผัสกับนวัตกรรมและดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของ ES90 ด้วยตัวคุณเอง แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไม ES90 ถึงเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่คุณต้องมีไว้ครอบครอง!

Previous Post

N2810499 แม หม าย EP2 part 2

Next Post

N2810055 ตหล งแต งงานของตอง part 2

Next Post
N2810055 ตหล งแต งงานของตอง part 2

N2810055 ตหล งแต งงานของตอง part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N0111331 เวลาของเราไม เท าก part 2
  • N0111323 วยต วเOงในมหาล part 2
  • N0111327 แฟนหน าตาแบบน เป นค ณจะอายไหม part 2
  • N0111328 แกล งขอทาน #สน กด part 2
  • N0111325 แอบก uสาม เพ oนว าซ าน part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.