• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N1510843 ดถ งคนในครอบคร วเป นเร องท กต อง part 2

admin79 by admin79
October 15, 2025
in Uncategorized
0
N1510843 ดถ งคนในครอบคร วเป นเร องท กต อง part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

ไทยติดท็อป 10 ประเทศที่มีตึกระฟ้ามากสุดในโลก สะท้อนการเติบโตของเมือง

20 สิงหาคม 2567

แชร์

สภาตึกสูงและที่อยู่อาศัยในเมือง (CTBUH) เผย 70 อันดับประเทศที่มีตึกสูงระฟ้ามากที่สุดในโลก ด้านไทยคว้าอันดับ 10 ของตาราง สะท้อนการเติบโตของเมือง ประชาชนย้ายถิ่นฐานจากชนบทมาอยู่ในเมืองมากขึ้น

แม้มนุษยชาติจะมีสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่และสูงตระหง่านมานานหลายพันปี เช่น พีระมิด แต่คำว่าตึกระฟ้านั้นมีความหมายแตกต่างออกไป เนื่องจากเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อการอยู่อาศัยหรือทำงาน

คำว่า “ตึกระฟ้า” เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในสหรัฐฯ ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ซึ่งมีความหมายถึงอาคารที่มีความสูงมากกว่า 150 เมตร และนับตั้งแต่นั้นมา การแข่งขันสร้างตึกระฟ้าในมหานครทั่วโลกเริ่มทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการพื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มขึ้นของประชากรภายในเมืองที่หนาแน่น 

ตึกระฟ้าจึงไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ของความเจริญก้าวหน้า แต่ยังเป็นการสร้างพื้นที่สาธารณะและสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายให้แก่ผู้คน ทำให้ชีวิตในเมืองมีความสะดวกสบายและมีสีสันมากขึ้น

ข้อมูลในเดือนสิงหาคม 2024 จากสภาตึกสูงและที่อยู่อาศัยในเมือง (Council on Tall Building and Urban Habitat: CTBUH) เผยว่า แม้ตึกระฟ้าจะถือกำเนิดขึ้นในอเมริกา แต่ในปัจจุบัน ประเทศยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจอีกแห่งหนึ่งอย่าง “จีน” กลับครองอันดับ 1 ประเทศที่มีตึกสูงระฟ้ามากที่สุดในโลกด้วยจำนวน 3,314 ตึก แบ่งเป็นตึกที่สูงมากกว่า 150 เมตร 3,194 ตึก ขณะที่ตึกสูงกว่า 300 เมตรมีจำนวนกว่า 120 ตึก

ไทยติดท็อป 10 ประเทศที่มีตึกระฟ้ามากสุดในโลก สะท้อนการเติบโตของเมือง

ด้านสหรัฐฯ ครองอันดับ 2 ประเทศที่มีตึกสูงระฟ้ามากที่สุดในโลกด้วยจำนวน 899 ตึก  แบ่งเป็นตึกที่สูงมากกว่า 150 เมตร 868 ตึก และตึกที่สูงกว่า 300 เมตร 31 ตึก 

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซึ่งเป็นที่ตั้งของตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลกอย่าง Burj Khalifa ครองอันดับ 3 ด้วยจำนวนตึกระฟ้าทั้งหมด 336 ตึก  แบ่งเป็นตึกที่สูงมากกว่า 150 เมตร 301 ตึก และตึกที่สูงกว่า 300 เมตร 35 ตึก 

สิ่งที่น่าจับตาคือตั้งแต่อันดับที่ 4-6 และ 9-13 เนื่องจากประเทศจากเอเชียติดอันดับทั้งหมด รวมถึงประเทศไทยที่คว้าอันดับ 10 ในการจัดอันดับดังกล่าว

ในบรรดาตึกระฟ้ามากมายเหล่านั้น ตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทยขณะนี้ คือ Magnolias Waterfront Residences Tower 1 ที่มีความสูงถึง 315 เมตร (ทำลายสถิติ ตึกคิง เพาเวอร์ มหานคร เมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2561 ) ตามมาด้วยตึกคิง เพาเวอร์ มหานคร ที่มีความสูง 314 เมตร และ ตึกใบหยก 2 ที่มีความสูง 304 เมตร ซึ่งตึกเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญก้าวหน้าทางด้านอสังหาริมทรัพย์ แต่ยังเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของกรุงเทพฯ อีกด้วย

การที่ประเทศไทยมีตึกระฟ้าสูงมากมายนั้นมีปัจจัยหลายประการ อาทิ การเติบโตทางเศรษฐกิจ การลงทุนจากต่างประเทศ และความต้องการพื้นที่ใช้สอยในเมืองที่หนาแน่น อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างตึกระฟ้าก็ส่งผลกระทบต่อเมืองในหลายด้าน ทั้งด้านบวกและด้านลบ ด้านบวกคือสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเมือง กระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างโอกาสทางธุรกิจ ขณะที่ด้านลบคืออาจก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม การจราจรติดขัด และความเหลื่อมล้ำทางสังคม

ไทยติดท็อป 10 ประเทศที่มีตึกระฟ้ามากสุดในโลก สะท้อนการเติบโตของเมือง

10 อันดับตึกสูงที่สุดในไทย

สภาตึกสูงและที่อยู่อาศัยในเมือง (CTBUH) ได้จัด10 อันดับตึกสูงที่สุดในไทยไว้ดังนี้ 

1. Magnolias Waterfront Residences Tower 1 : 315 เมตร 

2. MahaNakhon : 314 เมตร 

3. Baiyoke Tower II :  304 เมตร 

4. Four Seasons Private Residences : 299.5 เมตร 

5. Dusit Central Park (Dusit Residences) : 299.1 เมตร

6.Soontareeya : 295.2 เมตร 

7. One City Centre : 275.8 เมตร 

8. Mandarin Oriental Residences Bangkok : 268.7 เมตร 

9. The River South Tower : 258 เมตร 

10. Canapaya Residences : 253.3 เมตร 

กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย ได้กลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและธุรกิจที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียน การเติบโตอย่างรวดเร็วของเมืองได้นำมาซึ่งการก่อสร้างอาคารสูงเสียดฟ้ามากมาย เพื่อรองรับความต้องการพื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มขึ้น และสะท้อนถึงความเจริญก้าวหน้าของประเทศ

ในอนาคต การก่อสร้างตึกระฟ้าในประเทศไทยยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีการออกแบบตึกที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ซึ่งตึกระฟ้าเหล่านี้จะไม่ใช่แค่อาคารสูงเสียดฟ้าเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมของคนไทยเช่นกัน

 10 อันดับ”เขื่อน”ที่สูงที่สุดในโลก อันดับหนึ่งสูงเกือบเท่าตึกใบหยกของไทย

เขื่อนเป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ที่มนุษย์คิดสร้างขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์จากธรรมชาติเป็นแหล่งกักเก็บน้ำและผลิตพลังงานไฟฟ้า ทั้งยังสามารถควบคุมภัยพิบัติทางธรรมชาติได้อีกด้วย และนี่คือ 10 อันดับเขื่อนที่สูงที่สุดในโลก 

10. เขื่อน Laxiwa, ประเทศจีน

มีกำลังการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังน้ำถึง 4,200 เมกะวัตต์ เขื่อนมีความสูง 820 ฟุต (250 เมตร) ตั้งอยู่บนเเม่น้ำเหลือง

9. เขื่อน Mauvoisin, สวิตเซอร์แลนด์

เขื่อนนี้มีความสูง 820 ฟุต (250 เมตร) เป็นเขื่อนที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า เป็นเขื่อนคอนกรีตโค้งก่อสร้างเสร็จในปี 1957 

8. เขื่อน Tehri, อินเดีย

เป็นเขื่อนที่สูงที่สุดในประเทศอินเดีย มีความสูง 855 ฟุต (260.5 เมตร) เป็นเขื่อนหินตั้งอยู่บนแม่น้ำ Bhagirath สร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าและเป็นอ่างเก็บน้ำในการใช้อุปโภคบริโภค

7. เขื่อน Nuozhadu, จีน

เป็นเขื่อนที่มีความสูง 856 ฟุต (261 เมตร) เป็นเขื่อนสูงที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำ Lancang สร้างขึ้นเพื่อผลิตไฟฟ้า ทั้งยังมีระบบนำทางและควบคุมน้ำท่วมได้

6. เขื่อน Manuel Moreno Torres, เม็กซิโก

เป็นเขื่อนสูง 856 ฟุต (261 เมตร) ตั้งอยู่บนแม่น้ำ Grijalva เป็นเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในเม็กซิโก มันถูกสร้างขึ้นในปี 1974 และมีการบูรณะในปี 1980

5. เขื่อน Vajont, อิตาลี

เป็นเขื่อนที่มีความสูง 858 ฟุต (261.5 เมตร) แต่น่าเสียดายที่มันเป็นเขื่อนร้าง ก่อสร้างเสร็จสิ้นในปี 1959 ตั้งอยู่ภายในหุบเขาบนแม่น้ำ Vajont และในปี 1963 บางส่วนของเขื่อนเกิดถล่มขึ้นทำให้เกิดความเสียหาย

4. เขื่อน Enguri, จอร์เจีย

เป็นเขื่อนคอนกรีตที่สูงที่สุดเป็นอันดับสองของโลก มีความสูง 891 ฟุต (271.5 เมตร) เป็นเขื่อนที่ใช้ผลิตไฟฟ้าตั้งอยู่บนแม่น้ำ Enguri

3. เขื่อน Grande Dixence, สวิตเซอร์แลนด์

เป็นเขื่อนสูงกว่า 935 ฟุต (285 เมตร)และเป็นเขื่อนที่มีแรงโน้มถ่วงสูงที่สุดในโลก สร้างขึ้นเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับ 40,000 ครัวเรือน

2. เขื่อน Xiaowan, จีน

เป็นเขื่อนที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก มีความสูง 958 ฟุต (292 เมตร) ก่อสร้างขึ้นในปี 2002 และสร้างเสร็จในปี 2010 สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 4,200 เมกะวัตต์

1. เขื่อน Nurek, ทาจิกิสถาน

เป็นเขื่อนที่สูงที่สุดในโลก มีความสูงกว่า 980 ฟุต (300 เมตร) ตั้งอยู่บนแม่น้ำ Vakhsh ก่อสร้างขึ้นในปี 1961 และสร้างเสร็จในปี 1980 

10 อันดับ สนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก

การเดินทางทางอากาศ ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจโลกในยุคปัจจุบันนี้ไปแล้วนะคะ ถือว่าเป็นวิธีการเดินทางระยะไกลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด สามารถพานักเดินทาง นักท่องเที่ยว นักธุรกิจ หรือบุคลากรทางทหาร ไปยังจุดหมายปลายทางได้รวดเร็ว และปลอดภัยมากกว่าทางรถไฟ ทางถนน หรือทางน้ำเลยนะคะ ดังนั้นบทความนี้จึงจะพามารู้จักกับ 10 อันดับ สนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกกันค่ะ มาดูกันนะคะ ว่าตั้งอยู่ที่ไหน เป็นของประเทศอะไรกันบ้างค่ะ

10 อันดับ สนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก

1. King Fahd International Airport (DMM)

สนามบินนานาชาติ King Fahd ยังเป็นที่รู้จักในชื่อ สนามบินนานาชาติ Dammam สนามบินนี้ตั้งอยู่ห่างออกไป 31 กิโลเมตร ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง Dammam และตั้งชื่อตามอดีตกษัตริย์แห่งซาอุดิอารเบีย (ฟาฮัด อับดุลอาซิอิบัน) เป็นหนึ่งในสนามบินนานาชาติหลักสามแห่งในซาอุดิอารเบีย King Fahd International ยังเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยแยกตามพื้นที่ ด้วยขนาดพื้นที่สนามบินประมาณ 776 ตารางกิโลเมตร แม้ว่าตัวอาคารสนามบินจะมีขนาดเพียง 36.75 ตารางกิโลเมตร (เดิมเป็นฐานทัพอากาศของสหรัฐอเมริกา ที่ใช้เป็นหลักในช่วงสงครามอ่าวเปอร์เซีย สนามบินได้ให้การปฏิบัติการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2542) และนี่คือ สนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยังคงรั้งตำแหน่งเดิมไว้อยู่ตั้งแต่ปี 1999 (พ.ศ. 2542) เป็นต้นมา สนามบิน King Fahd International Airport ตั้งอยู่ในเมืองอัดดัมมาม ประเทศซาอุดีอาระเบีย แต่สนามบินนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวใช้บริการแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ทั้งหมด และมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาแค่ปีละ 9 ล้านคนเท่านั้นนะคะ มันจึงอาจจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวเท่าไหร่นักนั่นเองค่ะ
สนามบินให้บริการ 2 รันเวย์ ซึ่งมีความยาว 4 กิโลเมตร (2.5 ไมล์) และประกอบด้วยอาคารผู้โดยสาร 3 อาคาร
• อาคารผู้โดยสารให้บริการผู้โดยสารทั่วไป
• อาคารผู้โดยสาร Aramco ใช้งานโดยพนักงานของ Aramco เพื่อขึ้นเครื่องเที่ยวบิน Saudi Aramco Aviation
• Royal Terminal สงวนไว้สำหรับใช้โดยราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย
สิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษ คือ มัสยิด สร้างขึ้นบนหลังคาของที่จอดรถ และอยู่ตรงกลางของพื้นที่ภูมิทัศน์ 46,200 ตารางเมตร (497,292 ฟุต²) สถาปัตยกรรมของมัสยิดเป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ กับองค์ประกอบสถาปัตยกรรมอิสลามแบบดั้งเดิม มัสยิดสามารถรองรับผู้มาสักการะได้ถึง 2,000 คนและสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย จากอาคารผู้โดยสารผ่านสะพานปรับอากาศสองแห่ง ที่ปิดล้อมพร้อมด้วยสายพานเคลื่อนย้ายนอกเหนือจากสะพานเปิดแห่งที่สาม
สายการบินที่ประจำการ และใช้เป็นฐานการบินที่นี่ คือ Saudi Arabian Airlines, Flynas (สายการบินต้นทุนต่ำของ Saudi)

2. Denver International Airport (DEN)

สนามบิน Denver International Airport สนามบินขนาดใหญ่ถัดมา ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา ในเมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด เป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา และเคยเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกอันดับ 2 เมื่อหลายปีก่อน นอกจากนี้ยังเคยได้รับการโหวตให้เป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลก จัดอันดับโดย Skytrax เมื่อปี 2018 อีกด้วยนะคะ ความโดดเด่นสุดยอดของที่นี่คือ การใช้พลังงานสะอาดทดแทนด้วยแสงอาทิตย์ จากระบบโซล่าเซลล์เป็นหลัก แต่จุดเด่นของที่นี่เลยคือเรื่องของ Wi-Fi สนามบินแห่งนี้ให้บริการ Wi-Fi แบบเต็มพลังสุดๆ จนคนอเมริกันบอกเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า สนามบินนี้มีการให้บริการอินเตอร์เน็ตแบบ Wi-Fi ที่เร็วที่สุดในอเมริกาเมื่อเทียบกับสนามบินอื่นๆ ในประเทศเลยทีเดียวค่ะ หากมาเยือนประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว จำเป็นต้องใช้บริการสายการบินในประเทศ ที่นี่จะเป็นอีกหนึ่งศูนย์กลางในการเปลี่ยนเครื่อง สายการบินที่ประจำการที่นี่หลักๆ เลยก็คือ United Airlines

3. Dallas Fort Worth International Airport (DFW)

สนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกอันดับ 3 อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ระหว่างเมืองดัลลัส และฟอร์ท เวิร์ท ของรัฐเท็กซัส แน่นอนว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกของสนามบินครบครันเหมือนกับสนามบินอื่นๆ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่า มันเป็นสนามบินที่เหนือกว่าที่อื่นเลยก็คือ “โรงแรมสัตว์เลี้ยง” ทำให้สนามบินนี้เป็นที่ชื่นชอบของบรรดา “ทาส” ที่ใส่ใจในความรักต่อหมาแมวยิ่งนัก สามารถพกสัตว์เลี้ยงแล้วนำมาฝากไว้ที่สนามบินนี้ได้ ทางสนามบินจะใส่ใจในทุกรายละเอียด ถือว่าสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกหนึ่งของครอบครัว ที่กำลังเป็นเทรนด์การใช้ชีวิตของผู้คนยุคนี้ที่เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆอีกด้วยนะคะ
นอกจากนี้ ยังให้ความสะดวกสบายกับนักท่องเที่ยวเพื่อที่จะเดินทางเข้าเมืองไว้หลายรูปแบบเลย ทั้งรถประจำทาง รถไฟ รวมถึงรถราง เลือกเอาได้ตามใจ แต่หนึ่งสิ่งที่ต้องระวังก็คือ ด้วยความที่สนามบินใหญ่ขนาดนี้ ก็จะมี terminal หรือทางเข้าออกอยู่หลายแห่งมาก โดยที่นี่มีถึง 5 เทอร์มินัล เพราะฉะนั้นเพื่อความปลอดภัย และกันหลง อยากให้เผื่อเวลาในการใช้บริการกันไว้ให้มากสักหน่อยจะดีมากเลยนะคะ โดยสายการบินหลักที่ทำการที่นี่ก็คือ American Airlines

4. Orlando International Airport (MCO)

ท่าอากาศยานนานาชาติออร์แลนโด (Orlando International Airport) ตั้งอยู่ที่ออเรนจ์เคาน์ตี ในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ห่างจากตัวเมืองออร์แลนโดไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นท่าอากาศยานที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดของฟลอริดา และยังเป็นท่าอากาศยานหลักของ Silver Airways สถานีฐานของ JetBlue, Southwest Airlines, Spirit Airlines เดิมทีสนามบินแห่งนี้สร้างขึ้น เพื่อใช้เป็นสถานที่อำนวยความสะดวกของ กองทัพอากาศสหรัฐ และเริ่มปฏิบัติการทางทหารในปี พ.ศ. 2485 ในชื่อ Orlando Army Air Field #2 เปลี่ยนชื่อเป็น Pinecastle Army Airfield ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2486 เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 Pinecastle ถูกใช้เป็นเวลาสั้นๆ เพื่อทดสอบการร่อนของ Bell X-1 จากเครื่องบิน B-29 จนกระทั่งเปิดใช้งานอีกครั้งในช่วงสงครามเกาหลี ในฐานะศูนย์บัญชาการกองทัพอากาศเชิงกลยุทธ์ (SAC) ในปี พ.ศ. 2505 ภายใต้การจัดการร่วมกันของกองทัพอากาศ และทางการของเมืองออร์แลนโด เพื่อใช้พื้นที่ทางลาดของสายการบินที่เกี่ยวข้อง ที่มุมตะวันออกเฉียงเหนือของสนามบิน เพื่อเปลี่ยนเป็นอาคารผู้โดยสารสำหรับการบินพลเรือน
สายการบินประจำ ณ สนามบินแห่งนี้คือ Delta Air Lines, Eastern Air Lines, National Airlines และ Southern Airways

5. Washington Dulles International (IAD)

สนามบินที่ใหญ่เป็นอันดับที่ห้าของโลกตามขนาด คือ สนามบินนานาชาติ Washington Dulles ตั้งอยู่ระหว่างเมืองชานทิลลี ในแฟร์แฟกเคาน์ตี และดัลเลส ในลูดอนเคาน์ตี รัฐเวอร์จิเนีย ห่างจากวอชิงตัน ดี.ซี. ไปทางตะวันตกประมาณ 41.8 กิโลเมตร ในประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดดำเนินการสนามบินในปี พ.ศ. 2505 ตั้งชื่อตาม John Foster Dulles รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา คนที่ 52 อาคารผู้โดยสารของสนามบินประกอบด้วย อาคารผู้โดยสารหลัก (ซึ่งรวมถึงประตูเดิมสี่ประตู) และอาคารผู้โดยสารคู่ขนานสองอาคาร คือ อาคารเทียบเครื่องบิน A/B และ C/D อาคารผู้โดยสารทั้งหมดมีประตูขึ้นเครื่อง (Gate) ทั้งหมด 139 ประตู ซึ่งผู้โดยสารสามารถขึ้นหรือลงโดยใช้ทางเดินขึ้นเครื่องปกติ และโดยพาหนะโดยสารของสนามบิน รองรับผู้โดยสาร 60,000 คนต่อวัน บินไปยังจุดหมายปลายทางกว่า 125 แห่งทั่วโลก เป็นท่าอากาศยานหลักของ United Airlines และเป็นท่าอากาศยานสำคัญของ Jetblue Airways

6. Beijing Daxing International Airport (PKX)

แม้ว่า สนามบินนานาชาติ Beijing Daxing จะมี “อาคารผู้โดยสารสนามบินแบบอาคารเดียว” ที่ใหญ่ที่สุด แต่พื้นที่ที่อาคารผู้โดยสารตั้งอยู่นั้น มีขนาดอยู่ในลำดับที่ 6 ของสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อพิจารณาจากขนาดที่ดิน อาคารผู้โดยสารที่ออกแบบเป็นรูป “ปลาดาว” ใช้พื้นที่กว่า 18 ตารางไมล์ และใช้เงินในการสร้าง 11,000 ล้านดอลลาร์ เป็นสนามบินขนาดใหญ่ และทันสมัยล่าสุดของประเทศจีน อีกเพียงนิดเดียว ก็แทบจะกลายเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ถ้าพูดถึงเรื่อง “การใช้งานและเนื้อที่” ของมัน เป็นสนามบินแห่งใหม่ของกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ซึ่งมาพร้อมความอลังการ ที่ทำให้ทั่วโลกต้องตะลึงบนเนื้อที่มหาศาลที่ทางการจีนจัดสรรมา การันตีความสวยงามของโครงสร้างอาคาร ด้วยนักออกแบบระดับโลก คือ Zaha Hadid สถาปนิกชื่อก้องโลก ที่มีผลงานทั้งด้านแฟชั่นและด้านสถาปัตยกรรมเด่นๆ ทั่วโลก
สนามบินแห่งนี้เป็นผลงานชิ้นเอกของ ซาฮา ที่มีทั้งความเป็นวัฒนธรรมจีน ผสมกับความโมเดิร์นในรูปแบบงานของเธอ  ไม่ใช่แค่เรื่องงานออกแบบโครงสร้างสนามบินสุดอลังการ ทางการของจีนยังเตรียมการรองรับผู้โดยสาร ที่คาดว่าจะมีมากถึง 100 ล้านคนต่อปี ไว้ด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินความเร็วสูง ที่จะขนส่งนักท่องเที่ยวเข้าสู่เมือง ทางด่วนสำหรับรถยนต์โดยสารสาธารณะ เนื่องจากสนามบินนี้ไม่ได้ตั้งอยู่ในปักกิ่ง แต่ตั้งอยู่ในเขตชานเมือง Daxing ซึ่งติดกับปักกิ่งแทน เมื่อสนามบิน PKX เปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2562 สนามบินแห่งนี้กลายเป็นสนามบินนานาชาติแห่งที่สองของปักกิ่ง
ส่วนสายการบินที่จะมาประจำการหลักในสนามบินแห่งนี้ ก็มีถึงสองสายการบิน ซึ่งเป็นสายการบินหลักของชาติ อย่าง China Southern Airlines และ China Eastern Airlines

7. George Bush Intercontinental Airport (IAH)

สนามบินขนาดใหญ่ 1 ใน 5 แห่งของอเมริกา ที่ติดอันดับสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือ สนามบินนานาชาติ จอร์จ บุช อินเตอร์คอนติเนนตัล ในเมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัส เดิมชื่อ สนามบินนานาชาติฮุสตัน และเปลี่ยนชื่อตาม George HW Bush ประธานาธิบดีคนที่ 41 ของสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2540 เริ่มเปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2512 อยู่ห่างจากตัวเมืองฮุสตัน รัฐเทกซัส ห่างออกไปทางเหนือของตัวประมาณ 37 กิโลเมตร สนามบินครอบคลุมพื้นที่ 44.5 ตารางกิโลเมตร มีอาคารผู้โดยสารและรันเวย์ 5 แห่ง เป็นท่าอากาศยานที่มีความสำคัญเป็นอันดับ 2 รองจากท่าอากาศยานนานาชาติดัลลาส-ฟอร์ทเวิร์ธ และยังเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของสายการบิน Continental Airlines และเป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญของสายการบิน United Airlines ด้วย
มีบริการรถไฟใต้ดินและทางเดินลอยฟ้า ช่วยให้ผู้คนกว่า 45 ล้านคนเดินทางผ่านอาคารผู้โดยสาร 5 แห่งของสนามบิน George Bush Intercontinental Airport ทุกปี

8. Shanghai Pudong International Airport (PVG)

สนามบินแห่งที่ 2 ของจีนที่ติดอันดับคือ สนามบินนานาชาติ Shanghai Pudong ในเซี่ยงไฮ้ เป็นหนึ่งในสองสนามบินหลักในเมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 40 ตารางกิโลเมตร และมีรันเวย์ 6 แห่ง และอาคารผู้โดยสาร 3 แห่ง เปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2542 สนามบินผู่ตง เป็นสนามบินศูนย์กลางที่เติบโตอย่างรวดเร็ว สำหรับทั้งการรับส่งผู้โดยสารและสินค้า สนามบินที่มีธุรกิจด้านการบินมากเป็นอันดับสามของโลก เมื่อพิจารณาจากปริมาณการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร ท่าอากาศยานนานาชาติเซี่ยงไฮ้ผู่ตง เป็นประตู หรือเส้นทางเชื่อมโยงระหว่างประเทศ ที่พลุกพล่านที่สุดของจีน ได้ต้อนรับผู้โดยสารมากกว่า 35 ล้านคนทุกปี และยังอยู่ในรายชื่อสนามบินพิเศษ ที่บินไปยังจุดหมายปลายทางกว่า 200 แห่งทั่วโลกค่ะ

9. Cairo International Airport (CAI)

สนามบินนานาชาติไคโร ตั้งอยู่ในกรุงไคโร เมืองหลวงของประเทศอียิปต์ เป็นหนึ่งในสนามบินที่พลุกพล่านที่สุดในแอฟริกา ในแง่ของจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 37 ตารางกิโลเมตร เปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2506 เป็นสนามบินที่มีผู้ใช้บริการมากเป็นอันดับสองในแอฟริกา ปัจจุบันมีอาคารผู้โดยสารหลัก 3 แห่ง และอาคารผู้โดยสารตามฤดูกาลสำหรับผู้โดยสาร 15 ล้านคน ที่บินเข้าและออกจากสนามบินนานาชาติไคโร (CAI) เป็นศูนย์กลางหลักของ Egyptair และ Nile Air รวมถึงสายการบินอื่นๆ อีกหลายแห่งในย่านแอฟริกา

10. Suvarnabhumi Airport (BKK)

สนามบินสุดท้ายของ 10 อันดับ “สนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก” ตกเป็นของ สนามบินสุวรรณภูมิ ในกรุงเทพฯ ประเทศไทยค่ะ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คือชื่ออย่างเป็นทางการ

Previous Post

N1510954 เง นหายไปจากบ านต องม ขโมยแน แน part 2

Next Post

N1510845 ครอบคร วค อคนสำค ญอ นด part 2

Next Post
N1510845 ครอบคร วค อคนสำค ญอ นด part 2

N1510845 ครอบคร วค อคนสำค ญอ นด part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N0111331 เวลาของเราไม เท าก part 2
  • N0111323 วยต วเOงในมหาล part 2
  • N0111327 แฟนหน าตาแบบน เป นค ณจะอายไหม part 2
  • N0111328 แกล งขอทาน #สน กด part 2
  • N0111325 แอบก uสาม เพ oนว าซ าน part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.