• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N1810392 หลอยผ วมาต วอ าย EP2 part 2

admin79 by admin79
October 18, 2025
in Uncategorized
0
N1810392 หลอยผ วมาต วอ าย EP2 part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

Citroen DS นางฟ้าสุดคลาสิค เจ้าของรางวัลรถยนต์ที่สวยที่สุดตลอดกาล

Khan-Chit13 ก.ค. 2561 | 620 View | ข่าวตลาดรถยนต์ต่างประเทศ

กาลเวลาทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ สำหรับ Citroen DS ยนตรกรรมรุ่นเก๋าที่ฟังก์ชั่นเหมือนรถสมัยใหม่ตั้งแต่ 50 กว่าปีที่แล้ว


Citroen DS

ในช่วงเวลาที่วงการรถยนต์ยังไม่ได้ถูกพัฒนามากนัก Citroen DS ถือว่าเป็นผลงานที่เยี่ยมยอดที่สุดของยุค ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่สวยงามกลมกลืน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพียบพร้อมด้วยระบบที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายแบบรถในยุคปัจจุบันอย่างเช่น พวงมาลัยพาวเวอร์ ระบบเกียร์กึ่งอัตโนมัติ ระบบรองรับแรงสั่นสะเทือนแบบ Hydropneumatic Suspension Systems ที่ให้สัมผัสนุ่มนวลขณะขับขี่ และยังเป็นผู้บุกเบิกในการใช้ดิสก์เบรกทั้งสี่ล้อเป็นรุ่นแรกอีกด้วย 


Citroen DS  มีอีกชื่อคือ Deesse

Citroen DS มีชื่อเรียกอีกอย่างคือ Deesse ซึ่งแปลว่า “นางฟ้า” ในภาษาฝรั่งเศส หลังจากทีมวิศวกรและนักออกแบบได้ทำงานอย่างหนักมา 18 ปี Citroen DS ก็ได้เวลาเผยโฉมต่อสายตาชาวโลกครั้งแรกในงาน Paris Motor Show เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ปี 1995 ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เพียง 15 นาทีแรกก็มีผู้สั่งจองจำนวน 743 คัน ด้วยการออกแบบที่ละเอียดอ่อนทั้งภายนอกและภายใน ลงตัวทุกองศามุมมอง มีเอกลักษณ์ด้วยพวงมาลัยแบบก้านเดียว ทั้งยังโดดเด่นด้วยตัวถังทรงฉลามที่ไม่เหมือนใครในยุคนั้น จึงทำให้มียอดจองถึง 12,000 คันภายในวันแรกที่เปิดตัว และรวมยอดจองทั้งสิบวันในงาน Motor Show มากถึง 80,000 คันด้วยกัน ซึ่งสถิตินี้ยังไม่มีค่ายไหนล้มได้ตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมา จนกระทั้ง Tesla Model 3 ได้ทุบสถิติด้วยยอดจองวันแรก 180,000 คัน เมื่อปี 2016  


การออกแบบภายนอกทรงฉลามสุดล้ำ


พวงมาลัยแบบก้านเดียวที่เป็นเอกลักษณ์


ไฟหน้าหมุนตามพวงมาลัย

Citroen DS ทำให้วงการรถต้องตะลึงด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำแบบไม่เคยมีใครทำมาก่อน ตัวรถที่ออกแบบประสานกับหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamic) พร้อมนวัตกรรมในอนาคตอย่างระบบบังคับเลี้ยวแบบไฮดรอลิก ระบบไฟหน้าที่หมุนตามพวงมาลัยแม้ว่าจะไม่ใช่ค่ายแรกในโลกที่มีระบบนี้แต่ Citroen DS เป็นรถยุโรปคันแรกที่ใช้ระบบไฟหน้าแบบหมุนตามพวงมาลัย โดยการเชื่อมต่อจานฉายไฟหน้ากับคันชักของแร็คพวงมาลัย ทำให้การขับขี่ในเวลากลางคืนมีความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งได้รับการพัฒนาต่อมาให้เป็นระบบไฟหน้าอัจฉริยะในปัจจุบัน กอรปกับช่วงล่างอันนุ่มนวลแบบ Hydropneumatic Suspension Systems จากการคิดค้นของ Paul Mages ที่ระยกตัวขึ้นสูงเมื่อขับขี่ในเส้นทางขรุขระแบบถนนนอกชานเมืองในฝรั่งเศสยุคนั้น และจะลดระดับลงเมื่อขับบนถนนเรียบ และที่สำคัญ Citroen DS ยังมาพร้อมกับยางเรเดียลที่ผลิตโดยผู้เชี่ยวชาญอย่าง Michelin พร้อมระบบเกียร์แบบกึ่งอัตโนมัติที่ไม่มีคลัตช์แต่ยังต้องสับเกียร์เช่นเดิม นอกจากนี้ยังเป็นต้นแบบของระบบห้ามล้อดิสก์เบรกในรถปัจจุบันอีกด้วย เท่านั้นไม่พอ Citroen DS ยังสามารถกดปุ่มสั่งเบรกได้เหมือนกับ BMW หรือ Mercedes Benz อีกต่างหาก


นวัตกรรมช่วงล่างและระบบเบรกอันทันสมัย

ด้านสมรรถนะก็ไม่น้อยหน้า ด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ 1.911 L ให้กำลังสูงสุด 70.5 แรงม้า โดยสามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับเคลื่อนแบบ FWD และใช้วัสดุ Fiberglass ทำหลังคาเพื่อลดน้ำหนังของรถ ทำให้วิ่งเร็วยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าซิ่งที่สุดในยุคนั้นก็ว่าได้


Citroen DS ซิ่งที่สุดในยุค `90

ปัจจุบันแม้ว่าจะมีรถรุ่นใหม่ทยอยกันออกมาทำตลาดมากมาย แต่ Citroen DS ก็ยังมีพื้นที่ในตลาดไม่น้อยเช่นกันอีกทั้งราคาค่าตัวก็สูงไม่ใช่เล่น บรรดาผู้ที่มี Citroen DS ไว้ในครอบครองส่วนใหญ่มักจะไม่ขายเนื่องจากรูปลักษณ์ที่ถูกใจทุกยุคสมัยและอุปกรณ์ต่างๆก็ไม่ได้แตกต่างจากรถยนต์ปัจจุบันมากนัก แม้ว่าจะมีบางครั้งที่ต้องซ่อมแซมบ้าง แต่เชื่อได้เลยว่าวัยเก๋าอย่าง  Citroen DS  หาอะไหล่ไม่ยากแน่นอน Citroen DS ถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 5 ใน 100 ของรถยนต์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดจากทาง Automobile Magazine’s ในปี 2005 และยังได้ชื่อว่าเป็นรถยนต์ที่สวยตลอดกาลจากนิตยสาร Classic & Sport Car อีกด้วย

รถแข่งที่สวยที่สุดตลอดกาล PORSCHE 917

-กกก+

LightDarkฟังข่าว

นับตั้งแต่มีการออกแบบยานพาหนะสำหรับการกอบกู้โลกจากมลภาวะ รถยนต์ไฟฟ้ากำลังเข้ามาเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่อันแสนสะอาดของคุณพร้อมอากาศพลศาสตร์ระดับสุดยอด แต่กลับมีน้ำหนักตัวบานเบอะพร้อมกับไดนามิกส์ที่ยังไม่ใกล้เคียงกับรถสันดาปภายในเจ๋งๆ แม้แต่ Ioniq 5 N ที่ว่ายอดเยี่ยมแล้ว ก็ยังไม่สามารถซ่อนเร้นบิดบังน้ำหนัก 2 ตัน ขณะเลี้ยวในโค้งมุมแคบได้

…

Advertisements

ในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้ากำลังเข้ามาแทนที่เครื่องยนต์สันดาปภายใน แต่ยังมีคนที่ใช้รถ ICE อีกมากที่ยังคาราคาซังกับรถสันดาปเพราะลำบากชาร์จไฟ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่ได้ใช้เวลาอยู่ในสเตชั่นชาร์จนานเกินไป! เมื่อหมุนเวลาย้อนกลับไปในช่วงต้นทศวรรษ 1970 รถแข่ง Porsche 917 เป็นจักรกลที่อาจทำอันตรายถึงแก่ชีวิต มันเปราะบาง และมีแนวโน้มที่จะเกิดอุบัติเหตุด้วยความเร็วของรถ แต่สิ่งที่นักแข่งต้องการเมื่อลงไปทำการแข่งขันก็คือรถที่ไปได้เร็วกว่าคันอื่น ในสนามแข่งที่น่ากลัวไม่ว่าหมอกหรือพายุ ในสนามนรกเขียว นูร์เบิร์กริง หรือความลึกล้ำดำมืดของป่าสนในสนามเลอมังส์ (Le Mans 24 Hours) Porsche 917 LH เป็นรถแข่งที่สามารถทำความเร็วทางตรงทะลุ 321 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้อย่างง่ายดาย 

ช่างและวิศวกรในทีมแข่งของ Porsche ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อควบคุมเสถียรภาพของรถแข่งต้นแบบ โดยทำการปรับรูปทรงของตัวถังให้มีความทนทานต่อกระแสลมความเร็วสูง เครื่องยนต์ 12 สูบ ความจุ 4,907 ซีซี มีกำลังสูงสุด 550 แรงม้า ในปี 1971 นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่บ้าเอามากๆ สำหรับคนที่เข้าไปนั่งอยู่หลังพวงมาลัยของรถแข่งคันนี้

เพื่อให้ 917 มีน้ำหนักเบาที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (800 กิโลกรัม) Ferdinand Piëch หลานชายผู้เก่งกาจของ Ferry Porsche เลือกใช้โครงแบบสเปซเฟรมเสริมความแข็งแรง โครงสร้างท่อนโลหะไทเทเนียมน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่ง ทำหน้าที่รองรับแรงบิดมหาศาลในรถแข่งที่มีกำลัง 550 แรงม้า พร้อมด้วยดิสก์เบรก 4 ล้อในการแข่งขัน เลอมังส์ 24 ชั่วโมง

…

เพื่อลดน้ำหนัก Piëch เลือกใช้ท่อไทเทเนียม ซึ่งเชื่อมได้ยากและมีค่าใช้จ่ายสูงมาก (ในสมัยนั้น) ตามรายงานของ Gustav Nitsche วิศวกรของ Porsche ซึ่งมีส่วนร่วมในการสร้าง Porsche 917 ในขณะนั้น โครงแต่ละชิ้นถูกประกอบโดยช่างเชื่อมเพียงคนเดียวเท่านั้น เพื่อให้แน่ใจว่ารอยเชื่อมสามารถทนต่อแรงกดดันที่เกิดขึ้นได้ในขณะที่กำลังทำการแข่งขันด้วยระยะทางการวิ่งมากกว่า 3,300 กิโลเมตร ในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง

หางยาว ‘Langheck’ หรือ LH trim ได้รับการทดสอบที่ความเร็ว 362 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในขณะที่รถสามารถสร้างแรงกดได้มากกว่า 917 รุ่นแรก แม้ว่าจะไม่ใช่รูปแบบที่โดดเด่นที่สุดของรถแข่งรุ่น 917 แต่ครีบคู่ของ LH กับตัวถังที่ไหลลื่นสุดๆ ทำให้ 917 กลายเป็นหนึ่งในรถแข่งของ Porsche ที่สวยที่สุดตลอดกาล ตัวเลขค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศของ 917 LH อยู่ที่ 0.30 (Cd 0.30) ลืมบอกไปว่า ความเร็วปลายของ 917 LH อยู่ที่ 387 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นั่นเร็วกว่าเครื่องบิน Airbus A320 ตอนเทคออฟ

…

https://cc058857f062680952325f71afa42193.safeframe.googlesyndication.com/nameframe.html

917 เฉลิมฉลองครบรอบ 55 ปี ในปี 2024 ซึ่งในปีที่ถือกำเนิดนั้น (1969-1970) เป็นปีแห่งการเปิดตัวรถใหม่ในโลกแห่งอุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นปีแห่งความสำเร็จที่ผู้คนทั่วโลกได้เห็นการลงจอดบนผิวดวงจันทร์ของยานอพอลโล 11 รวมถึงเที่ยวบินเปิดตัวเครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียงคอนคอร์ด โดยทั่วไปแล้ว Porsche 917 ถือเป็นรถที่ทำให้บริษัทรถยนต์เล็กๆ ของเยอรมนีพุ่งทะยานขึ้นไปถึงจุดสูงสุดอย่างรวดเร็ว เมื่อรถรุ่นนี้ถูกเปิดตัว 917 ได้นำพาแบรนด์ Porsche สู่เส้นทางการแข่งขัน ที่ส่งผลให้ Porsche คว้าชัยชนะครั้งแรกที่เลอมังส์ในปี 1970 และคว้าชัยชนะอีก 17 ครั้งตามมา ระหว่างปี 1981-1987 ทำให้ Porsche กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำและก้าวขึ้นสู่ทีมระดับแนวหน้าในวงการมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก 

…

https://cc058857f062680952325f71afa42193.safeframe.googlesyndication.com/nameframe.html

แม้จะมีอายุอยู่ในระดับรถขึ้นหิ้งของพิพิธภัณฑ์ แต่ 917 ยังคงเป็นหนึ่งในรถที่มีรูปลักษณ์น่าดึงดูดที่สุดเท่าที่เคยมีมา นักออกแบบรถยนต์ต่างยกย่อง 917 ว่าเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบรถสปอร์ตรุ่นใหม่ รูปทรงของรถรุ่นนี้กระตุ้นเซลล์ประสาทแห่งความคิดสร้างสรรค์ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการวิวัฒนาการของรถแข่ง หลักอากาศพลศาสตร์ได้เข้ามาแทนที่สุนทรียศาสตร์มากขึ้นเรื่อยๆ 917 มีส่วนหน้าที่ต่ำเตี้ยเรี่ยพื้น ห้องโดยสารอยู่ตรงกึ่งกลางลำตัว และส่วนท้ายที่โค้งมนกับหางหลังที่สร้างแรงกดมหาศาลขณะความเร็วทะลุ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเหนือสิ่งอื่นใดนั่นก็คือ อันตรายจากความเร็วและความยากในการควบคุมจักรกลที่มีพลังถึง 500 แรงม้า

ความสำเร็จของ 917 ในช่วงปลายก่อนที่ Porsche จะเปลี่ยนเป็นรถแข่งรุ่นใหม่ ด้วยเครื่องยนต์ V12 เทอร์โบชาร์จปรับขยายความจุจาก 4.5 ลิตร เป็น 5.4 ลิตร กำลังเพิ่มจาก 550 แรงม้า เป็น 1,014 แรงม้า ทำให้ 917 มีความเร็วปลายไหลไปถึง 385 กม./ชม. การถ่ายโอนพลังงานทั้งหมดจากเครื่องยนต์ V12 ไปยังพื้นผิวสนามแข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัยจากอากาศพลศาสตร์ที่สร้างแรงกดส่วนท้ายได้ดีกว่าเดิม ปัจจุบัน Porsche 917 มีราคาจากการประมูลอยู่ที่ 13 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 584,000,000 บาท.

Previous Post

N1810398 หมากระเป าก บเสาไฟฟ EP3 part 2

Next Post

N1810394 คนนอกสายตา EP1 part 2

Next Post
N1810394 คนนอกสายตา EP1 part 2

N1810394 คนนอกสายตา EP1 part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N0111331 เวลาของเราไม เท าก part 2
  • N0111323 วยต วเOงในมหาล part 2
  • N0111327 แฟนหน าตาแบบน เป นค ณจะอายไหม part 2
  • N0111328 แกล งขอทาน #สน กด part 2
  • N0111325 แอบก uสาม เพ oนว าซ าน part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.