ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
รถยนต์ 5 ปีที่มีมูลค่าการลงทุนสูงสุดในโลก
การวิจัยล่าสุดของ iSeeCars ซึ่งใช้ข้อมูลประสบการณ์การใช้งานจริง ได้จัดทำรายชื่อรถยนต์มือสองอายุ 5 ปี ที่น่าพิจารณาเป็นเจ้าของ
Báo Khoa học và Đời sống•19/03/2025
วิดีโอ : 5 อันดับ รถเก๋ง B-class มือสอง น่าซื้อในราคา 200 ล้าน
สำหรับหลายๆ คนที่มีงบประมาณจำกัด การตัดสินใจ ซื้อรถมือสอง ถือเป็นทางออกที่คุ้มค่าสำหรับการบรรลุความฝันในการเป็นเจ้าของ “รถยนต์” หรือยกระดับรถไปสู่ระดับที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้หลายคนยังคงไม่เข้าใจข้อมูลตลาด ราคา และเกณฑ์ในการเลือกรุ่นรถที่เหมาะสม
เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้อย่างถูกต้องเมื่อซื้อรถมือสอง iSeeCars ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดและที่ปรึกษาการซื้อรถยนต์ ได้ทำการศึกษาวิจัยในเชิงลึกเพื่อพิจารณาว่ารถมือสองอายุ 5 ปีรุ่นใดน่าเชื่อถือที่สุดและคุ้มค่าที่สุด
| การวิจัยของ iSeeCars ระบุรถมือสองอายุ 5 ปีที่เชื่อถือได้และคุ้มค่าที่สุด |
ด้วยเหตุนี้ iSeeCars จึงวิเคราะห์ข้อมูลจากรถยนต์มือสองมากกว่า 700,000 คัน พร้อมด้วยระยะทางวิ่งของรถยนต์มากกว่า 368 ล้านคัน ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าราคาเฉลี่ยของ รถยนต์มือสองอายุ 5 ปี อยู่ที่ประมาณ 26,206 ดอลลาร์สหรัฐ โดยอายุการใช้งานเฉลี่ยที่เหลืออยู่ถือว่าค่อนข้างสูง
รายชื่อรถยนต์ 10 อันดับแรกที่ iSeeCars ประกาศออกมานั้นประกอบด้วย รถยนต์มือสองอายุ 5 ปี ที่มีความน่าเชื่อถือสูง และมีมูลค่าที่ยั่งยืนในระยะยาว ไม่น่าแปลกใจเลยที่ญี่ปุ่นครองตำแหน่งรถยนต์ที่ติดอันดับสูงสุดถึง 7 รุ่น
| อันดับหนึ่งคือ Honda Fit ซึ่งเป็นรถยนต์แฮทช์แบ็กขนาดกะทัดรัด โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 18,336 เหรียญสหรัฐ มีอายุการใช้งานโดยประมาณ 11.6 ปี และมีค่าใช้จ่ายต่อปีอยู่ที่ 1,583 เหรียญสหรัฐ |
ฮอนด้า ฟิต รถยนต์แฮทช์แบ็กขนาดกะทัดรัด ราคาเฉลี่ย 18,336 ดอลลาร์สหรัฐ อายุการใช้งานที่คาดการณ์ 11.6 ปี และต้นทุนการดำเนินงานต่อปี 1,583 ดอลลาร์สหรัฐ ตามมาติดๆ ด้วยโฟล์คสวาเกน พาสสาท รถเก๋งสไตล์ยุโรป ดีไซน์หรูหรา ภายในกว้างขวาง ราคาเฉลี่ย 17,636 ดอลลาร์สหรัฐ และอายุการใช้งานที่คาดการณ์ 9.6 ปี รุ่นนี้มีค่าใช้จ่ายการดำเนินงานต่อปีเพียง 1,845 ดอลลาร์สหรัฐ
Buick Encore ก็น่าพิจารณาเช่นกัน ด้วยราคา 16,633 ดอลลาร์สหรัฐ อายุการใช้งานที่คาดการณ์ไว้ 8.8 ปี และค่าใช้จ่ายต่อปี 1,897 ดอลลาร์สหรัฐ KIA Rio hatchback โดดเด่นด้วยราคาเฉลี่ยต่ำสุดในรายการ เพียง 14,037 ดอลลาร์สหรัฐ รุ่นนี้วางจำหน่ายในเวียดนามจนถึงปี 2017 เพื่อแทนที่ KIA Soluto ซึ่งอยู่ในอันดับที่ต่ำกว่า ในปี 2023 KIA ได้ยุติการผลิตรุ่นนี้อย่างเป็นทางการในตลาดสหรัฐอเมริกาเนื่องจากยอดขายที่ลดลง
| Mazda3 แฮทช์แบ็กก็มีราคาไม่ห่างกันมากเช่นกัน โดยอยู่ที่ 20,262 เหรียญสหรัฐ เท่ากับ Civic แต่มีน้ำหนักเบากว่าและมีสไตล์ที่หรูหรากว่า |
ในขณะเดียวกัน Honda Civic ยังคงสร้างความโดดเด่นในตลาดรถยนต์มือสอง ด้วยราคาขายเฉลี่ย 20,157 ดอลลาร์สหรัฐ อายุการใช้งานยาวนานถึง 9.8 ปี และต้นทุน 2,053 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี Civic จึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ที่ให้สัมผัสการขับขี่ที่ดี สมรรถนะสูง และความทนทานไม่แพ้กัน Honda เพิ่งเปิดตัวรุ่นปี 2025 ในตลาดรถยนต์เวียดนาม พร้อมรูปลักษณ์และอุปกรณ์ที่ปรับปรุงใหม่เล็กน้อย
Mazda3 แฮทช์แบ็กก็ไม่ใช่รถที่ด้อยกว่าเช่นกัน โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 20,262 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ Civic แต่มีสไตล์ที่หรูหราและประณีตกว่า อายุการใช้งานที่คาดไว้ของรถอยู่ที่ 9.8 ปี คิดเป็นค่าใช้จ่าย 2,073 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี
| Mitsubishi Outlander Sport เป็นหนึ่งในรถมือสองที่มีชื่อเสียง |
ในกลุ่มรถ SUV มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ สปอร์ต เป็นหนึ่งในรถมือสองที่โดดเด่น ด้วยราคาขาย 15,821 ดอลลาร์สหรัฐ รถยนต์รุ่นนี้มีอายุการใช้งาน 7.5 ปี และต้นทุนการดำเนินงาน 2,102 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี
โตโยต้า ยาริส ยังคงแสดงให้เห็นถึงข้อได้เปรียบของรถยนต์ญี่ปุ่นเมื่อปรากฏอยู่ในรายการนี้ ด้วยราคาเฉลี่ย 16,427 ดอลลาร์สหรัฐ รถยนต์คันนี้มีอายุการใช้งาน 7.6 ปี และมีราคา 2,148 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี แม้ว่าจะไม่ได้มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากนัก แต่ยาริสก็ได้รับความนิยมอย่างสูงในด้านความทนทาน ค่าบำรุงรักษาต่ำ และการรักษามูลค่าที่ดี เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่สนใจซื้อและขายรถยนต์มือสอง โตโยต้าได้ถอนรถรุ่นนี้ออกจากตลาดเวียดนามอย่างเงียบๆ ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2567 เนื่องจากสถานการณ์ทางธุรกิจที่ซบเซาของรุ่นนี้
| Toyota Yaris ยังคงแสดงให้เห็นถึงข้อได้เปรียบของรถยนต์ญี่ปุ่นในปัจจุบัน |
โตโยต้า โคโรลล่า หนึ่งในรถยนต์ซีดานที่ขายดีที่สุด ในโลก ก็ติดอันดับเช่นกัน ด้วยราคาขายเฉลี่ย 17,728 ดอลลาร์สหรัฐ อายุการใช้งาน 8.1 ปี และต้นทุน 2,201 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี รถยนต์ซีดานขนาดกะทัดรัดรุ่นนี้เป็นหนึ่งในรถยนต์รุ่นที่ขายดีที่สุดในตลาดสหรัฐอเมริกาของโตโยต้ามาโดยตลอด ด้วยราคาที่สามารถแข่งขันได้และต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำมาก ประกอบกับความทนทานและความน่าเชื่อถือที่ได้รับการพิสูจน์มายาวนานหลายทศวรรษ
สุดท้ายนี้ Infiniti Q50 เป็นรถหรูเพียงคันเดียวในรายการนี้ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 24,000 ดอลลาร์สหรัฐ มีอายุการใช้งาน 10.6 ปี และมีต้นทุนการดำเนินงานสูงที่สุดที่ 2,261 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี
| Infiniti Q50 เป็นรถหรูเพียงคันเดียวที่ปรากฏอยู่ในรายการนี้ |
การเลือกซื้อรถมือสองไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาขายเพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับอายุ ต้นทุนการใช้งาน และความต้องการใช้งานจริงด้วย รายการข้างต้นแนะนำรุ่นที่คุ้มค่าที่สุดในกลุ่มรถนั้นๆ แต่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายยังคงขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล ฐานะทางการเงิน และวัตถุประสงค์การใช้งานของแต่ละบุคคล ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นใด สิ่งสำคัญที่สุดในการซื้อรถมือสองคือการตรวจสอบสภาพรถ ประวัติการบำรุงรักษา และศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้ตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมที่สุด
TOP 10 ประเทศผู้ผลิตรถ รายใหญ่ของโลก
18 Jun 2018

ผมมีตัวเลขกำลังการผลิตรถยนต์ของแต่ละประเทศ มาคุยให้ฟังครับ เป็นตัวเลขที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยมีอันดับ TOP 10 ที่เป็นผู้เล่นหน้าเก่าจากปีที่แล้ว พาเหรดเข้ารอบเหมือนเดิม อาจจะสลับตำแหน่งกันบ้างเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้ว ประเทศใหญ่ๆ ยังยึดครองตำแหน่งหัวแถว
เบอร์ 1 ของโลก แน่นอนครับว่า ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ยังคงครองความเป็นมหาอำนาจในด้านการผลิตรถยนต์อยู่เช่นเดิม โดยปี 2017 ที่ผ่านมา จีน ผลิตได้รวมทั้งสิ้น 29,015,434 คัน แยกเป็นรถยนต์นั่ง 24,806,687 คัน รถเพื่อการพาณิชย์ 4,208,747 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 3.19 % อันดับ 2 สหรัฐอเมริกา มีกำลังการผลิตทั้งสิ้น 11,189,985 คัน แยกเป็นรถยนต์นั่ง 3,033,216 คัน รถเพื่อการพาณิชย์ 8,156,769 คัน ลดลงจากปี 2016 ประมาณ 8.13 % ซึ่งเยอะมาก และน่าสังเกตว่า ในสหรัฐอเมริกา รถเพื่อการพาณิชย์ ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และเป็นประเทศเดียวในโลก ที่มีการผลิตรถเพื่อการพาณิชย์เยอะที่สุด ! อันดับ 3 ประเทศญี่ปุ่น มีกำลังการผลิตรวม 9,693,746 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 8,347,836 คัน รถเพื่อการพาณิชย์ 1,345,910 คัน เมื่อเทียบกับยอดการผลิตปี 2016 จะเพิ่มขึ้น 5.31 % เราจะเห็นว่าคนญี่ปุ่นให้ความสนใจในรถยนต์นั่งเป็นหลัก รถเพื่อการพาณิชย์มีจำนวนน้อยมาก อันดับ 4 สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี มีกำลังการผลิตรถรวมทั้งสิ้น 5,645,581 คัน ลดลง 1.76 % เมื่อเทียบกับปี 2016 ประเทศนี้น่าสนใจยิ่งนัก เพราะยอดผลิตกว่า 5 ล้านคัน เป็นรถยนต์นั่งล้วนๆ ไม่มีรถเพื่อการพาณิชย์เลย !?! อันดับ 5 สาธารณรัฐอินเดีย มีกำลังการผลิตรวม 4,782,896 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่งถึง 3,952,550 คัน รถเพื่อการพาณิชย์ มีเพียงแค่ 830,346 คัน เมื่อเทียบกำลังการผลิตปี 2016 ยอดการผลิตรถยนต์ของอินเดีย ปี 2017 เพิ่มขึ้น 5.83 % หากเราสังเกตดีๆ จะเห็นว่า 5 อันดับแรก มีประเทศในทวีปเอเชีย ติดอยู่ 3 อันดับ คือ จีน (อันดับ 1) ญี่ปุ่น (อันดับ 3) และอินเดีย (อันดับ 5) เมื่อรวมยอดการผลิตรถของ 3 ประเทศนี้ จะเท่ากับ 43,492,076 คัน อันดับ 6 สาธารณรัฐเกาหลี หรือเกาหลีใต้ มีกำลังการผลิตรวม 4,114,913 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 3,735,399 คัน รถเพื่อการพาณิชย์ 379,514 คัน ลดลงจากปี 2016 ประมาณ 2.69 % อันดับ 7 สหรัฐเมกซิโก มีกำลังการผลิตรวม 4,068,415 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 1,900,029 คัน รถเพื่อการพาณิชย์ 2,168,386 คัน เพิ่มขึ้น 13.00 % ถือว่าเพิ่มขึ้นค่อนข้างเยอะมาก ส่วนอันดับ 8 ราชอาณาจักรสเปน มีกำลังการผลิตรถรวม 2,848,335 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 2,291,492 คัน รถเพื่อการพาณิชย์ 556,843 คัน เมื่อเทียบกับปี 2016 ลดลงประมาณ 1.30 % อันดับ 9 สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล มีกำลังการผลิตรวม 2,699,672 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 2,269,468 คัน รถเพื่อการพาณิชย์ 430,204 คัน เพิ่มขึ้น 25.20 % และอันดับสุดท้าย ประเทศแคนาดา มีกำลังการผลิตรถรวม 2,199,789 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 749,458 คัน รถเพื่อการพาณิชย์ 1,450,331 คัน เมื่อเทียบกับปี 2016 จะลดลง 7.21 % ส่วนประเทศไทยของเรา ในปี 2017 เราติดอันดับ 12 ด้วยกำลังการผลิตรถรวมทั้งสิ้น 1,988,823 คัน แยกเป็นรถยนต์นั่ง 818,440 คัน รถเพื่อการพาณิชย์ 1,170,383 คัน เมื่อเทียบกับกำลังการผลิตในปี 2016 เราผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้น 2.28 % คราวนี้มาดูกันบ้างว่า ยอดการผลิตรถยนต์รวมทั่วโลก มีจำนวนเท่าใด ? ในปี 2016 อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก มีกำลังการผลิตรวมกันทั้งสิ้น 97,302,534 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 73,456,531 คัน รถเพื่อการพาณิชย์ 23,846,003 คัน เมื่อเทียบกับปี 2016 เพิ่มขึ้น 2.36 % อ้อ ! เกือบลืมบอกไปครับว่า ตัวเลขเหล่านี้ คุณสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่เวบไซท์ www.oica.net



