ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
10 อันดับ รถกระบะ 4 ประตู เกียร์ออโต้ น่าใช้ ปี 2025: คุ้มค่า ครบครัน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์!
ในยุคที่การขนส่งและการเดินทางผสมผสานกันอย่างลงตัว รถกระบะ 4 ประตู เกียร์ออโต้ กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน การทำงาน และการผจญภัยในวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่ด้วยตัวเลือกมากมายในตลาด การตัดสินใจว่าจะเลือกรุ่นไหนดีจึงเป็นเรื่องที่ท้าทาย ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการรถยนต์มากว่า 10 ปี ผมได้รวบรวม 10 อันดับรถกระบะ 4 ประตู เกียร์ออโต้ ที่น่าจับตามองในปี 2025 มาให้คุณพิจารณา เพื่อให้คุณได้รถที่คุ้มค่า ตอบโจทย์การใช้งาน และตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด
ทำไมต้องรถกระบะ 4 ประตู เกียร์ออโต้?
ก่อนที่จะไปดูอันดับรถกระบะยอดนิยม เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมรถกระบะ 4 ประตู เกียร์ออโต้ ถึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
ความอเนกประสงค์: รถกระบะ 4 ประตู ผสมผสานความสะดวกสบายของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเข้ากับพื้นที่บรรทุกสัมภาระที่กว้างขวาง เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน การเดินทางกับครอบครัว หรือการขนส่งสินค้า
ความสะดวกสบาย: เกียร์อัตโนมัติช่วยให้การขับขี่ง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพการจราจรที่ติดขัดในเมือง
ความแข็งแกร่ง: รถกระบะถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานหนัก ทั้งการบรรทุกของหนัก การลากจูง และการขับขี่บนถนนขรุขระ
ความคุ้มค่า: รถกระบะหลายรุ่นมีราคาที่เข้าถึงได้ง่าย พร้อมทั้งมีค่าบำรุงรักษาที่ไม่สูงมากนัก
10 อันดับ รถกระบะ 4 ประตู เกียร์ออโต้ น่าใช้ ปี 2025:
Toyota Hilux Revo GR Sport Double Cab: (ราคาเริ่มต้น 1,1xx,xxx บาท)
จุดเด่น: Toyota Hilux Revo ยังคงเป็นรถกระบะยอดนิยมอันดับหนึ่งในประเทศไทย ด้วยชื่อเสียงด้านความทนทาน สมรรถนะ และความน่าเชื่อถือ รุ่น GR Sport โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตดุดัน ช่วงล่างที่ปรับปรุงใหม่ และระบบความปลอดภัยที่ครบครัน
เครื่องยนต์: ดีเซล 2.8 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการรถกระบะที่ไว้ใจได้ ใช้งานได้หลากหลาย และมีดีไซน์ที่โดดเด่น
Isuzu D-Max V-Cross 4×4: (ราคาเริ่มต้น 1,0xx,xxx บาท)
จุดเด่น: Isuzu D-Max เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของความประหยัดน้ำมัน ความทนทาน และความสามารถในการลุย รุ่น V-Cross 4×4 มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่แข็งแกร่ง ช่วงล่างที่ยกสูง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน
เครื่องยนต์: ดีเซล 3.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการรถกระบะที่ประหยัดน้ำมัน ใช้งานได้ในทุกสภาพถนน และมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่เชื่อถือได้
Ford Ranger Raptor: (ราคาเริ่มต้น 1,8xx,xxx บาท)
จุดเด่น: Ford Ranger Raptor เป็นรถกระบะสมรรถนะสูงที่ออกแบบมาเพื่อการขับขี่แบบออฟโรดโดยเฉพาะ มาพร้อมกับช่วงล่าง FOX Racing Shox ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ปรับแต่งเป็นพิเศษ และดีไซน์ที่ดุดัน
เครื่องยนต์: เบนซิน 3.0 ลิตร V6 เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 397 แรงม้า แรงบิด 583 นิวตันเมตร
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบออฟโรด และต้องการรถกระบะที่มีสมรรถนะสูง
Mitsubishi Triton Athlete Double Cab: (ราคาเริ่มต้น 9xx,xxx บาท)
จุดเด่น: Mitsubishi Triton โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย ช่วงล่างที่นุ่มนวล และระบบความปลอดภัยที่ครบครัน รุ่น Athlete มาพร้อมกับชุดแต่งสปอร์ต และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่เพิ่มขึ้น
เครื่องยนต์: ดีเซล 2.4 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตันเมตร
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการรถกระบะที่มีดีไซน์ที่ทันสมัย ใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน และมีระบบความปลอดภัยที่ครบครัน
Nissan Navara PRO-4X Double Cab: (ราคาเริ่มต้น 1,0xx,xxx บาท)
จุดเด่น: Nissan Navara PRO-4X เป็นรถกระบะที่เน้นการใช้งานแบบออฟโรด มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่แข็งแกร่ง ช่วงล่างที่ยกสูง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน
เครื่องยนต์: ดีเซล 2.3 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการรถกระบะที่ใช้งานได้ในทุกสภาพถนน และมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่เชื่อถือได้
Mazda BT-50 Thunder Double Cab: (ราคาเริ่มต้น 1,1xx,xxx บาท)
จุดเด่น: Mazda BT-50 โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่หรูหรา ช่วงล่างที่นุ่มนวล และระบบความปลอดภัยที่ครบครัน รุ่น Thunder มาพร้อมกับชุดแต่งที่โดดเด่น และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่เพิ่มขึ้น
เครื่องยนต์: ดีเซล 3.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการรถกระบะที่มีดีไซน์ที่หรูหรา ใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน และมีระบบความปลอดภัยที่ครบครัน
MG Extender Grand D Double Cab: (ราคาเริ่มต้น 8xx,xxx บาท)
จุดเด่น: MG Extender เป็นรถกระบะที่มีราคาที่เข้าถึงได้ง่าย มาพร้อมกับดีไซน์ที่ทันสมัย และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน
เครื่องยนต์: ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 161 แรงม้า แรงบิด 375 นิวตันเมตร
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการรถกระบะที่มีราคาที่คุ้มค่า ใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน และมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน
Great Wall Motors (GWM) POER Double Cab: (ราคาเริ่มต้น 8xx,xxx บาท)
จุดเด่น: GWM POER เป็นรถกระบะที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย ดีไซน์ที่โดดเด่น และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน
เครื่องยนต์: เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการรถกระบะที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน และมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน
BYD SHARK Double Cab: (ราคาเริ่มต้น 1,3xx,xxx บาท)
จุดเด่น: BYD SHARK เป็นรถกระบะไฟฟ้า 100% ที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่ล้ำสมัย สมรรถนะที่โดดเด่น และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
มอเตอร์ไฟฟ้า: ให้กำลังสูงสุด 313 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการรถกระบะไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย
RAM 1500 Double Cab: (ราคาเริ่มต้น 4,xxx,xxx บาท)
จุดเด่น: RAM 1500 เป็นรถกระบะ Full-Size ที่มีความหรูหรา สะดวกสบาย และมาพร้อมกับพละกำลังที่เหลือเฟือ
เครื่องยนต์: เบนซิน 5.7 ลิตร V8 ให้กำลังสูงสุด 395 แรงม้า แรงบิด 556 นิวตันเมตร
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการรถกระบะขนาดใหญ่ ที่มีความสะดวกสบายและสมรรถนะสูง
ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกรถกระบะ 4 ประตู เกียร์ออโต้:
งบประมาณ: กำหนดงบประมาณที่คุณสามารถจ่ายได้ เพื่อจำกัดตัวเลือกให้แคบลง
วัตถุประสงค์การใช้งาน: พิจารณาว่าคุณต้องการใช้รถกระบะเพื่ออะไรเป็นหลัก เช่น การทำงาน การเดินทาง หรือการผจญภัย
สมรรถนะ: เลือกรถกระบะที่มีสมรรถนะที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ
ความสะดวกสบาย: เลือกรถกระบะที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ
ความปลอดภัย: เลือกรถกระบะที่มีระบบความปลอดภัยที่ครบครัน
ค่าบำรุงรักษา: สอบถามเกี่ยวกับค่าบำรุงรักษาของรถกระบะแต่ละรุ่น เพื่อวางแผนค่าใช้จ่ายในระยะยาว
การทดลองขับ: ทดลองขับรถกระบะที่คุณสนใจ เพื่อสัมผัสประสบการณ์จริงและประเมินความเหมาะสม
คำแนะนำเพิ่มเติม:
เปรียบเทียบสเปคและราคา: เปรียบเทียบสเปคและราคาของรถกระบะแต่ละรุ่นอย่างละเอียด เพื่อให้ได้รถที่คุ้มค่าที่สุด
อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริง: อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริง เพื่อทราบถึงข้อดีข้อเสียของรถกระบะแต่ละรุ่น
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ เพื่อขอคำแนะนำในการเลือกรถกระบะที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
ถึงเวลาตัดสินใจ!
หวังว่าข้อมูลและคำแนะนำที่ผมได้รวบรวมมานี้ จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกรถกระบะ 4 ประตู เกียร์ออโต้ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ง่ายยิ่งขึ้น อย่าลืมพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นอย่างรอบคอบ และทดลองขับรถที่คุณสนใจ เพื่อให้คุณได้รถที่คุ้มค่า คุ้มราคา และตอบโจทย์การใช้งานของคุณมากที่สุด
หากคุณยังมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม อย่าลังเลที่จะติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ หรือแวะไปที่โชว์รูมรถยนต์ใกล้บ้านคุณ เพื่อสอบถามข้อมูลและทดลองขับรถที่คุณสนใจได้เลยครับ!
10 อันดับ รถกระบะ 4 ประตู เกียร์ออโต้ ปี 2025: คุ้มค่า แรงดี ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
ตลาดรถกระบะในประเทศไทยปี 2025 ยังคงคึกคัก ด้วยตัวเลือกมากมายที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน การบรรทุกสินค้า หรือการผจญภัยในเส้นทางออฟโรด หนึ่งในปัจจัยที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญคือระบบเกียร์อัตโนมัติ ซึ่งมอบความสะดวกสบายในการขับขี่มากยิ่งขึ้น บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจ 10 อันดับรถกระบะ 4 ประตู เกียร์ออโต้ ที่น่าจับตามองที่สุดในปี 2025 พร้อมวิเคราะห์จุดเด่น สมรรถนะ และความคุ้มค่า เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อรถที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด
ทำไมต้องรถกระบะเกียร์ออโต้?
ในอดีต รถกระบะมักถูกมองว่าเป็นรถที่เน้นการใช้งานหนัก บรรทุกของ หรือลุยเส้นทางสมบุกสมบัน แต่ปัจจุบัน รถกระบะได้พัฒนาไปไกลกว่านั้น กลายเป็นรถอเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้บริโภค ด้วยการออกแบบที่ทันสมัย เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และสมรรถนะที่เหนือกว่า
ระบบเกียร์อัตโนมัติถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้รถกระบะมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ด้วยข้อดีดังนี้:
ความสะดวกสบาย: การขับขี่รถเกียร์ออโต้ช่วยลดความเมื่อยล้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น
ความปลอดภัย: ผู้ขับขี่สามารถจดจ่อกับการควบคุมรถและสภาพแวดล้อมรอบข้างได้มากขึ้น ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
ประสิทธิภาพ: ระบบเกียร์อัตโนมัติในปัจจุบันได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการส่งกำลังและประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น
ความอเนกประสงค์: รถกระบะเกียร์ออโต้สามารถตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ทั้งการขับขี่ในชีวิตประจำวัน การบรรทุกสินค้า หรือการเดินทางท่องเที่ยว
10 อันดับ รถกระบะ 4 ประตู เกียร์ออโต้ ที่น่าจับตามองในปี 2025
(เรียงตามราคาจากน้อยไปมากโดยประมาณ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่นของแต่ละดีลเลอร์)
Toyota Hilux Revo GR Sport Double Cab 4×2 AT (ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ 950,000 บาท)
Hilux Revo ยังคงเป็นขวัญใจมหาชน ด้วยความทนทาน สมรรถนะ และราคาที่เข้าถึงได้ง่าย รุ่น GR Sport โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ต โฉบเฉี่ยว พร้อมระบบช่วงล่างที่ปรับปรุงใหม่ มอบความมั่นใจในการขับขี่ทั้งบนถนนเรียบและทางออฟโรด เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร ให้กำลัง 150 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปและบรรทุกสินค้า
จุดเด่น: ความทนทาน ชื่อเสียงของแบรนด์ ดีไซน์สปอร์ต
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการรถกระบะที่ใช้งานได้หลากหลาย คุ้มค่า และดูแลรักษาง่าย
Isuzu D-Max Hi-Lander 1.9 Ddi Z AT (ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ 980,000 บาท)
Isuzu D-Max เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ได้รับความนิยม ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร ที่ขึ้นชื่อเรื่องความประหยัดน้ำมัน รุ่น Hi-Lander ยกสูง มอบทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดี และความสามารถในการลุยเส้นทางที่ไม่สมบุกสมบันมากนัก ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน
จุดเด่น: ความประหยัดน้ำมัน ห้องโดยสารกว้างขวาง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการรถกระบะที่ประหยัดน้ำมัน ขับขี่สบาย และใช้งานได้หลากหลาย
Mitsubishi Triton Double Cab 2.4 GT Premium AT 4WD (ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ 1,100,000 บาท)
Mitsubishi Triton โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่แข็งแกร่ง ดุดัน พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Super Select 4WD II ที่มอบความมั่นใจในการขับขี่ในทุกสภาพถนน เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร ให้กำลัง 181 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตันเมตร พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ล้ำสมัย
จุดเด่น: ดีไซน์แข็งแกร่ง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่เหนือกว่า เทคโนโลยีความปลอดภัย
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการรถกระบะที่พร้อมลุยทุกเส้นทาง และให้ความสำคัญกับความปลอดภัย
Nissan Navara Double Cab PRO-4X AT 4WD (ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ 1,150,000 บาท)
Nissan Navara PRO-4X มาพร้อมดีไซน์ที่ดุดัน โฉบเฉี่ยว พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งที่บ่งบอกถึงความเป็นรถออฟโรดอย่างแท้จริง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และช่วงล่างที่แข็งแกร่ง มอบความสามารถในการลุยเส้นทางสมบุกสมบันได้อย่างมั่นใจ เครื่องยนต์ดีเซล 2.3 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลัง 190 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร
จุดเด่น: ดีไซน์ดุดัน อุปกรณ์ตกแต่งออฟโรด ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่แข็งแกร่ง
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการรถกระบะที่พร้อมสำหรับการผจญภัย และชื่นชอบดีไซน์ที่โดดเด่น
Mazda BT-50 Double Cab 3.0 SP AT 4×4 (ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ 1,200,000 บาท)
Mazda BT-50 ผสมผสานความหรูหราและความแข็งแกร่งได้อย่างลงตัว ด้วยดีไซน์ Kodo Design ที่สง่างาม ภายในห้องโดยสารตกแต่งอย่างประณีต พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร ให้กำลัง 190 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร
จุดเด่น: ดีไซน์หรูหรา ภายในห้องโดยสารประณีต อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการรถกระบะที่ให้ความรู้สึกหรูหรา ขับขี่สบาย และใช้งานได้หลากหลาย
MG Extender Double Cab 2.0 GRAND 4WD AT (ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ 930,000 บาท)
MG Extender เป็นรถกระบะที่น่าสนใจด้วยราคาที่เข้าถึงง่าย และออปชั่นที่คุ้มค่า เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลัง 161 แรงม้า แรงบิด 375 นิวตันเมตร ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน และการเดินทางท่องเที่ยว
จุดเด่น: ราคาที่เข้าถึงง่าย ออปชั่นคุ้มค่า ดีไซน์ทันสมัย
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มองหารถกระบะราคาประหยัด ที่มีออปชั่นครบครัน และใช้งานได้หลากหลาย
Ford Ranger Double Cab Wildtrak 2.0L Bi-Turbo 4×4 AT (ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ 1,350,000 บาท)
Ford Ranger เป็นรถกระบะที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยดีไซน์ที่แข็งแกร่ง สมรรถนะที่เหนือกว่า และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย รุ่น Wildtrak มาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งที่บ่งบอกถึงความเป็นรถออฟโรด เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลัง 210 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร
จุดเด่น: ดีไซน์แข็งแกร่ง สมรรถนะที่เหนือกว่า เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการรถกระบะที่พร้อมสำหรับการผจญภัย และให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี
GWM POER Double Cab Ultra AT 4WD (ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ 1,100,000 บาท)
GWM POER เป็นรถกระบะจากแบรนด์จีนที่กำลังมาแรง ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น ออปชั่นที่ครบครัน และราคาที่น่าสนใจ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลัง 163 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ
จุดเด่น: ดีไซน์โดดเด่น ออปชั่นครบครัน ราคาที่น่าสนใจ
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการลองรถกระบะแบรนด์ใหม่ ที่มีดีไซน์ที่แตกต่าง และออปชั่นที่คุ้มค่า
Ford Ranger Raptor 3.0L V6 EcoBoost 4×4 AT (ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ 2,150,000 บาท)
Ford Ranger Raptor เป็นรถกระบะสมรรถนะสูง ที่ออกแบบมาเพื่อการขับขี่ออฟโรดอย่างแท้จริง เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร V6 EcoBoost ให้กำลัง 397 แรงม้า แรงบิด 583 นิวตันเมตร ช่วงล่าง FOX Racing Shox พร้อมระบบกันสะเทือนที่ปรับแต่งมาเป็นพิเศษ มอบความสามารถในการลุยทุกเส้นทาง
จุดเด่น: สมรรถนะสูง ช่วงล่างที่เหนือกว่า ดีไซน์ดุดัน
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการรถกระบะที่พร้อมสำหรับการขับขี่ออฟโรดอย่างแท้จริง และชื่นชอบดีไซน์ที่โดดเด่น
Toyota Hilux Revo Rocco Double Cab 4×4 AT (ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ 1,300,000 บาท)
Hilux Revo Rocco เป็นรุ่นพิเศษที่มาพร้อมดีไซน์ที่ดุดัน แข็งแกร่ง พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งที่บ่งบอกถึงความเป็นรถออฟโรด เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร ให้กำลัง 204 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ มอบความมั่นใจในการขับขี่ในทุกสภาพถนน
จุดเด่น: ดีไซน์ดุดัน แข็งแกร่ง อุปกรณ์ตกแต่งออฟโรด
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการรถกระบะที่พร้อมสำหรับการผจญภัย และชื่นชอบดีไซน์ที่โดดเด่น
ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกรถกระบะ
งบประมาณ: กำหนดงบประมาณที่เหมาะสม เพื่อจำกัดตัวเลือกให้แคบลง
วัตถุประสงค์การใช้งาน: พิจารณาว่าต้องการใช้รถกระบะเพื่ออะไร (เช่น บรรทุกสินค้า เดินทางท่องเที่ยว ขับขี่ในชีวิตประจำวัน)
สมรรถนะ: เลือกเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนที่เหมาะสมกับการใช้งาน
ออปชั่น: พิจารณาว่าต้องการออปชั่นอะไรบ้าง (เช่น ระบบนำทาง กล้องมองหลัง ระบบความปลอดภัย)
ความสะดวกสบาย: ทดลองนั่งและขับ เพื่อดูว่ารถกระบะคันนั้นสะดวกสบายหรือไม่
การบำรุงรักษา: สอบถามเกี่ยวกับค่าบำรุงรักษา อะไหล่ และศูนย์บริการ
สรุป
การเลือกรถกระบะ 4 ประตู เกียร์ออโต้ ที่ดีที่สุด ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของแต่ละบุคคล หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อรถกระบะที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด
อยากลองสัมผัสประสบการณ์การขับขี่จริง?
อย่าลังเลที่จะติดต่อโชว์รูมรถยนต์ใกล้บ้านท่าน เพื่อขอทดลองขับรถกระบะรุ่นที่ท่านสนใจ เพื่อประกอบการตัดสินใจ เลือกคันที่ใช่ ตอบโจทย์ที่สุดสำหรับคุณ!
