ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
10 เมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก 2023
09 Oct, 2023

10 เมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก 2023
Mercer บริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรมนุษย์ระดับโลก ได้ทำการจัดอันดับ เมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก ประจำปี 2023 การจัดอันดับจะครอบคลุมทั้งหมด 227 ประเทศจาก 5 ทวีปทั่วโลก โดยมีการเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายด้านต่าง ๆ มากกว่า 200 ด้านในแต่ละเมือง ไม่ว่าจะเป็นค่าที่พักอาศัย ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าเสื้อผ้า และข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการหาความบันเทิง เช่น ค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น
สำหรับ 10 เมืองแรกที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกสำหรับแรงงานต่างชาติในปีนี้ มีดังนี้
- ฮ่องกง
- สิงคโปร์
- ซูริค (สวิสเซอร์แลนด์)
- เจนีวา (สวิสเซอร์แลนด์)
- บาเซล (สวิสเซอร์แลนด์)
- นิวยอร์ก (สหรัฐอเมริกา)
- เบิร์น (สวิสเซอร์แลนด์)
- เทลอาวีฟ (อิสราเอล)
- โคเปนเฮเกน (เดนมาร์ก)
- แนสซอ (บาฮามาส)
ยกตัวอย่างค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในฮ่องกง

ค่าอาหารต่อมื้อสำหรับอาหารจานเดียวประมาณ 60-80 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 270-360 บาท)
กาแฟ 1 แก้ว ราคาประมาณ 30-50 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 135-225 บาท)
ค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินเฉลี่ยอยู่ที่ 5 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 22 บาท) สำหรับระยะทาง 5 กิโลเมตร
ค่าโดยสารรถแท็กซี่เริ่มต้นที่ 22 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 99 บาท)
น้ำมันเชื้อเพลิงลิตรละ 22 ฮ่องกงดอลลาร์ (ประมาณ 99 บาท)
ค่าเช่าอพาร์ทเม้นท์ 1 ห้องนอนใจกลางเมืองรายเดือนอยู่ที่ 18,066.67 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 81,297 บาท)

แต่ถึงแม้จะเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน แต่ฮ่องกงเองก็เป็นเมืองที่ประชากรมีคุณภาพชีวิตที่ค่อนข้างดี เพราะมีสวัสดิการที่ดี จากการจัดอันดับของ Quality of Living ฮ่องกงอยู่ในอันดับที่ 78 ส่วนสิงคโปร์และซูริคอยู่ในอันดับ 33 และอันดับ 2 ตามลำดับ
โดยทั่วไปแล้ว ชนชั้นกลางชาวฮ่องกงจะได้เงินเดือนราว 18,000 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 81,000 บาท ใครที่อยากไปทำงานที่ฮ่องกง ลองคำนวนกันดูว่าเงินเดือนเท่านี้ หากไปทำงานที่ฮ่องกง จะพอค่าใช้จ่าย และเหลือเก็บมากกว่าทำงานที่ไทยหรือไม่
5 อันดับ ภูเขาที่สูงที่สุดในโลก
Feature, Top of the world / Top 5
ภูเขาที่สูงที่สุดในโลก ไม่เพียงแต่มีความสูงที่น่าทึ่ง แต่ยังมีเรื่องราวและความท้าทายที่แตกต่างกัน นักปีนเขาจากทั่วโลกมุ่งมั่นที่จะพิชิตยอดเขาเหล่านี้ ไม่เพียงเพื่อชื่อเสียง แต่ยังเพื่อท้าทายขีดจำกัดของตนเอง ความงดงามของธรรมชาติและความท้าทายทางกายและใจที่ภูเขาเหล่านี้มอบให้ ทำให้เป็นสถานที่ที่น่าสนใจและมีคุณค่าสำหรับผู้รักการผจญภัย มาทำความรู้จักกับ 5 อันดับยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกกัน
อันดับ 5: มายาคัลลาง (Makalu)
– ความสูง: 8,463 เมตร (27,766 ฟุต)
– ที่ตั้ง: เนปาล
– เป็นยอดเขาที่มีรูปร่างเป็นทรงปิรามิดสี่ด้านที่สมบูรณ์แบบ ตั้งอยู่ในเทือกเขา Mahalangur Himal ห่างจากยอดเขาเอเวอเรสต์ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 19 กม. บนชายแดนจีน-เนปาล มายาคัลลาง เป็นที่ท้าทายของนักปีนเขา ด้วยสภาพอากาศที่โหดร้าย และเส้นทางที่เต็มไปด้วยอันตราย
อันดับ 4: ลอตเซ (Lhotse)
ความสูง: 8,516 เมตร (27,939 ฟุต)
– ที่ตั้ง: เนปาล/จีน
– เป็นยอดเขาที่เชื่อมต่อกับยอดเขาเอเวอเรสต์ ลอตเซ เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “ยอดเขาใต้” เนื่องจากตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเอเวอเรสต์ ยอดเขานี้มีทิวทัศน์ที่สวยงาม ท้าทายนักปีนเขาด้วยความสูงชัน และสภาพอากาศที่เลวร้าย
อันดับ 3: คานเชนจุ้งกา (Kanchenjunga)
– ความสูง: 8,586 เมตร (28,169 ฟุต)
– ที่ตั้ง: อินเดีย/เนปาล
– ยอดเขาที่มี 5 ยอดเขา ตั้งอยู่บนพรมแดนระหว่างอินเดียกับเนปาล คานเชนจุ้งกา เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “ภูเขาห้ายอดเขา” ยอดเขานี้มีความงดงาม ท้าทายนักปีนเขาด้วยสภาพอากาศที่แปรปรวน และความสูงชัน
อันดับ 2: เคทู (K2)
ความสูง: 8,611 เมตร (28,251 ฟุต)
– ที่ตั้ง: ปากีสถาน/จีน
– ยอดเขาที่ได้ชื่อว่า “ภูเขาแห่งความโหดร้าย” เคทู เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “ภูเขามรณะ” เนื่องจากมีความอันตรายสูง นักปีนเขาที่พิชิตยอดเขาเคทูได้สำเร็จมีจำนวนน้อยมาก ด้วยสภาพอากาศเลวร้าย และเส้นทางที่เต็มไปด้วยอันตราย
อันดับ 1: เอเวอเรสต์ (Mount Everest)
– ความสูง: 8,848.86 เมตร (29,031.7 ฟุต)
– ที่ตั้ง: เนปาล/จีน
– ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก เอเวอเรสต์ เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “ยอดเขาหลังคาโลก” ตั้งอยู่ในแนวเขาหิมาลัย ยอดเขานี้เป็นเป้าหมายสูงสุดของนักปีนเขา การเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์นั้นเต็มไปด้วยความท้าทาย นักปีนเขาต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่โหดร้าย ความสูงชัน และความเสี่ยงทั้งจากสภาพอากาศที่แปรปรวนและอากาศที่เบาบาง

ทั้ง 5 ยอดเขานี้ ล้วนมีความงดงามและท้าทายในแบบของตัวเอง ภูเขาเหล่านี้ดึงดูดนักปีนเขาจากทั่วโลก ด้วยความฝันที่อยากจะพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก แต่การเดินทางขึ้นสู่ยอดเขานั้นเต็มไปด้วยอันตราย นักปีนเขาจำเป็นต้องเตรียมตัวทั้งร่างกาย จิตใจ และทักษะต่างๆ ให้พร้อม เพื่อรับมือกับสภาพอากาศที่โหดร้าย ความสูงชัน และอุปสรรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา


