• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N1610435 ของกรวดให ชายไม กด ำตาท เคยเส ยไป #ตอนจบ part 2

admin79 by admin79
October 16, 2025
in Uncategorized
0
N1610435 ของกรวดให ชายไม กด ำตาท เคยเส ยไป #ตอนจบ part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

5 โรงแรมหรู ดีไซน์สวย ในโลเคชั่นที่แพงที่สุดในเอเชีย ยุโรปและอเมริกา

โดยอริญชัย วีรดุษฎีนนท์

08 กันยายน 2567

     GQ Thailand พาชมโรงแรมและรีสอร์ตสุดลักซ์ชูรีในแต่ละเมืองใหญ่ ตั้งแต่โตเกียว นิวยอร์ก ซังคท์โมริตซ์ และโมร็อคโค นอกจากจะมีดีไซน์ที่สวยงดงามในย่านดังกล่าวแล้ว ยังมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจบางโณงแรมยังมีอายุยาวนาน จนอยากให้ทุกคนไปเยือนสักครั้ง

     1. Badrutt’s Palace Hotel – St. Moritz, Switzerland

     หนึ่งในโรงแรมเก่าแก่ระดับลักซ์ชัวรีและมีชื่อเสียงที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ สำหรับบาดรูตต์ พาเลซ (Badrutt’s Palace) โดยเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1896 และเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มโรงแรม Leading Hotels of the World, Swiss Deluxe Hotels และ Swiss Historic Hotels 

     โดยจุดเด่นของโรงแรมคือโลเกชั่นที่ตั้งอยู่ในเมืองซังคท์โมริตซ์ (St. Moritz) ท่ามกลางเทือกเขาแอลป์อันงดงามและทะเลสาป ที่สำคัญการออกแบบของที่นี่ยังใส่ใจทุกรายละเอียด ทั้งการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง และการดีไซน์ห้องพักทั้งหมด 155 ห้อง อันเป็นเอกลักษณ์ที่ให้ความคลาสสิกและหรูหราในแบบยุโรป 

     ท่ามกลางประวัติศาสตร์กว่าร้อยปีของโรงแรม จึงเป็นจุดหมายปลายทางของบุคคลสำคัญในทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นดารา ศิลปิน ดีไซเนอร์ และพระราชวงศ์ มาพร้อมกับการบริการที่ยอดเยี่ยม มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งร้านอาหาร สปา สระว่ายน้ำในร่มและกลางแจ้ง รวมถึงมีกิจกรรมหลากหลายทั้งในฤดูหนาวและฤดูร้อน เช่น สกี เดินป่า และกอล์ฟ เป็นต้น 

Via Serlas 27, 7500 St. Moritz, Switzerland

Tel. +41 81 837 1000

Facebook: badruttspalace

IG: badruttspalace

     2. Janu Hotels – Tokyo, Japan

     แบรนด์โรงแรมน้องใหม่ในเครืออมัน (Aman) ที่ให้ความแตกต่างอย่างชัดเจน โดยความหมายของคำว่า ‘จานุ’ (Janu) แปลว่า ‘จิตวิญญาณ’ ในภาษาสันสกฤต หากว่าอมันคือโรงแรมที่ดูสุขุม รอบคอบ และลึกลับ ให้ความเป็นส่วนตัว แบรนด์จานุก็จะให้ความรู้สึกสนุกสนานและเชื่อมโยงกับสังคมรอบข้างมากกว่า

     สำหรับโรงแรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการอาซาบุได ฮิลส์ (Azabudai Hills) แลนด์มาร์กแห่งใหม่ในญี่ปุ่น และเป็นตึกที่สูงที่สุดในโตเกียวด้วยความสูง 330 เมตร โดยตัวโรงแรมมีห้องพักทั้งหมด 122 ห้อง กับห้องอาหารมากถึง 8 ห้อง และศูนย์สุขภาพขนาดใหญ่บนพื้นที่ 4,000 ตารางเมตร 

     การออกแบบภายในโรงแรมจะเน้นการได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมด้านอาหารและศิลปะ เป็นสไตล์โมเดิร์นลักซ์ชัวรีตามแบบฉบับโรงแรมในเครืออมัน หากแต่ที่นี่เลือกใช้โทนสีสว่าง เช่น สีเบจ สีน้ำตาล และเฟอร์นิเจอร์ไม้ ทำให้ดูมีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นเชื่อมโยงเข้ากับพื้นที่สีเขียวโดยรอบ โดยความน่าตื่นตาตื่นใจคือวิวของห้องพักจะมองเห็นโตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower) แบบชัดเจน 

1-2-2 Azabudai Minato-ku, 106-0041 Tokyo, Japan

Tel. +81 3 6731 2333

Facebook: discoverjanu

IG: januhotels

     3. Ultima Crans-Montana – Lens, Switzerland 

     อัลทิมา ครานส์-มอนทานา (Ultima Crans-Montana) เป็นที่พักในเครืออัลทิมา คอลเล็กชั่น (Ultima Collection) ซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบสูงพลาโต เดอ แพลน-มาเยนส์ (Plateau de Plan-Mayens) ของสวิตเซอร์แลนด์ โดยเป็นบ้านพักส่วนตัวเพียงสองหลัง สามารถรองรับผู้เข้าพักได้มากถึง 38 คน มาพร้อมสระว่ายน้ำกลางแจ้งที่ล้อมรอบด้วยภูเขาสูงอันงดงาม 

     จุดเด่นของที่นี่คือความเป็นส่วนตัวและบ้านพักในสไตล์ชาเลต์ (Chalet) ซึ่งเป็นบ้านแบบคอตเทจที่ชาวสวิสแถบเทือกเขาแอลป์นิยมอาศัยอยู่ คือจะมีหลังคาทรงจั่วที่กว้างกว่าปกติ สำหรับบ้านพักหลังแรมีพื้นที่ 3,850 ตารางเมตร มีห้องนอนถึง 8 ห้อง โดยแต่ละห้องมีห้องแต่งตัว ห้องน้ำในตัว และระเบียง ส่วนอีกหลังมีพื้นที่ 820 ตารางเมตร มีห้องนอนพร้อมห้องแต่งตัว ห้องน้ำ และระเบียงเช่นเดียวกัน 

     นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นครบครัน เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องสันทนาการ สปา ฟิตเนส ห้องซาวนา และห้องดูหนัง เป็นต้น

Chem. de la Digue 15, 3963 Lens, Switzerland

Tel. +41 22 779 33 33

Facebook: ultimadestinations

IG: ultimacollection

     4. Nine Orchard Hotel – New York, United States 

     หนึ่งในโรงแรมสุดชิกในนิวยอร์ก สำหรับไนน์ ออร์ชาร์ด โฮเทล (Nine Orchard Hotel) ตั้งอยู่ในย่านโลเวอร์อีสต์ไซด์ (Lower East Side) ที่เต็มไปด้วยสีสันและพลังงานของคนหนุ่มสาว ซึ่งเหมาะกับคนที่อยากได้ประสบการณ์การเข้าพักในรูปแบบที่ต่างไปจากเดิม ตัวอาคารสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1912 ในรูปแบบสถาปัตยกรรรมแบบโบซาร์ (Beaux Arts) และเคยเป็นที่ทำการธนาคารจาร์มูโลว์สกี (Jarmulowsky) ในอดีต ก่อนจะถูกชุบชีวิตให้กลายเป็นโรงแรมที่เต็มไปด้วยสีสันอีกครั้ง

     แน่นอนว่าร่องรอยของสถาปัตยกรรมดั้งเดิมยังคงอยู่ ทั้งเพดานโค้งขนาดใหญ่ พื้นหินอ่อน และผนังหินอ่อน แต่เสริมด้วยความโมเดิร์นเข้าไป อย่างเช่น ผนังสีขาว ข้าวของเครื่องใช้ และเฟอร์นิเจอร์ที่จัดวางในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละห้องพัก ซึ่งมีทั้งหมด 116 ห้อง และมีให้เลือกหลากหลายประเภททั้งห้องพักทั่วไปและห้องสวีต

     จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือบาร์ที่มีเพดานสูงโปร่ง เผยให้เห็นรูปแบบสถาปัตยกรรมในอดีต ตกแต่งด้วยโคมไฟแสงสีส้มงดงาม และมีที่นั่งให้เลือกนั่งได้ตามสบายใจ  

9 Orchard Street, New York, NY 10002, United States 

Tel. +1 212-804-9900

nineorchard.com

IG: nineorchard

      5. Villa Mabrouka – Tangier, Morocco

     โรงแรมขนาดเล็กที่มีเพียง 12 ห้องแห่งนี้ ในอดีตเคยเป็นบ้านพักส่วนตัวของอีฟส์ แซงต์ โลรองต์ (Yves Saint Laurent) ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์แซงต์ โลรองต์ (Saint Laurent) โดยแจสเปอร์ คอนราน (Jasper Conran) ดีไซเนอร์ชาวอังกฤษได้เปลี่ยนบ้านเก่าหลังนี้ให้กลายเป็นที่พักสไตล์บูทีกที่มาพร้อมกลิ่นอายในยุค 1930s

     ดีไซน์ของโรงแรมเต็มไปด้วยสีสันในสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนเน้นสีเขียวและสีน้ำเงินเป็นหลัก พร้อมความร่มรื่นจากสวนสีเขียว แทรกด้วยต้นกล้วยและต้นปาล์ม มีส่วนของคอร์ตยาร์ด และด้วยที่ตั้งซึ่งมองเห็นช่องแคบยิบรอลตาร์ (Strait of Gibraltar) จึงเหมาะกับการพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์สำหรับคนที่อยากนั่งๆ นอนๆ อ่านหนังสือ ฟังเพลง เพราะได้ความเป็นส่วนตัวและเงีบยสงบ 

10 อันดับโรงแรมที่แพงที่สุดในโลก

 ตั้งกระทู้ใหม่

 10 อันดับโรงแรมที่แพงที่สุดในโลก
อันดับ ที่ 10 
“The Ritz-Carlton Suite” ของ โรงแรม The Ritz-Carlton ใน กรุงมอสโคว์ ประเทศรัสเซีย 
อัตรา ค่าห้องพักคืน ละ $16,500 (550,000 บาท) 






อันดับ ที่ 9   “Royal Armleder Suite” ของ โรงแรม Le Richemond ใน กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 
อัตรา ค่าห้องพักคืน ละ $18,900 (627,000 บาท) 





อันดับ ที่ 8   “Royal Suite” ของ โรงแรม Burj Al Arab เมือง ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตต์ อัตรา ค่าห้องพักคืน ละ $19,600 (650,000 บาท) 




อันดับ ที่ 7   “The Imperial Suite” ของ โรงแรม Park Hyatt Vendome ใน กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส อัต ราค ่า ห้อง พักคืนละ $20,000 (664,000บาท) 





อันดับ ที่ 6 
“The Bridge Suite” ของ โรงแรม The Atlantis ประเทศ บาฮามัส อัตรา ค่าห้องพักคืน ละ $22,000 (730,000 บาท) 







อันดับ ที่ 5 
“The Presidential Suite” ของ โรงแรม Ritz-Carlton ใน กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น อัตรา ค่าห้องพักคืน ละ $25,000 (830,000 บาท) 






อันดับ ที่ 4   
“Villa La Cupola Suite” ของ โรงแรม Westin Excelsior ใน กรุงโรม ประเทศอิตาลี ราคา ค่าห้องพักคืน ละ $31,000 (1.03 ล้าน บาท) 





อันดับ ที่ 3 
“The Presidential Suite” ของ โรงแรม Cala di Volpe ใน Costa Smeralda,Sardinia ใน ประเทศอิตาลี อัตรา ค่าห้องพักคืน ละ $34,000 (1.13 ล้าน บาท) 







อันดับ ที่ 2   
“Ty Warner Penthouse” ของ โรงแรม Four Seasons Hotel ใน กรุงนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา 
อัตรา ค่าห้องพักคืน ละ $35,000 (1.16 ล้าน บาท) 






อันดับ ที่ 1   
“Royal Penthouse Suite” ของ โรงแรม President Wilson Hotel ใน กรุงเจนีว่า ประ เทศสวิตเซอร์ แลนด์ 

อัตรา ค่าห้องพักคืน ละ $65,000 (2.21 ล้าน บาท) 




Previous Post

N1610434 เป นเลขาบอสใครว าสบาย part 2

Next Post

N1610245 เจอแบบน ไม หว part 2

Next Post
N1610245 เจอแบบน ไม หว part 2

N1610245 เจอแบบน ไม หว part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N0111331 เวลาของเราไม เท าก part 2
  • N0111323 วยต วเOงในมหาล part 2
  • N0111327 แฟนหน าตาแบบน เป นค ณจะอายไหม part 2
  • N0111328 แกล งขอทาน #สน กด part 2
  • N0111325 แอบก uสาม เพ oนว าซ าน part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.